เส้นทางใหม่ของครอบครัว Sussex หลังไม่ใช้พระยศ HRH

67 11
กระบวนการลดบทบาทในการทำหน้าที่ในฐานะเชื้อพระวงศ์อาวุโสของดยุคและดัชเชสแห่ง Sussexได้เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมพร้อมกับแถลงการณ์จากสมเด็จพระราชินี สองเรื่องติดๆกัน     นับเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เห็นได้บ่อยนัก   หลายฝ่ายต่างพยายามตีความสารจากพระประมุขแห่งราชวงศ์ Windsor และสำนักราชวังไปในรูปแบบต่างๆ


ถึงเวลามาเจาะเรื่องราวของก้าวต่อไปของพวกเค้าด้วยการ focus ไปยังข้อเท็จจริงกันค่ะ




พวกเค้าสละพระยศไปอย่างเด็ดขาดแล้วหรือไม่  ?


สำนักราชวังได้ประกาศว่า H&M "จะไม่ใช้" พระยศ HRH แต่มิได้ระบุว่า พวกเค้าได้สละยศไปอย่างแน่นอนแล้ว ที่website ของพวกเค้าก็ยังใช้คำนำหน้าชื่อว่า Their Royal Highnesses ไม่เปลี่ยนแปลง หลายคนเริ่มไถ่ถามกันว่า หรือที่จริง  ในทางเทคนิค H&M จะยังรักษาพระยศนี้ไว้ เพียงแต่จะไม่ใช้ในเชิงธุรกิจเพื่อหารายได้เข้ากระเป๋า และโฟกัสกับการสร้างแบรนด์ Sussex Royal


พระยศนี้จะยังอยู่กับคู่ Sussex หรือไม่   คงต้องรอไปอีกไม่กี่เดือน ตามแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังที่แจ้งว่าถึงขั้นตอนลดบทบาทหน้าที่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูงที่น่าจะเสร็จสิ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิค่ะ    หากคำว่า royal highness หายไปจาก website   ก็เป็นอันแน่ใจได้ว่า  H&M  ได้สละพระยศจริงๆ


จริงหรือที่ การยุติยศ HRH   ของ  H&M คือบทลงโทษจากราชวงศ์   ?



การใช้พระยศHis/Her royal highness คือแบบแผนในการขนามนามเชื้อพระวงศ์ระดับสูงด้วยความยกย่อง มีเพียงเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงและชายาที่จะใช้คำนี้นำหน้านามได้ แต่ก็มีข้อกำหนดบางอย่างที่ทำให้เชื้อพระวงศ์และชายาสามารถสลพระยศนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลที่มาจากสถานการณ์ที่บีบบังคับ หรือจะเป็นความประสงค์ของพวกเค้าเอง



H&M ได้ยืนยันสอดคล้องกับแถลงการณ์ของสมเด็จพระราชินีและสำนักพระราชวังว่า ต้องการจะแยกตัวไปเพื่อสร้างครอบครัวและหาเลี้ยงตัวเอง หลังจากที่เจ้าชายได้รับเงินสนับสนุนรายปีจาก Sovereign Grant มาโดยตลอด


เชื้อพระวงศ์ระดับสูงจะได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานในฐานะตัวแทนของสมเด็จพระราชินีและถือว่าเป็นหน้าที่การงานแบบ full time โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตให้สร้างรายได้จากช่องทางอื่นๆ เช่น การลงทุนทางธุรกิจ การรับค่าจ้างจากเอกชน ในขณะที่จะอะลุ่มอล่วยให้กับเชื้อพระวงศ์ระดับรองลงมา ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ สองเจ้าหญิงแห่ง Yorkที่มีอาชีพและได้รับค่าจ้างจากบริษัทเอกชน รวมไปถึงลูกพี่ลูกน้องอย่าง Zara และ Peter ที่มีตำแหน่งงานนอกรั้ววังเช่นเดียวกัน

