เปิดกรุสกินแคร์สุดยอดอาหารผิว ขาวใส ในราคาประหยัด!!

ทักทายเซย์ไฮค่ะทุกคน

ปฏิเสธไม่ได้เนอะว่าทุกวันนี้รูปร่างหน้าตาผิวพรรณเป็นอะไรที่สำคัญมากกกกกจริงๆ ไม่ว่าจะทำอะไรคนก็จะชอบให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกก่อนตล๊อดดด เพราะฉะนั้นเราก็ควรจะดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอเนอะ

อย่างการกินอาหารที่มีประโยชน์ก็มีส่วนช่วยทำให้ผิวพรรณดูดีขึ้นได้เหมือนกันค่ะ สังเกตมั้ยว่าคนที่กินผักผลไม้เป็นประจำเนี่ย มักจะมีผิวที่สดใสเปล่งปลั่งกว่าคนที่ไม่กินเลย?? เพราะผักผลไม้มีวิตามินซึ่งเป็นอาหารผิวชั้นดีนั่นเองค่าา (แต่ก็เข้าใจอะเนอะ บางคนก็ไม่ชอบกินจริงๆ จะไปบังคับให้กินก็ยากกก)

ก็เลยจะมาพูดถึงตัวช่วยในการเติมอาหารผิวอีกวิธีที่ง่ายมากๆ แบบที่ไม่ต้องไปทนกินอะไรที่ไม่ชอบ แล้วก็ไม่เจ็บตัวเลยสักนิ๊ดดด อีกวิธีที่ว่านั่นก็คือ…. สกินแคร์บำรุงผิวนั่นเองค่าาา

วันนี้เราจะมาเปิดกรุรีวิวสกินแคร์ทั้งหลายแหล่ที่มีอยู่ คัดเอาแต่ตัวที่มีส่วนผสมของอาหารผิวเท่านั้น รีวิวจัดเต็มทั้งผิวหน้าและผิวตัวไปเลยค่ะ

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลย!

มาเริ่มที่ผิวตัวกันก่อนนนนน

อย่างแรกที่สำคัญมากๆคือการอาบน้ำชำระล้างสิ่งสกปรกค่ะ เพราะจะทำให้เราสดชื่น ผ่อนคลายกับความเหนื่อยล้า แต่ที่เคยได้ยินมา หลายๆคนบอกว่าเจอแต่สบู่หรือพวกครีมอาบน้ำที่ไม่ค่อยชุ่มชื้นเท่าไหร่ ใช้แล้วผิวแห้งแตก เพราะฉะนั้นเดี๋ยววันนี้จะเริ่มที่ไอเท็มอาบน้ำก่อนเลย เลือกตัวที่นอกจากจะทำให้ผิวขาว ใส หอมละมุนทั้งวันแล้ว ยังมอบความชุ่มชื้นให้เราแบบจัดเต็มด้วยนะ ลืมผิวแห้งเอี๊ยดไปได้เลย

ไอเท็มอาบน้ำที่ว่าก็คือ สบู่ซิตร้า สูตร Mixberry & Yogurt สบู่ผิวขาวจากซิตร้า ได้ยินชื่อแบรนด์นี้ทุกคนก็คงวางใจ เพราะเค้าอยู่คู่คนไทยมายาวนานเหลื๊อออเกิน ที่บ้านเราก็เป็นสาวกเค้าเหมือนกันค่ะ ใช้กันทั้งบ้าน555

สบู่ตัวนี้เป็นสูตร Mixberry & Yogurt เป็นสบู่สครับเซลลูโลสจากพืชธรรมชาติ ที่มีทั้งมะขาม น้ำนมข้าว และ AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวกระจ่างใสค่ะ

และที่สำคัญสูตรนี้เนี่ย เค้ารวมเบอร์รี่ที่เป็นอาหารผิวไว้ถึง 5 ชนิดด้วยกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Strawberry , Bitter Cherry , Blackberry , Rasberry และ Blueberry จริงๆแล้วแค่เบอร์รี่ 1 ชนิดก็มีสาร antioxidant ที่เยอะอยู่แล้ว แต่นี่มารวมกันถึง 5 ตัว คิดดูว่าจะ Perfect ขนาดไหน ยังไม่พอนะ สบู่ซิตร้าสูตรนี้ยังมีสารสกัดอื่นๆอีกที่มาช่วยบำรุงอีกขั้นไม่ว่าจะสารสกัดจากมะขาม,น้ำนมข้าว ,วิตามินC&E แล้วก็โยเกิร์ตที่จะทำให้ผิวเรานุ่มมมม ชุ่มชื้น ผิวไม่แห้งตึงค่ะ ^^

ฟองเค้านุ่มมากกก หอมละมุนจริงจังมาก อยากอาบนานๆไม่อยากล้างตัวเลย555 หลังจากใช้คือสัมผัสได้เลยว่าผิวเรานุ่มแล้วก็กระจ่างใสขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่อาบเลยค่ะ เนื้อตัวหอมสะอาดมากกก ผิวนุ่มเนียน แล้วผิวไม่แห้งไม่เอี๊ยดเลยนะ  สรุปคือปลื้มมากๆ ติดใจสุดๆเลยค่ะสำหรับสูตรนี้ ใครมองหาสบู่ผิวขาวอยู่ก็แนะนำตัวนี้แหละค่ะ ขาวจริงแล้วผิวไม่แห้งด้วย เลิฟ

ราคา ก้อนละ 48.-
ซื้อที่ 7-11/ Watsons /ห้างร้านชั้นนำทั่วไป

อาบน้ำให้ผิวสะอาดไปแล้ว ต้องบำรุงต่อด้วยครีมค่ะ เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกขั้น เป็นเกราะป้องกันผิวเราอีกชั้นนึง แต่ว่าต้องเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยเนอะ สำหรับเราแล้วครีมบำรุงผิวในกรุที่เอาออกมารีวิววันนี้คือตัว Scentio Tomato Lycopene & Nano Multi Vitamin Body Essence เลือกมาเพราะว่าเข้ากับหมวดหมู่ที่รีวิววันนี้อะเนอะ เพราะตัวนี้เค้ามีอาหารผิวจากมะเขือเทศ ที่ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสนั่นเองค่า ขวดนี้คือแบบใหญ่มากกกก ใช้ได้นานจริงๆค่ะ

นอกจากไลโคปีนจากมะเขือเทศที่เป็นอาหารผิวชั้นเยี่ยมแล้วเนี่ย ตัวนี้เค้ายังมี Vitamin A, B, C, E และ K คือขนทุกวิตามินมาช่วยเติมเต็มสารอาหารให้ผิวเราได้อย่างล้ำลึกเลย แล้วก็มี Hyaluronic Acid ทำให้ผิวเปล่งประกาย ชุ่มชื้นอิ่มน้ำด้วยค่ะ สุดยอดไปเลยเจ้ามะเขือเทศ ขอโทษที่เราไม่กินแกนะ กินไม่ไหวจริงๆ ขอแค่ใช้ทาก็พอ5555  

เพราะด้วยความที่เค้าเป็นเนื้อเอสเซนส์จะค่อนข้างบางเบามากก แต่ว่าก็ซึมช้าอยู่นะตัวนี้ จะมีความเหนียวๆตัวนิดนึงอะค่ะ ต้องรอพักนึงให้ซึมจนหมด เราใช้มาจะครึ่งขวดแล้ว เรื่องความชุ่มชื้นตัวนี้กลางๆนะ  แต่เรื่องความหอมคือหอมแรงแซงทางโค้งมากๆ ยิ่งใช้คู่กับสบู่ซิตร้าเรารู้สึกว่าผิวเนียนนุ่ม เด้งๆเข้าไปอีก

