คมบังวะ! วันนี้ทักทายเป็นเวอร์ชั่นญี่ปุ่นกันหน่อยค่า เพราะปอนด์จะมาเขียน ฮาวทูเมคอัพ ที่มีกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นในแนว "Ginza Style" ที่กำลังเป็น Contest ของจีบันในตอนนี้

บอกเลยว่าบล็อกนี้พิเศษสุดในชีวิตตั้งแต่ปอนด์เขียนคอนเทนท์มาเลยนะเพราะ ไม่เคยแต่งทำหน้าทำฮาวทูที่ไหน มา ก่อน เลย ใน ชี วิต (OMG เขียนเองตื่นเต้นเอง 555) และปอนด์ก็เพิ่งถอยเซ็ทแปรงแต่งหน้าเมื่อไม่นาน กำลังหาโอกาสหัดใช้อยู่ จนมี Contest นี้ขึ้นมาพอดี ก็ได้จังหวะ ลงประลองเก็บประสบการณ์เป็นครั้งแรกซะเลย

ยังไงจะพยายามทำให้ดีที่สุดนะคะ ฝีมืออาจจะไม่จัดจ้านนัก แต่รับรองว่าความตั้งใจมาเต็ม!! และปอนด์ได้เตรียมการหลายสิ่งเพื่อจะทำ How to Makeup ชิ้นแรกนี้ให้ได้แบบที่คิดไว้ (มีการซ้อมก่อนวันนึงเต็ม ๆ ด้วยนะ 555) ยังไงก็หวังว่าต้องมีใครที่อ่านแล้วชอบบ้างหละน๊าา

Finished Look!!

About This Look!

ลุคนี้เน้นงานผิวตามโจทย์ จึงเตรียมผิวให้ดีเป็นพิเศษ ตั้งแต่การมาส์กหน้านอน รองพื้นเน้นการปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และดูโกลวฉ่ำวาว ส่วนการแต่งหน้าจะเน้นสีตาและคิ้วให้แปลกตานิดนึง ผสานความเป็นตัวเองด้วยการแต่งขนตาเพราะปอนด์จะรู้สึกมั่นใจในการแต่งหน้าเมื่อขนตาสวย จึงไม่ได้เล่นกับอายไลน์เนอร์มากนัก จากนั้นคอมพลีทลุคด้วยพรอพที่สื่อให้นึกถึงกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบร่วมสมัยไปด้วยค่ะ

เพราะว่าปอนด์เป็นคนผิวแห้ง รูทีนส่วนใหญ่จะทาครีมที่ชอบสลับกันไปแต่ช่วงนี้เน้นมาส์กข้าวของ COSRX ให้ชัวร์ว่าผิวนุ่มชุ่มชื่น อิ่มน้ำ แต่งหน้าง่าย ก็เลยมาส์กล่วงหน้าติดกันทุกคืน 3-4 คืนก่อนทำค่ะ

ปอนด์ใช้ครีมของ Son & Park ที่กำลังทดลองใช้อยู่ แล้วชอบ ตัวนี้ทได้ทั้งบำรุงและทำหน้าที่เสมือนไพรเมอร์ เพราะครีมจะปรับสภาพสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ คุมความมัน และมีสารสกัดไข่มุก ทำให้ผิวดูโกลว ฉ่ำวาว แต่เสียดายที่ตอนแต่งดั๊นนน ลืมถ่ายตอนเกลี่ยครีมเสร็จซะงั้น

เตรียมผิวให้สดชื่นด้วยโลชั่นมิสต์ สารสกัดทับทิมหอม ๆ ผสมทองคำ เขย่าขวด กดสเปรย์แล้วตบ ๆ เข้าผิวอย่างเบามือ

เริ่มลงรองพื้นด้วย Magic Foundation ของ Calypso ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ปอนด์ใช้เฉด Salmon Beige สำหรับผิวสองสีค่ะ

แม้จะเป็นงานผิว แต่หน้าเราก็ไม่ได้เป๊ะทุกองศาขนาดนั้น จึงขอทำเฉดดิ้งแบบอ่อน ๆ ด้วยลิปสติกสีน้ำตาลของ Sassy Sisters เบอร์ S14 (Perfect Brown) เน้นแค่ช่วงกราม และหน้าผากก็พอ (มากกว่านี้เดี๋ยวพัง lol)

เพราะว่าวันนี้จะแต่งตาด้วยพื้นสีส้ม และเพื่อความติดทน เรามีลิปเวลเว็ทในเฉดที่ต้องการพอดี ก็เลยปาดนิ้วและแท่บ ๆ ให้ทั่วบริเวณรอบตาแบบฟุ้ง ๆ หน่อย

แน่นอนว่า eSpior Dewy Face Glow เป็น 1 ในไอเทมที่หลายคนนึงถึงเมื่อต้องแต่งงานผิวแบบนี้ ปอนด์ก็เลือกน้องเค้าเหมือนกัน แต่รอบนี้จะผสมกับรองพื้นนิดนึงและแต้มไปเฉพาะจุดที่ต้องการเน้นไฮไลท์ ไม่ได้ผสมทาทั่วหน้าไปตั้งแต่รองพื้นครั้งแรกค่ะ

ลงทั้งรองพื้นและดิวอี้ไปแล้ว เกรงว่าหน้าจะเหนอะเกินและมีการเคลื่อนตัวหลังแต่งเสร็จ ก็เลยใช้แป้ง Mineral Powder สำหรับคนผิวแห้งปัดบางบ๊างงง เพื่อล็อคหน้าทั้งหมดไว้ค่ะ

เขียนคิ้วโดยวาดโครงด้วยดินสอสีน้ำตาลเข้มเบอร์ 3 และเกลี่ยด้วยสีน้ำตาลอ่อนเบอร์ 7

ที่เห็นในภาพเนร้ คือ.. มาสคาร่าคิ้ว Tokyo 3D Eyebrow Color ของ Kate นะคะ แต่ปอนด์พกในกระเป๋าทุกวันจนน้องเค้าลอกหมดจนไม่เห็นอะไรแล้ว 555 ปัดไปให้สีคิ้วอ่อนและฟูเบา ๆ ค่ะ

ปอนด์เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานว่าลิปของเลิฟเวลล่าเอามาทาเป็นรองพื้นตาแล้วสีติดแน่นทนนาน ไม่กระเจิงกระจายเลอะทั่วตาดี เนื้อเค้าไม่ได้มันแบบลิปมัน ไม่เหนียวเหนอะหนะดี แถมหอมกลิ่นกุหลาบ ทาเปลือกตาและใต้ตาได้ไม่แพ้เพราะเป็นออร์แกนิคแบบได้ตรารับรอง

งานผิวเสร็จหมดล้ว มาเริ่มเติมสีให้ดูมีชีวิตชีวากันเลยดีกว่า

เริ่มลงสีส้มรอบตา ด้วยบลัชออนสีโปรด ที่วันนี้จะไม่ใช้ปัดแก้มแต่เอามาปัดตาแทน

งานตาวันนี้เน้นใช้ Etude Play Color Eye Palette Rose Bomb ปัดด้วยเซ็ทแปรงของ Jessup นะคะ

ใช้สีที่เข้าที่สุดในตลับ

ปัดเปลือกตาบริเวณหางตา ด้านล่าง

และเนื่องจากไม่ได้เฉดดั้งในขั้นตอนเฉดดิ้ง เราจะใช้สีเดียวกันนี้วาดเป็นโครงให้ดั้งเพื่อให้มีกลิ่นอายความแฟนซีนิด ๆ

จากนั้นเบลนให้สีไม่ลอย

ด้วยสีน้ำตาลจาก 16 Brand Eye Magazine #04 (Hey-My Day)

ใช้สีที่แดงที่สุดในตลับ

ปัดไปที่หัวตา และใต้ตาลากให้ชี้ขึ้นไปทางหางตานิด ๆ

และใช้สีเดียวกันนี้วาดรอบคิ้วด้วย ให้มีกลิ่นอายความแฟนซีโฉบเฉี่ยวเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย

ใช้สีที่ชมพูแป๋นที่สุดในตลับ

ปัดไปใต้ตาบริเวณหางตา

ใช้สีขาว

ปัดกลางตาด้านบนและล่าง เพื่อเพิ่มมิติให้ตาสวยงาม

​

ใช้ชาโดวสติ๊กของ A’Pieu All day Lasting Shadow Stick #05 (Vanilla Light) ทาทับไปบริเวณเดียวกันเพื่อเพิ่มกลิตเตอร์ให้ชัดขึ้น

กรีดอายไลน์เนอร์เบา ๆ แบบกดหางตาต่ำแล้วตวัดหางขึ้นแบบตาแมวตามสไตล์ที่ปอนด์ใช้ประจำเพราะหางตาเราสูง จากนั้นใช้ขนตาแบบเส้นยาวสลับสั้น แต่ใช้กรรไกรเล็มหัวตาออกไม่ให้ดูยาวเวอร์วังเกินไปจนไม่เห็นสีตา

