ของรักแห่งปี 2019 ซื้อน้อยชิ้นลงแต่แพงขึ้นมาก

46 13
สวัสดีค่ะ ห่างหายการรีวิวไปนาน ขอมาแชร์ประเด็นร้อนที่สุดแห่งปี ว่าใช้อะไรแล้วดีในปีที่ผ่านมา ซึ่ง เราคิดว่าเราได้เจอของที่ถูกใจมากที่สุด และ ไม่เปลี่ยนใจ ซื้อซ้ำมากที่สุด เหมือน routine เริ่มนิ่ง และเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เรียกว่า งาน sale ทำอะไรเราแทบไม่ได้อีกต่อไป เพราะเราคือรุ่นใหญ่ ใจเรานิ่งแล้ว ไม่รอช้า เริ่มกันเลยนะคะ มีแค่ 2 หมวดเท่านั้น คือ สกินแคร์ กับ เมคอัพ​
เปิดกระเป๋าตัวเองแล้วตกใจมากว่าเรามาไกลเหลือเกิน เพราะปีนี้พกแค่นี้เท่านั้นเลยตลอดการเดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่ รีวิวขอไล่จากซ้ายไปขวานะคะ

หมวดเจลล้างหน้า

1. Kiehl's Cucumber Herbal Conditioning Cleanser เราคิดว่ามันสะอาดกว่าเจลล้างหน้าทั่วไป อ่อนโยน และกลิ่นไม่แรง หักคะแนนที่ราคา พอรับได้ แต่ส่วนตัวเพราะว่า เซรั่มอะไรคือใช้แพงมากแล้ว เราจึงอยากลดทอนค่าใช้จ่ายในส่วนของการล้าง เพื่อเก็บเงินไว้ทุ่มทุนสร้างกับหมวดการบำรุงมากกว่า จึงเป็นที่มาของตัวถัดไป

2. Simple Water boost Micellar Gel Wash เจลล้างหน้าตัวนี้คือดีที่สุดของ Simple แล้วเท่าที่ได้ลองมา คือมันอ่อนโยน และรู้สึกสะอาดกว่าสูตรอื่นๆที่เป็นเนื้อเจล ตามสไตล์ของแบรนด์นี้ คือไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่แต่งเติมใดๆ มอบให้เพียงความอ่อนโยน ราคาที่ไทย อยู่ในหลักสองร้อย ดีมากๆๆๆๆๆ เห็นว่าติดลิสท์ของคุณปูเป้ด้วย

หมวดมาส์กและโทนเนอร์

ยืนหนึ่งไม่มีสองกับคุณแม่ BR หรือ Biologique Recherche Masque Vivant (มาส์กวีวอง) กลิ่นซีอิ๊ว และโทนเนอร์ P50 อันลือลั่น ใช้คู่กันคือสิวหาย ผิวดี รูขุมขนเล็ก หน้าไม่มัน ไม่แห้ง ไม่ลอก ไม่มีปัญหาใดๆ แบบขาดไม่ได้แล้วชีวิตนี้ ทำไมเราไม่เจอกันตั้งนานแล้ว ใช้ช่วงแรกจะมีการดันสิวออกมา แต่หลังจากนั้นคือหายขาด เราแอบปะพรม p50 ที่หลังและหน้าอกด้วยเวลาที่มีสิว บอกเลยว่าหายชะงัด สองตัวนี้คือไม่มีไม่ได้ ซื้อซ้ำตลอด ใครที่ไม่เคยลองขอให้เริ่มที่ P50 เราบอกทุกคนเลยว่า ถ้าไม่เคยใช้ P50 ถือว่าเธอพลาดสิ่งดีดีในชีวิตเลย ขอแนะนำแรงๆ แบบไม่ได้มีส่วนได้เสียอะไรกับเค้า แต่มันมีหลายสูตร เลือกให้เหมาะกับผิวนะจ๊ะ

