H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+/PA++++ Sunscreen ที่มีดีมากกว่าแค่กันแดด!!

39 9
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^

H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+/PA++++ Sunscreen ที่มีดีมากกว่าแค่กันแดด!! (30ml./890.-)

เราเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนที่รักในการดูแลตัวเอง มักจะทุ่มเงินไปกับผลิตภัณฑ์อย่าง Serum, Essence หรือ Booster แต่พอเราได้คุยกันจริงๆ กลับพบว่าหลายคนละเลย 1 ในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดไป นั่นก็คือการปกป้องผิวจากรังสี UV นั่นเอง ซึ่งเอาจริงๆ ในปัจจุบันมีกันแดดให้เราเลือกซื้อเลือกหากันเยอะแยะมากมาย แต่เคยสงสัยกันมั้ยว่ามันแตกต่างกันอย่างไร ? (ใครตอบว่าราคาต่างกัน นี่ตีตายเลยนะ!)
ย้อนไปราวๆ 10-15 ปีก่อนหน้านี้ที่ความเจิญทางด้านเทคโนโลยี และปัญหาด้านมลภาวะน้อยกว่านี้มาก ทำให้ปัจจัยหลักที่เราใช้ในการเลือกกันแดดก็มักจะเป็นค่าความสามารถในการปกป้องแสงแดด เช่น SPF และ PA ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร แต่หากลองมองสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน เราเชื่อว่าร้อยละ 90% มีอุปกรณ์ที่ปล่อยแสง Blue light อย่างน้อยคนละ 1 เครื่อง ไม่ว่าจะเป็น Smart Phone, Tablet, PC หรือ Notebook
แถมเรายังต้องเผชิญกับมลภาวะต่างๆ เช่นเมื่อปีที่แล้วที่ประเทศเราเจอปัญหาจากฝุ่น PM 2.5 อย่างหนักหน่วงทำเอาหลายคนป่วยกันไปเป็นแถวๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เองที่เป็นปัญหาที่เรามองไม่เห็นและเป็นภัยกับผิวของเราเป็นอย่างมากเลยหละ ซึ่งตัวเราเองก็เชื่อเสมอว่า "กันไว้ดีกว่าแก้" เป็นประโยคที่ไม่ได้พูดให้ดูดีเล่นๆ แต่ควรคิดและเริ่มทำกันอย่างจริงจัง อย่างการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UV, แสง Blue light และ PM 2.5 ก็เช่นกัน วันนี้เราเลยหยิบ H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+/PA++++ กันแดดที่เราใช้บ่อยมากที่สุดในช่วงนี้มารีวิวให้ได้ชมกัน ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยฮะ....

The Claim

H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+ /PA++++ : ครีมกันแดดแบบ Triple light protection ที่ปกป้องคุณจากทุกแสง ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด แสงจากจอคอมพิวเตอร์ และมลภาวะ เหมาะสำหรับผิวบอบบาง ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ พร้อมด้วยแพคเกจสุดล้ำแบบ Airless pump ที่ทำให้คุณใช้ครีมได้หมดจนหยดสุดท้าย

Texture / Scent / Packaging

  • Texture : กันแดดเนื้อ Liquid ที่ค่อนข้างบางเบา ใช้เวลาเบลนด์ไม่นานก็ซึมเข้าสู่ผิว และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว
  • Scent : กันแดดตัวนี้ยังคงมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเคยอยู่เน้อ แต่โดยส่วนตัวเราใช้แล้วไม่พบอาการแพ้ หรือระคายเคืองใดๆ ถ้าใครที่แพ้น้ำหอมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ลองพิจารณาดูอีกทีแล้วกันฮะ
  • Packaging : เราดีใจมากที่ทางแบรนด์เลือกใช้บรรจุภัณฑ์แบบ Airless Pump ซึ่งสามารถคงประสิทธิภาพของสารต่างๆ ไว้ได้เป็นอย่างดี รวมถึงสามารถกดใช้ได้จนหมดไม่ต้องมานั่งเคาะ เขย่า หรือตัดหลอดให้วุ่นวาย

Key Ingredients

  • Ethylhexyl Triazone : สารกันแดดชนิด Chemical Sunscreen ที่สามารถกันแสง UVB ได้ ช่วงความยาวคลื่น 290-330nm สามารถทำงานร่วมกับสารกันแดดชนิดอื่นๆได้ดี และมีความเสถียรค่อนข้างสูง
  • Bis-Ethylhexyloxyphenol Methoxyphenyl Triazine : หรือ Tinosorb S สารกันแดดชนิด Chemical Sunscreen ที่สามารถกันแสง UVA/UVB ได้ ช่วงความยาวคลื่น 290-370 nm สามารถทำงานร่วมกับสารกันแดดชนิดอื่นๆได้ดี และมีความเสถียรสูง
  • Diethylamino Hydroxybenzoyl Hexyl Benzoate : สารกันแดดชนิด Chemical Sunscreen ที่สามารถกันแสง UVA ได้ ช่วงความยาวคลื่น 320-390nm สามารถทำงานร่วมกับสารกันแดดชนิดอื่นๆได้ดี และมีความเสถียรสูงภายใต้แสงแดด
  • B-Circadin™  : เราคิดว่าทางแบรนด์เลือกใช้สารตัวนี้ในการกัน Blue light ซึ่งโครงสร้างสารประกอบด้วย Propanediol (and) + Acqua(and) + Lespedeza CapitataLeaf/Stem Extract 
  • Phytic Acid : จากการศึกษาในทางคลินิกพบว่ากรดฟีติกมีความสามารถสูงในการจับกับโลหะหนักเช่น เหล็ก ซิงค์ และแคลเซี่ยม ทำให้เกิดเป็นเกลือที่ไม่ละลายน้ำและดูดซึมได้ไม่ดี อีกทางหนึ่งความสามารถการเป็นคีเลตของกรดฟีติก ได้มีการรายงานว่ามีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวเช่นทำให้เกิดการลดลงของการเกิดความเสี่ยงของมะเร็งจากโลหะหนัก และการลดลงของระดับคอเลสเตอรอลและไตกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือดได้อีกด้วย  
Note : 
  • UVB : ช่วงความยาวคลื่น 280 – 315 นาโนเมตร เป็นรังสียูวีที่มีคลื่นความยาวสั้นแต่พลังงานสูง มีอยู่ 5% ในแสงแดด สามารถทะลุผ่านชั้นโอโซนมาได้แต่ก็ผ่านมาได้ไม่ทั้งหมด โดยส่งผลกระทบที่เห็นได้ชัดเจน คือ การเปลี่ยนสีผิวที่ชัดเจนเมื่อสัมผัสกับแดดโดยตรง เกิดการหลุดลอกของชั้นผิวหนังกำพร้า 
  • UVA : อยู่ในช่วงความยาวคลื่น 315-400 นาโนเมตร มีมากถึงกว่า 90 % ในแสงแดด ส่งผลกระทบต่อผิวหนังของมนุษย์ โดยจะทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ก่อให้เกิดรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำ
  • นอกจากนี้แล้ว ช่วงความยาวคลื่น 400-500 เรายังพบช่วงแสงสีฟ้า หรือ Blue Light ซึ่งสามารถทะลุผ่านผิวชั้นหนังกำพร้าและผิวชั้นหนังแท้ ลงไปถึงขั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Tissue) เข้าไปทำลายเซลล์ผิว คอลลาเจน อิลาสตินและ DNA และสร้างสารออกซิแดนท์ขึ้นมาทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย


Let's Try...


จากที่เราลองใช้ H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+/PA++++ มาประมาณ 10 วัน สิ่งแรกที่เรารู้สึกได้ชัดเจนคือความบางเบา ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งในจุดนี้ถือว่าตอบโจทย์มนุษย์ผิว - ผสมมันอย่างเราได้ดีทีเดียว นอกจากนี้ยังไม่รบกวนการลง Makeup ใน Step ต่อไปด้วยหละฮะ
ความสามารถในการปกป้องผิวจากแสงแดดเราขอนำภาพผิวหน้าหลังออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ประมาณ 6 ชั่วโมง โดยไม่ได้พกกันแดดไปเติมระหว่างวัน มาให้เพื่อนๆ เป็นคนตัดสินแล้วกันครับ ว่าเป็นยังไงบ้างฮะ
ป.ล. หลังทากันแดดเราทาแป้งฝุ่นเพื่อเซ็ทผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ให้ไหลมากองรวมกันไว้เน้อ

Conclusion

โดยรวม H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+/PA++++ สำหรับเราถือว่าสอบผ่านในแง่การปกป้องผิวจากแสงแดดทั้ง UVA และ UVB ได้ดีทีเดียวหละ รวมไปถึง Blue Light ที่เราต้องเจอตลอดเวลาจากปุกรณ์ที่เราใช้ทำงาน กันแดดตัวนี้ก็สามารถไว้ใจได้เลยขอรับ

ส่วนในเรื่องการป้องกันผิวจาก มลภาวะต่างๆ เราตอบในมุมของมนุษย์ที่เป็นภูมิแพ้ และมักจะมีผดเล็กๆ หรือผื่นแดง เมื่อเจอสภาพอากาศแย่ๆ หรือมลภาวะ ซึ่งในช่วงที่เราลองกันแดดตัวนี้ก็เป็นช่วงที่กรุงเทพฯ มีสภาพอากาศแย่จริงๆ นั่นแหละฮะ แต่ปรากฏว่าเราไม่พบอาการระคายเคือง หรือผลขึ้นบนใบหน้าเลย นับหละ

เอาเป็นว่าใครที่สนใจเจ้า H by Hanako Tokyo UV essence SPF 50+/PA++++ ขวดนี้ ลองเข้าไปสอบถามเค้าได้ที่ Official Fanpage ได้เลยเน้อ สำหรับวันนี้เราขอมาป้ายยาเท่านี้ครับ ส่วนบทความหน้าจะเป็นรีวิวอะไรรอติดตามบูมได้ตามช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Fanpage, Instagram และ Youtube นะครับ สำหรับวันนี้เท่านี้ค๊าบ แล้วไว้เจอกันใหม่ครับ บับบาย....


Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE