เปลี่ยนผมลีบแบนให้ดูมีวอลลุ่มขึ้น ด้วย 5 เทคนิกง่ายๆ สำหรับผมยาว และผมสั้น

65 13

หนึ่งในปัญหาผมของผู้หญิงส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่อง "ผมลีบแบน"  จนเกินไป

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงผมยาวหรือผมสั้นก็ตาม เพราะด้วยบางคนอาจจะเป็นคนผมเส้นเล็ก มีผมน้อย หรือปัญหาเส้นผมอื่นๆ เองก็ตาม ซึ่งส่วนใหญ่เมื่อมีผมลีบแบนแล้ว หลายคนอาจจะรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะรู้สึกว่าผมดูไม่เป็นทรง และดูจัดทรงยากอีกด้วย

วันนี้เรามาพร้อมเคล็ดลับ และวิธีการทำผมที่ลีบแบน ให้ดูมีวอลลุ่ม เป็นทรงสวยขึ้น ทั้งสำหรับสาวๆ ผมสั้น และผมยาว เพื่อที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆ ทุกคน ด้วยวิธีการทำผมที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน และไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เพื่อให้ผมที่ดูมีวอลลุ่ม และดูเป็นทรงมากกว่าที่เคย

ใช้โรลม้วนผม

การใช้โรลม้วนผมถือเป็นวิธีที่ทำให้ผมมีวอลลุ่มที่หลายคนมักจะเลือกใช้ เพราะข้อดีคือเป็นการให้วอลลุ่มที่ผมไม่ต้องเจอความร้อน สามารถทำได้เองที่บ้าน และในวันที่ต้องการให้ผมไม่ลีบแบนจนเกินไป แต่ยังให้วอลลุ่มที่เป็นธรรมชาติ ดูเป็นทรงมากขึ้น

ซึ่งสำหรับคนผมสั้น และผมยาวจะม้วนโรลกันในระดับที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แนะนำว่าถ้าใครอยากได้ลุคธรรมชาติมากๆ ให้ใช้โรลเพียงแค่ 2-3 อัน และม้วนโรลเพียงแค่ช่อผมด้านนอกเท่านั้นค่ะ

ผมสั้น

แนะนำให้ใช้โรลม้วนผมที่มีขนาดไซส์กลาง ไม่ใหญ่ และเล็กมากจนเกินไป เพราะหากใช้โรลที่ใหญ่ผมอาจจะไม่อยู่ทรง หรือใช้เล็กมากไปก็อาจจะทำให้ดูเป็นวอลลุ่มที่มีอายุ ซึ่งการใช้ขนาดกลางจะให้ลุคที่เป็นธรรมชาติมากกว่า และใช้เพียง 3-4 อันเท่านั้น

ผมยาว

สำหรับคนผมยาวแนะนำให้ใช้โรลม้วนผมขนาดใหญ่ ประมาณ 3-4 อัน ไม่แนะนำให้ใช้ขนาดเล็ก หรือกลางอาจจะต้องใช้จำนวนมาก และเสียเวลา โดยม้วนเพียงแค่ช่อผมด้านนอกเท่านั้นเพื่อให้ผมดูเป็นวอลลุ่มธรรมชาติ

ใช้ที่หนีบ หรือที่ม้วนผม

อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมยอดฮิตที่ผู้หญิงหลายคนต้องมีติดไว้ที่บ้านอยู่แล้ว ในวันนี้แนะนำให้ใช้เป็นที่ม้วนผม สำหรับลุคที่ต้องการวอลลุ่มที่ดูเป๊ะเป็นทรงอยู่ติดทนทั้งวัน เพราะการม้วนผมจะให้ช่อผมที่ค่อนข้างแน่น ชัดเจน

ซึ่งถ้าใครกังวลว่าการใช้ที่ม้วนผม หรืออุปกรณ์ทำผมที่มาพร้อมความร้อนทั้งหลายจะทำให้ผมเสีย อาจจะต้องเลือกตั้งแต่การปรับระดับอุณหภูมิ หรือแม้แต่วัสดุของอุปกรณ์ที่นำมาใช้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถช่วยในการกระจายความร้อนได้มั้ย ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีให้เลือกหลายแบบ ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยในการทำให้ผมของเราเสียได้ลดลง

ผมสั้น

สำหรับสาวผมสั้นที่อยากเพิ่มวอลลุ่มด้วยที่ม้วนผม แนะนำให้ม้วนผมระยะประมาณขนาด 2 นิ้วจากปลายผม โดยใช้แกนม้วนผมที่ไม่ขนาดใหญ่มาก ประมาณ 25 มม. จะให้ผมดูมีวอลลุ่มที่ชัดเจน ดูไม่ลีบแบน และเป็นทรงมากขึ้น

ผมยาว

สำหรับสาวผมยาว แนะนำว่าให้ใช้ขนาดแกนม้วนผมประมาณ 32 มม. จะได้วอลลุ่มที่ดูเป๊ะ ชัด ดูมีวอลลุ่มพอดี เหมือนกับเป็นสาวหวานเลยทีเดียว  หรือหากอยากเน้นความวอลลุ่มชัดๆ ให้ใช้ขนาดที่เล็กลง ประมาณ 25 มม. หรือขนาด 28 มม. ตามแต่ละเครื่องได้เลยค่า และสามารถเพิ่มความวอลลุ่มให้ดูเป็นธรรมชาติ ให้ด้วยการจัดผมให้คลายด้วยการสางผมสักหนึ่งครั้งก็พอ

เครื่องหนีบผมลอนมาม่า

หากเบื่อการทำให้ผมมีวอลลุ่มด้วยการผมตรงๆ หรือม้วนผมแบบธรรมดา แนะนำให้ลองทำผมให้สนุกขึ้นด้วยการใช้เครื่องหนีบผมลอนมาม่า หรือลอนเมอร์เมด ซึ่งทรงนี้จะทำให้ผมของเราดูพองขึ้น เพราะด้วยลอนหยักเกือบทั้งศีรษะ แต่จริงๆ แล้วเราก็สามารถเลือกลอนได้ด้วย หากใครอยากได้ลอนที่ไม่เยอะ ก็อาจจะเว้นจังหวะการหนีบลอนผมมาม่าให้ห่างๆ ระหว่างลอนก็ได้ค่ะ

ยีผม

อีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ผมดูหนามากขึ้น ด้วยการยีผม ที่เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่หลายคนเลือกใช้ เพราะสามารถทำได้ง่าย ทำได้เอง และไม่ต้องผ่านอุปกรณ์ความร้อน แต่จะช่วยอำพราง ทำให้ผมดูพอง และหนาขึ้น แต่หากใครมีข้อกังวลว่าการยีผมจะทำให้เส้นผมของเราแข็งเป็นก้อน และเกิดผมพันกัน หลังจากยีผมอาจจะต้องใช้แชมพู และครีมนวดบำรุงผมที่เข้มข้น เพื่อให้ผมของเรานุ่มขึ้นหลังจากทำก็ได้ค่า

วิธีการยีผมคือให้จับช่อผมด้านในขึ้นด้านบน แล้วใช้หวีที่มีซี่ถี่ และหวีผมในลักษณะที่ย้อนลงมา แต่เว้นการยีให้ห่างจากโคนผมประมาณ 10 ซม. และทำแบบนี้ให้รอบผม

หนีบยกโคนผม

อีกหนึ่งวิธียอดฮิตของเหล่าดารานักแสดงทั้งหลายที่มีผมลีบแบน คือการใช้ตัวช่วยอย่างที่หนีบผมยกโคนผมที่เป็นลักษณะซี่ๆ คล้ายฟันปลา เพื่อสร้างผมที่มีวอลลุ่มจากด้านในผม ให้ดูพองขึ้น ผมด้านนอกก็จะดูวอลลุ่มตามไปด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะเลือกวิธีนี้มากกว่าการยีผม เพราะสามารถกลับมาจัดทรงเป็นทรงอื่นต่อได้ง่ายกว่า และอาจจะเกิดผมพันกันที่น้อยกว่าด้วย

ผมสั้น

สำหรับสาวผมสั้น ให้หยิบช่อผมด้านใน และใช้เครื่องหนีบยกโคนผม โดยให้หนีบโคนผมประมาณ 2 นิ้ว (ไม่ต้องหนีบทั้งผมนะ) ให้รอบศีรษะ หนังจากนั้นก็ให้นำผมช่อด้านนอกมาปิดรอยการยกโคนผมของเรา ผมก็จะดูมีวอลลุ่ม พองขึ้นมากกว่าปกติ และยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย 

แต่ข้อระวังคือต้องพยายามนำผมช่อด้านนอกมาปิดให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วคนอื่นอาจจะสามารถมองเห็นผมของเราที่ยกโคนผมได้! 

ผมยาว

สำหรับคนผมยาว ให้ทำวิธีเดียวกันกับคนผมสั้น หรือหยิบช่อผมด้านในที่ติดโคนผม และใช้เครื่องหนีบยกโคนผม แต่ให้หนีบมากกว่าคนผมสั้น หรือหนีบประมาณอย่างน้อย 3 นิ้ว เพราะด้วยปริมาณผมที่ยาวกว่า และจึงทำให้รอบศีรษะ แล้วจึงนำผมด้านนอกมาปิดรอยที่เราหนีบยกโคนผม พร้อมทั้งจัดทรงให้สวยงาม ก็จะได้ผมที่ดูพอง ดูมีวอลลุ่มสวยแบบเป็นธรรมชาติ

ใช้ครีมนวดบำรุงผม

อีกหนึ่งวิธีการทำให้ผมดูมีวอลลุ่ม อาจจะต้องเริ่มจากการบำรุงเส้นผมตั้งแต่ต้น ตั้งแต่แชมพู คอนดิชันเนอร์ และทรีทเมนต์บำรุงผม แต่หากใครคิดว่าการใช้ทรีทเมนต์หนักเกินไป เดี๋ยวนี้เขาก็มีครีมนวดบำรุงผม ที่เนื้อบางเบากว่า แต่ให้การบำรุงที่เข้มข้นไม่ต่างจากทรีทเมนต์ และเขาก็จะมีสูตรต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อสำหรับคนผมลีบแบนโดยเฉพาะ ทำให้ผมของเราดูมีวอลลุ่ม พองขึ้นได้อย่างดูสุขภาพดี โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ทำความร้อนที่อาจจะก่อให้เกิดผมเสียภายหลัง

ใช้ครีมนวดจะทำให้ผมลีบแบนมากกว่าเดิม?

บอกเลยว่าไม่จริงสำหรับครีมนวดที่เราจะแนะนำ เพราะเขาเป็นซันซิลครีมนวดคอลลาเจน Sunsilk Collagen Super Conditioner สูตรสีฟ้า Volume Booster สูตรทำให้ผมมีวอลลุ่ม เหมาะสำหรับคนผมลีบแบนโดยเฉพาะ ซึ่งสูตรนี้จะช่วยเข้าบำรุงล้ำลึกอย่างล้ำลึก แต่ให้ความรู้สึกเบาสบาย ไม่หนัก เพื่อให้ผมนุ่มลื่นดูมีวอลลุ่มเด้งสวย
และยังสามารถใช้แทนครีมนวดได้ทุกวัน เมื่อต้องการบำรุงที่มากกว่า และรวดเร็ว
ซึ่งในครีมนวดคอลลาเจนที่ได้ชื่อนี้เพราะว่าเขามีส่วนผสมของคอลลาเจน ที่จะช่วยเติมความยืนหยุ่นให้กับเส้นผมของเรา ให้ผมดูนุ่มลื่น ไม่ชี้ฟู แต่มีวอลลุ่มนะ

อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญเลยก็คือ เขามีกลิ่นหอมมากกกก ทำให้ผมของเราหอมหลังจากใช้ พร้อมกับมีผมนุ่มสวย แลดูเป็นวอลลุ่มเลย
ใครที่อ่านแล้วอย่าลืมนำเทคนิคดีๆ ไปทำตาม เพื่อจะได้ผมที่ดูมีวอลลุ่ม ไม่ลีบแบน
และได้ผมมีวอลลุ่มในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะมีวอลลุ่มเป๊ะ วอลลุ่มแบบธรรมชาติ หรือวอลลุ่มที่ผมดูสุขภาพดีจากภายใน ด้วยการบำรุงด้วยไอเท็มที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาผมของเราโดยเฉพาะ

ติดตามเคล็ดลับการดูแลผมให้สวยสุขภาพดีกับ Jeban x Sunsilk ว่าครั้งหน้าเราจะมาพร้อมกับเทคนิคอะไรเพื่อให้ผมของชาวจีบันสุขภาพดี นุ่มเว่อร์สวยวิ้งไปพร้อมๆ กัน :)


BeautyTrends

BeautyTrends

ดูดีไม่ตกเทรนด์ด้วย Sunsilk Natural

FULL PROFILE