LHAMOUR Nettle Soap ของดีจากธรรมชาติจากมองโกเลีย เพื่อคนผิวแพ้ง่าย (Eczema)

สวัสดีชาวจีบันทุกคนจ้า กระทู้นี้มากับไอเท็มเพื่อคนผิวแพ้ง่าย ที่ชอบผลิตภัณฑ์สายออร์แกนิค และรักษ์โลก

อย่างที่เคยเล่าสู่กันฟังและรีวิวไปหลายสิ่งอย่างเกี่ยวกับอาการแพ้ที่แขนของเรา ซึ่งเราเคยไปพบแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางและได้รับคำตอบว่ามันคือกลุ่ม "ผื่นแพ้สัมผัส" และ Eczema หรือผิวหนังอักเสบเรื้อรัง เราก็ลองใช้ไอเท็มโน่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ เจออะไรใหม่ๆก็ลองไปเรื่อย อันไหนเวิร์คก็เอามารีวิวมาบอกต่อ

คราวนี้มากับสบู่ของ LHAMOUR เป็นสบู่ที่มีส่วนผสมของ Nettle จ้า

ตอนแรกเราได้ของมาทดลองใช้ก่อน มี Seabuckthorn Oil Body Butter และ Nettle Soap ส่วนตัวแล้วเราชอบ Nettle Soap มา ใช้แล้วอาการคันน้อยลง แผลแห้งเร็วขึ้น ช่วงไหนที่ขึ้นผื่นหรือเป็นแผลมากๆ ลองสังเกตดูว่าถ้าใช้ Nettle Soap แล้วแผลจะดีขึ้นเร็วกว่าใช้ครีมอาบน้ำหรือสบู่ที่ใช้อยู่

คราวนี้ก็เลยไปซื้อมาใช้ต่อเองเลย จะหมดก้อนที่ 2 แล้ว ยิ่งใช้ก็ยิ่งรู้สึกว่าเออไม่ได้คิดไปเอง มันช่วยได้จริงๆ เลยมารีวิวดีกว่า

LHAMOUR เป็นแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศมองโกเลีย ซึ่งมีความเป็นธรรมชาติหลงเหลืออยู่มาก โดยเจ้าของแบรนด์เองเป็นคนผิวแพ้ง่าย และต้องการทำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยใช้ส่วนผสมที่มีในมองโกเลีย เพื่อใช้เอง

ทำไปทำมา กลายเป็นแบรนด์ที่มีสาขาอยู่หลายประเทศทั่วโลกเลย เค้ามีวางผลิตภัณฑ์ตัว Oil ไว้ที่ร้าน Refill Station ด้วยนะ

ส่วนผสมหลักที่ช่วยเรื่องอาการแพ้ คัน ระคายเคือง ผิวหนังอักเสบและอุดตัน มาจากเจ้า Nettle (เนตเทิล) เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย เช่น ผิวอักเสบเรื้อรัง (Eczema) ผิวเป็นสิว (Acne) และผิวสะเก็ดเงิน (Psoriasis)


Ingredients (จากเว็บฯหลักของแบรนด์)
Coconut Oil, Tallow, Olive Oil, Nettle Oil, Nettle Extract & Dried Nettle
380 THB / 86 g.

สิ่งที่ทำให้ใช้แล้วชอบคือ
1. เป็นสบู่ธรรมชาติที่กลิ่นดี ไม่หืน กลิ่นอ่อนๆ
2. ฟองเยอะ หลังใช้ผิวไม่ฝืดๆเป็นคราบไขมันสบู่ แต่ผิวจะสะอาดกำลังดี (คนผิวแห้งจะรู้สึกว่าแห้งตึงด้วยความที่เป็นสบู่)
3. มีเม็ดบีดส์และเนื้อจากส่วนผสมธรรมชาติของ Nettle
4. วันไหนผิวคัน เป็นแผล ใช้เช้าเย็นสัก 1-2 วันอาการดีขึ้น ไม่ค่อยคัน แผลแห้งไวกว่าไม่ใช้

ฟองเยอะ ถูได้สบายๆไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการทำฟอง ฟองนุ่มละเอียดดี แต่ Nettle Beads ค่อนข้างหยาบและแข็ง แนะนำว่าควรถูเบาๆกว่าปกติ ไม่ต้องไปออกแรงกดมาก เดี๋ยวจะแสบผิว

ชอบความรู้สึกตอนล้างออกมาก สะอาด สดชื่น สำหรับเราถือว่าฟีลลิ่งบนผิวกำลังดี ไม่แห้งตึง ไม่ฝืดคราบไขสบู่ ไม่ลื่นเป็นเมือก เป็นอะไรที่พอดีกับความชอบของเรามากๆ (ผิวตัวเราผิวธรรมดา)

เทียบก่อนใช้ และหลังใช้มา 2 ก้อนให้ดู
ก่อนใช้ผิวจะแห้งๆกร้านๆ ระคายเคืองง่าย มีแผลอักเสบเป็นวงใหญ่
หลังใช้ผิวดูดีขึ้น แผลใหม่ที่เกิดก็เล็กลงด้วย ใช้ร่วมกับไอเท็มแก้แพ้ที่ใช้อยู่ สังเกตดูแล้วพบว่าแผลมันหายเร็วขึ้นนะ

ส่วนเจ้า Seabuckthorn Body Butter เนี่ย มันเข้มข้นมาก มีความเป็นบาล์มแบบจริงจัง บาล์มแน่นๆเน้นๆเลย พอวอร์มก็จะแตกตัวเป็น Oil ส่วนตัวเราไม่ชอบใช้อะไรที่เนื้อหนักๆ เราคิดว่าตัวนี้เหมาะกับคนผิวแห้งถึงแห้งมาก

ส่วนผสมหลักมาจากน้ำมันหางแกะ เชียร์บัตเตอร์ น้ำมัน Seabuckthorn แบรนด์เคลมว่าช่วยซ่อมแซมผิวตามธรรมชาติ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว และลดริ้วรอยแผลต่างๆระยะเริ่มต้น

Ingredients (จากเว็บฯทางแบรนด์)
Tallow, Soybean Oil, Coconut Oil, Sunflower Oil, Rosehip Oil, Shea Butter, Beeswax, Lavender Oil, Sea Buckthorn Oil, Vitamin E

วิธีใช้ก็วอร์มให้แตกจัวแล้วทาบนผิวที่เปียกหมาดๆหลังอาบน้ำ

ส่วนกลิ่นก็ตามธรรมชาติเลย แต่มีกลิ่นลาเวนเดอร์ปนอยู่ด้วย

หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่ายหรือเป็นผื่นแพ้สัมผัสแบบเรา

เจอกันใหม่กระทู้หน้า สวัสดีจ้า