#JebanWearTest ทำยังไงให้รองพื้นสวยติดทนนาน & การเลือกไพร์เมอร์และแป้งฝุ่น

57 18

สวัสดีค่ะทุกคน ^_^
ใครเคยประสบปัญหาทารองพื้นแล้วไม่ติดหน้า หน้าดรอป หมองคล้ำระหว่างวัน ถึงแม้ว่าต่อให้เปลี่ยนรองพื้นที่เทพแค่ไหนก็ได้ผลลัพธ์แบบเดิมบ้าง


 จินนี่ชอบแต่งหน้ามากแล้วเคยประสบปัญหาทั้งหมดนี้ บอกเลยว่าเสียเงินไปเยอะมากค่ะ กว่าจะรู้ว่าปัจจัยให้หน้าเนียนติดทนไม่ใช่แค่รองพื้น!! แต่ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆด้วย

วันนี้มาทดสอบให้ชาวจีบันดูกัน #JebanWearTest ทำยังไงให้รองพื้นสวยติดทนนาน ทั้งนี้จะพิสูจน์เปรียบเทียบการใช้รองพื้นอย่างเดียว ใช้รองพื้นกับไพร์เมอร์ และใช้รองพื้นกับแป้งฝุ่น รวมทั้ง #JebanWearTest การเลือกไพร์เมอร์และแป้งฝุ่นด้วย ผลลัพธ์เป็นยังไงติดตามชมกันได้เลยค่า



ทำยังไงให้รองพื้นติดทนนาน


 
เป็นที่ทราบกันดีว่า "เทคนิคการแต่งหน้า" ให้สวยและติดทนทานทั้งวันนั้นต้องเตรียมผิวให้ชุ่มชื้น ใช้ไพร์เมอร์และแป้งฝุ่น ทั้งนี้จินนี่จะพิสูจน์ให้ดูกันว่าเทคนิคดังกล่าวมันช่วยได้จริงมั้ย โดยเปรียบเทียบให้ดูความแตกต่างของการใช้รองพื้นอย่างเดียว ใช้รองพื้นกับไพร์เมอร์ และใช้รองพื้นกับแป้งฝุ่นกันค่า

รองพื้นที่เลือกใช้ทดสอบคือ
 Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundationสี 564 Medium Light Sand รองพื้นเนื้อลิควิด เกลี่ยง่าย ให้ลุคงานผิวสวย แบบดิวอี้ ไม่หนา ไม่คุมความมัน ปกปิดระดับกลางๆ 40-60% เท่านั้น

 คอนซีลเลอร์ที่ใช้คือ
 NARS Radiant Creamy Concealerสี Custard สามารถปกปิดสิวได้เรียบเนียน เกลี่ยไม่ยากค่อยๆแท็บทีละชั้น

ดูสวอชและคะแนนรีวิวผลิตภัณฑ์ ดังรูป


Tip วิธีลงรองพื้นใช้ฟองน้ำหมาดๆแตะรองพื้น แล้วค่อย ๆ ไล่กดลงที่ใบหน้า ไม่ถูลากไปมา วิธีนี้จะทำให้ได้งานผิวหน้าเนียนละเอียด ไม่เป็นคราบ รองพื้นแน่นอยู่ติดทนบนใบหน้ามากขึ้น

#JebanWearTest ผลลัพธ์หลังใช้รองพื้นอย่างเดียว ใช้รองพื้นกับไพร์เมอร์ และใช้รองพื้นกับแป้งฝุ่น

จะเห็นว่าให้งานผิวที่แตกต่างกัน แม้ว่าตัวรองพื้น Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundationนั้น สร้างผิวสวยแบบดิวอี้ได้ดี แต่การใช้ไพร์เมอร์ หรือแป้งฝุ่นควบคู่ด้วยก็ช่วยทำให้ผิวดูสวยขึ้นได้อีกขั้นหนึ่ง หากใครกังวลว่าจะหนาไปรึเปล่า บอกเลยแทบไม่มีความแตกต่างกัน จากรูปที่ใช้รองพื้นกับไพร์เมอร์ จะเห็นว่าผิวเนียนละเอียดขึ้น กลบรูขุมขนได้ดีกว่าใช้รองพื้นอย่างเดียวด้วยซ้ำ

