Le Petit Chef เปิดประสบการณ์ดินเนอร์กับเชฟตัวจิ๋ว และการเดินทางไปสรรหาของอร่อยด้วยกัน

พาไปดินเนอร์เพร้อมปิดโลกกว้างเดินทางไปด้วยกันค่ะ

เป็นดินเนอจากคุณเชฟตัวจิ๋ว หรือว่า Le Petit Chef นั้นเองละค่า นี่เป็นครั้งแรกของประเทศไทยเลยที่ Le Petit Chef มาเปิดให้บริการ ที่ห้องอาหาร Embassy Room, Park Hyatt Bangkok ค่ะ

รายละเอียดแต่ละเมนูอยู่ในรูปเลยค่า

Amuse Bouche อาหารจานแรกจะเป็น Appitizer ค่ะ เแนอาหารฝรั่งเศสขนาดพอดีคำ 2 คำ

ไวน์แก้วแรกไว้ให้ทานคู่กับ Appitizer ค่ะ

ระหว่างที่ดูการเดินทางของเชฟผ่าน 3D Animation

Arabia ก็จะเป็นอาหารแขกๆหน่อย แต่เป็นแนวแขกทะเลทรายค่ะ จัดจานมาสามอย่าง น่ารักดี

Grilled prawns, fattoush salad, sumac กุ้งย่าง กับสลัดคล้ายๆซัลซ่า เปรี้ยวๆกรุบๆ

อาหารมีทั้งหมด 5 คอร์สค่ะ จัดทำโดย Chef de Cuisine Pierre Tavernier

Smoked Eggplant, herbs, and pomegranate จานนี้หน้าตาอาจจะดูไม่เก๋เท่าจานอื่น เพราะว่ามันคือมะเขือม่วงย่างบดและปรุงรส แต่อร่อยดีนะ กินเพลินเลย

Lamb skewers, cumin & bulgur, labneh & garlic เนื้อแกะเสียบไม้ย่าง ปรุงรสแล้ว นุ่มๆหอมๆกลิ่นไม่แรงเลยค่ะ เคียงมากับบัลเกอร์ (เป็นธัญพืชชนิดหนึ่งค่ะ คล้ายๆเม็ด Cous Cous) ส่วนซอสข้างล่างจะเป็นซอส Lebneh หรือว่าซาวครีมนั่นเอง เปรี้ยวตัดเลี่ยนได้ดีเลย

อาหารอินเดียมาสามอย่างเช่นกันค่ะ พนักงานแนะนำว่าให้เริ่มทานจากจานขวาสุดไปซ้ายสุด เพราะเรียงลำดับรสจากอ่อนไปแรงสุดค่ะ

Red lentil soup, onion & lemon ซุปเลนทิล (ถั่วชนิดหนึ่งค่ะ) รสชาดคล้ายๆซุปฟักทอง แต่มีรสเปรี้ยวแฝงเล็กๆจากเลมอนด้วยค่ะ

Butter Chicken, Naans & Coriander ไก่บัตเตอร์ นี่เป็นหนึ่งในเมนูยอดฮิตของอาหารอินเดียเลยค่ะ ไก่นุ่มๆแต่ไม่มันอย่างที่คิด แกงเผ็ดน้อยๆ

Scallops & cauliflower, Oscietra caviar & Madras curry หายเชลล์บนซอสแกงกะหรี่แบบเผ็ดของอินเดียที่เรียกว่า Madras ค่ะ ข้างบนโรยด้วยคาร์เวียร์ค่ะ

ก่อนจะถึงเมนูถัดไป ระหว่างทางที่คุณเชฟจิ๋วพาเราไปท่องหิมาลายา ก็จะมีวอดก้าแก้วเล็กๆมาพร้อมกับกาน้ำร้อนรอไว้สำหรับเมนูถัดไปค่ะ

นั่งกินไปดูเชฟปรุงอาหารบนโต๊ะเราไปด้วย ผ่านการเดินทางของเชฟบนเส้นทางสายไหม ตามรอย Marco Polo ไปยังที่ต่างๆ ทั้ง Arabia, India, Himalaya, China และเล่าถึงส่วนผสมที่ใช้ปรุงอาหารด้วย

Pineapple and ginger sorbet ไอติมสับปะรดกับขิงค่ะ พอมาถึงก็เราก็เทวอดก้าครึ่งนึง ลงในไอติมซอเบ และเทน้ำร้อนลงถ้วยข้างๆ ควันก็จะเต็มโต๊ะ เหมือนว่าเชฟพาเราไปบินลอยเหนือเมฆที่ภูเขาหิมาลัยเลย

อาหารจีนจะมาเป็นเซตเล็กๆค่ะ มีติ่มซำ จานปลา และข้าวสวยค่ะ ข้าวที่เสิร์ฟมาหอมมากกกกก มีกลิ่นคล้ายๆมะลิ+นมแมว พนักงานแจ้งว่าเป็น Organic Jusmin Rice ค่ะ

Steamed seabass & bok choy, soy & ginger จานปลานึ่งในซีอิ๊วค่ะ ปรุงรสมากลมกล่อมดี ไม่เค็มเกินไป จานนี้แอบรู้สึกธรรมดานิดหน่อย เพราะจานก่อนหน้าๆนั่นว้าวด้วยและอาจจะเพราะเรากินอาหารจีนบ่อย

Lobster dim sum ขนมจีบกุ้งล๊อปสเตอร์ค่ะ สามคำ กำลังดี เนื้อกุ้งกรุบๆ ไม่ได้ผสมเนื้ออื่นมาเลยด้วย

ค่าเดินทางไปกับเชฟจิ๋ว ทางร้านจะมีให้เลือก 2แพคเกจค่ะ
?Journey A ราคา 3,299++ บาทต่อท่าน เฉพาะรับประทานอาหาร
?Journey B ราคา 3,999++ บาทต่อท่าน เฉพาะรับประทานอาหาร (ยาหยีทานแพคเกจนี้ค่ะ) ?

เพิ่ม Wine Pairing เพิ่ม 1,199++ บาทต่อท่าน (แม่บ้านจัดไวน์เพิ่มมาด้วย ไวน์ดีทั้งนั้นเลยจ้า)

?เพิ่ม แชมเปญและไวน์ เพิ่ม 1,599++ บาทต่อท่านค่ะ

ไวน์แก้วสุดท้ายสำหรับเมนูขนมหวานค่ะ แก้วนี้ค่อนข้างDry นิดๆ ไม่ละมุนเท่าแก้วก่อนหน้า

มาถึงจานของหวาน เชฟพาเรากลับมาที่ฝนั่งเศสอีกรอบนึงค่ะ

Crème Brûlée, saffron แครมบรูเล่ใส่หญ้าฝรั่นค่ะ นี่เป็นแครมบรูเล่ถ้วยใหญ่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลย 55 แต่กินหมดนะ รสชาดเข้ากันี ไม่หวานเกิน

Cardamom Ispahan sorbet ซอร์เบทกุหลาบลิ้นจี่ใส่คาร์ดามอมหรือว่ากระวานนั่นเองค่าาา หอมเย็นชื่นใจ เปรี้ยวๆหวานๆทานแล้วสดขื่นมากเลย

ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มร้อน จะมีให้เลือกระหว่างชาหรือกาแฟค่ะ ชาจะมีให้เลือกระหว่าง ชาเขียว ชาดำ และชาคาโมมายด์ค่ะ

มีถึงแค่ 31 ตุลาคม 2019 นี้เท่านั้นนะ
ตารางเวลาสามารถเข้าไปดูได้ในเวป le petir chef asia เลยค่า

? Embassy Room Park Hyatt Bangkok, Central Embassy
Tel. 0-2012-1234

Le Petit Chef เปิดประสบการณ์ดินเนอร์กับเชฟตัวจิ๋ว และการเดินทางไปสรรหาของอร่อยด้วยกัน

Tag ที่เกี่ยวข้อง

แชร์

Kebjok