MY FAVORITE OF 2020 :: ใช้แล้วชอบ 2020

64 13
ฮัลโหล สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่า ว้าย เขินนนน เข้า 2021 มาเดือนครึ่งแล้ว แต่เพิ่งมาทำกระทู้ Favorite มาช้ามากแบบมากกกก แต่ก็มานะ 555 กับกระทู้ Favorite 2020 คือถ่ายรูปถ่ายคลิปไว้นานมาก แต่อะไรเอ่ย ดองจ้า ดองมาเดือนครึ่ง จะดองต่อก็คือน่าจะเปรี้ยวเกินไปแล้ว เลยได้ฤกษ์ลง ปีนี้มาในคอนเซป น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไฮแฟชึ่นค่ะ 555555 มีไม่เยอะ แต่รักทุกตัว มีอะไรบ้าง ไปดูเลยค่า
สำหรับรีวิวนี้ ข้าวก็มีทำแบบเป็นคลิปเอาไว้ด้วย แต่ถ้าใครอยากอ่านมากกว่า ก็เลื่อนดูต่อด้านล่างได้เลยค่า
-------------------------------
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยกับน้ำตบเห็ดตัวดังของ Origin เอาจริงๆ ข้าวไม่ใช่คนแรกที่มาเลิฟน้องคนนี้แน่นอน เพราะข้าวก็ซื้อตามคนอื่นเขามาอีกทีเหมือนกัน 555 แต่น้องคือดีมากจริงๆ ขอเล่าย้อนไปก่อนว่า ข้าวได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าน้องคนนี้ดีมานานมากแล้ว จนในที่สุดก็ซื้อมาใช้ก่อนหน้านี้ แต่พอใช้แล้ว ข้าวกลับรู้สึกเฉยเฉ๊ย เฉยเฉ๋ย กับน้องเขา แบบว่าไม่ดีขึ้น ไม่แย่ลง ไม่เกิดอะไรขึ้นกับผิวทั้งนั้น แบบงงมากค่ะ มันดีตรงไหน คนเขาชอบกันได้ยังไง

แต่ แต่ แต่ ยังไม่จบค่ะ! ฟังต่อก่อน 555 คือช่วงนั้นที่ใช้ๆอยู่ มันก็เกิดปรากฏการณ์ PM2.5 ขึ้นพอดี ซึ่งตอนใช้อยู่ก็ไม่เป็นไร แต่พอใช้หมดเท่านั้นแหละ รู้เรื่องค่ะ พอช่วงที่ไม่ได้ใช้อยู่ เพราะมันหมดแล้วใช่ แล้วทีนี้ เวลาออกจากบ้านไปผจญกับ PM2.5 กลับบ้านมา จะชอบมีผดมีผื่นมีรอยแดง ระคายเคืองต่างๆที่หน้า เลยถึงบางอ้อว่า อ้ออออ น้องเขามีดีที่ปลอบประโลมผิวอย่างนี้นี่เอง เลยกลายเป็นของขาดไม่ได้ มีติดบ้านไว้อุ่นใจกว่าประหนึ่งยาสามัญประจำบ้าน 5555 คือไม่รู้จะทาไรก็ตบๆน้องเขา เผื่อๆไว้ ไม่รู้วันนี้ไปเจออะไรมาบ้าง อารมณ์นั้น 5555

แล้ว texture น้องเขาคือเป็นน้ำเหลวๆใสๆ แบบเหลวเป็นน้ำเปล่าเลย แต่มีกลิ่นนะ เป็นกลิ่นแบบสมุนไพรๆ ซึ่งข้าวว่าหอมนะ แถมตบเข้าหน้าแล้วซึมง่ายมากกกกก ทาง่าย ทาได้ทุกวัน วันไหนหน้าเจอศึกหนัก ระคายเคืองมาก เทใส่สำลี แล้วมาส์กหน้า ก็คือช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมากกก เย็นมากกก เอาเป็นว่าแนะนำ โดยเฉพาะถ้าสาวๆคนไหนมองหา skincare ที่จะช่วยปลอบประโลมผิวหน้าจากอาการระคายเคืองต่างๆ ช่วยให้ผิวแข็งแรง แพ้ใดๆยากขึ้น

