How To Contest | Ginza Style ในชื่อตอน "เรย์นะ...สวย สัง หาร"

58 20

┊┊┊┊  

┊┊┊┊        
┊┊┊✧
┊┊✦
┊✧
✦ .
┊┊┊✧
┊┊✦
┊✧
✦ .
.
·


REMARK!!!

เนื้อหาของเรื่องและข้อมูลทั้งหมดถูกดัดแปลง มาจากภาพยนต์ เพลง หรือการ์ตูนที่แนนชอบและเคยอ่านตอนเด็กๆ ตัวละครต่างๆ สถานที่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งเนื้อหา เป็นสิ่งที่ถูกสมมติขึ้นมาทั้งหมด เรื่องราวถูกดำเนินไปตามจินตนาการของแนน ไม่พบเนื้อหาและความรุนแรงแต่อย่างใดใน Jeban.com อยากให้ทางผู้อ่านกระทู้ของแนนได้รับความบันเทิงและเคล็ดลับดีๆจากการแต่งหน้าในลุค Ginza Style เท่านั้นค่ะ
หากผิดพลาดประการใดต้องอภัยมา ณ ที่นี้


หากทุกคนพร้อมแล้ว อยากให้หลับตาลงซักครู่ หายใจลึกๆ 
แล้วอ่านกระทู้นี้ไปพร้อมกับแนนด้วยกันค่ะ




นอนน้อยโปรดักชั่นภูมิใจเสนอ


เรย์นะ....สวย สัง หาร


ให้เสียงภาษาไทยโดย.......พันธแม๊ะ

 
 ♫│▌▌▌│▌▌│▌▌▌│▌▌│▌▌▌♫´¨`*•.¸¸♥


君がいればそれでいい

คิมิ งาอิ เรบะ โซเรเดะ อิ

それでいい

โซเรเดะ อิ

信じ合えたなら

ชิน จิอา เอตะนาระ

他には欲しくない

โฮกะ นิวะ โฮชิกึ นาอิ..........

#wording1,#wording2


เนื้อเรื่องโดยย่อซึ่งไม่ได้ย่อเลย / ขอเปลี่ยนเป็นไหว้ย่อแทนนะคะ

เรย์นะ หลานสาวคนเดียวของคุณยายมิซาเอะ (ยื่มชื่อแม่ชินจังแป๊ปเด้อ) เธอมีรอยยิ้มที่สดใสและชีวิตอันแสนเรียบง่ายตามประสาวัยรุ่นคนนึงที่ไม่ได้มีความฝันใหญ่มากนัก ทาเคชิเพื่อนชายคนสนิทของเธอจะมารับเธอไปโรงเรียนด้วยกันทุกเช้า วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของการเป็นนักเรียนมอปลาย หลังจากที่แลกลายเซ็นกับเพื่อนๆในชั้นเรียนเรียบร้อย และเริ่มการเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆในหอประชุมโรงเรียน คุณครูประจำชั้นของเรย์นะรีบวิ่งมาบอกว่า คุณยายของเรย์นะเป็นลมอยู่ที่บ้าน แต่โชคยังดีเจอคุณป้าอากาโนะช่วยไว้ทัน เธอจึงรีบกลับบ้านไปหาคุณยายด้วยความเป็นห่วง และพูดคุยตามประสายายกับหลาน แต่มีหัวข้อสนทนาอยู่ข้อนึงที่ทำให้เรย์นะ ถึงกับต้องถอยหลังไปชิดกับกำแพงของบ้าน และเป็นเรื่องที่คุณยายถึงกับต้องหลั่งน้ำตาด้วยความเสียใจ


นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรย์นะ มีความคิดที่จะต้องไปที่โตเกียว 
เพื่อทำภารกิจบางอย่างให้สำเร็จ และมันคือเรื่องอะไรกันแน่



อ่านต่อได้เลยค่ะ.....








หลังจากที่เธอได้รับรู้เรื่องราวต่างๆจากคุณยายของเธอ ทำให้เธอกังวล และรู้สึกกดดันตัวเองไปพร้อมๆกัน ซึ่งเรื่องนั้นก็คือเธอมีความจำเป็นต้องไปเรียนรู้ และฝึกวิชาป้องกันตัวทั้งบุ๊นและบู๊ รวมถึงศาสตร์แห่งการใช้ศิลปะและความงามให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับตัวเธอให้ได้ เพื่อที่จะปลอมตัวไปเอาภาพวาดของคุณปู่ของเธอคืนจากนักธุรกิจผู้มีอิทธิพลมากอีกคนนึงย่านกินซ่า นั่นก็คือนายซาวาดะนั่นเอง

ถึงแม้ว่านายซาวาดะจะมีอิทธิพลมากเพียงใด แต่เขาเองไม่เคยไว้ใจใคร เขามีด้านที่ทุกคนยังไม่รู้คือ เขาชอบไปเสพงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์ที่เขาเป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ย่านกินซ่าคนเดียวบ่อยๆ และที่สำคัญคือเขากำลังมองหามือขวาที่เป็นผู้หญิงที่จะมาช่วยงานเขาได้ (เลขา) และนี่เป็นโอกาสเดียวที่เรย์นะจะต้องปลอมตัวเข้าไปสมัครเป็นมือขวาของเขาให้ได้ (คิดแบบเว่อร์ๆนิดนึงนะคะทุกคน)


ภารกิจนี้จะสำเร็จหรือไม่?? (เสียงพิธีกรรายการทีวีแชมป์เปี้ยน)
และคำถามต่อไปคือ ใครจะมาเป็นผู้ฝึกสอนวิชาต่างๆให้กับเรย์นะ


งั้นแนนขอผลักภาระนี้ไปให้กับ คุณป้าอากาโนะแล้วกันค่ะ คุณป้าข้างบ้าน 555555555555 (เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริมๆ) คุณป้าอากาโนะ อดีตแม่บ้านของนายซาวาดะ เธอถูกไล่ออกจากงานเพราะเธอลาป่วยและลืมขอใบรับรองแพทย์มาในวันที่เธอป่วย (ถามมมจีงงงง) คุณป้าอากาโนะเลยยังมีความแค้นกับนายซาวาดะอยู่ และคุณป้าก็รู้ว่า ปกติแล้วชีวิตประจำวันของนายซาวาดะทำอะไร ที่ไหน และที่สำคัญเลยคือ เธอรู้ว่าจะส่งเรย์นะไปเรียนฝึกวิชาต่างๆได้ที่ไหน 


ขอหยิบรีโมท กด Fast forward ไปรัวๆ นะคะ เอาเป็นว่ามาถึงตอนที่ 
เรย์นะพร้อมลุยแหลกละค่ะ วันนั้นเป็นวันที่เปิดรับสมัครเลขาของนายซาวาดะ 
เรย์นะได้เรียนรู้มาหมดทุกอย่างที่อาจารย์ต่างๆได้สอน และนึกถึงสิ่งสุดท้ายที่อาจารย์ได้พูดทิ้งท้ายไว้คือ "จงใช้ความรู้ ความสามารถของเจ้า รวมถึงความดีในตัวเจ้า เปลี่ยนจิตใจของคนให้ได้นะ เรย์นะ"


งั้นเรามาดูลุคแต่งหน้าของตัวละครที่ชื่อเรย์นะตอนไปสมัครเป็นเลขากันดีกว่าค่ะ 
(ขอกลับสู่โลกความจริงก่อน)


ในส่วนตรงนี้อยากให้อ่านจริงๆ


ก่อนที่เราจะไปเริ่มแต่งหน้ากัน แนนขอเขียนคำอธิบายก่อนนะคะ สำหรับแรงบันดาลใจในการแต่งลุคนี้ และการคิด Concept เรื่องเรย์นะขึ้นมา เป็นการตีโจทย์ในอีกมุมมองนึงของแนนที่มีต่อเด็กผู้หญิงคนนึงที่กำลังเติบโต ก้าวเข้าสู่ช่วงอายุของการเริ่มเป็นผู้ใหญ่ในรั้วมหาลัย มีความรับผิดชอบมากขึ้น กล้าตัดสินใจมากขึ้น และเป็นธรรมดาที่อยากได้การยอมรับจากคนในสังคม แน่นอนค่ะว่า การที่จะได้เป็นผู้ใหญ่จริงๆไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในโลกของความเป็นจริง แนนอัดเรื่องหนักๆเข้าไปหาเรย์นะ เพื่อที่ต้องการให้ทุกคนเห็นว่า ไม่ว่าเรย์นะจะเจอสถานการณ์ใดๆที่เข้ามาในชีวิตของเธอ เธอต้องหัดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ใช้ความสามารถของตัวเองเพื่อให้อยู่รอดทุกสถานการณ์ ถึงแม้ว่าเธอต้องเจอบททดสอบที่ยากในชีวิต เธอจะก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ เช่นเดียวกับ Concept ของรองพื้น Shiseido ที่ให้งานผิวที่สวยแบบมีดีเทล เบาสบายแต่ให้การปกปิด ติดทนและเอาอยู่ทุกสถานการณ์ ส่วนสีที่แนนเอามาเล่นในการแต่งหน้าในลุคนี้ ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Packaging ของ Synchro Skin Self-Refreshing Collection จาก Shiseido ค่ะ




งั้นเรามาดูกันว่าเรย์นะจะมีขั้นตอนการแต่งหน้าอย่างไรบ้างค่ะ



จะบอกว่า อยากให้ทุกคนตั้งใจอ่านจริงๆ 

แนนได้ใส่เคล็ดลับแต่งหน้าไว้เยอะมากค่ะ




อันนี้แนนลงสกินแคร์และกันแดดเรียบร้อยแล้วนะคะ (ขั้นตอนที่ 1)

2. แนนใช้ DD Cream Watermelon ของแบรนด์ Jula's Herb ในการปรับสภาพสีผิวของแนนก่อน เพราะผิวหน้าของแนนมีสีที่คล้ำกว่าตัวค่ะ สาเหตุเกิดจากตอนเด็กๆแนนไปเลเซอร์หน้ามา แล้วออกแดด

3. แต้มทั่วบริเวณหน้าค่ะ บีบผลิตภัณฑ์ออกมาเล็กน้อย ค่อยๆทาวนไปที่หน้า เนื้อผลิตภัณฑ์จะแตกตัวเป็นน้ำค่ะ ย้ำว่า!!! อย่าบีบเยอะ ไม่งั้นหน้าจะลอยไม่รู้ตัวค่ะ


    ขั้นตอนที่ 4 แนนฉีด MAC Fix +
ทั่วใบหน้า เหตุผลที่ทำแบบนี้คือ ต้องการล็อคผิวก่อนแต่งหน้าจริงๆ
ถึงแม้ว่าแนนจะลงกันแดด หรือ DD Cream ไปแล้วก็ตาม 
ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด

จะบอกว่าขั้นตอนนี้จะฉีดก่อน หรือหลัง การแต่งหน้าก็ได้ 
หรือจะฉีดทั้งก่อนแต่งและหลัง ย้ำ 2 รอบก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะ
ล็อคเครื่องสำอางบนหน้าเราให้ได้นานขนาดไหน




ในรูปภาพ 5 และ 6 แนนหยิบรองพื้นของ L'Oreal ใช้ควบคู่กับคอนซีลเลอร์
ของแบรนด์ Maybelline และ The Saem


ในส่วนรูปของ 7,8 และ 9 แนนลงคอนซีลเลอร์ของ The Saem ที่ใต้ตาของแนนก่อนค่ะ เพราะใต้ตาแนนนั้นคือดำมากแม่จ๋า และลง Maybelline บริเวณส่วนที่คิดว่ามีความหมองคล้ำเช่น ร่องแก้ม ขอบปาก และลงรองพื้นต่อได้เลย วิธีการลงรองพื้นของแนนคือ วอร์มเนื้อผลิตภัณฑ์ให้น้องเขารู้ว่า อ้ะ จะเริ่มทำงานแล้วนะ ค่อยๆแต้มทั่วบริเวณใบหน้า และใช้ฟองน้ำสุดโปร Beauty B. ในการเก็บทุกรายละเอียดให้เนียนกริ๊บค่ะ (เทคนิคแนนคือ ฟองน้ำแนนใช้ MAC Fix + ฉีดให้ชุ่มก่อนเกลี่ยรองพื้น 
เพื่อให้ได้งานผิวที่กริ๊บกว่าเดิมค่ะ)


*****ถามว่าทำไมต้องลง คอนซีลเลอร์ต่างแบรนด์กัน ต่างบริเวณของใบหน้า แนนได้เรียนรู้มาว่า เนื้อผลิตภัณฑ์คอนซีลเลอร์มีความแตกต่างกันทั้งการปกปิดและสามารถบิ๊วงานผิวได้มากกว่าที่คิด เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้ว่าใบหน้าของเราบริเวณไหนมีการขยับของการแสดงอารมณ์ หรือสีหน้ามากๆ ให้ลงเนื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความบางเบาตรงนั้นค่ะ เพราะว่าการตกร่องจะพบน้อยที่สุด พบไหม พบค่ะ แต่จะน้อยลงกว่าเดิมเยอะมาก อันนี้คือสำหรับคนที่มีความกังวลเรื่องริ้วรอยนะคะ นี่คือเคล็บไม่ลับของแนนค่ะ*****



 หลังจากนั้น Baking ใต้ตาด้วยแป้ง translucent powder ของเจ้านาง โดยใช้ฟองน้ำกดลงไปบริเวณใต้ตา เพื่อล็อคคอนซีลเลอร์และรองพื้นให้แน่นขึ้นกว่าเดิม
(ในภาพเบอร์ 10,11)


พักทิ้งไว้ซักครู่ และมาเริ่มร่างโครงคิ้วกัน แนนใช้ดินสอเขียนคิ้วของ Rebecca ในการวาดโครงคิ้วขึ้นมาก่อน ลุคนี้ขอเป็นคิ้วทรงตามธรรมชาติที่แนนมีนะคะ ค่อยๆวาดไป ไม่โก่งแบบคันศรมากนัก หรือเกาหลีจ๋าหน้าเด็ก แต่มีหักโค้งช่วงปลายคิ้วนิดนึง เพื่อให้หน้าดูคมขึ้น (ในภาพเบอร์ 13,14)



แล้วเราก็มาเติมสีคิ้วกันค่ะ แนนใช้ Kate ใช้คู่กับแปรงสำหรับเติมคิ้ว ค่อยๆถมสีเข้าไปข้างในคิ้วแบบเนียนๆ ตรงไหนที่ยังดูแล้วแหว่งๆ ก็ค่อยๆเติมทับเข้าไปค่ะ 
(ในภาพเบอร์ 16,17)

***** เคล็ดลับของแนนคือ แนนจะเติมช่วงหางคิ้วให้เข้มหน่อย ส่วนหัวคิ้วค่อยๆเบลนเอาให้ฟุ้งค่ะ เพราะลุคนี้แนนต้องการให้ไปเด่นที่ดวงตาค่ะ *****


หลังจากนั้นแนนใช้แปรงปัดแป้งที่แนน Baking ใต้ตาไว้แต่แรก และลงแป้งผสมของ Nami Makeup Pro ลงพื้นทั่วไปใบหน้าและลำคอแบบเบามือมากๆ 
(ในภาพเบอร์ 18)






ในส่วนของขั้นตอนนี้ ไม่มีอะไรยากค่ะ แนนหยิบ Bronzer ของ Too Faced 
มา Shading บริเวณจมูก เพื่อให้รูปทรงของจมูกดูชัดขึ้น เพิ่มดั้งขึ้นมาอีกนิดนึงโดยการใช้เทคนิคแรเงาจมูกค่ะ


แต่ยังไม่เพียงพอสำหรับแนน ขั้นตอนนี้แนนใช้บ่อยก่อนการลงสีต่างๆที่เปลือกตา
แนนใช้ Bronzer ตัวเดิม ทาให้ทั่วบริเวณเปลือกตา และสะบัดแปรงออกไปทางด้านหางตา (มือใหม่ใช้วิธีการเบลนออกข้างก็ได้ค่ะ ค่อยๆไล่ แต่ต้องดูรูปตาของตัวเองด้วยนะคะว่าทรงอะไร) การลงสีของ Bronzer ช่วยลดความตาโปน (ตาแบบบวมๆ) ของแนนให้ดูน้อยลง และการสะบัดแปรงออกไปทางด้านข้างของหางตา ทำให้ดวงตาของเราดูว้างขึ้น เพราะรูปตาของแนนคือเป็นคนตากลมโต และอย่าลืมทาบริเวณขอบตาล่างให้เชื่อมสีกันด้วยนะคะ 
(ทาอย่างเบามือ)



และเราก็มาเริ่มกันที่งานตาอย่างแท้จริง วันนี้แนนหยิบพาเลทตาของ Canmake ชื่อรุ่น Perfect Multi Eyes เบอร์ 04 จิ้มลงไปที่สี (ในภาพเบอร์ 24) หลังจากนั้นหยิบแปรงทรงพุ่มเล็กๆ ค่อยๆเบลนจากปลายหางตา เข้ามาเกือบถึงกึ่งกลางตา เพราะแนนต้องการสร้างดวงตาให้ดูมีมิติมากขึ้น

ย้ำอีกครั้งว่า !!!! ค่อยๆเบลนสีเข้ามาอย่างเบามือที่สุด 


หลังจากนั้นติดตาข่ายตา 2 ชั้น แนนใช้ของ Meilinda ไซส์ M ในการสร้างชั้นตาให้ดูชัดเจนมากขึ้น แนนติดตาข่ายแค่ข้างเดียว เนื่องจากตาของแนน 2 ข้าง ชั้นตาไม่เท่ากัน และเป็นคนชั้นตาหลบใน ดังนั้นการติดตาข่ายตา 2 ชั้น จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เวลาเราถ่ายรูป ตาเราจะดูสวยขึ้นทันทีค่ะ



หลังจากนั้นแนนใช้ Highlighting ของแบรนด์ Wet N Wild เบอร์ E322 ในการลงทั่วบริเวณเปลือกตาอีกครั้ง จะมีประกายชิมเมอร์ที่มีความเนื้อละเอียด ที่แนนลง Highlighting ทั่วเปลือกตาเป็นเพราะว่า แนนต้องการให้เปลือกตามีประกายของเนื้อชิมเมอร์นิดหน่อย ไม่ดูด้านหรือให้อารมณ์ที่ดูแข็งทื่อจนเกินไป พูดง่ายๆว่า นอกจากจะสร้างมิติให้กับดวงตาแล้ว เราต้องสร้างดวงตาให้มีความโดดเด่น และสีต้องไม่ตีกันในการสร้าง Point Makeup ให้กับลุคนี้



ไปต่อกันที่การทำให้ดวงตาดูมีความคมมากยิ่งขึ้น แนนหยิบ Eye Pencil Liner  จากแบรนด์  Sixteen มาเขียนอินไลน์เนอร์ข้างใน แนนจะค่อยๆเขียนทั้งขอบตาบน และล่าง แต่ว่าในส่วนขอบตาล่าง แนนจะลากเข้ามาถึงกึ่งกลางตาเท่านั้น


และมาถึง Point makeup ที่แรกที่แนนอยากจะเน้นคือ ในส่วนของ Eyeliner ลุคเรย์นะ แนนต้องการสร้างให้ดวงตาดูเฉี่ยว แต่ไม่ต้องถึงขนาดลากหางยาวจนเกินไป เส้นของอายไลน์เนอร์ต้องชัดและคม แนนใช้วิธีการเขียนโดยเน้นการเชียนทับ 2 ถึง 3 รอบให้ตรงส่วนขอบตาบนแนนดำสนิท โดยผู้ช่วยของแนนครั้งนี้คือ Eyeliner จากแบรนด์ Kat Von D Tattoo Liner






กลับมาเก็บรายละเอียดในส่วนของงานคิ้วกันอีกครั้ง แนนหยิบมาสคาร่าคิ้ว จากแบรนด์ Canmake มาปัดสีของขนคิ้วให้ดูซอฟลงกว่าสีผมโคนดำของแนน เพราะอย่างที่บอกค่ะว่า งานนี้ตาเราต้องเห็นเด่นชัดนิดนึง ไม่แย่งซีนกัน แนนไม่ปัดแบบว่าคิ้วสะดุ้ง กุ้งกะลาร้อง ไฮ๊!!!! นะคะ 55555555555 เอาแบบธรรมดาย้อมขนคิ้วเฉยๆ


เสร็จปุ๊บเราก็มาบรอนซ์หน้ากันอีกรอบ ใช้ Bronzer ลูกรักตัวเดิม Too Faced มาปัด
แบบเบามือมากๆ แนนหยิบแปรงทรงพุ่ม ค่อยๆปัดไป สาวๆญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เขาจะไม่แบบคอนทัวร์ บรอนซ์หน้ากันแบบร้องขอชีวิต เขาจะแบบเผยผิว ดูเป็นธรรมชาติ ถึงแม้เราจะมีการบรอนซ์หน้ากันตอนแต่งจริงๆ แต่พอเดินออกไปข้างนอก ก็คือแบบ 
"อะไรหรอคะ........ฉันแค่โดนแดดนิโหน่ยอ้ะ"



ในส่วนของงานแก้ม แนนใช้บลัชออนของ MAC Cosmetics 
ลุคของเรย์นะคือ แถ๊บแปรงแบบเบามือมากกกกกกกกกกกกก แนนเลยหยิบแปรงที่ปัดไฮไลท์ Real Techniques มาใช้ในการแถ๊บๆ บลัชออน ค่อยๆแถ๊บ ไม่ปัดแบบ ปื๊ดๆ เพราะเทคนิคการแถ๊บๆสีลงบนแก้ม จะให้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ มากกว่าการปัด และยังสามารถคอนโทรวน้ำหนักมือในการลงบลัชออนได้ดีอีกด้วย



มาถึงงานไฮไลท์ แนนใช้ Wet N Wild ตัวเดิม 
ใช่ค่ะ โมดิฟายเครื่องสำอางให้มากที่สุด นั่นคือเทคนิคสำคัญของแนน
 นอกจากจะเอาไปลงทั่วบริเวณเปลือกตาแล้ว แนนก็ให้น้องได้ทำหน้าที่อย่าเต็มที่ คือ ไฮไลท์เฉพาะจุด เช่น จุดบริเวณโหนกแก้ม ซ้ายขวา กระจับปาก คาง ปลายจมูกนิดนึงแต่ลงแบบเบามือมาก เพราะเราไม่ได้เน้นแบบลุคสายฝอจ๋า โย่ว โย่ว






ใกล้ความเป็นจริงแล้วค่ะทุกคน เอ้ามาต่อกันที่ การดัดขนตา แนนใช้ที่ดัดขนตา
จากแบรนด์ Shu Uemura Eyelash Curler ลุคนี้แนนไม่ติดขนตาปลอมค่ะ เอาแบบว่าธรรมชาติตั้งแต่งานผิว ไม่ใส่คอนแทคเลนส์ ขนตาปลอมไม่ต้อง 


ปัดขนตาให้งอนด้วย Maybelline The Falsies Push Up Drama ขึ้นแท่นลูกรักคนเดิมมาตั้งแต่ปีที่แล้วสำหรับแนน คือในรูปนั่นคือปัดแล้วนะทุกคน แต่ตอนถ่ายรูปออกมา ก็คือแสงในห้องแนนแทบจะมองบ่อเห็นเลยเด้อ ต้องขอโกเมนนาไซ จริงๆค่ะ


มาถึงสิ่งสุดท้ายที่จะให้ลุคนี้เป็นเดอะมาสเตอร์พีคคคคคคคค พีคจริงค่ะ 
ไม่คิดว่าลิปแบรนด์นี้จะสามารถทำให้แนนกลายร่างเป็นเรย์นะได้จริงๆ
แนนหยิบลิปของแบรนด์ Etude House ชื่อรุ่น Matte Chic Lip LacQuer 
สีของคุณ Joy จากวง Red Velvet (OR201) This is my point makeup no.2

ทุกคนสังเกตในภาพสุดท้ายนะคะ แนนเป็นคนริมฝีปากบนบางมาก และไม่ได้มีเนื้อริมฝีปากอวบอิ่ม ดังนั้นเทคนิคการทาลิปของแนนคือ แนนทาลิปซ้ำ ประมาณ 3 รอบทาเกินปาก ค่อยๆเบลนสีออกมา ตอนแรกแนนจะใช้แปรงสำหรับทาปาก ก็คือไม่ทันใจแนน 55555555555 เอาว่ะ ลงไปเลยแล้วกัน 
แล้วผลปรากฎว่า "แม่จ๋า.......หนูไม่ใช่คนดีอีกต่อไป"




ก่อนจะจากกันไป ...........



และนี่คือ ผลงานที่แนนตั้งใจทำมาก เรียกได้ว่าหายหน้า หายตัว หายใจอยู่รึเปล่าตอนนี้ 5555555555 ยังหายใจอยู่นะคะทุกคน 

ลุคเรย์นะ เป็นอีกลุคนึงที่แนนต้องการสะท้อนถึงความเป็นผู้หญิง
ที่มีความมั่นใจ พร้อมลุยทุกสถานการณ์ สวยแบบมีดีเทลจริงๆ การตวัดหางของอายไลน์เนอร์ให้สูง และดูคมโฉบเฉี่ยว สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของความพยายาม ความตั้งใจ และความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองในด้านต่างๆ

สีของลิป สะท้อนให้เห็นถึงความฉลาด ความทันสมัย ดูแล้วมีความอินเตอร์ 
ไม่ใช่แดงแบบแดงจ๋า ของแนนจะเป็นแบบแดงมีส้มเป็นส่วนผสมลงไปในสีแดง

คำว่า "สวย สัง หาร" ในความหมายของแนนคือ 
เราไม่ได้จะไปฆ่า หรือทำร้ายใครนะคะ

สวยสังหารในที่นี้คือ แนนอยากให้ผู้หญิงทุกคนนอกจากจะดูแลตัวเองเรื่องความสวยความงามแล้ว ต้องมีความรู้ ความสามารถ ความฉลาด ความมั่นใจ นั่นคืออาวุธที่สามารถติดตัวเราไปใช้ได้ตลอดชีวิต และการมีมุมมองที่ดีต่อตัวเองยิ่งทำให้เรามีความสุขในแบบของตัวเองได้มากขึ้น สวยในแบบของตัวเอง นี่ซิ้!! ที่เรียกว่า สวยแบบมีดีเทล

จะบอกว่าจริงๆแล้วทำปกไว้ 2 เวอร์ชั่น อันนี้เป็นปกแบบเยาวชนคนดีเขาดูกัน
แบบว่าเวอร์ชั่นซอฟๆ 5555555555555 ไหนๆแนนจะทำแล้วก็ใส่เต็มที่ไปเลยละกัน

ถ้าชอบลุคนี้ก็สามารถ comment บอกกันได้นะคะ อยากให้ปรับปรุงตรงไหนบอกแนนได้เลยค่ะ เพราะแนนจะได้กลับไปพัฒนากระทู้ของแนนให้ดียิ่งๆขึ้นไปค่ะ

ありがとうございます。


Credit :
#wording1 from bombayjsong
#wording2 from user name : Sulley Monster from Youtube
#wording3 from wikipedia

#Pic1 from manotat


Nanearlybird

Nanearlybird

สวัสดีค่ะ ทุกคน ชื่อแนน นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนค่ะ
.
ทุกคนสามารถเข้าไปดูผลงานของแนนเต็มๆได้ที่
☆ ​Youtube​ Channel : Nanearlybird
☆ Facebook Fanpage : Nanearlybird
☆ Instagram : @nanearlybird
☆ Twitter : @nanearlybird
★ For work : DM ผ่านทาง IG ที่เดียวค่ะ | nanearlybird@gmail.com | #nanearlybird

FULL PROFILE