เทรนด์สกินแคร์ใหม่ที่ช่วงนี้หลายๆ แบรนด์ต่างปล่อยออกมาสู้กันสุดฤทธิ์ กับสิ่งที่เรียกว่า "Ampoule"
บางคนอาจงงว่า Ampoule คืออะไรกันนะ เป็นสกินแคร์แบบไหน ใช้เพื่ออะไร ขั้นตอนไหน และดีกว่าสกินแคร์ที่เรามีอยู่ยังไง? ทำไมต้องใช้ ทุกคนถามที่ทุกคนสงสัย ใน Jeban's LAB กระทู้นี้จะทำให้ทุกคนรู้จัก Ampoule มากขึ้นแน่นอนค่า
Ampoule อ่านว่า "แอมพูล"
สกินแคร์ที่คล้ายกับ Essence และ Serum แต่ Texture จะเข้มข้นกว่า เพราะเค้าเกิดมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวในวันที่เราต้องการบำรุงผิวอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องโบกบำรุงครีมหนาๆ ให้หนักผิว เช่น วันที่ผิวเหนื่อย , ก่อนวันสำคัญ หน้าตาของแอมพูลส่วนใหญ่จะมาให้แพคเกจที่เป็นหลอดหรือขวดเล็กๆ แต่ก็ยังมีบางแบรนด์ที่ขายเป็นดรอปขวดใหญ่ๆ ซึ่งจะเป็นสกินแคร์สายเกาซะส่วนใหญ่ค่ะ
เรียงลำดับยังไงดีล่ะ ?
Essence (น้ำตบ) > Serum (เซรั่ม) > Ampoule (แอมพูล) > Cream (ครีม)
Ampoule มีหลายสูตร ช่วยแก้ปัญหาผิวหลายแบบ
ส่วนใหญ่คนคิดแอมพูลช่วยแค่เรื่องความชุ่มชื้น แต่เปล่าจ่ะ แอมพูลเหมือนสกินแคร์ทั่วไปเลย ที่มีทั้ง สูตรความกระจ่างใส , ความอ่อนเยาว์และริ้วรอย , ปลอบประโลมผิว และสูตรอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะประเทศเกาหลี เค้ามาเป็นขวดใหญ่ๆ กันเลยค่ะ
Taiyou No Aloe Hyaluronic Acid
(ไฮยาขวดม่วง ที่ฮิตหิ้วกันมาจากญี่ปุ่น)
ขนาด 10 ml
ขวดละ 239 บาท
หาซื้อได้ที่ : ร้านดรักสโตร์ญี่ปุ่น เช่น ซูรูฮะ , มัตสึโมโตะ
รีวิว : ตัวนี้เป็นไฮยารูรอนที่มีความเข้มข้นสูง ที่ช่วยเรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวโดยเฉพาะ มีช่วงนึงที่คนไทยฮิตมาก จนของเกือบขาดตลาด เพราะทั้งราคาไม่แพง หาซื้อง่าย แถมยังเป็นไอเท็มขายดี 1 ใน 3 ของ COSME JAPAN ด้วยค่ะ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือเหมือนหัวเชื้อที่สามารถใช้ผสมกับสกินแคร์ตัวอื่นๆ , เติมความชุ่มชื้นให้ผิวก่อนใช้ชีทมาสก์ หรือจะใช้ทาริมฝีปาก มือ,ข้อศอก , เข่าที่แห้งกร้านได้เหมือนกันค่ะ
เนื้อ : ด้วยความที่เป็นสูตรเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบเข้มข้นมากๆ เลยทำให้เนื้อค่อนข้างหนืด แต่ซึมลงผิวง่าย และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะ
Laneige Focus Active Ampoule
ขนาด 7 ml
กล่องละ 1,350 บาท ( 1 กล่องมี 4 ชิ้น)
หาซื้อได้ที่ : เคาน์เตอร์ Laneige ทุกสาขา
Laneige Focus Active Ampoule Panthenol (สีเขียว)
รีวิว : เป็นสูตรที่ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคืองจาก Mint Extract และช่วยฟื้นฟูผิวใหม่ให้แข็งแรงขึ้น ด้วยสารสกัดจาก Forest Yeast แถมยังช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนผิว
เนื้อ : เนื้อสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่น มีความข้น หนืดๆ ก่อนทาลงบนผิวอาจจะต้องใช้วิธีการตบๆ เพื่อวอร์มเนื้อครีมก่อน จะได้เกลี่ยง่ายและซึมลงบนผิวได้ดีขึ้นนะคะ แอบบอกว่าตัวนี้เทออกจากขวดยากนิดนึง เพราะเนื้อเข้มข้น
Laneige Focus Active Ampoule Amino Acid (สีชมพู)
รีวิว : สูตรนี้จะช่วยฟื้นฟูผิวเรื่องความกระจ่างใส และยกระดับสีผิวด้วยส่วนผสม Amino Acid และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย Acerola ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมถึง Acai Berry ช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และลดเลือนจุดด่างดำ