เจ้าชาย Harry ผู้อยู่ในลำดับ 6 ของผู้ที่มีสิทธิ์ในการสืบราชสมบัตินั้นต้องรับหน้าที่ของเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เนื่องจากเป็นหนึ่งในโอรสแห่งมกุฎราชกุมารแห่งราชวงศ์อังกฤษ แม้จะเป็นนัดดาแห่งสมเด็จพระราชินีเหมือนกับเหล่าลูกพี่ลูกน้อง แต่ก็ฐานันดรที่มาพร้อมกับสายเลือดของผู้ที่ถูกวางตัวเป็นกษัตริย์ในอนาคตทำให้มีบทบาทหน้าของเชื้อพระวงศ์ระดับ senior และนั่นก็มาพร้อมกับกรณียกิจและข้อจำกัดตามขนบธรรมเนียมที่เคร่งครัดนั่นเอง




การลดบทบาทจากเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงนำมาสู่อิสระในการ "สร้างเนื้อสร้างตัว" หลังจากแยกออกไปตั้งรกรากในต่างประเทศ ในอนาคตข้างหน้า เราอาจจะได้เห็นครอบครัว Sussex ในฐานะนักลงทุนหรืออาชีพใหม่เพื่อหารายได้โดยไม่มี Sovereign Grant มาเจือจุนอีกต่อไป

ในขณะที่มีคนมองว่า พวกเค้าถูกบีบให้สละพระยศจากมาตรการลงโทษจากราชวงศ์จากพฤติกรรม "กระด้างกระเดื่อง" นำมาสู่ความแตกแยกในครอบครัวผู้สูงศักดิ์ แต่ก็มีเสียงค้านออกมาว่า นี่อาจจะเป็นความประสงค์ของทั้งสองคนที่อยากจะก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ที่ผูกมัดด้วยฐานันดรนี้เพื่อเริ่มต้นใช้ชีวิตตามที่ปรารถนา หากจะเริ่มหารายได้ด้วยตัวเองแล้วผู้ร่วมงานยังต้องคอยใช้คำพูดยกย่องในฐานันดรศักดิ์ ก็คงไม่ practical มากนัก


อย่างไรก็ตาม ยังมีเชื้อพระวงศ์บางคนที่ใช้พระยศนี้ในการสร้างแบรนด์ของตัวเองอย่างเปิดเผย เช่น เจ้าหญิง Michael แห่ง Kent ที่แปะคำว่า HRH บนหน้าปกหนังสือที่เธอประพันธ์





เจ้าชาย Harry สละฐานันดรแล้วกลายเป็นสามัญชนจริงหรือ ?  



ความเป็นเจ้าชายคือสิทธิแต่กำเนิดที่ได้รับจากการสืบสายโลหิตจากเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่ง Wales จากนี้ไม่กี่เดือน เจ้าชาย Harry จะไม่ได้รับการขนานนามด้วยพระยศ His royal highness อีกต่อไป แต่ก็ยังเป็นเจ้าชายและอยู่ในลำดับ 6 ของผู้มีสิทธิ์สืบทอดราชสมบัติดังเดิม



หากจะพูดถึงกรณีที่คล้ายคลึงกันก็น่าจะเป็นเสด็จแม่ของเจ้าชาย Harry     หลังจากเจ้าหญิง Diana หย่าร้างกับเจ้าฟ้าชาย Charles  ก็ได้สละคำนำหน้านามว่า  HRH เช่นเดียวกัน     แต่ยังคงฐานันดรเจ้าหญิงแห่ง Wales ไว้จวบจนวันที่เธอจากโลกไป



แล้ว Meghan ล่ะ  เธอยังมีฐานันดรเป็น  duchess อยู่หรือไม่ ?



ความเป็น duchess ของ Meghan คือสิ่งที่มาพร้อมกับการเสกสมรสกับduke แห่ง Sussex อันเป็นยศที่ได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินี เธอจึงมีสิทธิ์รักษายศนี้ไว้ต่อไป แม้กระทั่ง Sarah ที่หย่าร้างกับเจ้าชาย Andrew แล้วก็ยังรักษานาม Duchess แห่ง York ไว้ถึงปัจจุบัน




ที่ website ของ H&M ก็ได้มีการระบุชัดเจนในเรื่องแผนการดำเนินงานการกุศลและ project ใหม่ด้วยชื่อของduke และ duchess แห่ง Sussex ไม่เปลี่ยนแปลง  




การสละพระยศในกรณีไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในราชวงศ์ยุโรป



หากจะยกตัวอย่างกรณีที่คล้ายคลึงกัน   เจ้าหญิง Märtha Louise แห่งนอรเวย์ได้สละพระยศ HRH เพื่อแลกกับอิสระในการสร้างธุรกิจของตัวเองและร่วมปฏิบัติกรณียกิจในฐานะเชื้อพระวงศ์น้อยลง   และความมีเสรีที่ว่าก็รวมไปถึงชีวิตรักอีกด้วย     ผู้คนต่างประหลาดใจเมื่อเจ้าหญิงประกาศว่าได้ตกหลุมรัก "หมอผี" สัญชาติอเมริกัน   ทั้งคู่ได้จับมือนำเสนอโปรแกรมเยียวยาจิตใจด้วยความเชื่อทางจิตวิญญาณ และยังตั้งชื่อธุรกิจนี้ว่า "เจ้าหญิงและหมอผี"  ที่มีลูกค้าเป็นเซเลบชื่อดังหลายคน     แต่ก็ทำเรียกเสียงโต้แย้งจากสังคม จากข้อกล่าวหาว่าได้ใช้ความเป็นเจ้าหญิงมาเป็นเครื่องมือทำเงินเข้ากระเป๋า     เจ้าหญิง Märtha Louise  จึงยอมรับว่าได้ทำผิดพลาดไป  และจะไม่ใช้คำนำหน้าชื่อเจ้าหญิงในเชิงพาณิชย์อีก  แต่จะใช้ต่อในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะตัวแทนของราชวงศ์นอรเวย์เท่านั้น






เจ้าชาย Harry  เปิดใจถึงสถานการณ์  "Sussexit" เป็นครั้งแรก

เจ้าชายได้แสดงสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสงานดินเนอร์เพื่อมูลนิธิ Sentebale  ที่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ติดเชื้อ HIV และ Aids   ด้วยการอธิบายความรู้สึกที่มีต่อ


" ข้าพเจ้าปรารถนาจะให้ทุกท่านได้ยินความจริงจากปากข้าพเจ้าเอง ไม่ใช่ในฐานะเจ้าชายหรือduke แต่เป็น Harry คนๆเดียวกันที่ท่านได้เฝ้ามองจนเติบใหญ่ตลอดระยะเวลา 35 ปีมานี้ แต่เป็นมุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้นกว่านั้น"

"สหราชอาณาจักรคือบ้านข้เพเจ้า เป็นสถานที่ที่ข้าพเจ้ารักและมันจะไม่มีทางเปลี่ยนไปจากนั้น ข้าพเจ้าเติบโตขึ้นมาโดยได้รับการสนับสนุนจากท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้ประจักษ์การต้อนรับในตัว Meghan อย่างอบอุ่นเพราะพวกท่านได้รับรู้แล้วว่า ข้าพเจ้าได้ค้นพบความรักและความสุขใจที่ข้าพเจ้าฝันใฝ่ถึงมาตลอดชีวิต ในที่ที่สุด โอรสคนที่สองของ Diana ก็สละโสดสักที ฮูเร่!"





"I also know you've come to know me well enough over all these years to trust that the woman I chose as my wife upholds the same values as I do. And she does, and she's the same woman I fell in love with.
"We both do everything we can to fly the flag and carry out our roles for this country with pride.

"ข้าพเจ้ายังทราบด้วยว่า พวกท่านรู้จักตัวข้าพเจ้าดีมากพอที่จะเชื่อมั่นในตัวผู้หญิงที่ข้าพเจ้าเลือกมาเป็นภรรยาไม่ต่างจากที่ข้าพเจ้าเชื่อมั่นในตัวเธอ และเธอก็เช่นกัน เธอคือคนเดิมที่ข้าพเจ้าได้ตกหลุมรัก"

"พวกเราพยายามทุกทางในการดำเนินบทบาทหน้าที่เพื่อประเทศนี้ด้วยความภาคภูมิใจ"


"เมื่อMeghan และข้าพเจ้าได้เป็นสามีภรรยากัน พวกเราทั้งตื่นเต้น เต็มไปด้วยความหวัง และเราพร้อมที่จะทำประโยชน์"


"ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงต้องพบกับความเศร้าเสียใจอย่างใหญ่หลวงที่ทุกอย่างกลับมาถึงจุดนี้ได้"

"การตัดสินลดบทบาทที่ทำไปเพื่อตัวภรรยาและตัวข้าพเจ้าเองนั้นมิใช่การตัดสินใจที่ทำได้อย่างง่ายดาย ต้องใช้เวลาปรึกษาหารือกันนานหลายเดือน หลังจากที่ต้องพบกับอุปสรรคมาหลายปี ข้าพเจ้าทราบดีว่า ตัวเองไม่ได้ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกที่ควรอยู่ตลอดเวลา แต่จากทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันไม่มีทางเลือกอื่นเหลือเลย"




"ข้าพเจ้าต้องการจะชี้แจงให้กระจ่างว่า พวกเราไม่ได้หนีจากไป แน่นอนว่าพวกเราไม่ได้เดินไปจากพวกท่าน พวกเราได้หวังไว้ว่าจะได้รับใช้สมเด็จพระราชินี ประเทศเครือจักรภพและหน่วยงานทางการทหาร แต่เมื่อพวกเราตัดสินใจไม่รับเงินสนับสนุน มันจึงไม่อาจเป็นไปได้"

"ข้าพเจ้ายอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น   และรู้ตัวดีว่ามันจะไม่เปลี่ยนแปลงตัวตนหรือความรับผิดชอบของข้าพเจ้า"






"แต่ข้าพเจ้าหวังเหลือเกินว่านี่คือสิ่งจะช่วยให้พวกท่านได้เข้าใจ ว่าเหตุใดข้าพเจ้าจึงต้องนำครอบครัวก้าวถอยออกจากชีวิตที่ข้าพเจ้าคุ้นเคย เพื่อที่จะได้ก้าวไปสู่เส้นทางข้างหน้าที่ข้าพเจ้าปรารถนาว่าจะเป็นชีวิตที่สงบสุขกว่าเดิม"


"ข้าพเจ้าได้เกิดมาสู่ชีวิตนี้ และมันก็เป็นเกียรติอันสูงส่งที่ได้นับใช้ประเทศและสมเด็จพระราชินี "

" เมื่อข้าพเจ้าได้สูญเสียแม่ไป 23 ปีก่อน พวกท่านได้รับข้าพเจ้าเข้าไปอยู่ในใจ"

" พวกท่านได้เฝ้าปกป้องข้าพเจ้ามาเนิ่นนาน แต่พวกสื่อนั้นมีพลังอันแข็งแกร่ง ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่า สักวันหนึ่ง การให้ความสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกันจะสร้างเสริมพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะนี่มีความหมายกว่าเรื่องของพวกเรามากมายนัก"


" พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำประโยชน์ให้กับพวกท่าน และพวกเราจะดำเนินชีวิตเพื่อให้ช่วยเหลือผู้คนต่อไป"

" เรายังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบปะกับท่านทั้งหลาย พวกเราสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นยินดีที่พวกท่านมีต่อ Archie บุตรชายของพวกเราที่เพิ่งเคยได้เห็นหิมะเป็นครั้งแรกเมื่อวันก่อนและเค้าคิดว่ามันยอดเยี่ยมเป็นที่สุด!"

"ข้าพเจ้าจะให้ความเคารพยกย่องเสด็จย่าไม่แปรเปลี่ยน ทรงเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของข้าพเจ้า และข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์เป็นล้นพ้น รวมไปถึงครอบครัวของข้าพเจ้าที่ส่งแรงสนับสนุนให้กับ Meghan และข้าพเจ้าในช่วงเวลาหลายเดือนมานี้"




 " ข้าพเจ้าจะยังเป็นชายผู้เดิมที่มั่นคงต่อประเทศชาติด้วยความรักและจะอุทิศชีวิตเพื่อช่วยเหลืองานการกุศลและหน่วยงานการทหารที่มีความสำคัญต่อข้าพเจ้าเป็นยิ่งนัก"

"ท่านทั้งหลายได้ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ในการดำรงชีวิต บทบาทอันนี้ได้สอนข้าพเจ้าในการทำสิ่งที่ถูกต้องมากเกินกว่าที่ข้าพเจ้าได้คาดหวังไว้"

" พวกเราอยู่บนเส้นทางแห่งโชคชะตา ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้เป็นแรงใจให้ข้าพเจ้าได้ก้าวต่อไปข้างหน้า"




สถานการณ์ที่ได้ย้ำเตือนให้ระลึกถึงแถลงการณ์ของเจ้าหญิง Diana ถึงการถูกคุกคามจากสื่อ





ความอื้อฉาวของราชวงศ์อังกฤษได้กลายเป็นขุมทรัพย์ของสื่อที่ตามขุดคุ้ยชีวิตส่วนตัวที่ซับซ้อนของเชื้อพระวงศ์ โดยเฉพาะพระชายาแห่งมกุฏราชกุมารที่กลายมาเป็นขวัญใจผู้คนมากมายทั่วโลก เธอได้รับคะแนนสงสารจากสังคมด้วยภาพของเจ้าหญิงแสนงามที่่ไม่ได้รับความรักจากสวามี และตามมาด้วยเรื่องนอกใจฉาวโฉ่ที่ทั้งคู่ต่างก็ยอมรับในภายหลังว่ามีความสัมพันธ์สวาทกับคนอื่นจริงๆ แม้ว่าจะยุติชีวิตคู่กันไปแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่สื่อจะปล่อยให้เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ ทุกความเคลื่อนไหวของเจ้าหญิง Diana ถูกนำมาเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ รูปภาพของเธอสร้างรายได้ก้อนโตให้กับ paparazzi และเจ้าหญิงก็ไม่ปิดบังความไม่พอใจที่ถูกไล่ล่าไปทุกที่ เธอทั้งวิ่งหนีและเอ่ยปากไล่ให้พวกช่างภาพไปไกลๆ จนมาถึงจุดที่เธอต้องประกาศว่า ขอลดบทบาทในการทำหน้าที่ในฐานะเชื้อพระวงศ์ ไม่ต่างจากที่โอรสของพระองค์กำลังทำอยู่



" เมื่อ 12 ปีก่อน ข้าพเจ้าได้เริ่มต้นชีวิตที่เป็นที่จับตามองท่ามกลางสาธารณชน ข้าพเจ้าเข้าใจดีว่า สื่อคงจะให้ความสนใจในการกระทำของข้าพเจ้า และสื่อจะให้คอนติดตามชีวิตส่วนตัวและชีวิตสาธารณะของพวกเรา
แต่ข้าพเจ้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่ากระแสความสนใจจะมากมายล้นหลามถึงเพียงนี้ ไม่นึกว่ามัจะส่งผลกระทบไปถึงการปฏิบัติหน้าที่และชีวิตส่วนตัวจนยากที่จะรับมือได้ แน่นอนว่า ข้าพเจ้าให้ความสำคัญกับการทำงานช่วยเหลือสังคมอย่างยิ่งยวด และตั้งใจว่าจะลดขนาดพื้นที่งานลงไปในอนาคต
ช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า ข้าพเจ้าจะค้นหาแนวทางที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนให้ลงตัวกับการใช้ชีวิตที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยที่ข้าพเจ้าได้ให้ความสำคัญกับลูกๆ คือ William และ Harry มาเป็นอันดับแรก พวกเค้าสมควรได้รับความรัก ความห่วงใย การดูแลและความใส่ใจที่ข้าพเจ้าตั้งใจจะมอบให้อย่างเต็มที่ "




ฟังแล้วคุ้นๆใช่มั้ย ?


ธรรมเนียม   Never complain, Never Explain   ของราชวงศ์


ซีรีส์ The Crown อาจจะเป็น fiction ที่แต่งเสริมเติมแต่งด้วยจินตนาการจากเหตุการณ์จริง แต่ภาพความสัมพันธ์ในครอบครัวที่สูงศักดิ์ที่ตั้งอยู่ธรรมเนียมที่เคร่งครัดจนเข้าขั้นเย็นชานั้นเป็นภาพที่ติดตรึงอยู่ในใจผู้คนจำนวนมากมาย โดยเฉพาะผู้ที่เป็นประจักษ์พยานในการสูญเสีย "เจ้าหญิงแห่งปวงชน" Diana พระมารดาของเจ้าชายWilliam และเจ้าชาย Harry เพราะมันคือช่วงเวลาวิกฤติของราชวงศ์ที่ต้องรับมือกับความโกรธเกรี้ยวของประชาชนที่ได้เปลี่ยนความโศกเศร้าอาดูรมาเป็นคำกล่าวหาว่า สถาบันแห่งนี้ได้บีบคั้นเจ้าหญิงจนทุกข์ทรมานตลอดเวลาที่ได้ก้าวเข้าสู่ชีวิตราชนิกูล และยังเมินเฉยในการแสดงคำอาลัยต่อเจ้าหญิงด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะการแสดงความผิดหวังในสมเด็จพระราชินี Elizabeth จนความนิยมของพระองค์ตกลงอย่างฮวบฮาบ

มีรายงานมาเนิ่นนานว่า สมเด็จพระราชินีได้รับคำแนะนำมาจากพระราชชนนีในการรับมือต่อการโจมตีจากสื่อ มันคือหลักการสั้นๆว่า
Never complain, Never Explain
นั่นหมายถึงการนิ่งเฉย โดยไม่เปิดปากชี้แจง โต้ตอบ หรือแสดงความเดือดเนื้อร้อนใจ สิ่งที่ทำได้คือรอให้ข่าวซาลงไป


ตลอดระยะเวลาที่  H&M ต้องเผชิญกับกระแสข่าวลือที่สร้างความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียง  ปฏิกิริยาจากสำนักราชวังก็น่าจะเป็นสิ่งที่ชี้ชัดถึงวิธีรับมือกับสื่อแบบ "ใช้ความนิ่งสยบทุกความเคลื่อนไหว"  ดังที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา    แต่เรื่องราวเลยเถิดมาถึงขั้นที่คู่สามีภรรยาราชนิกูลเริ่มอยากจะถอยออกจากชีวิตที่เต็มไปด้วยการจับผิดและความกดดันจากข่าวลือรายวัน พวกเค้าส่งสัญญาณความอัดอั้นตันใจด้วยการเให้สัมภาษณ์จกับ ITV ถึงความทุกข์ร้อนนี้   ตามมาด้วยการเปิดศึกฟ้องร้องแทบลอยด์  ทำให้หลายฝ่ายต้องsurprise กับการตัดสินใจที่จะแหวกธรรมเนียม  Never complain, Never Explain ที่ปฏิบัติตามกันมาหลายรุ่น




แถลงการณ์ทั้งสองของสมเด็จพระราชินีที่ระบุว่า ทรงตระหนักถึงสถานการณ์ที่ยากลำบากของที่ Harry และ Meghanต้องพานพบกับการจ้องจับผิดอย่างหนักหน่วงมาตลอดสองปีมานี้ ทรงแสดงความสนับสนุนในการตัดสินใจนี้ และยังตรัสขอบใจพวกเค้าในการปฏิบัติกรณียกิจที่ผ่านมา และเน้นว่า ทรงภูมิใจในตัว Meghan ที่สามารถปรับตัวเข้าสู่ราชวงศ์ได้อย่างรวดเร็ว ผู้รับสารบางคนไม่ได้ตีความไปทางอื่นให้ซับซ้อน และเชื่อว่าองค์ราชินีได้มอบความปรารถนาดีให้นัดดาและชายาอเมริกันจริงๆ แต่ก็มีการถกเถียงกันว่า เบื้องหลังถ้อยคำที่เต็มไปด้วยพลังบวกนี้อาจจะแฝงไปด้วยการติเตียนการกระทำของครอบครัว Sussex