Origin Mega-Mushroom Relief & Resilience Treatment Lotion 200ML : 1800 บาท
ตัวถัดมา ยังอยู่ในหมวดของน้ำตบอยู่ เป็นน้ำตบของลาแมร์จ้า ตัวนี้ราคาแอบสูงนี้ดนึง ตามสไตล์ลาแมร์เขาอะแหละเนอะ แต่นี่น่าจะถูกที่สุดของแบรนด์นี้แล้ว 5555 คือน้ำตบตัวนี้ texture จะไม่เหมือนตัว origin ข้างบนเลย เนื้อเขาจะมีความหนืดๆ เป็นน้ำแบบหนืดๆอะ แล้วก็หอมอ่อนๆ แต่เวลาตบเข้าหน้าแล้วซึมหายไปเร็วมากกก คือซึมไปเหมือน origin ด้านบนเลย แบบไม่เหนียวไม่เยิ้ม ไม่มีทิ้ง effect ใดๆบนผิวเลย อันนี้เป็นอย่างแรกที่ชอบเลย

อีกอย่างนึงคือช่วยให้ผิวชุ่มชื้นดีงามมากกกกก คือข้าวต้องบอกก่อนว่า ให้ความชุ่มชื่นแบบที่น้ำตบตัวนี้ให้อะ มันไม่เหมือนกับเวลาโบกครีม หรือลงเซรั่มไฮยาลูรอนอะไรยังงั้นนะ เพราะอันนั้นมันก็น่าจะให้เยอะกว่าอยู่แล้ว แต่ตัวนี้มันเป็นน้ำตบเนื้อเบาๆเองอะ แต่ให้ความชุ่มชื่นได้ดีเลย คือพอเพิ่มขั้นตอนนี้เข้ามา รู้สึกเลยว่าผิวมีความชุ่มชื่นมากขึ้น เงาขึ้น แล้วก็ละเอียดขึ้น แล้วพอเราลงน้ำตบเตรียมผิวให้ชุ่มชื่นแล้ว ผิวก็จะรับการบำรุงขั้นต่อไปได้ดีขึ้นด้วย

แนะนำสำหรับคนที่อยากจะเริ่มลองใช้ลาแมร์เลย เพราะเป็นตัวที่เบาสุดแล้ว แล้วใช้ทีนึงนิดเดียวเอง เพราะตัวน้ำตบมันค่อนข้างจะมี texture อยู่ ขวดนึงใช้ได้นานมากกก อาจจะเกินครึ่งปีอะไรแบบนี้แน่ะ
LA MER The Treatment Lotion 150ML : 5700 บาท
ตัวนี้เป็นเซรั่มแบรนด์คนไทยที่แพงมากจ้า 55555 คือตัวนี้มีช่วงนึงที่ข้าวได้ยินโฆษณาตลอดเลยเวลาขึ้น BTS ว่าแบบ เราใช้เมือกหอยทากส่วนที่ดีที่สุด อะไรงี้ แล้วข้าวก็เห็นคุณปูเป้ Pupe_So_Sweet เคยบอกว่าดี ทำให้อินี่ วอแวอยากลองมานานละ แต่เนื่องจากราคาค่าตัวของน้องเขาที่ไม่ใช่เบาๆเลย ทำให้ไม่ได้ลองซะที จนพอดี ปีที่แล้ว เหมือนวัตสันจัดโปรอะไรสักอย่าง ชิ้นที่ 2 1 บาท แล้วสมาชิกได้ลดเพิ่มอีกอะไรแบบนี้ เลยได้ฤกษ์ลองซะที