เนื้อ : เนื้อใสๆ คล้ายน้ำตบ ความดีงามของตัวนี้คือเนื้อเบาบาง ซึมลงผิวง่าย ผสมกับสกินแคร์อื่นๆ ได้ดี ไม่แยกชั้น
Laneige Focus Active Ampoule Peptide (สีส้ม)
รีวิว : สูตรนี้ช่วยเรื่องผิวอ่อนเยาว์ และลดการสูญเสียของน้ำใต้ผิวเมื่ออายุมากขึ้น มีสาร Soy Peptide ที่ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนในผิว และ Musk Mallow Extract ช่วยฟื้นบำรุงความแน่นกระชับของผิว รวมถึง Adenosine ที่ลดปัญหาเรื่องริ้วรอย
เนื้อ : เนื้อเจลใสๆ คล้ายน้ำตบ แต่มีความหนาแน่นกว่า เกลี่ยง่าย
SōS HYALURON X3
ขนาด 10 ml
ราคา 199 บาท
หาซื้อได้ที่ : ร้านดรักสโตร์ญี่ปุ่น เช่น ซูรูฮะ , มัตสึโมโตะ
รีวิว : ตัวนี้เน้นหนักไปที่เรื่องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะมีส่วนผสมหลักคือ ไฮยาลูรอน ตัวนี้จะคล้ายกับ Taiyou ตรงที่สามารถบำรุงได้หลากหลาย ตั้งแต่ผสมกับสกินแคร์เพื่อบำรุงผิว , บำรุงก่อนใช้ชีทมาสก์ , ผสมรองพื้น รวมถึงบำรุงริมฝีปาก และเส้นผมได้ด้วยค่ะ
เนื้อ : เนื้อใส มีความเข้มข้นคล้ายเซรั่ม ไม่หนืด และซึมลงผิวง่าย ตัวนี้แอบมีกลิ่นสารบำรุงต่างๆ เบาๆ ค่าา
Biotherm Life Plankton Day+ Night Ampoule
ขนาด 10 ml
ราคาคู่ละ 2,200 บาท
หาซื้อได้ที่ : เคาน์เตอร์ Biotherm ทุกสาขา
รีวิว : แอมพูล ทรีทเม้นต์เข้มข้นน้องใหม่ล่าสุด ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ซึ่ง 2 ขวดนี้เค้ามาเป็นแพคคู่ บำรุงผิว เช้า-เย็น ช่วยเรื่องฟื้นบำรุงให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และกระจ่างใส ผิวแลดูอิ่มน้ำ อัดแน่นด้วยโปรไบโอติกแฟร็กชั่นเข้มข้น 5% พร้อม Bio-fermented hyaluronic acid 1.5% และ สารสกัดจากสาหร่าย คาราจีแนน ทั้ง 2 ขวดนี้ แนะนำให้เขย่าก่อนใช้ด้วยนะคะ
Biotherm Life Plankton Day
เนื้อ : เนื้อมีความเข้มข้น คล้ายเซรั่ม สีขาวขุ่นเหมือนนำ้นมใสๆ มีกลิ่นแพลงตอนตามสไตล์แบรนด์ ซึมง่าย เกลี่ยง่าย และไม่เหนียวผิวเลยค่า
Biotherm Life Plankton Night Ampoule
เนื้อ : เนื้อจะมีความเข้มข้นมากกว่า Day Ampoule เพราะด้วยความที่ใช้บำรุงในตอนกลางคืน แนะนำให้วอร์มเนื้อครีมก่อนใช้ และบวกกับการนวดด้วยจะซึมลงผิวง่ายมากค่า
Ampoule ใช้กับอะไรได้บ้าง
- ทาเดี่ยวๆ บำรุงเน้นๆ
- ผสมกับสกินแคร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- บางตัวอาจสามารถใช้บำรุงส่วนอื่นได้ เช่น ข้อศอก เข่า เส้นผม
- ทาบำรุงก่อนใช้ชีทมาสก์
- ผสมกับรองพื้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
Ampoule ทั้ง 6 ตัวที่แบมพูดถึงในกระทู้นี้หลักๆ จากเป็นตัวที่ออกใหม่ และหาซื้อง่าย ตามเคาน์เตอร์แบรนด์ และร้านดรักสโตร์ทั่วไปค่ะ กระทู้นี้ทำให้ทุกคนเข้าใจคำว่า "แอมพูล" เพิ่มขึ้นแล้ว
และใครที่ยังไม่เคยใช้แอมพูลมาก่อน บอกเลยว่าอยากให้ลอง! ส่วนใครที่เป็นสายสกินแคร์และมีแอมพูลในดวงใจตัวอื่นอยากจะรีวิวบอกต่อ ขอท้าให้ แปะ Comment หรือตั้งกระทู้รีวิวมาอวดได้เลยจ้าาาา รอดูอยู่น้า ^^
Jebanista คุณก็เป็นได้!
มีรีวิว หรือ How to อะไรเอามาแชร์กัน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ JEBAN COMMUNITY
ได้ง่ายนิดเดียว เริ่มเขียนเลย