สื่อยังได้นำเสนอ "ข้อมูลจากคนวงใน" ต่อว่า สมเด็จพระราชินีทรงมีความคิดลดบรรดาศักดิ์ของ H&M จาก duke และ duchess ลงไปเป็น earl และ countess แต่เกรงว่า หากทำลงไปจริงๆ ราชวงศ์ก็อาจจะถูกมองว่ามีจิตใจคับแคบ และมันคงไม่สอดคล้องกับวิธีประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์อันดีงามของราชวงศ์เท่าใด


แม้เราจะเชื่อว่า แทบทุกการเคลื่อนไหวของราชวงศ์จะต้องมีการไตร่ตรองอย่างรอบคอบด้วยแผนPR แต่เราก็เป็นหนึ่งในคนที่เชื่อว่า สมเด็จพระราชินีได้ส่งสารเพื่อการจากลากันด้วยดี หลังจากที่ครอบครัวของพระองค์ต้องพัวพันกับข่าวลือเรื่อง bad blood มานาน








แม้จะถอยห่างจากอังกฤษ แต่ก็ยังต้องรับมือกับสื่อต่อไป



แม้จะถอยห่างจากอังกฤษ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องรับมือจากสื่อน้อยลง 

ภาพของ Meghan ในขณะเดินปีนเขาด้วยเป้อุ้ม baby Archie พร้อมกับจูงสุนัขเป็นฝีมือของ paparazzi ที่ซูมถ่ายจากระยะไกล      และเห็นได้ชัดว่า  แม้จะมีการรักษาความปลอดภัยจากจากการ์ดร่างใหญ่สองคน   แต่ก็คงมีภาพทำนองนี้ออกมาไม่ขาดสาย    


แฟนๆของครอบครัว Sussex หลายคนเชื่อว่า พวกเค้าจะออกจากรั้ววังมาอาศัยอย่างเป็นส่วนตัวที่ต่างประเทศเพื่อลดปัญหา "การปล่อยข่าว"โจมตีที่รั่วไหลมาจากคนใน การใช้ชีวิตได้อย่างอิสระโดยไม่ขึ้นกับรูปแบบการทำงานที่ต้องใช้เจ้าหน้าที่มากมายจากสำนักราชวังอาจจะทำให้พวกเค้าตัดความเสี่ยงในการถูกตามคุ้ยเขี่ยได้ก็จริง แต่สิ่งที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้คือ paparazzi ที่เฝ้าคอยอย่างอดทนเพื่อจะติดตามถ่ายภาพส่วนตัวของครอบครัวนี้มาขายให้กับแทบลอยด์ และมันคงทำให้หลายคนค้างคาใจว่า พวกเค้าจะขีดเส้นกั้นแบ่งชีวิตการทำงานกับความเป็นส่วนตัวได้เช่นไร ?










หลายคนเห็นตรงกันว่า สื่อจากแคนาดาและอเมริกาอาจจะ "เบามือ" กับครอบครัว Sussex ลงมาบ้าง จากประวัติของสื่ออังกฤษบางเจ้าที่นอกจากจะเสนอแต่เรื่องในด้านลบ ก็ยังข้ามเส้นไปอีกระดับด้วยการ hack ข้อมูลโทรศัพท์เพื่อล้วงความลับเชื้อพระวงศ์มาขาย แต่ครั้งหนึ่งที่เจ้าหญิง Diana ก้าวออกจากราชวงศ์และได้รับความนิยมสูงในระดับ global icon รวมไปถึงการคว้ารางวัล Humanitarian of The year ใน New York ก็ทำให้หลายคนคาดคะเนว่า น่าจะเป็นไปได้ที่ครอบครัว Sussex จะก้าวตามรอยของเสด็จแม่ผู้ล่วงลับ และค้นพบความสุขที่พวกเค้าเฝ้ารอได้ในที่สุด


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE