มารู้จักโรคซึมเศร้า (ที่แอนเป็นกันเถอะค่ะ)

51 15
ขอเกริ่นก่อนว่า แอนเป็นโรคแพนิค หรือ panic disorder มาก่อนนะคะ ตั้งแต่ปี 2551
โดยมีอาการผิดปกติหลังจากตื่นนอนขึ้นมาในวันนั้นก็เป็นเลย
คือ
1.รู้สึกเหมือนจับความรู้สึกตัวเองไม่ได้ รู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน (ซึ่งอธิบายไม่ได้ค่ะ)
2.มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ อยากอาเจียนบ้าง และทานอาหารไม่ค่อยได้เลย
3.ออกไปข้างนอกมักมีอาการตื่นกลัวโดยไม่ทราบสาเหตุ
4.เมื่อตื่นกลัวแล้ว มักจะมีอาการเหมือนจะเป็นลม ขาอ่อน หรือล้มลงกับพื้น
5.น้ำหนักลด 10 กว่ากิโล เพราะรับประทานอาหารไม่ได้
6.นอนไม่ค่อยหลับ เพราะมีอาการใจสั่น หายใจไม่อิ่ม และสะดุ้ง แม้มีเสียงเบาๆก็ตาม
อันนี้คืออาการที่แอนจำได้คร่าวๆอะนะคะ
.
จากนั้นจึงเป็นที่มาของการออกตามหาว่า ชั้นกำลังป่วยเป็นอะไร ? ทรมานเหลือเกิน
.
จึงไปพบคุณหมออายุเวชค่ะ คือหมอทั่วไป
เล่าอาการให้คุณหมอฟังแบบละเอียด และคุณหมอก็ได้ส่งตรวจคือ
- เจาะเลือด ไทรอยด์ / x-ray ปอด / ตรวจคลื่นหัวใจ
ผลที่ได้คือ ปกติทุอย่าง เฮ้ออออ .........
.
แอนไปตรวจแบบนี้ถึง 3 โรงพยาบาลนะคะ สุดท้ายแอนไปเจอคุณหมอด้านโรคหัวใจท่านนึงที่ตรวจคลื่นหัวใจให้แอน และผลออกมาว่า ปกติ 
.
แอนจึงได้ถามคุณหมอไปว่า คุณหมอเคยเจอเคสแบบนี้มั้ย ที่ตรวจทุกอย่างแล้วไม่เจออะไร มีความเป็นไปได้บ้างมั้ยว่าจะเป็นอย่างอื่น ขอให้คุณหมอแนะนำมาได้เลย
คุณหมอดีมากค่ะ ก็ แนะนำมาว่า "ผมขอแนะนำให้ไปตรวจกับคุณหมอจิตเวชดูครับ"
.
นาทีที่ได้ยินไม่โกรธเลย ไม่อะไรเลยค่ะ ดีใจด้วยซ้ำว่า มันมีทางออกสินะ ดีใจค่ะ
.
ตั้งหลักกลับบ้าน เปิดคอม ค้นหาอาการที่เราเป็นว่า คืออาการอะไรกัน?
หาไปก็เจอโรคเครียด แต่.......... ยังไม่ใช่
หาวนไป  วนไป  แบบนั้นประมาณ 2 สัปดาห์  จนเจอว่า "โรคแพนิค"
โอโหใช่เลย ที่ชั้นตามหามาเป็นเดือน มันโรคนี้นี่เอง
.
ขั้นต่อไป หาโรงพยาบาลที่รักษาโรงจิตเวชค่ะ
โรงพยาบาลแรกคือ โรงพยาบาล ราชบุรี ค่ะ เพราะบ้านอยู่ที่นั่น
พอย้ายมาอยู่ กทม. ก็ย้ายโรงพยาบาลค่ะ
โรงพยาบาลที่ 2 สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ค่ะ
ปัจจุบัน
โรงพยาบาลภูมิพลฯ ค่ะ ใกล้บ้าน (แต่แอบคิดถึงหมอที่รักษากันมาร่วม 10 ปี)
.
.
หลังจากนั้นแอนก็เข้าสู่ การเป็นโรคซึมเศร้า แบบไม่รู้ตัว แต่มารักษาเมื่อ 2557ค่ะ
โดยคุณหมอที่สมเด็จฯ (งือคิดถึงหมอจุง) ประเมินจากการที่แอน overdose ยา
จนต้องเข้ารักษาใน ICU อยู่โรงพยาบาลอีกเป็นครึ่งเดือน แง จะไม่ทำอีก
.
ขอไม่ลงรายละเอียดชื่อยานะคะ
แต่บอกเลยว่าเอฟเฟคของยาซึมเศร้านั้น ร้ายกาจเหลือเกิน  ฮือออออ
เช่น 
-  ทำให้อ้วน  
-  ทำให้สิวขึ้นจนหน้าพังพินาศได้เลย 
-  ต้องระวังค่าเลือด    
-  ทำให้ความดันต่ำ  ><  อันนี้กำลังประสบอยู่  เกือบทำใบขับขี่ไม่ผ่าน
-  ทำให้ง่วงจนโงหัวไม่ขึ้นไปเลย หลับไปเลย แล้วไปตื่นอีกวัน 
-  ทำให้ผมร่วง พอรำคาญเล่นก็มี
-  ทำให้เป็นตะคริว และต้องคอยกินเกลือแร่เสริมทั้งวันก็มี
-  ทำให้มือสั่น ขาสั่น 
-  ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
-  ทำให้ไม่อยากอาหาร อันนี้จัดว่าดี 555555
และอีกสารพัดสารเพค่ะคุณ ><
.
.
ที่นี้อาการของโรคซึมเศร้ามันเป็นยังไงหรอ ไหนเล่ามาสิ๊ ???
.
ต้องอธิบายแบบนี้ก่อนว่า ความเศร้ากับอาการซึมเศร้าต่างกันมาก
ปกติคนที่กำลังเศร้าจะเปิดเผยให้เห็นว่ากำลังเศร้า
แต่ผู้ป่วยที่กำลังมีอาการซึมเศร้าจะรู้สึกผิดที่เป็นแบบนี้
เลยไม่ยอมให้คนรู้
บางทีจะเฟคภายนอก ให้ดูเหมือนปกติ
พยายามคุยเล่น ยิ้มแหยๆ
แล้วอยู่ดีๆอ้าว.......ฆ่าตัวตาย จะสังเกตว่าคนรอบตัวก็จะงงเสมอ เพราะแบบนี้แหละ

