รวมเด็ดวิตามินซีตัว POP ตัวไหนกระจ่างใสไวเหมือนติดไซเรน!

41 16
หล่อนฮอตนักหรอ..งั้นชั้นต้องลองบ้างแล้วล่ะ!! เชื่อว่าสาวๆ หลายคนต้องมีโมเม้นท์ชั่ววูบแบบนี้แน่ๆ เงินในบัญชีก็ปลิดปลิว กระเป๋าตังค์ก็โล่งเคว้งคว้างกันไปสิ แต่ไม่เป็นไรตามคอนเซ็ปต์ #ของมันต้องมี

งานนี้เราก็เลยขอมาแชร์ 5 วิตซี ตัวฮิต ตัวฮอต ตัวที่อยู่ในกระแส เพื่อเฟ้นหาตัวที่สุดของที่สุด ในเรื่องของความกระจ่างใส ผิวเรียบเนียน และต้องคุ้มในระยะยาว เพราะคงไม่อยากมีใครเปลี่ยนสกินแคร์บ่อยๆ กันหรอกเนอะ ใครๆ ก็อยากเจอตัวที่ใช่ที่สุดแล้วหยุดกันทั้งนั้น


Melano CC Vitamin C Brightening Essence

มันฮอตมาได้ยังไงนะ:: เอสเซ้นซ์ตัวนี้เค้าดังมาตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่น สาวๆ เมืองยุ่นเค้าฮิตกัน กลายเป็นกระแสแบบ So Hot จนได้รางวัลไวท์เทนนิ่ง เอสเซ้นซ์ ขายดีอันดับ 1 ในญี่ปุ่น 3 ปีติดต่อกัน เพราะตัวนี้เป็น Pure Vitamin C ที่ช่วยทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดรอยสิว ลดจุดด่างดำ กระชับรูขุมขนได้ใน 14 วัน และยังมี  Ascorbic Acid (Pure Vitamin C) / Vitamin E / Alpinia White ที่ช่วยคูณความกระจ่างใส และ ช่วยความชุ่มชื่นอีกด้วย ซึ่งพอตัวนี้ Landing มาถึงไทยบ้าง ก็กลายเป็นสกินแคร์ที่ฮอตฮิตขายดีเว่อร์ใน Watsons อีก ตอนนี้ก็กลายเป็นวิตซีที่เหมือนต้องมีกันทุกบ้านไปแล้วจ้า

เนื้อผลิตภัณฑ์มันเป็นยังไงนะ :: ตัวนี้จะเป็นเอสเซ้นซ์เนื้อบางเบา ไม่เสี่ยงอุดตัน ทาที่ผิวที่มีความอุ่น กลิ่นซีตรัส ให้ความผ่อนคลายมากๆ นวดๆ ลงบนผิว ซึมไว ให้ความชุ่มชื่นแต่ไม่ทำให้หน้ามันหรือเหนอะหนะ  

ผิวประมวลผลหลังจากใช้ :: ตัวนี้พอเข้าไทยเราก็รีบสอยมาใช้ทันที เพราะคาดหวังให้มันช่วยรอยดำ รอยแดงจากสิว (เพราะตอนนั้นตอนนั้นเพิ่งรักษาสิวหายแล้วมันทิ้งรอยไว้เยอะ) หลังใช้ประมาณ 1 อาทิตย์ รอยแดงๆ จากสิวก็เริ่มจางลงเรื่อยๆ ส่วนรอยดำเริ่มจางในอาทิตย์ที่ 2 จากที่ต้องใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดรอย ก็ไม่ต้องใช้แล้ว แค่ลงคูชชั่นก็ปิดหมด ซึ่งตอนใช้เราทาทั้งหน้าก่อนรอบนึง และแต้มเป็นจุดๆ อีกครั้งบริเวณรอย และพอใช้ไปเรื่อยๆ ประมาณเดือนกว่าๆ หน้าคือไบรท์ขึ้นเยอะ รอยแดงจางลงเกือบหมด ส่วนรอยดำก็เบลอๆ จางไปเจอมาก สรุปคือหน้าใส ไบรท์จริง รอยสิวจางค่อนข้างไว ซึ่งเราว่าที่มันทำได้ขนาดนี้ เพราะว่ามันเป็นวิตซีเข้มข้น ที่อยู่ในหลอดทึบแสง ทำให้ทุกหยดมันมีประสิทธิภาพในการช่วยบูสต์ผิวอะ รวมๆ แล้วให้ 3 ผ่าน

เหมาะกับสาไลฟ์สไตล์แบบไหน :: เราว่าเหมาะกับสาวที่อยากมีผิวหน้าไบรท์ขึ้นกว่าเดิม 1-2 เสต็ป หรือต้องการให้รอยดำ รอยแดงจากสิวจางไวๆ เราว่าตัวนี้เหมาะ เพราะว่าไม่ต้องใช้เจลลดรอยเพิ่ม แต่ตัวนี้ได้ทั้งหน้าใส ชุ่มชื่น รอยสิวจาง ชีวิตไม่วุ่นวายเพราะงบน้อยก็สอยได้ ในราคาหลักร้อย


kiehl’s Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate

มันฮอตมาได้ยังไงนะ :: วิตซีตัวนี้ดังที่สุดในไลน์ของ kiehl’s และมีขายมานานมากตั้งแต่ปี 2005 ซึ่งถือว่าเป็นเซรั่มวิตามินซีตัวแรกๆ ที่ทำออกมาเลยมั้ย และด้วยราคาที่เป็นวิตซีที่ราคาแพงกระเป๋าตังค์ฉีก ทำให้ใครๆ ก็อยากจะลองว่ามันดีจริงสมคำล่ำลือมั้ย ซึ่งตัวนี้เป็น เซรั่มวิตามินซีบริสุทธิ์ 12.5% และมีวิตามินซีและเสริมด้วยไฮยาลูโรนิก แอซิด ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากความร่วงโรย ต่อต้านริ้วรอย และช่วยปรับสีผิวให้เรียบเนียน

เนื้อผลิตภัณฑ์มันเป็นยังไงนะ :: ตัวนี้เป็นเนื้อครีมที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ แต่ตอนทาจะให้ความรู้สึกลื่นที่ผิว เหมือนทาไพร์เมอร์ ที่ให้ความรู้สึกเป็นซิลิโคนเคลือบที่ผิว (ส่วนตัวเหมือนมันไม่ซึม) และตอนทาจะมีความอุ่นๆ ที่ผิวเหมือนกัน ส่วนกลิ่นก็จะหอมซีตรัสเบาๆ

ผิวประมวลผลหลังจากใช้ :: สำหรับรู้สึกไม่ค่อยชอบเนื้อสัมผัสที่เหมือนซิลิโคนเคลือบผิวเท่าไหร่ เพราะรู้สึกเหมือนมันไม่ซึมเข้าไป หลังใช้อาทิตย์แรกยังไม่ค่อยรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แค่รู้สึกว่าตื่นมาแล้วหน้านุ่มๆ ซึ่งเราก็ทาควบคู่ไปกับเซรั่มตัวอื่นๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นด้วย พอหลังใช้ประมาณ 2-3 อาทิตย์ รู้สึกว่าหน้าดูเรียบเนียนขึ้น สีผิวสม่ำเสมอ หน้านุ่มขึ้น และเริ่มสัมผัสได้ว่าผิวดูกระจ่างใสเบาๆ

เหมาะกับสาวไลฟ์สไตล์แบบไหน :: ตัวนี้เหมาะกับสาวที่มีสตางค์เยอะหน่อย เพราะราคาแรงเอาเรื่องอยู่หลายพันบาท ตัวนี้เหมาะกับคนที่อยากให้ผิวนุ่ม เรียนเนียน และสีผิวสม่ำเสมอขึ้น ผิวต้องการผิวกระจ่างใส แต่ตัวนี้ต้องให้เวลามันนิดนึงในการผลัดเซลล์ผิว แต่ใครที่ผิวแพ้ง่ายๆ อาจจะต้องไปที่เคาน์เตอร์ลองทดสอบทาที่กรอบหน้า หรือบริเวณท้องแขนก่อนนะ ว่าไม่เกิดอาการแพ้แน่ๆ เพราะไม่งั้นจะมานั่งเสียดายเงิน


Paula’choice Super Booter Paula’s Choice 

มันฮอตมาได้ยังไงนะ :: ตัวนี้มีอยู่ช่วงนึงที่ฮอตฮิตกันเหลือกันเกิน วิตซีป้าพอลล่าๆ (ไม่ใช่พอลล่า เทเลอร์นะ) แต่มาจาก Paula’choice นี่แหละ ซึ่งตัวที่เราใช้จะเป็นโฉมเก่า ตอนนี้เค้าเปลี่ยนโฉมใหม่แล้ว ซึ่งตัวนี้เป็นวิตามินซีบริสุทธิ์ ที่มีความเข้มข้น 15% ช่วยชะลอริ้วรอย ฝ้ากระ ลบรอยแดง รอยดำจากสิว รวมถึงรอยไหม้จากแดด
กระตุ้นคอลลาเจน กระชับรูขุมขน และปรับให้หน้าเนียนใสอย่างเป็นธรรมชาติ

เนื้อผลิตภัณฑ์มันเป็นยังไงนะ :: ตัวนี้จะเป็นเอสเซ้นซ์แบบน้ำสีเหลือส้มเข้มๆ มาในรูปแบบดรอปหยด ซึมไว ไม่เหนอะหนะ แต่ต้องทาหน้าแบบบางๆ หรือเลือกทาตอนกลางคืน เพราะไม่งั้นหน้าจะเหลือง ส่วนกลิ่นขอบอกเลยว่ามีความคาวมากกกกกก (ตอนแรกมันเป็นเอสเซ้นซ์สีใสๆนะ แต่พอนานๆ ไปสีมันเริ่มเปลี่ยนอะ จนสีเหมือนในภาพ)

ผิวประมวลผลหลังจากใช้ :: ตัวนี้เราก็ซื้อใช้เพราะว่าเห็นว่ามันมีความเข้มข้นของวิตซี 15% น่าจะเห็นผลไว ซึ่งหลังจากใช้ตัวนี้ ก็รู้สึกว่าโอเคเลยนะ มันช่วยปรับสีผิวหน้าของเราให้กระจ่างใสขึ้นจริง พวกรอยดำ รอยแดงจางลง แต่อาจจะเห็นผลช้านะหน่อย เพราะเราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงพวกนี้หลังจากใช้ไปประมาณ 3 อาทิตย์ ซึ่งเราจะทาเฉพาะตอนกลางคืนนะ เพราะเคยทาตอนเช้าแล้ว รู้สึกว่าหน้ามันเหลืองอะ 55555

เหมาะกับสาวไลฟ์สไตล์แบบไหน :: เหมาะกับคนที่อยากมีผิวหน้าที่ไบรท์ขึ้น เวอร์ชั่นที่ไม่รีบร้อนมากและมีตังค์พอสมควร เพราะนี้ไบร์ทแบบค่อยเป็นค่อยไปในราคา 2 พันกว่าบาท แต่ไม่คาดหวังเรื่องชุ่มชื่น เพราะว่าตัวนี้สำหรับเรามันช่วยเรื่องกระจ่างใสอย่างเดียว ถ้าต้องการความชุ่มชื่น ต้องทาครีมตัวอื่นช่วย


Skinsista Vit C Extra Bright booster

มันฮอตมาได้ยังไงนะ :: ตัวนี้หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยฮอตเท่าพี่ๆ ด้านบน แต่ด้วยความที่มีเซรั่มหลายสูตรให้เลือกหลายสูตรมาก ทำให้มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตัววิตซีก็เป็นสูตรที่ฮอตของแบรนด์นี้เหมือนกัน ซึ่งตัวนี้จะเป็น วิตามินซีบูสเตอร์เข้มข้น พร้อมผสานไฮยาลูรอนิค และด้วยวิตามินซีรูปแบบแคปซูลนาโน ที่กักเก็บคุณค่าวิตามินซีลงลึกถึงชั้นผิวแท้ ทำให้ช่วยลดจุดด่างดำ ลดรอยสิวใน 9 วัน และให้ผิวนุ่ม เด้ง กระจ่างใส

เนื้อผลิตภัณฑ์มันเป็นยังไงนะ :: ตัวนี้เป็นเซรั่มที่บางเบา สีใส มาในรูปแบบดรอปหยด ซึมไว ไม่เหนอะผิว ส่วนกลิ่นเป็นแบบเลม๊อนเลม่อน ฟีลเหมือนกลิ่นน้ำหอม คือมันไม่ได้ออกซีตรัสธรรมชาติๆ อะ

ผิวประมวลผลหลังจากใช้ :: ตัวนี้เราเริ่มเห็นผลว่าหน้าเริ่มกระจ่างใสขึ้นหลังใช้ไปประมาณ 1 เดือน รู้สึกว่าสีผิวมันสม่ำเสมอขึ้น แต่ระหว่างทางที่ใช้เรามีสิวเม็ดเล็กๆ ขึ้นตลอดเลย (แต่ไม่เยอะ) คือหน้าก็อยากใส แต่ก็ต้องเจลแต้มสิวไปด้วยนะ อาจจะแพ้ส่วนผสมอะไรบางอย่างหรือป่าวนะ  

เหมาะกับสาวไลฟ์สไตล์แบบไหน :: เหมาะกับสาวที่อยากหน้ากระจ่างใสไว แต่ต้องมั่นใจว่าผิวหน้าฉันแข็งแรง ไม่เคยแพ้ครีมใดๆ เพราะว่าตัวนี้เราใช้แล้วมีสิวขึ้นระหว่างทาง (เราเป็นผิวแพ้ง่าย) แต่ตัวนี้ช่วยให้หน้ากระจ่างใสค่อนข้างไว แต่ไม่ค่อยให้ความชุ่มชื่นเท่าไหร่ แต่ตัวนี้ราคาหลักร้อย ก็ถือว่าโอเครอยู่


The Ordinary Vitamin C Suspension 23%+HA Spheres 2%

มันฮอตมาได้ยังไงนะ :: ยี่ห้อนี่เป็นแบรนด์จากอังกฤษ ที่ดังในฝั่งยุโรป ซึ่งตัวดังๆ ก็จะเป็นไลน์ Vitamin C ของเค้านี่แหละ พวกบล็อกเกอร์ต่างประเทศจะชอบใช้กัน ซึ่งตัวนี้จะเป็นเซรั่มวิตามินซี มีส่วนผสมหลักคือ L-ascorbic acid สกัดมาจาก Vitamin C เข้มข้นบริสุทธิ์ ที่ช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสสม่ำเสมอ เติมความชุ่มชื้น พร้อมลดรอยแผลเป็นจากสิว ทำให้ผิวเรียบเนียน

เนื้อผลิตภัณฑ์มันเป็นยังไงนะ :: ตัวนี้จะเป็นเจลบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมง่าย แต่กลิ่นไม่ได้เป็นวิตซี กลิ่นเหมือนครีมทั่วๆ ไป  

ผิวประมวลผลหลังจากใช้ ::  เนื่องจากตัวนี้มีวิตามินซีเข้มข้นอยู่ 23% คือแบบเยอะมากแม่ ความเข้มข้นแบบนี้คือมีความเสี่ยงต่อผิวแพ้ง่าย คนที่สามารถใช้ได้ต้องมั่นใจว่าผิวตัวเองแข็งแรงเว่อร์ๆ ไม่ค่อยแพ้ครีมอะไร เพราะว่าตอนแรกที่เราใช้คือมีความยุบยิบที่หน้าเยอะกว่าตัวอื่นๆ และห้ามใช้ตอนที่มีสิวนะ ต้องใช้ทาหลังสิวที่หน้าหายหมดแล้วเท่านั้น เพราะไม่งั้นมันจะไม่กระตุ้นให้สิวพวกนั้นอักเสบขึ้นมาได้ สำหรับเราพวกรอยสิวจางไวอยู่ หน้าดูไบรท์ขึ้น แต่ถ้าเดี่ยวๆ จะรู้สึกว่าผิวหน้าจะแห้งๆ ต้องทาเซรั่มที่ช่วยความชุ่มชื่นอื่นๆ ช่วยหลายตัวเหมือนกัน เลยคิดว่าไม่ค่อยตอบโจทย์ตัวเราเท่าไหร่ เพราะว่าไม่ชอบทาครีมหลายๆ ตัว กลัวผิวอุดตัน

เหมาะกับสาวไลฟ์สไตล์แบบไหน ::  ตัวนี้เหมาะกับสาวที่มีผิวหน้าที่สตรองๆๆๆอยู่แล้ว เหมาะคนที่อยากให้หน้ากระจ่างใสขึ้นกว่าเดิม และอยากให้รอยสิวจางไวๆ เพราะว่าตัวนี้เป็นวิตซีค่อนข้างเข้มข้นมาก (ไม่เหมาะกับสาวแพ้ง่ายนะ) ส่วนราคาก็อยู่หลักร้อย ถือว่าโอเครถ้าใครมีความต้องการเรื่องผิวประมาณนี้ แต่อย่าลืมว่าถึงหน้าจะกระจ่างใส แต่ถ้าอยากให้ผิวดูสุขภาพดี ผิวเราต้องชุ่มขื่นด้วย ดังนั้นถ้าทาตัวนี้แล้ว ต้องหาเซรั่มมาเติมความชุ่มชื่นช่วยแบบหนักๆ
[เราขอจัดอันดับ 1-5 ให้ดูแบบง่ายๆ]
อันนี้มาเรียงอันดับวิตซีที่เห็นผลเรื่องความกระจ่างใสไว

Melano CC > kiehl’s  > Paula’choice  > Skinsista > The Ordinary

ต่อมาจะจัดอันดับในเรื่องความคุ้มค่าแก่การลองและลงทุน ไม่เสี่ยงต่อการแพ้

Melano CC > Paula’choice  > kiehl’s > Skinsista > The Ordinary

และนี่คือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากผิวเรานะ ใครที่มีสภาพผิวคล้ายๆ เราก็ลองดูกันได้จ้า