รีวิวรองพื้นใช้ดีประจำปี 2019 ราคาหลักร้อย ไปจนเกือบพัน

46 24
เป็นคนให้ความสำคัญกับงานผิวค่ะ จะไม่ค่อยไปไฮไลท์ทำอะไรกับการแต่งหน้ามาก เพราะเป็นคนที่ส่วนตัวนะ เชื่อว่าถ้าเราลงรองพื้นลงงานผิวดีๆอ่ะ ทีนี้ลงแค่แป้งฝุ่นเซตเบาๆ หน้าก็เนียนสวย เอาอยู่แล้ว ก็เลยจะมาเน้นให้ความสำคัญกับรองพื้นมากกว่าค่ะ
และไหนๆก็จะหมดปีแล้ว ก็อยากจะขอขุดรองพื้น 6 ตัว ที่เรามีอยู่ในกรุ มารีวิวให้ดูกันค่ะ แน่นอนว่า แต่ละตัวเน้นงานผิวสวย เบาๆ ไม่หนักหน้า (เพราะเราใช้ทาไปทำงานทั้งวัน) แต่ปกปิดได้และยังมีความบางเบา ให้ผิวได้หายใจอยู่ สำหรับเราไม่ค่อยชอบตัวที่เนื้อหนาๆนะคะ บอกไว้ก่อน อิอิ

สภาพผิวของเรา ผิวผสม ค่อนไปทางมันมาก

เดี๋ยวไปเริ่มรีวิวกันเลยค้าาา
L'ORÉAL PARIS INFALLIBLE 24HR FRESHWEAR LIQUID FOUNDATION ราคา 439 บาท

ปีนี้ลอรีอัลมาแรงเรื่องรองพื้นกับแป้งมาก คือแต่ก่อนเราไม่ค่อยสนใจนะ แต่หลังๆเห็นออกรุ่นใหม่ๆมาบ่อย ก็เลยได้ลองใช้บ้าง อ่านรีวิวบ้าง บวกกับราคามิตรภาพนางงามมากๆ หาซื้อง่ายไปอีก นี่ก็จัดตัวที่เค้าเคลมติดทน 24 ชั่วโมงตัวนี้มาเลยค่ะ เป็นสีเบอร์ 125 Natural Rose
เนื้อรองพื้น : เนื้อกดออกมาตอนแรกมีความเหลวมาก ตกใจ กลัวติดไม่ทน ดูทรงแล้วไม่น่าปกปิดเท่าไหร่  แต่พอเกลี่ยๆไป โดยใช้นิ้วมือเนี่ยแหละ รู้สึกเนื้อมันจะเข้มข้นขึ้น มีความครีมมากขึ้น ทำให้หลังทาแล้วหน้าจะเนียนขึ้นมาก ปกปิดรอยดำได้ค่อนข้างดี ไม่ตกร่อง ติดที่สีเข้มกว่าหน้านิดนึงทั้งๆที่ตอนลองก็ว่าซื้อเบอร์ขาวกว่าผิวหน้ามานิดหน่อยแล้วนะ นอกนั้นดีหมด เนื้อเกลี่ยง่าย ใช้ง่าย และผิวเนียนกริบดีค่ะ

คุมมัน ติดทน ปกปิด : คุมมันไม่ค่อยได้ สำหรับเราหน้าเยิ้ม แล้วก็เป็นคราบหนักมาก โดยเฉพาะตรงจมูก รองพื้นหายไปเลย นี่ก็แก้ปัญหาด้วยการใช้แป้งฝุ่นเข้าช่วยก็พอจะทำให้หน้าเยิ้มน้อยลงบ้าง ส่วนปกปิดก็ปกปิดรอยสิวได้ดีค่ะ หน้าเนียนกริบพอตัวเลยค่ะ

สรุป : รองพื้นตัวนี้ใช้ง่ายมาก แค่นิ้วมือก็เกลี่ยกลบได้หมด และทำให้หน้าเนียนขึ้นสุดๆ ติดอยู่ 2 อย่างคือ สีรองพื้นดรอปไวไปนิด และไม่คุมมันเลย ถ้าผิวแห้งไรงี้ น่าจะพอได้นะ ลงบางๆ

ซื้อต่อมั้ย? : น่าจะไม่ อาจจะไปลองรุ่นอื่นของเค้าแทนค่ะ
Merrez'ca Excellent Covering Skin Perfecting Foundation SPF50 PA+++ ราคา 690 บาท

แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ในดวงใจของเรา คือเค้ามีความพรีเมี่ยม มีความเกาหลีอันยองมากๆ สำหรับรองพื้นตัวนี้นะคะ จะเน้นงานปกปิด ให้ผิวสวย เรียบเนียน ติดทน และคุมมันได้ยาวนาน เป็นรองพื้นเนื้อแมท สูตรคุมมันกันน้ำกันเหงื่อ เหมาะกับเมืองร้อนบ้านเราค่ะ และเค้าไม่ได้แค่คุมมันอย่างเดียวนะแต่ยังลดการอุดตันของผิว ทำให้ใช้แล้วสิวอุดตันไม่บุกหน้าด้วยค่ะ คนแพ้ง่าย หรือผิวเป็นสิวก็สามารถใช้ได้ ส่วนตัวเคยใช้แบบซองมาก่อนแล้วติดใจ พอหมดซองก็เลยสอยแบบขวดมาใช้เนี่ยแหละค่ะ เบอร์ที่ใช้จะเป็นเบอร์ Soft Beige สีนี้เหมาะกับสาวผิวไทยโทนขาวเหลืองนะ
เนื้อรองพื้น : เป็นเนื้อที่กำลังดี ไม่ข้น แต่ก็ไม่เหลวมากจนเกินไป เป็นเนื้อที่เกลี่ยง่ายค่ะ ลื่น ไม่เป็นคราบ เวลาทาเกลี่ยลงผิวแล้วเนื้อรองพื้นให้การปกปิด แต่บางเบา ไม่รู้สึกหนักหน้าหรืออุดตันเลย ปกปิดได้ค่อนข้างดีในครั้งแรกที่ทา แต่ถ้ามีรอยสิวที่เข้มมากๆก็อาจจะลงซ้ำสองเพื่อเพิ่มการปกปิดเข้าไปอีก ตัวนี้ทาบิ้วได้เรื่อยๆ เพราะเนื้อรองพื้นมันบางเบาและไม่เป็นคราบ หลังทาแล้วหน้าเนียนมาก เบลอรูขุมขน ปกปิดรอยดำได้ดีด้วย

คุมมัน ติดทน ปกปิด : ปกปิดได้ดีเยี่ยมค่ะ รอยดำกลบได้มิดอยู่นะคะ และการติดทนก็ดี ไม่มีดรอป ตัวนี้อยู่ติดผิวได้ยันเย็น และการคุมมันก็ถือว่า ดีมาก จะมีแค่ตรงซอกๆจมูกอ่ะค่ะ ที่มีความมันออกมาเล็กน้อย แต่ที่เหลือไม่เยิ้มเลย พอซับความมันก็หายแล้วค่ะ ผิวก็กลับมาดูแมทเหมือนเดิม รองพื้นไม่ค่อยหลุดด้วย

สรุป : เนื้อรองพื้นบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ และไม่ดรอป ปกปิดได้ดี ฟิชนิชลุคส์คือ ผิวจะแมทแต่ไม่แห้งผาก ให้งานผิวที่กำลังสวย ติดทนดีมาก

ซื้อต่อมั้ย? : ซื้อซ้ำแน่นอน แต่เมื่อไหร่จะใช้หมด เพราะใช้ทีละแค่นิดเดียวก็ปกปิดได้ทั่วแล้ว
RAN Retouch Skin Foundation ราคา 990 บาท

เป็นรองพื้นที่ราคาแรงมาก คือเพิ่มอีกไม่กี่ร้อยก็ได้เคาเตอร์แบรนด์แล้วนะ แต่ว่านั่นแหละ ความอยากลองของผู้หญิงเธออย่าได้ประมาท ถ้าใจมันอยากได้ แพงแค่ไหนก็เป็นแค่ตัวเลข ยอมรับว่าแบรนด์นี้ไม่เคยใช้อะไรของเค้าเลย แต่กล้าซื้อเพราะน้องฉัตรการันตีเนี่ยแหละ ดูบ่อยๆก็เหมือนโดนไซโค ก็ตำมาเลยจ้ะ เอามาลองให้รู้กันไป ว่าราคาเท่านี้จะดีจะบ้งยังไงมาว่ากัน
เนื้อรองพื้น : ลืมบอก ตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อน้ำ Full Coverage คือบางเบาแหละ แต่สามารถบิ้วเป็นจุดๆได้โดยที่เรายังไม่รู้สึกว่าหนาเท่าไหร่ กลบรอยดำได้ดี และเนื้อก็บางเบาเกลี่ยง่ายค่ะ ใช้นิ้วเกลี่ยๆนี่ได้ผิวเนียนเหมือนกัน แต่ส่วนตัวมีความรู้สึกว่าถ้าใช้ฟองน้ำลงเนื้อรองพื้นมันจะเบาลงกว่าใช้มือมากค่ะ และก็ปกปิดได้เนียนกว่าใช้นิ้วมืออย่างเดียวด้วย ก็เลือกเอาตามถนัดเลยค่ะ โดยรวม ใช้แล้วผิวหน้าเนียนอยู่นะ ปกปิดได้ปานกลาง เนื้อเกลี่ยง่ายดีมากๆ

คุมมัน ติดทน ปกปิด : ไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ ตามทีโซนยังมีน้ำมันออกมาให้เห็นอยู่ มีเยิ้มนิดๆแต่ไม่ได้สังขยามากน้า เวลาใช้ขวดนี้เราเลยต้องพกแป้งฝุ่นไปใช้ระหว่างวันเพื่อซับความมันและทำให้รองพื้นติดทนระหว่างวันมากขึ้น การติดทนก็มีหลุดบ้าง ตามหน้าผาก ตามร่องริ้วรอยที่มันชัดๆ ส่วนการปกปิดเราให้กลางๆนะ ใช้คู่กับคอนซีลเลอร์ก็พอได้อยู่ค่า

สรุป : ปกปิดกลางๆ ไม่ค่อยคุมมันเท่าไหร่ ระหว่างวันรองพื้นมีการดรอป และหลุดออกมาพร้อมกับความมันบนใบหน้าค่ะ สำหรับคนหน้ามันมาก แนะนำให้ใช้คู่กับแป้งฝุ่นคุมมัน หรือไม่ก็แป้งพัฟไปเลยค่ะ จะทำให้ตัวรองพื้นติดทน และคุมมันมากขึ้น

ซื้อต่อมั้ย : ยังไม่แน่ใจเลยค่ะ ติดใจเรื่องราคาอ่ะ เราว่ามันยังดูสูงไปเมื่อเทียบกับการคุมมันและความติดทนค่ะ
NYX Total control drop foundation ราคา 495 บาท
มาถึงแบรนด์ที่แมสมากๆ แต่ราคาจับต้องได้ของนิกซ์ค่ะ ตอนซื้อแอบลังเลระหว่างตัวนี้กับตัวแคนท์สต็อปว้อนท์สต็อป แต่ชอบที่เนื้อตัวนี้บางเบากว่าและมันสามารถบิ้วได้เรื่อยๆ ซึ่งเราซื้อเบอร์ TCDF08 มาค่ะ ตอนเทสนี่ชอบเลยทั้งสี ทั้งเนื้อ งานผิวไม่มีโป๊ะสุดๆ ถือว่าเป็นรองพื้นที่เนื้อบางเบามากๆตั้งแต่ใช้มา ตัวนี้คือ เน้นงานผิวมากๆ ใครชอบงานผิวใสๆแบบหายใจได้ ต้องลองตัวนี้เลยค่ะ
เนื้อรองพื้น : เป็นรองพื้นแบบเนื้อน้ำค่ะ ดังนั้นเลยเหลวมากๆ เวลาใช้นี่จะหยดทีละนิดๆแล้วค่อยๆทา บิ้วเพิ่มได้ ตัวนี้เราลงรอบแรกคือ บางเบามาก และยังเห็นรอยดำชัดเจน แต่หน้าเนียนขึ้นนิดหน่อยนะ ลงรอบสองก็ทำให้รอยดำดูจางลงมากขึ้น แต่ยังไงๆก็กลบไม่มิดแน่ๆ ตัวนี้ต้องคู่กับคอนซีลเลอร์หน้าถึงจะกริบค่ะ

คุมมัน ติดทน ปกปิด : ตัวนี้ไม่เหมาะกับคนหน้ามัน เพราะไม่คุมมันเลย ไม่ทันครึ่งวัน ความมันก็มาแล้วค่ะ มีความเยิ้มเลยล่ะ ไม่เหมาะกับอากาศบ้านเราเท่าไหร่ แล้วสีก็ดรอปลงในช่วงบ่ายของวัน คือมันไม่อยู่ทั้งวัน และการปกปิดก็กลางๆค่ะ พอปกปิดได้บ้างตามการบิ้วของเราค่ะ

สรุป : เป็นรองพื้นที่เน้นงานผิว งานธรรมชาติสูงมากๆ ทาแล้วหน้าจะมีความบางเบาและเนียนๆฉ่ำๆแบบไม่หนา ไม่โบ๊ะ เหมาะกับคนผิวดีๆหน่อย รอยอารยะธรรมไม่ค่อยมาก และคนผิวแห้งผิวปกติใช้ได้เลยค่ะ จะชอบ แต่คนหน้ามัน หรือผิวผสมอันนี้สำหรับเราว่าไม่รอดนะ

ซื้อต่อมั้ย : ใช้วันสบายๆก็ได้อยู่นะ แต่เรารอยสิวเยอะ อาจจะยังไม่ซื้อต่อจ้า
KATE Tokyo Powdery Skin Maker SPF15 PA++ ราคา 640 บาท

รองพื้นจากญี่ปุ่นตัวนี้ก็ดีงาม เป็นรองพื้นเนื้อลิควิด แต่มีความพิเศษตรงที่ทาลงผิวแล้วจะเป็นเนื้อแป้งทันที เน้นไปที่การปกปิดรูขุมขนได้เรียบเนียน แต่ไม่หนักหน้า ซึ่งตัวนี้ก็ได้มากจาการเทสเหมือนกัน คือจะไปซื้อมาสคาร่าคิ้วแต่ได้ขวดนี้มาเฉ้ย บีเอจับลองก็พบว่า เนื้อเนียนดี เราเลือกมาเป็นเบอร์ 02 ขาวไปนิด อาจจะเพราะแสงไฟในร้านด้วย แต่ยังดูกลมกลืนไปกับผิวเราอยู่นะ
เนื้อรองพื้น : เนื้อรองพื้นพอทาลงผิวแล้วมันจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้งจริงๆค่ะ แบบใช้ขวดนี้แล้วไม่ต้องลงแป้งพัฟเลยเดี๋ยวจะหนาไป เอาแค่แป้งฝุ่นเบาๆคุมมันเพิ่มก็พอแล้ว ปกปิดดี ผิวเนียนมากๆ แต่ติดที่ดูขาวไปนิดนึง แต่ยังรับได้อยู่ค่ะ เพราะระหว่างวันสีรองพื้นจะดรอปจนเข้ากับผิวจริงๆเราเอง และตัวเนื้อก็ปกปิดได้ดีมาก ตอนใช้ต้องรีบๆเกลี่ยๆ ไม่งั้นเนื้อจะแห้งเปลี่ยนเป็นแป้งเร็วมากค่ะ

คุมมัน ติดทน ปกปิด : คุมมันได้ดี หน้าไม่ค่อยมัน ติดทนทั้งวัน แต่เจอน้ำเจอเหงื่อทีหลุดออกไปบ้าง และระหว่างวันก็มีดรอป มีเป็นคราบค่อนข้างเยอะค่ะ รู้สึกว่า ผิวแห้งด้วย อย่างตรงแก้มนี่จะแห้งมากๆและรองพื้นลอกออกเป็นขุยๆด้วย ไม่ค่อยชุ่มชื้นผิวเท่าไหร่

สรุป : เป็นตัวที่รู้สึกว่าแมทสุดที่รีวิวแล้ว แต่ไม่หนักหน้า ปกปิดดี คุมมันได้ในระดับหนึ่ง และมีดรอประหว่างวัน แต่ไม่กันน้ำ ไม่กันเหงื่อนะคะ รองพื้นมีหลุดบ้างถ้าเจอน้ำเจอเหงื่อ โดยรวมเป็นรองพื้นที่เนื้อแห้งไปหน่อย ต้องรีบเกลี่ย ไม่งั้นอาจจะเป็นคราบได้

ซื้อต่อมั้ย : บางเบาดี อาจจะซื้อต่อค่ะ
Jovina matte clay foundation spf 50 pa+++ ราคา 950 บาท

รองพื้นตัวสุดท้าย ขวดนี้เพิ่งซื้อมาใช้เลย เป็นรองพื้นเนื้อแมทของบิวตี้บล็อกเกอร์คนไทย มีการผสมตัวบำรุงลงไปด้วย ทำให้ได้ผิวแมทแต่มีความฉ่ำวาว สำหรับขวดนี้ไปสอยมาจากบิวเทรี่ยมค่ะ ถือว่าราคาแรงอยู่เหมือนกัน แต่ส่วนตัวสนใจที่มันจะเน้นความผ่อง ความเนียนให้ผิว ซึ่งเราชอบมากเลยตัดสินใจซื้อมาใช้ค่ะ เป็นเบอร์ 02 นะคะ เพราะสีจากในขวดไม่ค่อยดูขาวเท่าไหร่ค่ะ เลยกล้าซื้อเบอร์เกือบเฉียด 1 มา T__T
เนื้อรองพื้น : ตัวนี้ต้องใช้ฟองน้ำลงค่ะ ไม่แนะนำนิ้วมือ เพราะเนื้อเหนียวและข้นมาก สำหรับเราใช้มือลงแล้วเกลี่ยยากมากเลยค่ะ แต่พอใช้ฟองน้ำลงแล้วเนื้อมันจะเกลี่ยง่ายขึ้นและดูเบาบาง แต่ยังรู้สึกว่าเนื้อหนักอยู่นะคะ บิ้วเพิ่มได้แต่เป็นจุดๆดีกว่า ไม่งั้นจะแน่นเกินไปค่ะ ทาเสร็จแล้วรองพื้นจะดูแมทแต่ไม่แห้งค่ะ ปกปิดดีด้วย

คุมมัน ติดทน ปกปิด : ตัวนี้คุมมันได้กลางๆ พอเข้าช่วงบ่ายหน้าจะเริ่มมันเริ่มเยิ้มล่ะ ต้องหยิบแป้งฝุ่นขึ้นมาเติมให้รองพื้นมันติดทนและคุมมันมากขึ้น และรองพื้นเองก็หลุดออกไปเยอะมาก ทำให้เห็นรอยดำชัดขึ้นค่ะ ระหว่างวันเนื้อรองพื้นหลุดค่อนข้างเยอะ และมีเป็นคราบเล็กน้อย

สรุป : เป็นรองพื้นเนื้อแมทที่มีความฉ่ำโกลว์ รู้สึกผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งเลย ทาแล้วผิวหน้าจะเนียนกริบมาก คุมมันได้ปานกลาง มีดรอป และเนื้อรองพื้นหลุดระหว่างวัน แนะนำให้ใช้ร่วมกับแป้งฝุ่นคุมมันเซตๆเอา จะทำให้รองพื้นติดทนและคุมมันนานขึ้นค่ะ

ซื้อต่อมั้ย : เนื้อแน่นดี ถ้ามีโอกาสได้ออกงานบ่อยๆ แล้วใช้จนหมดขวด ก็อาจจะซื้อซ้ำอีกนะ

ขนรองพื้นในกรุมารีวิวกันเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังมองหารองพื้นขวดใหม่กันอยู่นะคะ เราเองรีวิวจากตอนที่เราใช้งานจริง และตามสภาพผิวของเรา อาจจะตรง หรือไม่ตรงกับใคร ก็เข้ามาร่วมพูดคุยกันได้น้าาา


khwanpair

khwanpair

FULL PROFILE