ปัจจุบันเจ้า smart watch และ smart band เข้ามามีส่วนสำคัญต่อชีวิตหลายๆท่าน โดยเฉพาะกลุ่มของคนรักสุขภาพสาย Healthy แต่สำหรับกิจวัตรประจำหวานจะให้ซื้อแพงๆ ก็แอบเสียดายเงิน จากการหาข้อมูลในเน็ต ก็มาเจอเจ้า Xiaomi Mi Band 4 ซึ่งคิดว่าค่อนข้างตอบโจทย์ แถมราคาย่อมเยาสุดๆ เรามาทำความรู้จักกันเลยยยย

เจ้า Xiaomi Mi Band 4 เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 62 ซึ่งก็หลายเดือนแล้ว ราคาจะอยู่ที่ 700 - 1,290 บาทค่ะ

มาดูหน้าตาและอุปกรณ์ในกล่องกัน
อุปกรณ์ในกล่องที่ให้มาก็จะมีสายยางสีดำ, สายชาร์จ และ คู่มือ

อีกทั้งตัวเรือนยังคงสามารถถอดออกจากตัวสายได้ ตัวสายสามารถเปลี่ยนได้ค่อนข้างหลากหลายทั้งสีและสาย มีสายแนวสปอร์ต สายหนัง สายสแตนเลส สายไนล่อน ฯลฯ เปลี่ยนสายได้ตามชุดที่เราใส่ได้ด้วย ส่วนฟิมล์ติดก็มีให้เลือกเยอะดีค่ะ สามารถแต่งได้ตามสไตล์เราเลยก็ว่าได้

+3

สเปคเครื่องคร่าวๆ พอเนอะเพราะสิ่งที่เราสนใจก็คือฟีเจอร์ของมันค่ะทุกคน

น้ำหนัก : 22.1 กรัม
ขนาดหน้าจอ : 0.95 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 120 x 240 หน้าจอสัมผัส
ระดับการกันน้ำ : 5 ATM หรือ 50 เมตร ใส่ว่ายน้ำ
เชื่อมต่อไร้สาย : BT5.0 BLE
แบตเตอรี่ : LiPo, 135 mAh

ส่วนการใช้งานอันดับแรกเราต้องเข้าไปโหลดแอป Mi Fit ได้ที่ PlayStore และ App Store ค่ะ เจ้าแอป mi fit จะใช้ในการเชื่อมต่อmi band 4 กับ Bluetooth เอาไว้ดูข้อมูลหรือตั้งค่าต่างๆของ mi band 4

หลังจากเชื่อมต่ออุปกรณ์และกรอกข้อมูลตั้งค่าโปรไฟล์กันเรียบร้อยแล้ว เราจะมาดูฟีเจอร์ของ mi band 4 ว่าจะมีอะไรบ้าง

อันดับแรกเรามาออกแบบหน้าจอของแบรนด์กัน โดยสามารถเลือกรูปแบบวิตเจ็ตมีตั้งแต่ลายเรียบๆ ไปจนทางการค่ะ

+2

About This Look!

สวยงามมมมม

หลังจากเปลี่ยนหน้าจอเสร็จ ถ้าเราลองสัมผัสหน้าจอขึ้นเราจะเห็นหน้าจอที่แสดงฟังก์ชั่นต่างๆ

1.สถานะ เป็นการบอกข้อมูลการเดิน,ระยะทางและแคลอรี่

About This Look!

กดจิ้มไปที่หน้าจอสถานะเลยค่ะ เพราะมันสัมผัสได้ ดี๊ดี จะขึ้นก้าว ระยะทางและแคลอรี่ที่เราใช้ไปค่ะ

2.อัตราการเต้นหัวใจ ใช้วัดการเต้นของหัวใจเราโดยการส่วมใส่ mi band 4 อยู่​

About This Look!

เมื่อเรากดจิ้มเข้าไป จะเจอวัดชีพจรค่ะ

3.ออกกำลังกาย 

มีวิ่งกลางแจ้ง,ลู่วิ่งไฟฟ้า,ปั่นจักรยาน,เดิน,ออกกำลังกาย(เล่นเวท),ว่ายน้ำในสระ (5 ATM คือแรงดันของน้ำที่ระดับ 50 เมตร)

4.อากาศ สามารถตรวจเช็คสภาพอากาศก่อนการออกจากบ้าน

About This Look!

เช็คสภาพอากาศได้ เลิศไปอีกกกก

5.การแจ้งเตือน ในส่วนนี้ชอบที่สุดเลยค่ะ เพราะบางทีเราก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ตลอดเวลาแต่ก็ไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน ไม่ว่าจะสายเรียกเข้า Messenger, Facebook, Line ,Instagram ก็สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ตามต้องการ โดยสามารถตั้งค่ารูปแบบการแจ้งเตือนการสั่นของแบนด์ได้เองด้วย 

About This Look!

จิ้มเข้าไป ถ้ามีการแจ้งเตือนก็จะขึ้นค่ะ โดยปกติเราจะอ่านที่หน้าจอแบรนด์ตั้งแต่มันขึ้นเตือนแล้วค่ะ

About This Look!

ตัวอย่างการแจ้งเตือน Line และสายโทรเข้าค่ะ

6.เพิ่มเติม ก็จะมีเกี่ยวกับ ห้ามรบกวน,นาฬิกาปลุก,เพลง,นาฬิกาจับเวลา,นับถอยหลัง,ค้นหาอุปกรณ์,เงียบ,หน้าจอแบนด์และการตั้งค่า

+3

หวานจะยกรายละเอียดที่น่าสนใจมาแนะนำนะคะ

เพลง

สามารถควบคุมเพลงที่เราเปิดจากแอปซึ่งสามารถทำได้ทั้งหยุดเพลง, ข้ามเพลง, ถอยเพลง และเพิ่มเสียงลดเสียงก็ได้ด้วย ไม่จำเป็นต้องกดจากมือถือเลย

ค้นหาอุปกรณ์
ถ้าเราดันจำไม่ได้ว่าวางโทรศัพท์ไว้ที่ไหน เราแค่จิ้มไปที่ค้นหาอุปกรณ์โทรศัพท์ของเราก็จะมีเสียงดังคล้ายเสียงกระดิ่งเตือนค่ะ

อีกทั้ง ยังมีฟังก์ชั่นการตรวจจับการนอน ซึ่งจะบอกเลยว่าเรานอนกี่ชั่วโมง หลับลึก,ตื้นกี่ชั่วโมงและตื่นตอนไหน อีกทั้งยังแนะนำว่าควรนอนไวกว่านี้ ตื่นไวกว่านี้ หลับปกติไหมเทียบคนอื่นให้ด้วย ซึ่งหวานคิดว่ามีประโยชน์มากและยังมีฟังก์ชั่นเตือนการนั่งนานกว่า 1 ชั่วโมงโดยแบรนด์จะทำการสั่นเตือนให้ผู้ส่วมใส่ได้ลุกเดินบ้างค่ะ

หวานจะมาสรุปจุดเด่นของเจ้า เผื่อเพื่อนๆ ที่สนใจค่ะ

• มีโหมดออกกำลังกายพื้นฐาน ตั้ง 6 โหมด
• มีโหมดแจ้งเตือน การโทรเข้า,line, messenger,sms และการแจ้งเตือนแอปต่างๆที่เราตั้งค่าเปิดไว้
• สามารถเปิดใช้ฟังก์ชั่นการควบคุมเพลงทั้งเพลย์ลิสต์ในเครื่อง, youtube,joox
• กันน้ำ 5 ATM ใส่ว่ายน้ำได้หรือจะใส่อาบน้ำด้วยก็สบายหายห่วง
• มีโหมดค้นหาโทรศัพท์ สำหรับสาวขี้ลืม อิอิ
• ชาร์จครั้งเดียวแต่ใช้ได้นาน ใช้งานแบบปกตินะ
• หน้าจอ Amoled จอสี สามารถเปลี่ยนรูปที่เราต้องการได้

สำหรับวันนี้ขอเห่อแค่นี้พอน๊าาาา หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ให้กับเพื่อนๆนะคะ

บ๊ายบายจ้าาาาา