ซึ่งหลังจากที่ได้ลองแล้ว ข้าวรู้สึกว่าน้องคนนี้ช่วยให้ผิวเรียบเนียนละเอียด กระชับรูขุมขน ทำให้ผิวฟูอิ่มมม แบบ พูดไม่ถูกอะ แต่ใช้แล้วรู้สึกว่าผิวดีขึ้นมาก คือข้าวจะบอกว่า ตอนที่ข้าวใช้เซรั่มตัวนี้อะ ผิวข้าวมันดีอยู่แล้ว แบบไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย แต่ข้าวก็ใช้ตัวนี้เข้าไปอีก เพราะว่าแบบ เห่อไง ซื้อมา อยากลองมานานแล้ว 555 แต่พอใช้แล้ว ก็ค้นพบว่า เฮ้ย มันทำให้ผิวข้าว ดีขึ้นได้อีกกก แบบได้อี้กกก งงมาก เหมือนผิวมันเนียนเรียบแน่นมาก texture ผิวดีมาก

ส่วน texture ของผลิตภัณฑ์เองคือจะมาเป็นน้ำใสๆ แบบใสเลย แบบเหมือนน้ำเปล่าอีกแล้ว ไม่ได้มีความเหนียวๆยืดๆเป็นเมือกหอยทากแต่อย่างใด เวลาทาไปบนหน้าจะซึมง่ายมาก ซึมวื้ดไปเลย แต่จะทิ้งความชุ่มชื่นไว้บนหน้านิดหน่อย คือรู้อะ ว่าเพิ่งทาอะไรสักอย่างไป ไม่ได้หายแว้บไปขนาดน้ำตบ 2 ตัวด้านบนนะ

แนะนำเลยสำหรับสาวๆที่หาเซรั่มที่จะช่วยให้ผิวดีขึ้นแบบ ไม่รู้จะพูดไง แบบดีขึ้นเฉยๆนี่ละ ดีขึ้นทุกอย่าง 5555 ลดริ้วรอย เรียบเนียน กระจ่างใส เซรั่มก็เนื้อเบาซึมง่าย แต่ข้อเสียที่ยิ่งใหญ่มากของน้องเขาคือ แพง แพงมากกก ขวดนิดเดียว ราคาเต็มเป็นพัน หนักกว่าลาแมร์ข้างบนอีก 555 แต่ก็มีโปรอยู่ตลอดน้า ลองดู
Snail 8 AGE DEFENSE Advanced Serum 15ML : 1400 บาท
ตัวนี้ข้าวเคยทำรีวิวแยกเดี่ยวๆไปแล้วก่อนหน้านี้ คือตอนน้องเปิดตัว จำได้ว่าดังมากกก คนใช้กันมากมาย ข้าวก็เป็นหนึ่งในนั้น 555 และยังใช้มาเรื่อยๆ คือนี่น่าจะเป็นขวดที่ 3-4 แล้ว แถมยังมีอีกขวดตุนอยู่ในลิ้นชักด้วย คือตัวนี้จะเป็นเซรั่มเข้มข้นที่ใส่ไฮยาลูรอนมาตามชื่อเลย ช่วยเรื่องผิวชุ่มชื่นแบบสุดๆ พร้อมลดเลือนริ้วรอยอีกต่างหาก

บอกเรื่อง texture ก่อน คือเซรั่มตัวนี้จะเป็นสีใสๆ เนื้อมีความหนืดๆ แต่ไม่เหนียว เกลี่ยง่าย แถมหอมมากกก 555 ข้าวชอบกลิ่นมาก คือทาไปทีแรกจะหนึบๆหน่อย แต่ข้าวรู้สึกว่าเป็นปกติของเซรั่มไฮยาลูรอนนะ จากนั้นมันจะซึมลงไป คือจะไม่ได้เหนียว แต่จะเหมือนมีอะไรเคลือบๆหน้านิดหน่อย

ใช้แล้วผิวฟูมากกกกก ก ไก่ล้านตัว ตัวนี้เป็นตัวที่ข้าวรู้สึกว่าช่วยเรื่องความชุ่มชื่นได้ดีมาก ใช้แล้วผิวจะฟูแน่นนิ่มเหมือนได้กินน้ำเลย ส่วนเรื่องริ้วรอย อันนี้ข้าวไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เพราะยังไม่ค่อยมีริ้วรอยเท่าไหร่ แต่คิดว่า ถ้าเป็นริ้วรอยตื้นๆ น่าจะช่วย เพราะเวลาใช้เซรั่มตัวนี้ จะรู้สึกได้เลยว่าผิวมันแน่นขึ้น กระชับขึ้น แล้วก็อิ่มๆเต็มๆอะ แนะนำมากกกก สำหรับสาวๆผิวแห้งที่หาเซรั่มที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นอยู่
La Roche Posay Hyalu B5 30ML : 1500 บาท
ต่อไปมาในหมวดของกันแดดกันบ้าง ตัวนี้ข้าวรู้สึกว่า ตอนมันออกมา ทุกคนก็วอแวชอบมันกันไปหมดแล้ว อีกแล้ว 5555 แต่ข้าวเพิ่งมาลองใช้ในปีนี้ เพราะข้าวรู้สึกว่า ราคามันแพงมากก แบบ แพงเกินไปสำหรับกันแดด เพราะข้าวคิดว่า กันแดด ไม่ต้องแพงมากก็ได้ คือที่ถูกมาหน่อยก็กันได้ดีเหมือนกัน คือที่แพงขึ้นมา อาจจะ texture ดี หรือมีสารบำรุงใส่มาเพิ่ม ซึ่งข้าวคิดว่า มันไม่ต้องก็ได้ สำหรับกันแดด เลยยังไม่ได้ลองซะที จนปีนี้ เหมือนจะเจอโปรแรงอะไรสักอย่างอีกแล้ว เลยซื้อมาลอง

พอได้ลองแล้วก็ชอบมากกก อีกแล้ว 555 คือกันแดดตัวนี้เนื้อมันดีมากก คือเนื้อมันเป็นสีขาวๆแบบเหลวๆหน่อย ทาแล้วมันแห้งไปกับหน้าเลย ไม่มันไม่เยิ้ม ทาง่ายมากกก คือทาเสร็จแล้ว ตบแป้ง แต่งหน้าต่อได้เลย ไม่เยิ้มไม่มันระหว่างวันด้วย คือข้าวชอบเนื้อมันมาก มันสบายผิวมาก มันแนบไปกับผิว ไม่เหนียวเลยยย

จริงๆ กันแดดของ mizumi จะมีอีกสูตรด้วย เป็นสูตรกันน้ำ อันนั้นจะเป็นฝาสีส้มๆ ข้าวก็ชอบเหมือนกัน อันนั้นเนื้อจะเหนียวกว่าหน่อย แต่ก็สบายผิวเหมือนกัน แต่ข้าวก็จะใช้เฉพาะเวลาไปว่ายน้ำ วันธรรมดาก็จะใช้สูตรสีฟ้าอันนี้

ส่วนเรื่องกันแดดได้ดีมั้ย เอาจริงๆอันนี้ข้าวไม่รู้เลย คือปกติข้าวก็ทากันแดดก่อนออกไปข้างนอกอยู่แล้ว คือข้าวคิดว่า ประสิทธิภาพในการกันแดดมันก็คล้ายๆกัน ถ้าดูจาก SPF ก็น่าจะกันได้เยอะอยู่ แล้วตัวนี้ทางแบรนด์เคลมมาว่าเป็น 100% non-chemical sunscreen แปลว่ามีความอ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ด้วย แต่ผิวข้าวแข็งแรงมาก อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงมั้ย 5555 แต่เอาเป็นว่าแนะนำสำหรับคนที่หาครีมกันแดด ที่เนื้อดี เบาสบายผิว ทาง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะจ้า
Mizumi UV Water Serum SPF 50+ PA++++ 40g : 890 บาท
ต่อไปมาในหมวดของ lip care กันบ้าง ซึ่งของที่ข้าวชอบในปีนี้ เป็นสีผึ้งจ้า 555 คืออันนี้เป็นสีผึ้งจากแบรนด์วาริน ชื่ออาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตา คือข้าวไปเจอมาในกรุ๊ปจุฬาฯมาร์เก็ตเพลส คือเจ้าของเขามาโพสขายในกรุ๊ปว่าแบบ เขาเคยเป็นคนที่ปากแห้งลอกตลอด ต้องทาลิปตลอด เหมือนแบบ ชีวิตนี้จะหยุดทาไม่ได้แล้ว คิดว่าปากเราก็คงจะดีได้แค่นี้แหละ แต่เขาได้มาลองใช้สีผึ้งแล้วปากก็ดีขึ้น จากนั้นเขาเลยมาทำขาย พอข้าวอ่านจบแล้วแบบ นี่เอาชีวิตชั้นมาเขียนหรือเปล่า มันใช่มากกกก คือข้าวเป็นคนที่ต้องทาลิปตลอดเวลา คือหยุดทาไม่ได้ หยุดเมื่อไหร่คือปากแตก ปากแบบ ไม่รู้จะแตกไปไหน งงมาก พออ่านโพสนั้นแล้วก็ต้องไปเม้นว่า f1 โดยทันที แล้วคือ พอข้าวเม้นเสร็จ ข้าวก็รอเขาติดต่อกลับมาสรุปยอดใช่มะ รออยู่ 2 วัน ทำไมไม่ทักมาสักที พอเข้ามาดูอีกที เอ้า มีคนคิดเหมือนข้าวเยอะมากกก 55555 คือเจ้าของเขามาอัพเดทโพสว่า มีคนมาเม้นแบบ 5-6 พันคอมเม้น ทำให้เขาเปิดเม้นอ่านไม่ได้ มันไม่โหลด เขาเลยใส่ช่องทาง shopee ให้ไปซื้อแทน ข้าวเลยตามไปซื้อใน shopee อีกค่ะ สู้มากอยากลองแหละ 5555

พอได้มาลองใช้แล้ว แกะห่อมา อย่างแรก แท่งเล็กม้าก แท่งเล็กกว่าที่คิดมาก แถมเวลาตอนทา ฟีลมันแปลกมาก คือมันจะแห้งๆ แบบ เหมือนเอาสีเทียนมาระบายปาก มันเอาอะไรแห้งมาทาปากอะ ปกติเวลาเราทาลิปมัน มันจะให้ฟีลแบบชุ่มๆเยิ้มๆใช่มะ อันนี้คือไม่ใช่เลย ทาวันแรก รู้สึกแปลกมาก และงงมาก เจ้าของเขาจกตาเราหรือเปล่า ไอ่แท่งแห้งๆนี่จะช่วยชั้นได้จริงเหรอ 5555

แต่พอทาไป 3-4 วัน แค่ 3-4 วันเท่านั้น เห็นผลเฉย คือปากแตกน้อยลงมากกก แบบปากเรียบเนียนมากกก แบบเนียนเลย แล้วฟีลแบบชุ่มชื่นมากกก คือเหมือนทาไปแล้วสีผึ้งมันจะเคลือบๆบนปากหน่อย แล้วปากคือจะชุ่มชื่นตลอดเวลาเลยยย คือบางทีข้าวทาๆลืมๆ ยังไม่แตกอะ ปกติคือต้องทาตลอด คือดีมาก มันช่วยกอบกู้ปากได้จริง

แนะนำมากสำหรับสาวๆที่คิดว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรกอบกู้ปากชั้นได้อีกแล้ว มันยังมีอยู่ค่ะคุณ ลองเสิร์ชหาในช้อปปี้ หรือสั่งไปทางเพจเขาก็น่าจะได้ค่า
สีผึ้ง Varin by Pax 3g : 199 บาท แพคคู่ 350 บาท
ต่อไปเป็น favorite mask sheet บ้างค่ะ อันนี้เป็นมาส์กฟอยของแบรนด์ faith in face คือแบรนด์นี้ทำมาส์กชีทดีมากกกอะ คือข้าวชอบทุกอันเลยเอาจริงๆ 555 แต่ถ้าชอบที่สุด ต้องขอยกให้น้องมาส์กฟอยสองตัวนี้เลยค่ะ คือตัวมาส์กอะ จะเป็นฟอยสีทองกับสีเงินยังงั้นจริงๆเลยนะ เหมือนเขาจะเขียนเคลมไว้ว่าแบบ ที่มันเป็นฟอยแบบนี้ มันจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นเอาไว้ ทำให้มาส์กมันทำงานได้ดีขึ้น อะไรแบบนี้

เวลาใช้แล้ว รู้สึกว่าผิวชุ่มชื่นมากก แบบลอกมาหน้าเปียกเลย คือมันก็เปียกเพราะน้ำมาส์กด้วยแหละ 555 แต่มันเปียกแบบชุ่มชื้นด้วย! คือหน้าจะฟีลแบบ เหมือนโดนสาดด้วยเอสเซนส์อะ หน้าจะอิ่มมาก เวลาหน้าแห้งกร้านใดๆ คือโปะมาส์กนี้ไป พอลอกออกแล้ว หน้าจะกลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื่นประหนึ่งได้ผิวใหม่เลย ดีมากกก เลิฟมาก
Faith in Face Signature Gold Mask & Prestige Platinum Mask : 169 บาท
ยังคงอยู่ในมาส์กหน้ากับแบรนด์เดิม คือข้าวรักพี่เสียดายน้อง รักทั้งสองคน อันนี้เป็นมาส์กไฮโดรเจลของ faith in face เจ้าเก่าเจ้าเดิม คือตัวนี้ ตัวมาส์กมันจะไม่ใช่แผ่นๆ ผ้าๆ แบบที่เราเห็นทั่วๆไป มันจะเป็นไฮโดรเจลหยุ่นๆ แบบเหมือนเยลลี่ แต่ไม่ได้นิ่มขนาดนั้นนะ มันเป็นแผ่นๆอยู่ 5555 แล้วเราก็โปะไปบนหน้า คือมันเกาะหน้าได้ค่อนข้างดีอยู่นะ ไม่ได้ไหลไปมา เวลาแปะก็ยังสามารถทำอะไรได้อยู่ แล้วพอลอกออกมา ตัวแผ่นไฮโดรเจลมันจะบางลงด้วยแหละทุกคน ทำให้เราสามารถมโนได้ว่า มันน่าจะซึมลงหน้าเราแล้ว ไม่รู้จริงๆซึมหรือระเหย 5555

ตัวมาส์กนี้ จริงๆจะมีหลายสูตรเลยนะ แต่ส่วนใหญ่ข้าวจะชอบใช้สูตรที่เติมความชุ่มชื่นนี่ละ เวลามาส์กแล้วจะรู้สึกว่าผิวแน่นขึ้น เวลาลอกมาส์กออกมา จะไม่ได้มีน้ำเอสเซนส์เหนอะหนะหน้านะ คือเพราะเป็นไฮโดรเจลเลยรู้สึกว่าคุณค่ามันน่าจะซึมเข้าผิวได้ดีเป็นพิเศษ มาส์กตัวนี้เป็นตัวที่รู้สึกว่า เวลาใช้แล้ว มาส์กมันซึมเข้าหน้าไปหมดเลยอะ ใช้แล้วผิวอิ่มน้ำมาก ผิวแน่นขึ้น เนียนละเอียดขึ้น
Faith in Face Hydrogel Mask : 129 บาท
ตัวนี้ เป็นอีกตัวที่ข้าวภูมิใจนำเสนอมาก ก็คือ hand essence ของแบรนด์ nyan นั่นเองจ้าาา แบรนด์นี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตาอีกแล้ว เป็นแบรนด์คนไทยที่ข้าวค้นพบใน facebook คือตอนแรกข้าวลองสั่งครีมทาผิวกับน้ำมันทาผิวมาลองก่อน แล้วช่วงโควิดที่ผ่านมา เขาก็ออกตัว hand essence ตัวนี้มา คือ hand essence อันนี้มีคอนเซปว่าแบบ ช่วงโควิดเราต้องใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ กับเจลแอลกอฮอล์บ่อยใช่มะ แล้วทีนี้เวลาเราใช้ hand cream แล้วพอมาใช้พวกแอลกอฮอล์ มันก็จะเหนียว จะเป็นขุย จะนู่นนี่ เขาเลยทำ hand essence ที่ซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะมาตอบโจทย์ช่วงนี้ ซึ่งจริงๆ แพคเกจจิ้งที่เขาขายตอนนี้ จะไม่ใช่หน้าตาแบบนี้นะ อันนี้เป็นแพคเกจที่เขาทำมาแถมมากับพวกครีมก่อนหน้านี้ ซึ่งข้าวได้มาหลายอัน เลยยังไม่ได้ไปซื้อไซส์ที่เขาขายซะที 5555

โอเค กลับมาที่ตัว hand esscence คือมันดีมากกก ความดีงามของมันคือ มันซึมเร็วมากทุกคน คือต้องบอกว่า ข้าวเป็นคนที่มีปัญหานึงตั้งแต่เกิด คือมือข้าวเหงื่อออกเยอะมาก คือข้าวไม่ได้เป็นโรคอะไรนะ แต่ว่ามือจะเหงื่อออกเยอะมากมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว ไม่ว่าจะร้อนจะหนาวอยู่ในห้องแอร์หรือว่าอะไร มือก็จะเหงื่อแตก ข้าวเชื่อว่ามีบางคนเป็นเหมือนกัน เราเข้าใจคุณ 555

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ข้าวไม่สามารถทา hand cream ได้เลย คือข้าวพยายามนะ ตัวไหนที่เขาบอกซึมเร็ว ข้าวลองแล้ว มันก็ไม่ด้ายยย คือทาไป พอมือเริ่มเหงื่อซึมๆ มันก็เหนียวลื่นมือตลอด ใช้ hand cream ไม่ได้เลย

แล้วมือข้าวก็แห้งมากก คือข้าวเป็นคนผิวแห้งอยู่แล้ว มือก็แห้ง คือมันรู้สึกแห้งๆตึงๆ แต่มันเปียก แล้วก็ทาครีมไม่ได้ ทุกข์ทรมาณมาก จนมาเจอน้อง hand essence ตัวนี้! คือทาแล้วมันซึมไวมาก แบบไวมากจีๆ แล้วก็ไม่เหนียวเหนอะหนะเลย แล้วให้ความชุ่มชื่นได้ดีเลย คือต้องบอกว่า ดีแบบ คือมันไม่ได้ชุ่มชื่นแบบสุดขีดดด ไรงี้นะ แต่ให้ความชุ่มชื่นได้อะ เทียบกับเนื้อของมัน ความซึมง่ายของมัน คือทุกวันนี้ มือข้าวไม่รู้สึกแห้งๆตึงๆแล้ว ดีใจน้ำตาจะไหลมาก TT

แนะนำมากสำหรับสาวๆที่มองหาอะไรมาบำรุงมือแบบทาง่ายทาได้บ่อยๆ ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะ คือมันดีย์มากจริงๆ
Nyan Hand Essence 50 ml : 350 บาท
มาถึงหมวดเมคอัพอันมีน้อยนิดแล้วจ้า ตัวนี้คือแป้งเบลอตัวดังของ eglips นั่นเอง ตัวนี้น่าจะเป็นแป้งสูตรเดียวกับแป้งเบลอเขานะ ที่เป็นแพคเกจจิ้งสีดำๆ แต่อันนี้ตั้งแต่ข้าวลองซื้อครั้งแรก ก็มีตัวพีชอิดิชั่น แล้วคือมันหอมมันน่ารักมาก หลังจากนั้นพอซื้ออีก เลยซื้อแต่ตัวพีชตลอด 5555