หมวดเซรั่ม

ยังวนอยู่กับ Biologique Recherche แต่ขวดหน้าตาเหมือนวัคซีนนี้คือเซรั่มสูตรเข้มข้นแบบไม่ใส่สีไม่ใส่กลิ่น เหม็นเหลือรับเหลือทน บางตัว เอาจริงๆว่า เวลาทา คนในบ้านถามว่า กลิ่นเท้าใคร 55555555555555 แต่เหม็นขนาดนี้แล้วคนยังเอามาทาหน้า แปลว่ามันต้องคุ้มค่าค่ะทุกคน สำหรับเรา ลองมาเยอะ แต่ชอบแค่ 3 ตัวที่ซื้อซ้ำๆ

1. เซรั่มผิวขาวใส Oligo-Proteines Marines เป็นโปรตีนจากสาหร่าย ช่วยปรับสีผิว ช่วยให้ผิวเหนื่อยล้า กลับมาสดชื่นแบบของจริง! ไม่จ้อจี้ จริงๆเค้าเคลมว่าเหมาะกับคนสูบบุหรี่ ที่ผิวมันจะเสียออกซิเจนหรืออะไรซักอย่าง ลองไปหามาใช้ดู แล้วจะรู้ว่าความสดใส ผิวเฟรช คือสิ่งที่เงินซื้อได้

2. เซรั่มลดสิว Complexe Iribiol เราเป็นคนสิวขึ้นที่คางซ้ำๆ สิวเม็ดใหญ่ สิวซีส มาหมด ใช้ตัวนี้ทุกวัน คือไม่ขึ้นอีกเลย เลย เลย เลย สิวที่เคยขึ้นซ้ำๆที่คาง คือหายหมด เลิกฉีดสิว ลืมการกดไปได้เลยจ้า ขาดไม่ได้จริงๆ ถ้าหมดคือร้อง เพราะซื้อทีก็แพง แต่ 30ml ใช้ได้สองเดือนกว่าๆ

3. เซรั่มลดริ้วรอย Elastine อันนี้เราใช้หยดแค่ใต้ตา ร่องแก้ม ส่วนตัวริ้วรอยไม่ได้มาก ทาแล้วรู้สึกตึงๆ กันไว้ดีกว่าแก้

หมวดเดย์ครีม

1. Milk Sunshine Skin Tint ใช้หมดเป็นอันที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ทาแล้วผิวสวยเป็นธรรมชาติมากกกก ปกปิดได้ดีกว่าทิ้นตัวอื่นๆ แต่เป็นงานผิวแบบไม่รู้ทำได้ยังไง ข้อเสียคือมันเป็น oil base คือจะมัน ต้อง set ด้วยแป้งดีๆ

2. Son & Park Beauty Filter Cream Glow เนื้อครีมนุ่มมาก ให้ความโกลว์แบบเป็นธรรมชาติ แบบ เบาๆ เรื่อๆ สวยๆ ไม่มีกากเพชร แต่มันเป็นความโกลว์ที่อธิบายไม่ถูกเลย เนื้อครีมก็คือนุ่มฟู เบาหวิว อยากให้ลองมากๆ แล้วจะซื้อซ้ำๆ

สุดท้าย คือสำลีที่ไม่กินโทนเนอร์ คือ P50 ต้องใช้กับสำลีนี้เท่านั้น เพราะมันแพงเหลือเกิน ไม่อยากเสียผลิตภัณฑ์ไปกับสำลีโดยไม่จำเป็น และที่ไม่อยู่ในภาพเพราะลืมถ่ายคือ wipes ของ Simple ที่ใช้มาเป็นห่อที่เท่าไหร่เลิกนับไปแล้ว เช็ดเครื่องสำอางค์หมดจด ไม่แพ้ ไม่บาดหน้า ราคาโอเค


ต่อกันที่เมคอัพน๊า
เรียกได้ว่าเป็นปีของ Hourglass เพราะชอบทุกสิ่ง รักทุกอย่าง อยากซื้อให้หมดเค้าเตอร์ แต่ของเก่าใช้ไม่ทัน ขอเริ่มไปตามสเตปการแต่งหน้านะคะ

1. รองพื้นแบบแท่ง ของ Hourglass ส่วนตัวไม่เคยชอบรองพื้นแท่ง เพราะมันหนาและมัน และหนัก แต่ตัวนี้คือเปลี่ยนความคิดไปเลย ทั้งใช้สะดวก ทั้งเกลี่ยง่าย ทั้งไม่มัน แต่ทั้งนี้แนะนำให้ใช้กับ beauty blender หรือแปรงหัวตัดของเค้าเลย ตามที่เห็นในรูป คือวนๆ ปาดๆ ไม่เกิน 10 วิ ได้ผิวเนียนกริบติดทนนานตลอดวัน

2. แป้งฝุ่น in2it ซื้อเพราะลืมเอามา แต่ก็พบว่าใช้ดีเหมือนกัน คุมมันอาจจะได้ไม่นานเท่า Three หรือ RMS ที่ใช้อยู่ประจำแต่ ในราคา 169 บาทถือกว่าได้ไปต่อจ้ะ แต่หมดอันนี้จะไปซื้อแป้งฝุ่น Hourglass มาใช้แล้ว คือตอนนี้คันมากกกก

3. บลัชแบบน้ำของ Nars สีสวยติดทนนานบาง ใช้น้อยแต่ได้มาก เมื่อไหร่จะหมดเสียทีนี่ขนาดหกไปส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะใช้ได้อีกปีนึงเลย หนึ่งปั๊มทาแก้มสองข้างคือเหลือ ต้องเช็ดทิ้ง

4. บลัช Hourglass สีสวยผู้ดี ติดทนนานเหมือนกัน มีหลายอันแต่รอบนี้พกอันนี้มา สบายใจมาก รักมาก ตั้งแต่ใช้ก็ไม่ได้คิดจะซื้อยี่ห้ออื่นอีกเลย เพราะพอใจกับมันมากแล้วและมันดูจะไม่หมดซักทีอีกเช่นกัน

5. ดินสอเขียนคิ้ว cosluxe รุ่นหัวตัด เรียกว่ายืนหนึ่งเรื่องงานคิ้ว ในราคาต่ำกว่าสองร้อย เราคิดว่าคุณภาพเท่า benefit เลย ถูกใจและจะใช้ตลอด งานคิ้วเราไม่ต้องซื้อแพง เก็บเงินไว้ซื้อ hourglass 5555

6. UZU eye opening liner ดีที่สุดที่เคยใช้ eyeliner มา ทั้งติดทน ใช้ได้นาน หัวไม่แตก เส้นเรียวเล็ก หมึกไม่ซีด ออกสม่ำเสมอ ไม่หมดง่ายๆ สารพัดจะบรรยาย เสียอย่างเดียวคือหาซื้อยากและแพง ดีจนขอลงรูปไว้ให้ชัดๆ ใครมีพิกัดหาซื้อได้ถูก รบกวนด้วยค่ะ



7. สุดท้ายงาน mascara Hourglass อีกเช่นเคย ดีแบบ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม ทั้งดำสนิท เรียงเส้น ไม่เป็นก้อน ไม่ไหล เสียใจแค่ราคาแพง แต่ใช้ได้นานเลยทีเดียว ไม่แห้งง่าย ซื้อซ้ำแน่นอน

ตั้งใจว่า new year resolution ปี 2020 คือจะไปซื้อ concealer แป้งฝุ่น lipstick แปรง hourglass มาใช้เพิ่ม เอาไว้ได้มาแล้วจะมารีวิวแบบจุกๆนะคะ ส่วนเรื่องที่ว่าซื้อที่ไหนถูก ก็เช่นเคย แนะนำ Netaporter หรือ selfridges เท่านั้น หรือไม่ก็รอที่ Sephora มีลด 20% ก็นอทแบดจ้า

ขอให้ปีใหม่นี้ทุกคนแฮปปี้ มีสติในการช้อปนะคะ

ด้วยรักและปลาทู


charliecaesar

charliecaesar

FULL PROFILE