My Favorite Skincare 2019

      สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ปลายปีแบบนี้ก็ได้เวลารวบรวมเครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวต่างๆที่ใช้แล้วชอบมาฝากเพื่อนๆนะคะ โดยวันนี้เป็นคิวของ skincare ที่สาววัย 35+ อย่างเบียร์ใช้มาตลอดในช่วงปี 2019 นี้ จริงๆโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนที่ชอบลอง skincare ใหม่ๆนะคะ แต่พอใช้ๆไปสุดท้ายน้องๆที่นำมาเขียนรีวิวในวันนี้ คือสิ่งที่เบียร์ใช้จนหมดขวด และซื้อซ้ำบ่อยที่สุดค่ะ

      เรามาเริ่มกันที่ตัวแรกเลยนะคะ Lancome Advanced Genifique Youth Activating Concentrate Serum ตัวนี้ช่วยคืนความแข็งแรงให้กับผิวค่ะ ใครที่ผิวอ่อนแอ เป็นสิว มีรอยแดงต่างๆ ผิวดูโทรม ใช้เซรั่มตัวนี้ต่อเนื่องจะสังเกตุได้ว่าผิวดูสดใส เปล่งปลั่งมากขึ้น ดูผิวมันค่อยๆ ฟูขึ้น ดูเต่งตึงขึ้นค่ะ

      เค้าเป็นเซรั่มเนื้อบางเบามากๆ บางเบาจนเหมือนน้ำเลยค่ะ เวลาทาจะซึมลงผิวได้ไวมากๆ พอลงตัวนี้แล้วก็ให้ทาครีมบำรุงผิวอื่นตามนะคะ สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็นค่ะ

       ต่อมาเป็น ESTEE LAUDER Advanced Night Repair Intense Reset Concentrate ตัวนี้เป็นเซรั่มในกลุ่ม anti-oxidant ที่เข้มข้นช่วยปลอบปะโลมให้ผิวที่ดูโทรม หมอง อ่อนล้าจากทั้งภาวะความเครียด และมลภาวะจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ตัวนี้เบียร์ซื้อมาใช้ช่วงที่คุณแม่นอน ICU ค่ะ บอกเลยว่าช่วงนั้นเครียดมาก นอนไม่ค่อยหลับ พักผ่อนน้อย หน้าหมองโทรมแบบสุดๆ ปรากฎว่าพอลองทาตัวนี้ไปรู้สึกผิวมันสดใสขึ้น รูขุมขนที่เคยเบิกบานในช่วงพักผ่อนนอนน้อย ก็กระชับขึ้นด้วย

       เนื้อเซรั่มเข้มข้นค่ะ ไม่ได้ใช้ทุกวันนะคะ ใช้เฉพาะช่วงที่รู้สึกผิวหมอง ผิวโทรมไม่สดใส ทาเฉพาะช่วงกลางคืน สัปดาห์ละประมาณ 2-3 ครั้งเท่านั้นค่ะ

      ถัดมาเป็น TRYLAGINA Bright Anti-Melasma Serum ที่ช่วยในเรื่องของการลดฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆค่ะ คือพอเราอายุมากขึ้นเนี่ย ผิวก็จะไวต่อแสงแดดมากนะคะ บางคนเป็นฝ้า เป็นกระ แบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยค่ะ เบียร์เองไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องฝ้าเท่าไหร่นะคะ แต่มีกระขึ้นเยอะมาก เซรั่มตัวนี้ใช้อย่างต่อเนื่อง และใช้ร่วมกับครีมกันแดดในช่วงเช้า จะทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น กระ จุดด่างดำ รอยสิวต่างๆแลดูจางลง

      ตัวนี้เป็นเซรั่มเนื้อเข้มข้น สามารถใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น ปกติถ้าทาเซรั่มตัวอื่นอาจจะต้องลงครีมอื่นเพิ่ม แต่ตัวนี้บางวันรีบๆก็ลงกันแดดต่อได้เลยนะคะ ใช้ต่อเนื่องแล้วจะเห็นว่าผิวเรียบเนียน นุ่มชุ่มชื้น และจุดเด่นของเซรั่มตัวนี้คือช่วยให้ผิวใสขึ้นจริงๆค่ะ เพราะหลังจากใช้เซรั่มตัวนี้ ทำให้เบียร์ต้องเปลี่ยนสีรองพื้นให้สว่างขึ้นเฉดนึงเลยค่ะ

     ถัดมาเป็นครีมกันแดด REAL ME ตัวนี้เจ้าของแบรนด์เป็นนักเคมีที่เค้ามีโรงงานผลิตครีมเองนะคะ เบียร์สนใจเพราะเป็น Physical Sunscreen ที่ทาแล้วหน้าไม่วอกค่ะ ทาแล้วผิวมันจะโกลว์ๆ กันแดดได้ดี รวมถึงกันแสงสีฟ้าจากจอมือถือ ป้องกันมลภาวะต่างๆ และเป็นใช้ไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าได้อีกด้วย

      เนื้อกันแดดเค้าเป็นเนื้อเมฆ ซึ่งแปลกมากๆเบียร์ก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันนะคะ แต่มันทาแล้วลื่นๆผิวดีค่ะ ตัวนี้ไม่ผสมสี กลิ่น แอลกอฮอล์ พาราเบน ถ้าใครผิวแพ้ง่ายแนะนำให้ลองใช้ดูค่ะ มันเวิร์คมากๆ

      สุดท้ายเป็นสเปรย์น้ำแร่ O’LYSEE สูตรนี้พิเศษกว่าน้ำแร่ทุกขวดที่เบียร์เคยใช้มาเพราะว่าเค้ามีส่วนผสมจากน้ำดอกกุหลาบ และว่าหางจระเข้ ทำให้ตัวเสปรย์น้ำแร่มีกลิ่นหอมอ่อนๆจากดอกกุหลาบด้วย ละอองเสปรย์ละเอียดมากๆ ซึ่งเค้ามีส่วนช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนาน ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยค่ะ

      เบียร์จะสเปรย์ 3 ครั้งด้วยกันคือก่อนลง skincare หลังจากลงแป้ง และหลังจากแต่งหน้าเสร็จ ถ้าระหว่างวันรู้สึกผิวแห้งก็สเปรย์ซ้ำได้ตามต้องการค่ะ

      สำหรับสาวๆวัย 35+ ทุกคนก็คงต้องเลือกใช้ skincare ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเยอะหน่อยนะคะ อย่างเบียร์เองก็ผิวแห้งมากๆค่ะ ถ้าบำรุงไม่ดีแต่งหน้าก็ไม่ติดเลย เครื่องสำอางหลุดร่อนระหว่างวันก็มี ดังนั้นเราต้องเน้นการบำรุงผิวค่ะ สำหรับใครที่มองหา skincare ตัวใหม่ๆมาลอง ก็ลองใช้ตัวที่เบียร์เลือกเป็น Favorite ในปีนี้ได้นะคะ หรือใครมีตัวไหนน่าสนใจลองแปะคอมเม้นท์ให้หน่อยค่ะ จะไปสอยมาใช้บ้าง ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ พบกันใหม่กระทู้หน้าสวัสดีค่ะ