ตัวแป้งจะเป็นแป้งกลิ่นพีช หอมน่ารักม้ากก พัฟเขาก็เป็นรูปพีชเหมือนกัน แต่พอดีข้าวไม่ได้ถ่ายรูปพัฟมา 5555 แป้งคือทาแล้วเนียนมากกกจริงๆ น้องเขาเป็นแป้งไม่ผสมรองพื้นนะ แต่พอทาไปบนผิวแล้วแบบ จะทำให้ผิวมันดูเนียนๆงงๆ เหมือนใส่ฟิลเตอร์ให้ผิวอะ ไม่รู้ทำได้ไง แต่ดีมาก เดี๋ยวนี้คือข้าวทาแต่แป้งนี้แล้วก็ออกจากบ้านได้ละ หน้าเนียนมากก รูขุมขนเล็กๆคือหายไปเลย มันเบลอได้จริงสมชื่อ ทาแล้วผิวดูผ่องขึ้น อาจจะไม่ได้ปกปิดมาก แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีรอยมาก หาแป้งไว้ทาวันสบายๆแบบตัวเดียวจบ ตัวนี้คือจบจริง 
Eglips Blur Powder Pack Peach Edition 9g : 245 บาท
มาถึงตัวสุดท้ายยยยย คือที่เขียนคิ้วของ kate นั่นเอง อันนี้หลายๆคนน่าจะรู้จักอยู่แล้ว คือมันเป็นที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นที่ดีมาก ราคาไม่แพง เขียนได้แบบละมุนมาก ติดทนมากกก แถมอันนึงใช้ได้นานมากกกก คือเอาจริงๆ ข้าวเคยใช้อยู่แบบ 3-4 ปี+ อะ ที่ต้องซื้อใหม่ไม่ใช่หมดนะ ทำตกแตก 555 ไม่รู้ใช้นานขนาดนั้น หมดอายุไปก่อนป่าว คือซื้อมานี่เป็นตลับที 3 แล้ว

ในพาเลตจะมีสามสี เข้มกลางอ่อน แล้วก็จะมีแปรงมาให้ แปรงแบบมี 2 หัว อันนึงเป็นหัวตัด ไว้เขียนคิ้ว คือใช้ได้จริงเลย ปกติข้าวก็ใช้แปรงที่มาด้วยกันเลย อีกด้านจะเป็นหัวพุ่มๆ ไว้เอาสีอ่อนมาไล้ดั้งไล้อะไรไป คือครบมาก

เวลาเขียนก็ง่ายมาก แค่เอาแปรงด้านหัวตัดปาดๆสีเข้มมาปาดๆตรงคิ้ว ละเอาด้านพุ่มๆไปวนๆตรงสีอ่อนมาไล้จมูกนิดนึง คือเสร็จ! สวย ใครกำลังหาที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นละยังไม่เคยลองตัว บอกเลยว่าต้องลองงงง
Kate Designing Eyebrow : 400 บาท
จบแล้ววว กับกระทู้ใช้แล้วชอบประจำปี 2020 ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่า ใครอ่านหมดขอกอดหนึ่งที 5555 ถ้าใครมีอะไรจะพูดคุยก็คอมเม้นท์ด้านล่างได้เลยน้า

ขอบคุณมากค่าา ~ <3


kaowkaow

kaowkaow

สวัสดีค่า เราชื่อข้าว เป็นผู้หญิงบ้าเครื่องสำอาง บ้าสกินแคร์ มีครีมเป็นล้านตัวอยู่ในกรุ ใช้ยันชาติหน้าก็ยังไม่หมด แต่ก็ยังจะซื้อต่ออยู่ได้ 555
ชอบรีวิว ชอบเม้า ชอบบอกต่อ
ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะค้า ><

FULL PROFILE