ดังนั้นอย่าดูแต่ภายนอก ต้องดูจากกิจกรรมและคำพูด
คนที่ป่วยมักจะหายๆไป เก็บตัว พูดจาฟังดูท้อแท้ ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
เมื่อสังเกตเห็นแล้วก็ ให้โอกาสเค้าเล่าปัญหา 
****ไม่ต้องแนะนำอะไร 
****แค่เข้าใจและเห็นใจตามปกติจะช่วยได้มากที่สุด
.
อาการของผู้ช่วยซึมเศร้าก็อาจจะมี มากกว่านี้ก็ได้ 
เช่น หงุดหงิด ก็ได้
- ใครพูดอะไรให้สะเทือนใจ ก็ร้องไห้ ท้อแท้ อยากหนีไปไกลๆ ประมาณนั้น
- บางคนเก็บตัว ไม่อยากพบเจอใคร 
- บางคนง่วงซึมมาก ทำงานไม่ไหวเลยก็มี 
- บางคนในสมองคิดแต่ว่า ตัวเองไม่มีค่า ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่มีอะไรดีเลย
- หรืออาจรู้สึกว่า ขาดความรัก ต้องการความรักความเข้าใจ
- รู้สึกเบื่อหน่ายชีวิต 

ทั้งนี้ทั้งนั้นอาการของผู้ป่วยซึมเศร้าอาจจะมีมากกว่านี้ และแอนอาจจะเขียนลงไปไม่หมดนะคะ 
.
.
และอีกเรื่องที่อยากให้เข้าใจผู้ป่วยซึมเศร้า คือเรื่องการฆ่าตัวตาย ในผู้ป่วยซึมเศร้า
การฆ่าตัวตายในผู้ป่วยซึมเศร้านั้น จริงๆแล้ว มันมาจากความทรมานจากโรคที่เป็น ความทรมานจากอาการซึมเศร้าน่ะค่ะ เราก็เลยอยากจะหนีมันออกไปให้พ้นๆ 
บางคนเลยเลือกวิธีนี้ 
.
แต่ ....... จากที่ได้ศึกษาและฟังบรรยายจากคณะแพทย์ที่แอนเคยไปร่วมงานนะคะ
เค้าบอกว่า 20 นาทีแรก ที่คุณเข้าไปพูดคุย เข้าไปหา กับคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายเนี่ย ช่วยลดโอกาส การฆ่าตัวตายลงได้ราวกับปฏิหารย์เลยนะคะ
มันเท่ากับว่า คุณช่วยชีวิตคน 1 คน ให้รอดจากความเป็นความตายได้เลยหละ
.
.
ส่วนการรักษาโรคซึมเศร้านั้น ก็มีหลายวิธีด้วยกันนะคะ 
- ด้วยยา **เป็นหลัก
- ด้วยการบำบัด โดยนักจิตวิทยา หรือ แพทย์ผู้รักษา ***อันนี้ถ้าทำต่อเนื่องเป็นประจำจะให้ผลที่ดีมากค่ะ เพราะเมืองนอกมักรักษาด้วยวิธีนี้เป็นหลัก แต่ในไทยจิตแพทย์เราไม่เพียงพอนะคะที่จะทำการบำบัดแบบเมืองนอกได้
- ด้วยการฝึกสติ  หรือ บำบัดสติ (ฝึกสตินะคะไม่ใช่สมาธินะคะ คนละอันกันนะคะ สมาธิไม่เหมาะกับคนไข้จิตเวชนะคะ)
- ออกกำลังกายก็ช่วยได้ค่ะ 
- บำบัดอาการนอนไม่หลับ ด้วย แสงสีเหลือง (เดี๋ยวอันนี้จะมาลงให้ทีหลังนะคะ)
.
ขอทิ้งเบอร์โทรปรึกษาสำหรับผู้ป่วยซึมเศร้าไว้นะคะ ไว้ปรึกษายามฉุกเฉิน
อาสาสมัครสะมาริตันส์
โทร. 02-713-6793 (เที่ยงถึงสี่ทุ่ม ทุกวัน) 
.
.

และขอจบเท่านี้ก่อนนะคะ วันนี้เมื่อยมาก 555+++  แล้วมีอะไรเพิ่มเติม จะมาเติมให้ในกระทู้นะคะ 
.

ขอบคุณสำหรับการติดตาม และเข้ามาอ่านนจบค่ะ

.

 


AnnMirai

AnnMirai

ตะหวัดดีค่ะชื่อ​ แอน​ ?

FULL PROFILE