เปลี่ยนสีผมไม่ซ้ำ ปรับลุครับปีใหม่ 2020

38 10

จะปีใหม่แล้วววว..

อยากจะมาแชร์ไอเดียปรับลุค โดยการ

"เปลี่ยนสีผมใหม่ แบบไม่ซ้ำสีกัน"


เมื่อประมาณเดือนเมษายนนี้เราได้ทำการเข้าร้านทำผมแบบจริงจังยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง

ย้ำว่ามากกว่า 6 ชั่วโมง ตั้งแต่บ่าย 2 จน 4 ทุ่ม สำหรับการทำสีผม

เริ่มจากการกัดผมทั้งหมด 3 รอบ และลงสี 1 รอบ

จำได้ว่าถึงขนาดที่ต้องกินข้าวเย็นทั้งๆ ที่หัวแรปพลาสติกอยู่อะ 

นี่คือรูปคร่าวๆ ของช่วงแรกๆ ที่ทำสีผมมา คือกัดผมจนเป็นสีทองๆ เหลืองๆ

ตอนกัดผมช่างทำผมเขาจะใส่พวกเคราตินเพื่อรักษาเส้นผมระหว่างที่ทำเคมีด้วย

แต่ถึงยังไงผมก็กรอบอยู่ดี แต่ไม่ได้เสียถึงขนาดที่เป็นวุ้น


รูปซ้ายคือสีผมที่กัดได้ ส่วนรูปล่างคือ สีผมที่ให้ช่างย้อมให้

ด้วยความที่มันเป็นสีพาสเทล สีมันจะไม่ติดทน สระผมไปมันก็ค่อยๆ หลุดไป

สระซัก 5-6 ครั้ง สีที่ย้อมมาก็หลุดหมด จนผมกลับไปเป็นสีแบบที่กัดไว้ตอนแรก

และนี่คือสีผมที่เราทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านโดยไม่ต้องไปร้านทำผม

สีหลักๆ ที่เราทำคือ สีชมพูอมม่วง ชมพูอมส้ม เทาเหลือบชมพู เทาเหลือบม่วง

ในรูปคือ มีทั้งสีที่ทำเสร็จโดยที่สียังไม่หลุดหรือจางไป 

รวมถึงบางรอบที่สีเริ่มจางๆ ไปแล้วก็มี


ปล. สีที่เราทำจริงๆ มันมีเยอะมากกว่าในรูปมากๆๆๆๆ เสียดายที่เราไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ T^T

และนี่ก็คือสิ่งที่ช่วยเปลี่ยนสีผมเราในแต่ละครั้ง มันคือ...

ยาสระผมที่เป็นสีๆ ย้ำว่าเป็นยาสระผม 

Lolane Pixxel Color Refresh Shampoo

เพราะงั้นผมจะไม่เสียเพิ่ม

แล้วก็ใช้ได้บ่อยได้เท่าที่ต้องการเลย เหมือนสระผมทีนึงก็เปลี่ยนสีทีนึง

(นั่นเป็นสาเหตุที่เราไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ คือมันถ่ายไม่ไหวจริงๆ เยอะเกิ๊น)


ยี่ห้อนี้ช่างทำผมเป็นคนแนะนำเรามาอีกทีว่าให้ลองตัวนี้

คือมันราคาไม่แพง ขวดละ 200-300 บาท แต่ค่อนข้างหาซื้อยากนิดนึง

ปกติเราซื้อประจำที่ตลาดรังสิต แต่ในพวก Shopee เราก็เห็นว่ามีขายเหมือนกัน



สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนจะใช้ยาสระผสพวกนี้มีแค่ ต้องกัดสีผมก่อนเท่านั้นเลย

ยิ่งสีอ่อนสียิ่งชัด แนะนำว่าให้กัดที่ร้าน อาจจะแพงหน่อย แต่ว่าสีผมที่ได้จะสม่ำเสมอกัน

นี่คืออุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมด

  • ภาชนะ แนะนำว่าให้เป็นสีขาวหรือสแตนเลส เพื่อที่จะเห็นสีแชมพูที่ผสมออกมาให้ชัดๆ ไม่แนะนำสีดำ เพราะมองสีไม่ออกเลย

  • ตะกร้อ แบบไหนก็ได้แล้วแต่สะดวกเลย ไว้ตีแชมพูที่ผสมให้เข้ากัน แล้วก็ให้มันเป็นฟองขึ้นมา เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องไปขยี้แชมพูบนหัวซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงเสียดทานระหว่างการขยี้เส้นผม แล้วทำให้เส้นผมที่มันเสียมันขาดหลุดร่วง

ต่อมาก็คือ เทยาสระผมลงไปเลย อยากได้สีไหนก็เทสีนั้น ผสมๆ กันไป

เราแนะนำเรื่องการผสมสีนิดนึง ซึ่งมันมีความซับซ้อนประมาณนึง

ถ้าใครเคยใช้แชมพูแบบ Silver Shampoo ตอนที่ทำผมสีเทาอาจจะพอเข้าใจ

แต่ถ้าใครไม่เคยใช้มาก่อนมันจะงงๆ นิดนึง เราใช้แรกๆ ก็มีความมึนๆ

ได้สีแบบ.. ไม่ตรงใจเท่าไร


วิธีการผสมสี

คือ.. สีผมที่เรากัดมันจะเป็นสีเหลืองๆ ถ้าดูในวงจรสีแล้ว สีคู่ตรงข้ามเหลือง

คือ ม่วงๆ น้ำเงินๆ ซึ่งมันจะตรงกับชมพูของ Lolane Pixxel สี ASH

มันจะคล้ายๆ เวลาเราผสมสีน้ำ ที่พอใส่สีคู่ตรงข้ามออกมาจะได้เป็นสีออกน้ำตาลเทาๆ

อย่างเวลาเราผสมสี สีที่เราไม่อยากได้คือสีเหลืองๆ ทองๆ เราจึงใช้สี ASH เป็นสีหลัก

จากนั้นคือเติมสีที่อยากได้เพิ่มขึ้นมา บางครั้งเราจะเพิ่มสี PINK กับ PURPLE

หรือไม่ก็ PEACH เข้ามา แล้วแต่ว่าอยากได้สีออกโทนไหน


สัดส่วนสีที่ผสม

  • ถ้าอยากได้สีไหนเป็นหลักให้ใช้สีนั้นซัก 70%-80% สีรองลงมาให้ใช้ 20%-30% อย่างเราชอบทำสีเทาเหลือบชมพู สีที่ใช้เยอะสุดจะเป็นสี ASH 80%แล้วเพิ่มสี PINK+PURLEหรือPEACH 20% หรือบางทีจะใช้สี PINK เป็นหลักแล้วให้สีอื่นรองลงมาก็ได้ สีจะออกเป็นชมพูที่ชัดไปเลย

  • ถ้ารู้สึกว่าไม่อยากให้สีติดชัดมาก วิธีการดรอปสีคือเพิ่มแชมพูสระผมปกติเข้าไปอีกทีหลังจากที่ผสมแชมพู Lolane Pixxel เรียบร้อยแล้ว สัดส่วนไม่ควรเป็น 1(แชมพูปกติ):2(ยาสระผม Lolane Pixxel) สัดส่วนยาสระผมควรน้อยกว่า 1 เพราะไม่งั้นสีมันจะติดไม่ชัด เผลอๆ คือแทบไม่อออกสีเลย

เราจะยกตัวอย่างวิธีผสมสีให้เข้าใจง่ายๆ มากขึ้น

(ปล. สีโทนเย็นแบบ เขียว น้ำเงินเราไม่เคยทำนะ แต่เราคิดว่า วิธีผสมสีมันน่าจะเหมือนกัน)


ในรูปเป็นสีเขียวที่เราต้องการทำ

  • สีเขียวด้านซ้ายจะประกอบไปด้วยแม่สีน้ำเงินกับเหลือง

  • สีเหลืองด้านขวาคือสีผมปกติที่กัดมา โดยยังไม่ทำสี ซึ่งมีค่าเท่ากับแม่สี

ถ้าเราอยากได้สีเขียว เรามีสีเหลือจากสีผมที่กัดอยู่แล้ว ดังนั้นเราก็แค่ใช้แชมพู Lolane Pixxel สี BLUE สระผม สีก็จะออกมาเป็นสีเขียว

