เมื่อดาราต้องแปลงร่างเพื่อการแสดง

40 11
เพราะนักแสดงสร้างอาชีพขึ้นมาจากการสวมบทบาทเป็นคนอื่น   เพื่อความสมจริง ทำให้พวกเค้าต้องปรับเปลี่ยนลุคอยู่เสมอ   หากไม่อยากย่ำอยู่กับที่หรืออยากให้คนยึดติดภาพเดิมๆ ก็ต้องแสวงหาบทใหม่ๆที่ท้าทาย     หลายต่อหลายครั้ง  พวกเค้าแปลงร่างให้เป็นคนละคนโดยไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิค special effect ช่วย   ลองมาติดตามกันค่ะว่าการเปลี่ยนแปลงที่น่าตื่นตาตื่นใจจะเป็นเช่นไรบ้าง









Kim Sun-A 


เธอสร้างความโด่งดังจากซีรีส์ที่ประสบความสำเร็จเป็นประวัติการณ์จาก My name is Kim Sam-soon   ในช่วง Korean wave ได้พัดถล่มยึดครองพื้นที่ความนิยมในหลายประเทศ    และได้ฉีกภาพของ beauty standard ของเกาหลีด้วยลุคของสาวบ้านๆที่เจ้าเนื้อมีคางสองชั้นอุยๆ  หน้าตาไม่โดดเด่นแถมไม่แต่งเนื้อแต่งตัว   แต่ได้ใจผู้ชมจนต้องเทแรงเชียร์ให้    กระแสของ Sam-soon ในบ้านเราก็พุ่งแรงเช่นเดียวกัน


Kim San-a ต้องเพิ่มน้ำหนักตัวมารับบทบทนี้ และยังได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามกับบทบาทของผู้หญิงอีกแบบที่ดู real   ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นสาวใสจิตใจอ่อนโยน เพียบพร้อมไปด้วยความเป็นกุลสตรี   ผู้หญิงหลายคนในโลกมีความห้าวหาญและ"ดิบ" ไม่แพ้ผู้ชาย   ซีรีสืเรื่องนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่มีเรตติ้งสูงสุดในเกาหลี

Kim Sun-A วนเวียนในวงการแสดงด้วยบทที่หลากหลาย  แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ตอนแรกเราจำเธอไม่ได้คือ Children of Nobody  ที่เพิ่งจะจบลงไปเมื่อปีที่แล้ว  ในซีรีส์ฆาตกรรมที่พัวพันกับปริศนาอันลึกลับ เธอรับบทเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็ก แต่ชีวิตแต่งงานของตัวเองต้องมาพังทลายลงแล้วยังต้องผจญกับสิ่งที่เธอไม่แน่ใจว่าเป็นภาพหลอนหรือภูตผีปีศาจที่นำไปพัวพันกับความตาย     พล็อทเรื่องมืดหม่นและเครียดจากต้นยันจบ   และเธอก็มาในลุคที่ไม่ห่วงสวยอีกแล้วค่ะ

โทนของซีรีส์มันหดหู่ทึบทึมไปหมด   เพื่อความสมจริงของการแสดงเป็นหญิงที่ทุกข์ทนต่อความกดดันที่รุมเร้าจนไม่ได้ดูแลตัวเอง   เธอก็มาในภาพที่ดูทรุดโทรมจนผิดตา   ปกติแล้วนางเอกเกาหลีมักจะเฉิดฉายบนจอด้วยรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาวกว่าอายุจริงเป็นเรื่องปกติ   แต่เรื่องนี้จะให้สวยพริ้มปากอิ่มกลอสก็คงไม่ค่อยเข้ากัน


และล่าสุด  เธอสลัดคราบเก่าเพื่อรับบทเป็นหญิงทรงอิทธิพลที่เริ่มไต่เต้าสร้างอำนาจจนสามารถล็อบบี้คนใหญ่คนโตในเกาหลีได้ภายใต้ธุรกิจบูติคเสื้อผ้า (เรื่องราวฟังดูคล้ายมาดาม Shimคนดังที่ร่ำลือว่าสามารถควบคุมทั่งวงการบันเทิง การเมือง รวมไปถึงสื่อได้)  แต่เป้าหมายของเธอคือการแก้แค้นใครบางคนที่พรากสิ่งสำคัญจากเธอไปตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
เธอมาพร้อมกับเสื้อผ้าหน้าผมสุดเฉี่ยวและสายตามีพลังเป็นคนละคนกับผลงานที่ผ่านมา      พลังการแสดง+ทีม costumeเป็นอย่างนี้เองสินะ


มาชมความเปลี่ยนแปลงกันชัดๆค่ะ



Takayuki Yamada



มีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งแนะนำกับเราว่า พระเอกคนนี้อาจจะไม่ได้สูงหล่อและมีมาดที่ดึงดูดใจแบบ Shun Oguri และไม่ได้ขายความสดใสเหมือนกับหนุ่มๆ Johnny's Jr แต่เขาคือนักแสดงระดับ A List ที่พลิกบทบาทมาแล้วมากมาย และมีผลงานเรตติ้งสูงปรี๊ด สื่อญี่ปุ่นยกย่องให้เขาเป็นหนึ่งในหนุ่มพันหน้าที่สามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกให้เข้ากับบทได้อย่างเชื่อถือ

จะมีบทไหนบ้างที่ผู้ชมบ้านเราน่าจะคุ้นเคย   ลองมาชมค่ะ


แฟนๆบันเทิงญี่ปุ่นคงจดจำเรื่องราวของหนุ่มรถไฟกับ Hermes ซังได้ดี   Takayuki คือหนุ่มรถไฟรุ่นแรกๆที่สร้างความประทับใจในความน่ารักของหนุ่มโอตาคุที่ตกหลุมรักสาวเพอร์เฟคท์จนลุกขึ้นมาไฟท์ทุกหนทางเพื่อจะให้เธอหันมาแล
ดูมากี่เวอร์ชัน ก็เอ็นดูหนุ่มรถไฟคนนี้ที่สุดค่ะ  ขนาดว่าผมดูไม่เนียน (ดูเป็นวิกแปลกๆ)   แต่เค้าแสดงได้จับใจคนดูจริงๆ  

หลังจากหนั้นก็พัฒนาฝีมือการแสดงเพิ่มขึ้นไม่หยุดยั้ง แต่ผลงานที่สร้างต่อออกมา 3 ซีซันและยังถูกสร้างเป็นหนังและสร้างกระแสฮือฮามากมายคือ Ushijima the Loan Shark เขารับบทเป็นหัวหน้าแกงค์เงินกู้นอกระบบที่โหดสุดๆ แต่ก็real มากจนหยุดดูไม่ได้เลย

ในเรื่องนี้ เขาเปลี่ยนลุคให้เป็น หนุ่มแว่นเย็นชาที่อายุยังไม่ถึงสามสิบซึ่งผ่านประสบการณ์โลกจนกล้าแกร่ง เขาต่อกรลูกหนี้ทุกรูปแบบ  ไม่ว่าจะเป็นชาวตลาดล่างหรือsalaryman    แม้ไม่ได้มีบทพูดเยอะ แต่แผ่ความน่าสะพรึงทางสายตา   เห็นแล้วกลสยองเรื่องหนี้นอกระบบไปเลย  

รู้จักเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อนตอนที่พูดคุยกับเพื่อนญี่ปุ่นว่า  คนไทยชื่นชมความเป็นญี่ปุ่นมากนะ   แล้วเค้าแนะนำว่า   ด้านมืดจากปัญหาสังคมก็มีให้ได้ยินอยู่ทุกหนทุกแห่งและแนะนำให้ชมเรื่องนี้ เพราะมันเป็นการตีแผ่ธุรกิจสีเทาที่ต้องเกลือกกลั้วกับสิ่งผิดกฎหมายและปัญหาเรื้อรัง เช่น การค้าประเวณี การพนัน  คนที่เลือกไม่ทำมาหากิน เกาะเงินชราของพ่อแม่ไปวันๆ รวมถึงกลโกงสารพัด  พระเอกไม่ใช่ฮีโร่ที่พฤติกรรมโหดร้ายแต่ภายในอ่อนโยนแบบสูตรสำเร็จที่เราเคยเห็นมาก่อน   แต่เป็นหัวหน้าบริษัทเงินกู้นอกระบบที่พร้อมจะชักชวนให้ลูกหนี้สาวไปขายตัวหากเธอหาเงินมาใช้หนี้ไม่ได้    หากเขาต้องการจะได้เงินคืนก็ใช้หลายวิธีการเจ็บแสบบีบให้ลูกหนี้ต้องจนมุม รวมไปถึงการสั่งให้ลูกหนี้ไปก้มหัวขอเงินคนเดินถนน   แต่ตัวละครนี้ดังเปรี้ยง  ไม่ใช่แค่ถูกสร้างติดต่อกันหลายซีซันเท่านั้น  แต่ได้รับความนิยมขนาดมีแฟนๆมากมายแต่ง cosplay ตามหัวหน้า   และยังมี figure วางจำหน่ายอีกต่างหาก!

ยังมีผลงานอีกหลายเรื่องที่เปลี่ยนลุคไปมาจนสื่อบันเทิงญี่ปุ่นยกให้เป็นพระเอกกิ้งก่าเปลี่ยนสี ได้หมดทุกแนว ไม่ว่าจะสาย dark หรือสายฮา

เค้ามาสร้างชื่อในระดับอินเตอร์ด้วยซีรีส์ Netflix  เนื้อหาแรงอย่าง The Naked Director  ที่ได้สน้างมาจากเรื่องจริงของ Toru Muranishi  ผู้กำกับหนัง AV  ผู้พลิกอุตสาหกรรมโป๊เปลือยของญี่ปุ่นจนโด่งดังไปทั่วโลก!
ประสบความสำเร็จรึไม่นั้น   Netflix ได้ต่อสัญญาสร้างซีซั่นสองแล้วค่ะ


หรือจะเป็น 50 first kisses ที่ remake จาก rom - com ชื่อดังของอเมริกา   และผลงานอีกหลายเรื่องที่บอกเลยว่าคาดเดาไม่ได้จากหนุ่มคนนี้      ต้องบอกตรงๆว่า  ยังมีนักแสดงดังอีกหลายคนที่มีผลงานติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง และบุคลิกของตัวละครก็แตกต่างกันสุดขั้ว    แต่ก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนเดิม  ราวกับว่าแค่เปลี่ยนทรงผมและแฟชั่นมาแสดงเท่านั้น       แต่เค้าสามารถปรับเปลี่ยนทั้งท่าทางและแววตาจนต้องอินตาม




Emilia  Clarke

 ทุกคนคงรู้จักกับสาวคนนี้ดี  และอาจจะคิดว่าเธอก็ปั้นหน้าเป็นราชินีผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีอันสูงส่งแล้วก็ใส่วิกเริ่ดๆนั้น  แล้วก็ ปิ๊งๆๆๆ  กลายมาเป็น Daenerys Targaryen 

แต่ Emilia เป็นหนึ่งในคนดังเพียงไม่กี่คนที่แฟนๆจำไม่ได้ หากเธอไม่ได้แต่งตัวเป็นแดนี่! ถึงเราจะมั่นใจว่า หากได้เจอเธอแล้วคงไม่เดินผ่านไปเฉยๆแน่ แต่เจ้าตัวยืนยันหลายครั้งแล้วว่า พอไม่ได้ใส่วิก ก็ถูกมองข้ามไปเลย ถึงขนาดว่า เดินข้างนอกกับนักแสดง Game Of Thrones ด้วยกันแล้วแฟนมาขอถ่ายรูปด้วย กลับขอให้เธอถ่ายให้โดยไม่มีทีท่าจะนึกได้ว่าเธอนี่แหละนางเอกของเรื่อง!

ด้วยความที่บุคลิกของเธอมาแบบโก๊ะๆ ห่างไกลกับความเป็นราชินีมังกรเป็นกิโลเมตร  ผมสีธรรมชาติก็เป็นสีน้ำตาลเข้ม   นอกกองถ่าย  Game Of Thrones  เธอคือดารา A List ที่ไม่ต้องคอยหลบกองทัพแฟนๆที่คลั่งไคล้บทของแดนี่  (แต่ตอนที่ย้อมผมสี platinum blond เธอบอกว่า เริ่มมีคนจำได้และถูกไล่ล่าเหมือนนักแสดงนำGOT คนอื่นๆค่ะ)
หากคิดว่าแค่สั่งวิกสวยๆมาใส่ แล้วแต่งหน้าเข้าฉากแบบที่เราเห็น how to บน youtube นั้นก็ยังไม่ถึงครึ่งของการเตรียมเปลี่ยนลุคของสาวสุดฮาคนนี้ค่ะ    นี่คือซีรีส์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้างอลังการที่นักแสดงต้องเตรียม costume กันตั้งแต่เช้ามืด  และใช้เวลาถ่ายทำยาวนาน  ไม่ถึงคิวก็ต้องรอกันไปเป็นวัน     Emilia  แต่งหน้าทำผมแต่ล่ะครั้งใช้เวลาอย่างน้อยๆก็สองชั่วโมง  หลังจากเก็บผมจริงแล้ว  ก็ต้องใส่วิกแล้วก็ถักอย่างปราณีตเป็นชั่วโมง   (นี่คือที่มาของเปียอันมีชื่อเสียงโด่งดังของแดนี่)  และกว่าจะได้เข้าฉากก็ต้องคอยเช็คความเป๊ะอยู่เรื่อยๆ     ส่วน makeup   ก็ต้องเรียนสุดๆเช่นกัน  เรื่องนี้ close up ใบหน้ากันบ่อยค่ะ  และ Emilia ต้องรับบทหญิงสาวที่อายุน้อยกว่าอายุจริงของตัวเองหลายปี    ภาคจบเธออายุสามสิบเศษๆแล้ว  แต่แดนี่เพิ่งจะ 24    ต้องดูสวยใสสมกับเป็นราชินีที่งดงามที่สุด    แม้แต่ปลายผมด้านหน้า  ทีมงานก็จัดแล้วจัดอีก  และต้องทำเช่นนี้ทั้งวันค่ะ   ส่วนตอนที่ยังไม่ได้ถ่าย เธอจะคลุมผมไว้ไม่ให้ยุ่ง  
เพื่อความเนียนของผมสีเงินที่หนายาวสวยราวกับมีชีวิต ก็ต้องมีลุคคล้ายกับแม่สาวหัวโล้น  เพราะต้องเก็บผมให้ดูเนียนที่สุด
พอมาถึง Rom-Com ที่พวกเราหลายคนประทับใจอย่าง Me Before You     Emilia พลิกบทบาทสวย เริ่ด เชิด หยิ่ง มาเป็นสาวต๊องที่ยังไม่รู้จุดหมายในชีวิตตัวเอง  ได้แต่โก๊ะไปเรื่อยๆ  การแสดงสีหน้าของเธอใกล้เคียงกับตัวจริงนอกจอมากขึ้น  บวกกับต้องเล่นใหญ่เพื่อให้เรียกเสียงฮา  เรียกได้ว่าไม่เหลือคราบของราชินีมังกร


จากที่เคยสวมใส่ชุดงดงามที่มีรายละเอียดการตัดเย็บและโชว์ฝีมือการปักตระการตา    Emilia ก็กลายมาเป็นสาวแบ๊วที่มาในแฟชั่นลูกกวาด  

จากเปียมหาเปียกลายมาเป้นสองจุกสุดแบ๊ว





Jonah Hill



เขาคนนี้ไม่ได้เป็นหนุ่มหล่อทรมานใจสาวในสไตล์ฮีโร่กล้ามแน่น  แต่ผู้ชมจะติดภาพ Johan Hill ว่าเป็นหนุ่มเจ้าเนื้อที่รับเล่นหนัง comedy บ่อยๆ   แต่เจ้าตัวมีผลงานการแสดงเข้าตากรรมการ ได้รับการเสนอชิงรางวัลออสการ์มาแล้วสองครั้งนะคะ
หนึ่งในนั้นคือผลงานเรื่อง The Wolf of Wall Street  ในบท Donnie Azof  เพื่อนและหุ้นส่วนของพระเอก  แม้ว่าเขาจะได้ค่าตัวเพียงหกหมื่นเหรียญ  (ซึ่งไม่ถึงฝุ่นของค่าตัวของ Leo ที่ฟันไปสิบล้านเหรียญ!) แต่เขาก็หาได้แคร์ เพราะมุ่งมั่นอยากจะมีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้มากเหลือเกิน  เรียกได้ว่าแย่งซีนมาได้จนชิงออสการ์เลยทีเดียว  

ที่ผ่านมา เราจะได้พบกับผลงานของ Jonah ในบทของหนุ่มท้วมไปจนถึงอ้วน    ยกตัวอย่างหนังฮาอย่าง 21 Jump Street    War Dog  
ต้องบอกไว้ก่อนว่า  Jonah จะมีถูกสื่อกล่าวขวัญในเรื่องน้ำหนักตัวที่ขึ้นๆลงๆในตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้   ลดน้ำหนักเพื่อเล่นหนังเรื่องหนึ่ง แต่ก็เพิ่มเป็นหลายสิบกิโลกรัมเพื่อให้เข้ากับบทในเรื่องต่อมา  แต่ผลงานที่ผ่านมาก็จะรับบทหนุ่มเจ้าเนื้อเป็นส่วนมาก   จนมาถึงซีรีส์ Netflix เรื่อง Maniac ที่ประชันการแสดงกับ Emma Stone ที่ฉีกภาพเก่าแบบไม่เหลือเค้าเดิม
เมื่อหลายปีก่อน  Jonah เคยเล่นหนังคู่กับ Emma มาก่อนแล้วค่ะ  ตอนนั้นเขายังเจ้าเนื้อตามที่แฟนๆคุ้นเคย
ตอนแรกที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ เราไม่รู้เลยค่ะว่าคือ Jonah  


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE