[ Review ] รวม 5 ไอเท็ม Hyaluron เติมความชุ่มชื่น ราคาน่าคบหามั่กๆ

43 15
WITH <strong>Skinsista</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่

สวัสดีเพื่อนๆ ชาวจีบันทุกคนนะค้าา

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เนาะ นั่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเมย์ช่วงนี้ค่อนข้างอ่อนแอเลยทีเดียว นอกจากจะนอนดึกแล้วยังเป็นภูมิแพ้ด้วย ผื่นถามหาตามระเบียบจ้ะ 55555 แต่ผิวหน้าเมย์มาขอเคลมตัวเองเลยว่ายังสุขภาพแข็งแรงดีมาก! 


ช่วงที่ผ่านมากับการเป็นนิสิตฝึกสอนมา 1 เทอมแล้วนั้นทำให้เมย์รู้เลยว่าถึงเราจะนอนไม่ดึกก็โทรมได้นะคะทุกคน T_T เราใช้ energy ไปกับการสอนเด็กๆ และใช้สมองไปกับการคิดว่าจะสอนเด็กยังไงดี พอเกิดความเครียดปุ๊บก็โทรมลงแบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ แต่วิธีแก้นั้นง๊ายยยง่าย ถึงจะไม่ได้ทำให้หายโทรมไปเลยแต่ก็ทำให้ผิวหน้าเราดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ เพราะสิ่งที่ผิวของเราขาดไปไม่ได้เลยก็คือ


ความชุ่มชื่นค่ะ


เอาเป็นว่ากระทู้นี้จะมีแต่ไอเท็มเติมความชุ่มชื่นต้อนรับหน้าหนาว (ที่ยังไม่หนาว) ไปส่องกันเล้ยย

Clinique ID Dramatically Different Hydrating Jelly

+ บูสเตอร์สีส้ม (Fatigue)

(115 + 10 mL/ 1,900 บาท)


มาถึงตัวเมย์ภูมิใจนำเสนอให้กับสาวๆ ที่ชอบมอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อบางเบา น้องเป็นตัวฮิตสำหรับใครหลายๆ คนเลยทีเดียว ตัวเบสที่เมย์เลือกใช้เป็นเนื้อเจลลี่สำหรับทุกสภาพผิวค่ะ ยอมรับว่าเลือกมาเพราะเห็นสีและเนื้อน่าใช้ดี 555 แต่เค้าก็มีจุดเด่นอีกอย่างคือช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยนะ ส่วนบูสเตอร์เมย์เลือกสูตร Fatigue สีส้มสำหรับผิวเหนื่อยล้า ขาดความเปล่งประกาย ตัวนี้เมย์จะใช้เป็นขั้นตอนแรกๆ ของการบำรุงผิวเลยเพราะเนื้อเค้าบางเบามากๆ มากจนเมย์จะใช้เป็นตัวบำรุงพื้นฐานทุกวัน เพราะเนื้อเค้าซึมเข้าผิวหายไปหมด ไม่รบกวนสกินแคร์ตัวอื่นเลย แต่จะให้ทาตัวนี้เดี่ยวๆ ก็ไม่ได้เพราะเนื้อเค้าบางเกิน ให้ความชุ่มชื่นไม่พอ ส่วนประสิทธิภาพของบูสเตอร์นั้นเมย์สามารถบอกได้แค่ว่ามันช่วยในเรื่องผิวโทรมได้ในระดับนึงนะคะ คนภายนอกมองอาจจะไม่รู้สึก แต่เวลาที่เมย์ทาครีมทุกวันๆ มันสัมผัสได้ว่าผิวมันตื่นตัวอยู่ ไม่อ่อนล้าเหมือนคนทำงานหนัก ในเรื่องราคาอาจจะดูไม่น่าคบหาเท่าไหร่แต่พอเทียบกับปริมาณแล้วคุ้มมากค่ะ เมย์ใช้ได้ประมาณ 4 เดือนเลย ใช้แบบเปลืองๆ ด้วย 555

Skinsista V Younger Skin Booster

(15 mL/ 490 บาท)


มาถึง  booster ของ Skinsista เค้าเป็น Vitamin booster มีหลายสูตร เมย์เลือกใช้สูตร Vyoung นี่ก็ขวดที่ 2 แล้วด้วยค่ะ 555 น้องเป็นบูสเตอร์ที่ช่วยในเรื่องหน้าเด้ง ฟู อิ่มน้ำ ลดผดผื่น และ ผิวแข็งแรงขึ้น ช่วยปรับสภาพผิวและกระตุ้นให้สารบำรุงต่างๆ ซึมเข้าผิวได้ดียิ่งขึ้นสมกับชื่อบูสเตอร์เลย มีส่วนผสมของ hyaluron วิตามินอี และ สารสกัดจากพืชสมุนไพรอีก 7 ชนิด มาช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวจากการระคายเคืองด้วยย เนื้อเซรั่มคือเป็นสีใสแจ๋วและมีเม็ดบีดส์วิตามินสีฟ้าข้างในด้วยย เห็นเนื้อเค้าสีใสแบบนี้ขอบอกว่าเข้มข้นมากก ใครที่ผิวผสมหรือผิวมันเมย์แนะนำว่าให้ใช้แค่ครั้งละ 2 หยดก็เพียงพอแล้วค่ะ ไม่งั้นเนื้อเซรั่มจะกองอยู่บนผิวเยอะเกินไป ที่ชอบอีกอย่างคือเนื้อเซรั่มเค้าเกลี่ยง่ายมากก ใช้นิดเดียวคือทั่วหน้าแล้ว เหมาะสำหรับประหยัดอยากใช้นานๆ เนื้อบางเบาสบายผิว ไม่หนักหน้า เรื่องความชุ่มชื้นคือยกให้เซรั่มตัวนี้เลยจริงๆ ลงตัวนี้รอให้ซึมเสร็จก็ต่อด้วยครีมหรือสลีปปิ้งมาสก์อีกซักตัวคือเอาอยู่เลย เมย์ใช้มาสักพักผิวเด้งฟู เรียบเนียนขึ้น ดูผิวแข็งแรงขึ้น ชอบมาก แนะนำเลยค่ะ

Giffarine HYA Intensive Whitening Pre-Serum

(27 mL/ 600 บาท)


น้องเป็นพรีเซรั่มจากแบรนด์กิฟฟารีนที่เมย์คิดว่าหลายๆ คนน่าจะรู้จักแบรนด์นี้กันดีอยู่แล้ว น้องเป็นพรีเซรั่มที่มีจุดเด่นอยู่ที่ไฮยาลูรอนธรรมชาติ 100% จากเยอรมนีที่ได้รับการรับรองสารธรรมชาติ 100% Natural จากสถาบัน ECOCERT รวมไปถึงมีสารสกัดจาก Flower Extract, Caviar Lime Extract และ Sakura Extract มาช่วยเสริมประสิทธิภาพให้สมกับคำเคลมที่ว่า “เด้ง เนียน ใส” เลยจ้าา บรรจุภัณฑ์มาในลักษณะขวดแก้วสีชาเข้ม เนื้อเซรั่มเป็นสีเกือบใส เวลาเค้าซึมลงผิวแล้วจะทิ้งความหนึบไว้แปบนึงนะคะ จากนั้นก็จะซึมหายไปกับผิวเลย ใช้เป็นขั้นตอนแรกก่อนลงเซรั่มหรือครีมบำรุงตัวถัดไป จากที่ใช้มาเมย์รู้สึกได้ถึงความเนียนของผิวที่มีมากขึ้นค่ะ และเป็นพรีเซรั่มที่ทำเนื้อมาได้ไม่รบกวนการลงบำรุงตัวถัดไปอีกด้วย 


 แอบกระซิบว่าแบรนด์นี้มีของใช้ดีหลายอย่างและราคาดีม๊ากก เช่นแปรงสีฟันค่ะ ใช่ค่ะ แปรงสีฟัน 555 คือขนแปรงเค้านุ่มมากและไม่บาดเหงือกด้วย แถมยังราคาถูกมากๆ อีก มีโอกาสต้องไปลองนะทุกคน

Coreana Ample N Hyaluron Shot Essence Sun SPF50+ PA++++

(40 mL/ 450 บาท)


มาถึงแบรนด์เกาหลีที่กำลังฮิตกันอยู่บ้างดีกว่า น้องเป็นกันแดดเนื้อน้ำนมบางเบา ไม่หนักหน้า ช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นแต่ยังคุมมัน ที่จริงเค้ามีอีกสูตรคือ Ceramide Shot ค่ะ สูตรนี้เค้าจะมี Hyaluron ช่วยกักเก็บและเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ล้ำลึกมั่กๆ ตอนบีบออกมาเนื้อกันแดดจะมีสีขาวนวล พอเกลี่ยลงผิวน้องจะแตกตัวกลายเป็นเนื้อน้ำนมเลย เนื้อกันแดดเค้าซึมง่ายดีนะคะสำหรับเมย์ ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ หลังซึมแล้วผิวจะดูโกลวๆ ฉ่ำๆ เมย์จะเอาไว้ใช้ในวันที่ขี้เกียจทาบำรุงตอนเช้าเยอะก็จะโบกตัวนี้ไป กันแดดด้วย ผิวชุ่มชื้นด้วย ครบ 555 

FixnTox Giant Waterlock Toner

(1000 mL/ 590 บาท)


ขอสารภาพตามตรงว่าตัวนี้ซื้อมาเพราะตอนนั้นเมย์ไม่มีเงินซื้อโทนเนอร์ที่อยากได้ค่ะ จะไม่ใช้ก็รู้สึกขัดๆ ใจเพราะเราเช็ดโทนเนอร์หลังล้างหน้าตลอด 555 เราก็เออคิดแค่ว่าโทนเนอร์ตัวไหนที่ราคาเบาๆ ปริมาณคุ้มๆ บ้าง ก็เลยมานึกขึ้นได้ว่าเคยอ่านรีวิวตัวนี้จากนุ้งพลอยและอีกหลายๆ คน ขวดใหญ่ลิตรนึงไม่คุ้มให้มันรู้ไป ขวดใหญ่มากกก แต่ขอบอกเลยว่าคุณภาพเค้าไม่ธรรมดาจริงๆ! คือน้องเป็นโทนเนอร์ที่ใช้ดีกว่าที่คิดไว้มากๆ ครบคุณสมบัติการเป็นโทนเนอร์ที่เมย์ต้องการเลย คือเนื้อบางเบา ซึมง่าย ไม่ทิ้งความหนึบ เนี่ยคุณสมบัติของโทนเนอร์ที่เมย์ต้องการมีแค่นี้ 555 และสิ่งที่ชอบส่วนตัวเลยก็คือเนื้อโทนเนอร์กระจายลงสำลีดีมาก รู้สึกว่าไม่เปลืองดี 555 เนื้อเค้าไม่ได้เป็นน้ำเหลวๆ แต่ยังมีความหนืดแบบนิดดดดดนึง ทำให้เวลาเช็ดแล้วสำลีลื่นไปผิวดีมาก จะขอซื้อน้องติดโต๊ะเป็นสกินแคร์สามัญประจำบ้านต่อไปเลยย

และนี่ก็คือสภาพผิวปัจจุบันของเมย์เอง~


สำหรับวันนี้เมย์ขอตัวลาไปทำแผนการสอนก่อน

ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะคะ เลิฟๆ ทุกคนเลยค่ะ

บั้ยบัยยย~~


MayPannapat

MayPannapat

สวัสดีค่ะ ชื่อเมย์นะคะ
มีผิวผสม-ขาดน้ำค่าา
เมย์คลั่งไคล้ในสกินแคร์มากกกๆ
คอนเซ็ปท์ผิวเมย์คือ "ผิวดี อะไรก็ดี"
เป็นคนขี้เกียจใช้รองพื้นเพราะตื่นสาย
อะไรที่ทำให้ผิวสวยเลยก็ชอบสรรหามา

ชอบรีวิว skincares มากกว่า cosmetics ค่ะ

E-mail : pannapat2539@gmail.com

FULL PROFILE