#JebanWearTest ดูผลลัพธ์หลังใช้รองพื้นและคอนซีลเลอร์บนผิวหน้า เป็นเวลา 5, 7 และ 9 ชั่วโมง ในแบบต่างๆ ได้ผลลัพธ์ดังรูป

เนื่องจากตัวรองพื้นไม่ได้ช่วยคุมความมันเพราะเค้าเป็นรองพื้นงานผิวดิวอี้อ่ะ (ต้องทำใจ) 5 ชั่วโมงก็เริ่มมันแล้ว แต่พอมาโฟกัสกับผลลัพธ์ของการใช้รองพื้นควบคู่กับแป้งฝุ่น ก็พบว่า แป้งฝุ่นสามารถควบคุมความมัน ล็อคเมคอัพได้นานขึ้นถึง 7 ชั่วโมง

การเลือกไพร์เมอร์


ไพรเมอร์แต่ละตัวมีส่วนผสม และ texture ต่างกันซึ่งจะส่งผลลัพธ์ต่อผิวแตกต่างกันออกไป ช่วยให้เครื่องสำอางเกาะติดผิวหน้าได้ดีขึ้นลดปัญหาเครื่องสำอางหลุดลอกระหว่างวัน และให้ลุคบางเบาสดใสเป็นธรรมชาติ


ตัวอย่างไพร์เมอร์ที่ใช้ทำการทดสอบ

Yves Saint Laurent Top Secrets Instant Moisture Glow ไพร์เมอร์เนื้อเจลผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ช่วยให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว สร้างงานผิวฉ่ำ โกลว์ เกลี่ยง่าย ไม่อุดตันตกค้าง ข้อเสียคือไม่ช่วยเรื่องคุมความมัน


Benefit The Porefessional Face Primer ไพร์เมอร์เนื้อซิลิโคน ช่วยเบลอรูขุมขนได้ดี ควบคุมความมัน ให้ลุคแมตต์ แต่อุดตันง่ายเสี่ยงต่อการเกิดสิว


ดู texture/ภาพก่อน-หลังใช้ไพร์เมอร์/คะแนนรีวิว ดังรูป

#JebanWearTest ผลลัพธ์หลังใช้ไพร์เมอร์+รองพื้นและคอนซีลเลอร์โดยใช้แป้งฝุ่น Laura Mercier (LM)

การใช้ไพร์เมอร์ช่วยให้เครื่องสำอางที่แต่งหน้าดูเบาบางขึ้น เนียนไปกับผิวมากขึ้นกว่าการไม่ใช้ไพร์เมอร์ ทั้งนี้ในส่วนของไพร์เมอร์ YSL นั้นจะให้งานผิวฉ่ำ โกลว์ ตามคุณสมบัติไพร์เมอร์ โดยที่ไพร์เมอร์ Benefit ก็สร้างผิวลุคแมตต์ และเบลอรูขุมขนได้ดี

#JebanWearTest ดูผลลัพธ์หลังใช้ทั้งแบบที่ใช้และไม่ใช้ไพร์เมอร์ก่อนลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์บนผิวหน้าแล้วทาแป้งฝุ่น Laura Mercier ทับเป็นเวลา 5, 7และ 9 ชั่วโมง ดังรูป

จากรูปจะเห็นว่า การใช้ไพร์เมอร์ไม่ได้ส่งผลทำให้หน้าดรอปมากนัก ทั้งนี้เมื่อใช้ไพร์เมอร์ Benefit ร่วมกับแป้งฝุ่น Laura Mercier สามารถช่วยควบคุมความมันได้นานถึง 9 ชั่วโมง

การเลือกแป้งฝุ่น


แป้งฝุ่นในที่นี้หมายถึงแป้งผงที่ไม่ได้ผสมรองพื้น จะช่วยให้ลุคที่บางเบาเป็นธรรมชาติ แป้งฝุ่นคือส่วนสำคัญในการช่วยควบคุมความมันของรองพื้น ล็อคเมคอัพไม่ให้ไหลเยิ้ม ปัจจุบันแป้งฝุ่นเริ่มมีหลายเฉดสีที่กลมกลืนกับผิว ให้ลุคที่แตกต่างกัน


ตัวอย่างแป้งฝุ่นที่เลือกมาทำการทดสอบ

Shu Uemura Face Powder Matte แป้งฝุ่นเนื้อแมตต์ เนื้อเนียนละเอียด ไม่เป็นคราบ ช่วยให้ผิวผ่องขึ้น ไม่หมองคล้ำ

Laura Mercier Translucent Loose Setting Powder แป้งฝุ่นโปร่งแสง เนื้อละเอียดบางเบาเป็นธรรมชาติ ใช้แล้วไม่รู้สึกหนักหน้า ไม่เป็นคราบ ช่วยควบคุมความมันเซ็ตเมคอัพได้ดี


ดู texture และคะแนนรีวิว ดังรูป

Tip ใช้แปรงค่อยๆแตะแป้งฝุ่นกดซับแต่ละจุดบนใบหน้าและรอบดวงตาหลังจากลงรองพื้นและคอนซีลเลอร์ เพื่อที่แป้งจะได้ช่วยซับความมัน ล็อคเมคอัพให้ติดทนยาวนานขึ้น ไม่ลากหรือถูวนไปมา

#JebanWearTest ผลลัพธ์หลังใช้ไพร์เมอร์ YSL+รองพื้นและคอนซีลเลอร์โดยไม่ใช้แป้งฝุ่นเปรียบเทียบกับกรณีที่ใช้แป้งฝุ่น Shu Uemura (Shu) และใช้แป้งฝุ่น Laura Mercier (LM)

จากรูป การใช้แป้งฝุ่นลงทับ ยังคงให้งานผิวที่ดูบางเบา เป็นธรรมชาติ ไม่หนาหรือดูหนักหน้า อีกทั้งยังไม่ปรับเปลี่ยนสีรองพื้นให้ผิดเพี้ยน ทั้งนี้แป้งฝุ่น Shu Uemura นั้นจะช่วยให้ผิวดูเด้งผ่องขึ้น สมคำเคลมของแบรนด์

#JebanWearTest ดูผลลัพธ์หลังใช้ไพร์เมอร์ YSL+รองพื้นและคอนซีลเลอร์บนผิวหน้าทั้งแบบไม่มีแป้งฝุ่น มีแป้งฝุ่น Shu Uemura และแป้งฝุ่น Laura Mercier เป็นเวลา 5, 7และ 9 ชั่วโมง ดังรูป

กรณีที่ไม่ใช่แป้งฝุ่นลงทับนอกจากหน้าจะเริ่มมันตั้งแต่ 5 ชั่วโมงแล้ว หน้ายังดรอป หมองขึ้นด้วย ในขณะที่ใช้แป้งฝุ่น Shu Uemura ถึงแม้ว่าหน้าจะเริ่มมันเช่นเดียวกันแต่ว่ายังสามารถช่วยให้หน้าผ่อง ไม่หมองคล้ำ ได้นานถึง 7 ชั่วโมง ส่วนแป้งฝุ่น Laura Mercier นั้นจะไม่ทำให้หน้าดรอป แถมช่วยควบคุมความมันได้นานขึ้นประมาณ 7 ชั่วโมง

จากผลการทดสอบต่างๆ ปัจจัยทั้งการเลือกใช้ไพร์เมอร์และแป้งฝุ่นล้วนส่งผลให้การแต่งหน้าสวยติดทนนานขึ้นกว่าการใช้รองพื้นอย่างเดียว ทั้งนี้ไพร์เมอร์และแป้งฝุ่นก็มีคุณสมบัติที่โดดเด่นแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นควรสำรวจว่าเรามีสภาพผิวแบบใด ต้องการแต่งหน้าออกมาเป็นลุคไหน เพื่อใช้ส่งเสริมการแต่งหน้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

วันนี้ขอจบกระทู้เพียงเท่านี้ ช่วยกดเลิฟหรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามารับชมมากค่า

__________

ใครสนใจอยากตามเข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องกิน เที่ยว เมคอัพ สกินแคร์ และไลฟ์สไตล์ชีวิตต่างประเทศ เข้ามาได้ที่ FB & IG @jinnysista นะคะ


jinnysista

jinnysista

ชื่อเล่น “จินนี่”
แม่บ้านอาศัยอยู่ที่ประเทศเดนมาร์กค่ะ
เขียนรีวิวเป็นงานอดิเรก แชร์เรื่องกิน เที่ยว เมคอัพ สกินแคร์ และไลฟ์สไตล์ของตนเอง รวมทั้งการใช้ชีวิตในต่างประเทศค่า

FULL PROFILE