แต่ถ้าเราอยากได้ผมสีน้ำเงิน ซึ่งสีน้ำเงินมันเป็นแม่สี ดังนั้นเราควรใช้แชมพูสี Blue เป็นหลักโดยผสมกับสี ASH เพื่อตัดสีเหลืองออก

หลังจากผสมสีเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้ตะกร้อตีจนเป็นฟองขึ้นมา แล้วก็เอาไปสระผมเหมือนแชมพูปกติได้เลย โดยอาจจะทิ้งไว้แค่ 10 นาทีเพื่อให้สีสม่ำเสมอมากขึ้นแล้วก็ล้างออก ตัวนี้มันไม่จำเป็นที่ต้องทิ้งไว้นานแบบยาย้อมผมเลย แค่ 5-10 นาทีก็พอแล้ว เพราะสีมันติดจากการที่เม็ดสีในเส้นผมเราน้อยลงจากการกัดแล้ว พอใช้แชมพูที่เป็นสีคือมันก็ติดตั้งแต่ที่เราชะโลมแชมพูตั้งแต่แรกเลย


แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์สุดคือ.. ใช่ว่าสีที่ผสมออกมาเป็นสีไหนแล้วจะสระได้สีนั้นออกมาเลย 

ฮ่าๆๆๆๆ คือเราจะรู้สีผมที่ได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อเราล้างแชมพูออก จนน้ำเป็นสีใสๆ แล้ว

(นี่เป็นสาเหตุที่ตอนแรกๆ เราใช้แล้วสีผมพังพินาศสุด )

ปกติเราไม่ได้ใช้ถุงมือในการทำ สีของแชมพูมันก็ไม่ได้ติดผิว

ขนาดที่ล้างไม่ออกแบบยาย้อมผมนะ แต่ส่วนใหญ่มันจะติดตามซอกเล็บเหลือไว้นิดๆ

เป็นสีหม่นๆ มากกว่า ถ้าใครกังวนก็ใช้ถุงมือพลาสติกธรรมาดาได้เลย

อันนี้เป็นสีผมหลักๆ ที่เราทำประจำ ปกติจะใช้ Lolane Pixxel ก็ต่อเมื่อสีที่ทำมันเริ่มหลุดออกไปหมด จนผมเราเกือบๆ เป็นสีทอง

สีล่าสุดที่ทำคือเทาออกชมพูนิดๆ ก็ใช้สี ASH เป็นหลักซัก 90% สี PINK 10% แล้วก็ผสมแชมพูธรรมดาเข้าไปอีกนิดหน่อย เพราะไม่อยากให้สีมันชัดมาก ก็ออกมาได้ประมาณนี้

ทีนี้มาถึงข้อดี-ข้อเสียของวิธีการนี้กันบ้าง

เริ่มที่ข้อดีก่อนเลย

  • แน่นอนว่าพอมันเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผมแล้ว มันไม่ได้ทำให้ผมเราเสียมากขึ้น

  • เปลี่ยนสีผมได้บ่อยตามที่ต้องการ เพราะมันคือการสระผม

  • ราคาต่อขวดไม่แพง เราใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงตอนนี้ก็ทั้งหมด 6 ขวด เป็นสี PINK 2, ASH 2, PEACH 1, PURPLE 1 สีที่หมดจริงๆ คือ PINK กับ ASH อย่างละ 1 ขวด เพราะเป็นสีที่ใช้เยอะสุด

  • มันสนุกตรงที่เราสามารถ Mix สีเองได้ ทั้งเฉดสี รวมถึงความเข้มอ่อนของสี

ตามมาที่ข้อเสีย

  • หาซื้อยาก เราไม่เคยเห็นแชมพูตัวนี้ในร้านสะดวกหรือหรือตามห้างสรรพสินค้า

  • ไม่รู้สีที่จะได้จริงๆ จนกว่าจะล้างแชมพูออกหมด

  • ควบคุมสียาก Factor ที่ต้องควบคุมเลยคือ สัดส่วนการผสมต่างๆ รวมถึงพื้นสีผมของเราด้วย

  • เนื่องจากมันเป็นแชมพูเปลี่ยนสีผม มันจะไม่มีบำรุงในตัว เพราะงั้นต้องใช้ทรีทเม้นหนักๆ หน่อย ของเราใช้แทนครีมนวดไปเลย


Na-nacha

Na-nacha

FULL PROFILE