งานนี้ใช้ลิป 3 ตัว คือ Maybelline Superstay matte ink เบอร์ 06 (Poet) เพื่อปรับสีปาก จากนั้นทาทับด้วย Peripera ink airy stick เบอร์ 11 จะได้สีชมพูงดงาม และแต้มความแซ่บด้วย Sassy Sisters เบอร์ S08 Red on Fleek โดยแปะแค่จุดเดียวแล้วใช้นิ้วแท่บ

ด้วยการแต้มไฮไลท์เพียว ๆ และพ่นมิสท์สเปรย์ทับอีกรอบเป็นการล็อคทุกสิ่งที่แต่งมาและเพิ่มความฉ่ำโกลวเป็นงานสุดท้าย

เติมพร้อบเพื่อคอมพลีทลุค อันได้แก่วิกหางม้า วิกหน้าม้าหนา ตัดทรงเองตามใจชอบ คลุมเสื้อกิโมโนแบบโมเดิร์น และกำพัดอะไรใหญ่กว่าหน้าไว้ให้พร้อมเข้าเฟรม

ผม:

ปอนด์จินตนาการว่าอยากทำหน้าม้าหนา ๆ และรวบผมยาว แต่ผมตอนนี้เป็นทรงสั้นลอนเกาหลี และหน้าม้าที่เพิ่งตัดเองใหม่เต่อ ๆ ซึ่งใช้การกับลุคนี้ไม่ได้ ก็เลยหาวิกหางม้าญี่ปุ่นขนาดยาวสุดไล่สีออมแบรปลายแดงเพิ่มความแซ่บ อันนี้ได้มาจาก Shoppee คือดีงามมากไปเจอของเซลล์อันละไม่ถึง 100.- และติดวิกหน้าม้าปลอมที่โดนความร้อนม้วนตัดจัดทรงเอาเอง

เสื้อ:

ตอนคิดว่าจะใส่เสื้ออะไรก็พอดี๊คิดได้ว่าพี่สาวเคยซื้อกิโมโนมาปักลายเล่น ๆ แล้วนางก็ยกให้เราเพื่อจะซื้อตัวใหม่มาปักอีก -.,-” คือได้มานานแล้วแบบงงว่าจะใช้ประโยชน์อันใดจากเค้าดี ตอนนี้เลยหยิบมาใส่ได้ลุคญี่ปุ่นร่วมสมัยเฉี่ยว ๆ ลงตัวเมิ๊กกก

พัด:

แล้วก็เอ๊ะ ขาดอะไรอีกนิด อะ เอาพัดมากำดู โอ้โห แบบนี้มันได้อ่ะ เอาแบบนี้แหละ ถึงลายพัดจะไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่นแต่เหมือนว่าจะเป็นภาษาจีนก็เถอะ ก็ยังได้ลุคทราดิชันนอลดี 5555

แต่งจนเสร็จจะถ่ายรูปอยู่ล๊าวว ด้วยความรีบจัดเพราะแสงจะหมด สรุปคือนึกขึ้นได้ว่าลืมติดขนตาล่าง ปัดโถ่ ต้องไปยืนติดแบบลนลานอีก กว่าจะเสร็จคือ ตะวันลับฟ้าไปล๊าววว ฮืออ แสงหมด

About This Look!

บีฟอร์อาฟเตอร์อีกเวอร์ชั่น ก่อนแต่งกับหลังคอมพลีทลุคค่ะ

Finished Look!!

ก็ขอฟินิชลุคด้วยประการฉะนี้ เสียดายที่แสงหมดเลยเห็นสีตาไม่ค่อยชัดเล๊ย คือวันที่ซ้อมแต่งเนี่ยแสงดีเห็นงานผิวโกลวมว๊ากกกก แต่วันนั้นแต่งไม่สวย วันนี้แต่งเนี๊ยบกว่า แต่ถ่ายกับแสงรำไร บวกไฟห้องส้ม ๆ ก็ยังเห็นความโกลว ๆ อยู่ใช่ม๊า | ><" |

เมื่ออยากได้ลุคร้อน ๆ เขาบอกว่าให้ใส่เสื้อแขนยาวแล้วเปิดไหล่

จบแล้วค่าา เป็นไงกันบ้าง ไว้เจอกันใหม่บล็อกหน้านะคะ คืนนี้ไปก่อนล๊าววว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยน๊าาา “โอยาสุมินาไซ” ฝันดีทุกคนค่าา