เปลี่ยนทัศนคติเท่ากับเปลี่ยนผิว.....จริงหรือ???
Nanearlybird 37 11♡ Hello Guys ♡
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ทุกคนอาจจะเห็นแนนมาแปลกกว่าวันอื่น แบบเอ๊ะ!! วันนี้แนนจะมารีวิวอะไรให้เพื่อนๆสมาชิกจีบันได้อ่านกัน บอกก่อนว่า Content นี้ เป็นเรื่องที่แนนคิดมานานว่า แนนตั้งใจเขียนบทความนี้ก่อนที่จะพูดถึงสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่แนนใช้ทุกตัวในส่วนของการรีวิวแต่ละตัวว่าเป็นอย่างไร ดังนั้นก่อนที่เพื่อนๆจะได้อ่านบทความของแนนต่อจากนี้ แนนอยากให้ทุกคนลองเปิดใจ ทำความเข้าใจก่อนว่า
- สภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แม้กระทั้งชั้นผิว เซลล์ผิวของเรา ระบบภายในร่างกาย การใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ รวมถึงรสนิยม ความชอบและ Lifestyle
- ทางแนนไม่สามารถการันตีได้ว่า สิ่งที่แนนแนะนำไปจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกับผิวของทุกคนมากที่สุด แนนทำรีวิวแต่ละตัวขึ้นมาเพราะแนนรู้ดีว่า เออสิ่งนี้ ของชิ้นนี้เหมาะสมสำหรับผิวแนน แนนใช้จริง แนนให้เวลากับผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่แนนใช้ และแนนอยากบอกต่อ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกว่า ถ้าเพื่อนๆในบ้านจีบันหลังนี้อยากหาข้อมูล หรือจะซื้อตามผลิตภัณฑ์ที่แนนนำมาพูด อย่างน้อยก็ยังเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน
- แนนไม่สามารถบอกได้ว่า แนนคือผู้รู้ กูรูผู้เชี่ยวชาญ แต่แนนจะพยายามทำการบ้านมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่แนนจะหามาได้ หรือประสบการณ์ต่างๆที่แนนพบเจอมา แนนจะพยายามบอกเล่าให้ได้มากที่สุด และเรื่องไหนที่แนนคิดว่าไม่มั่นใจ แนนจะขออนุญาตกลับไปทำการบ้านอีกครั้งนะคะ เท่าที่ข้อมูลแนนจะหาได้หรือตามความสามารถของแนนเอง
โอเคค่ะ...เรามาลุยกันเลย ในขณะที่แนนเขียนบทความนี้คือ ตีสองครึ่ง ใช่ค่ะทางเรายังไม่ได้อาบน้ำ แต่อยากเขียนมาก หัวข้อนี้คือ "เปลี่ยนทัศนคติเท่ากับเปลี่ยนผิว....จริงหรือ????" คำตอบนี้แนนขอยืนยันอีกเสียงนึงว่า
จริงค่ะ!!! มันไม่ใช่ว่าเราจะมาถกเถียงกันในเรื่องของการมองโลกสวยงาม แนนอยากจะบอกเล่าในสิ่งที่แนนเจอ และสิ่งที่แนนได้พบให้เพื่อนๆฟังกันสั้นๆ แนนเป็นคนนึงที่เคยประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องผิวของแนน และแนนเป็นคนนึงที่คุกเข่าลงกับพื้นและร้องไห้ กับความรู้สึกอยากยอมแพ้ให้กับตัวเอง แบบเหนื่อยมาก ท้อมาก แย่มาก แทบจะเอาสิ่งลบๆต่างๆขุดหลุมฝังตัวเองซะให้เรียบร้อย
แต่คนที่ปลุกแนนขึ้นมาจากหลุมตรงนั้นมีอยู่ 2 คน คือ คุณแม่ของแนน และตัวเราเอง ตอนแนนเข้ามาสมัครเป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้านหลังนี้ และแนนได้เห็นถึงปัญหาของแต่ละคนที่เจอและเป็นอยู่ แนนเลยอยากส่งข้อความบอกทุกคนว่า "อย่ายอมแพ้กับสิ่งที่เราประสบอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม สู้กับมันให้เต็มที่" ...ใช่ค่ะ ฟังดูเหมือนพูดง่าย แต่ทำอ้ะยาก แนนเข้าใจ เพราะปัญหาแต่ละคนที่เจอมันช่างแตกต่างกัน การรับมือของแต่ละคนก็มีวิธีการแตกต่างกันออกไป แม้กระทั่งภูมิต้านทานที่เรียกว่า "ความรู้สึกลึกๆในใจ" ถ้าสมมติว่าภูมิเราต่ำกว่าคนอื่น...มันก็อาจจะกลายเป็นบาดแผลที่เกิดขึ้นในใจเราได้ แต่แนนเชื่อว่าความทุกข์จะอยู่กับเราไม่นาน ความสุขก็เช่นกัน อยู่ที่เราแล้วละค่ะ ว่าจะเลือกเก็บสิ่งไหนเอาไว้ในใจ
แนนอยากให้ทุกคนมองว่า ความสวยงามมันไม่ได้มีอยู่แค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอกว่า สังคมจะตีค่าความสวยงามว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่แนนอยากให้ทุกคนมองว่า ความสวยงามที่แท้จริงมันขึ้นอยู่กับทัศนคติที่เรามองตัวเองว่าเป็นอย่างไร เราให้คุณค่ากับตัวเองขนาดไหน การให้คุณค่ากับตัวเองเท่ากับว่า เราได้มอบความรักให้กับตัวเองแล้วนะคะ
ทุกคนถามว่าอ่านมาถึงตรงนี้ เอ้า...แล้วมันเปลี่ยนผิวอย่างไรคะ?? เมื่อคุณได้ลองเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองในทางทิศทางที่เป็นเชิงบวก และลองเริ่มต้นทำสิ่งนั้นโดยที่คุณต้องยอมรับก่อนว่าคุณเป็นคนอย่างไร คุณกำลังเจออะไรอยู่ และคุณจะเปลี่ยนมันให้ดีขึ้นอย่างไร เคล็ดลับของแนนคือ "อย่าโกหกความรู้สึกตัวเองเด็ดขาด" ถ้าเรารู้สึกแย่ อ้ะ อยากร้อง ร้องเลย อย่าเก็บ ยิ่งเก็บมันจะกลายเป็นบาดแผลที่เราเองอาจจะรักษาตัวเองไม่ได้ในอนาคต เมื่อเราแน่ใจรับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เราต้องค่อยๆแก้ไปทีละจุด แน่นอนว่าต้องใช้เวลา วินัย และความอดทน บวกกับทัศนคติที่ดีต่อตัวเราเอง...
สุดท้ายนี้ แนนขอให้ทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเป็น และยอมรับว่าตัวเองเป็นอะไร ทำทุกอย่างทุกวันให้เต็มที่ คุณจะไม่รู้สึกเสียดายเลยซักนาทีเดียวจริงๆ เพราะคุณได้ทำมันเต็มที่แล้ว
ด้วยรัก....ถึงเป็นสิวก็หายได้ค่ะ เพราะเราเชื่อว่าซักวันมันต้องหาย