ราคา 225.-
ซื้อที่ ร้าน Beauty Buffet

ตามมาด้วยการดูแลผิวหน้าค่ะ
ดูแลผิวตัวจบไปแล้ว จะไม่ดูแลผิวหน้าก็ไม่ได้ เพราะจะตัวขาวอย่างเดียว แต่หน้าดำปี๋ไม่ได้น้าา

ขั้นตอนแรกก็คือการล้างหน้า เราจะใช้โฟมล้างหน้าที่เป็นออร์แกนิค ที่เค้าบอกว่าเอาสารสกัดจากธรรมชาติมาถึง 100% เลยทีเดียว โฟมล้างหน้าที่ว่าก็คือออ... St’Ives Bright & Radiant Facial Cleancer นั่นเองงง เราชอบใช้เพราะว่าอ่อนโยนต่อผิวม๊ากกมาก ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้ค่ะ โดยโฟมล้างหน้าของเค้าเนี่ยจะมี 3 สูตรด้วยกัน แต่เราเลือกใช้สูตรนี้เพราะว่าช่วยเรื่องหน้าขาวกระจ่างใส ผิวฉ่ำโกลว์สวยๆค่ะ

โดยสูตรนี้ทางแบรนด์เค้าบอกมาเลยว่าพิงค์เลม่อนกับพีชเนี่ยเป็น super food สุดยอดของอาหารผิวเลยค่าา แต่เจ้าพิงค์เลม่อนนี่หลายคนอาจจะงงๆว่ามันมีจริงหรอ ขอตอบตรงนี้เลยว่า มีจริงๆนะไม่ได้มโนขึ้นมาเอง555 คือจะเป็นเลม่อนที่มีเนื้อข้างในสีชมพู ส่วนเปลือกก็เป็นสีเขียวๆเหลืองๆปกติหมือนเลม่อนทั่วไปเลยค่ะ
คุณสมบัติของเจ้าพิงค์เลม่อนก็คือทำให้ผิวหน้าขาวกระจ่างใส แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันการเกิดริ้วรอยได้ด้วย ส่วนพีชเนี่ย เค้าก็จะมีวิตามินซีที่เยอะมากๆ ทำให้ผิวกระจ่างใส ฉ่ำโกลว์อย่างมีสุขภาพดีค่ะ ^^

เนื้อโฟมเค้าเป็นครีมสีขาว ไม่เหลวไม่ข้นจนเกินไป ตีฟองง่าย เนื้อโฟมนุ่มมาก แถมมีกลิ่นพีชที่หอมมั่กกก >< ตัวนี้ใช้เป็นประจำเลยค่ะ พอล้างเสร็จ ผิวหน้าดูใสขึ้นเลย แบบรู้สึกได้ว่าสะอาดมากๆ แต่คือไม่แห้งตึง ไม่เอี๊ยดเลยค่ะ

ราคา 199.-
ซื้อที่ Watsons

สกินแคร์เติมอาหารให้ผิวขั้นตอนต่อมาก็คือ โทนเนอร์ค่า เช็ดโทนเนอร์หลังจากล้างหน้าอีกรอบนึง จะเป็นการทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ไม่มีสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ และป้องกันไม่ให้เป็นสิวเพิ่มอีก โทนเนอร์ที่เราคัดมาวันนี้ คือ Thayers Witch Hazel Toner นั่นเองค่ะ ตัวนี้เนี่ยฮิตสุดๆในเวลานี้เลยทีเดียว

สูตรที่เราใช้เป็นประจำคือ Rose Petalค่ะ คุณสมบัติเค้าช่วยดูแลเรื่องผิวขาดน้ำ จะทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น แล้วก็ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส รวมถึงมีวิตามินซีที่เป็นอาหารผิว เสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ผิว ทำให้ผิวแข็งแรงไปอี๊กกก

นอกจากนี้เค้าก็มีสารสกัดอื่นๆอีกเยอะมากเลยค่ะที่ดูแลผิวพรรณของเรา ไม่ว่าจะสารสกัดจากเปลือก Witch Hazel ที่มีผสมอยู่ในทุกสูตรของ Thayers เลย โดยเจ้าเปลือกนี้เนี่ยจะมี Hyaluronic acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว กระชับรูขุมขนได้ด้วยนะ

แล้วก็ส่วนผสมอีกอย่างก็คือสาร Tanin ที่จะช่วยสมานแผลค่ะ ใครมีสิวต้องซื้อมาใช้เลยนะคะ สิวหายไว พวกรอยดำรอยแดงก็จางลงด้วย

โทนเนอร์ตัวนี้มีกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ แถมช่วยทำให้หน้าสะอาดแบบจริงจังเลย ใครที่มีปัญหาสิว ผิวขาดน้ำ หน้าหมองคล้ำเนี่ย ควรใช้มากๆ การันตีว่าดีจริงๆจากเราเอง ผู้ใช้หมดมาแล้วหลายขวด อิอิ

ราคา 890.-
ซื้อที่ ร้าน All About You ทุกสาขา

หลังจากเช็ดโทนเนอร์แล้ว มาเติมอาหารผิวกันต่อด้วย การลงเอสเซนส์จ้า หลายคนอาจจะงงว่าเอสเซนส์คืออะไร ต่างจากเซรั่มตรงไหน จะอธิบายคร่าวๆว่า เอสเซนส์จะคล้ายเซรั่มมากๆในแง่ของการดูแลผิว แต่เอสเซนส์จะมีเนื้อที่บางเบากว่าเซรั่มค่ะ จริงๆเลือกใช้อย่างใดอย่างนึงก็ได้แทบจะไม่ต่างกันเลยนะ แต่ถ้าอยากดูแลผิวแบบจัดหนักจัดเต็มก็ใช้แบบแพ็คคู่ได้เลยค่ะ ส่วนลำดับการใช้ก็คือ หลังจากเช็ดโทนเนอร์ ให้ตามด้วยเอสเซนส์ แล้วปิดท้ายด้วยเซรั่มค่าา^^

สำหรับเอสเซนส์ที่มีส่วนผสมของอาหารผิว ตัวเก่งที่เราชอบมากๆ ก็คือ SkinFood Premium Tomato Whitening Essence เป็นเอสเซนส์ที่มีสารสกัดจากมะเขือเทศเกรดพรีเมี่ยม ถึง 30% เลยค่ะ สังเกตหลายๆแบรนด์จะชอบเอามะเขือเทศมาทำไวท์เทนนิ่งกันเยอะมากก เพราะคุณสมบัติเค้าจะช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใสนั่นเองค่ะ

ซึ่งในมะเขือเทศเองจะมีอาหารผิวอยู่เยอะมากๆค่ะ ไม่ว่าจะ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าเคโรทีน และไลโคปิน ซึ่งเจ้า 4 ตัวเนี่ย คุณสมบัติอย่างนึงที่เหมือนกันคือ เค้าจะช่วยเรื่องการต่อต้านอนุมูลอิสระ เหมือนรวมตัวกันมาปกป้องผิวแบบขั้นสุด จัดหนักมากกก ปกติเราไม่กินมะเขือเทศเลยนะเพราะรสชาติเกินจะทนจริงๆ>< แต่ประโยชน์เค้าดีต่อผิวมากกก ก็เลยต้องอาศัยทาสกินแคร์พวกนี้ค่ะ ทดแทนได้เหมือนกัน ^^

เอสเซนส์ของskinfoodตัวนี้ เอาจริงบอกก่อนฝาปั๊มต้องกดเบาๆนะคะ นางรุนแรงมาก ปั๊มทีออกมาเยอะเกิน กี่ขวดต่อกี่ขวดก็เป็นเหมือนกัน5555 ส่วนเนื้อเอสเซนส์จะมีความเหนียวๆนิดนึงค่ะ เราก็เลยจะนวดๆกดๆให้เนื้อเค้าซึมลงสู่ผิวไปให้หมดเลย จะได้ไม่เหนียวหน้ามาก เราใช้เป็นประจำนะ เรื่องหน้าใสเห็นผลจริงค่ะ ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่มขึ้นมากกก กดไลค์รัวๆ

ราคา 990.-
ซื้อที่ ร้านSkinfood ทุกสาขา

ขั้นตอนต่อมาเป็นการลงเซรั่มค่ะ ที่เรามีอยู่จะมี 3 ตัวนะคะ รีวิวทีละตัวเลย

ตัวแรกเป็นเซรั่มแบบซองที่หาซื้อได้ที่เซเว่นเลย ตัวนี้เป็นยี่ห้อ Best Korea สูตร White Strawberry Pomegranate Serum โดยอาหารผิวจากเซรั่มตัวนี้ก็คือเจ้าสตรอว์เบอร์รี่ขาวกับทับทิมนั่นเองค่ะ โดยสตรอว์เบอร์รี่ขาวจะมีประโยชน์ต่อผิวเยอะมากกก ไม่ว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด สร้างคอลลาเจน มีวิตามินเอ,บี,ซี ทำให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น ส่วนทับทิมก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระและมีวิตามินเยอะมากเช่นกัน คือบอกได้เลยว่าเซรั่มตัวนี้มีอาหารผิวชนิดที่ว่าจัดเต็มขั้นสุดมาก  

เซรั่มตัวนี้จะมีความหนึบๆเล็กน้อยค่ะ แต่ว่าซึมไวอยู่นะ กลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ส่วนเรื่องผลลัพธ์เราว่าโอเคเลยแหละ เป็นอาหารผิวที่ดีมากๆ ถึงอาจจะไม่ได้ขาวกระจ่างใสแบบทันใจ แต่ถ้าเทียบกับราคาเท่านี้ก็ถือว่าโอเคเลยแหละ หาซื้อง่ายๆด้วยนะ

ราคา ซองละ 49.-
ซื้อที่ 7-11 ทุกสาขา

ตัวต่อมาเป็นเซรั่มแบบซองเช่นกัน กับ Nami I’m Fresh Jeju Vitamin C Brightening Gel ตัวนี้จะมีสารสกัดจากส้มที่อยู่เกาะเชจูประเทศเกาหลี ที่มีทั้งวิตามินซี,วิตามินบี เป็นอาหารผิวที่ดีมากๆเช่นกันค่ะ

จริงๆแบรนด์เค้าบอกมาว่านอกจากไว้ทาหน้าแบบปกติแล้วเนี่ยยังสามารถเอาไปบำรุงผิวในแบบต่างๆได้ด้วยนะคะ เป็นแบบ9 in 1เลย ไม่ว่าจะการมาส์กหน้า , พอกใต้ตาลดรอยคล้ำ , แต้มรอยสิว ,ทาตัว ,พอกบริเวณมือที่เหี่ยวย่น ,ทาข้อศอก , ทารักแร้ , ทาขาหนีบ สุดยอดเลยมั้ยล่ะ

ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีพาราเบน และไม่มีซิลิโคนนะคะ ใครที่กลัวแพ้และกังวลว่าของเซเว่นราคาถูกๆแบบนี้จะทำให้หน้าแพ้ ขอบอกว่าอ่อนโยนมากๆน้าา แต่ถ้าไม่มั่นใจต้องทดสอบก่อนเนอะ เพราะอาการผิวแพ้ง่ายของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน

เนื้อเซรั่มเป็นสีส้มอ่อนๆเย็นมากกก แถมมีกลิ่นหอมส้มมากเลยค่ะ เกลี่ยง่ายด้วยนะ ซึมลงผิวไวไม่เหนียวเลย ผลลัพธ์ค่อนข้างพอใจค่ะ ตัวนี้เราจะชอบเอามาแต้มรอยสิว รอยจางลงจริงๆ รู้สึกไม่แสบหน้าด้วย ชอบมากกก ^^

ราคา ซองละ 49.-
ซื้อที่ 7-11ทุกสาขา

เซรั่มตัวสุดท้ายเค้าบอกว่าเป็นเซรั่มวิตามินซีบริสุทธ์ถึง 99% เชียวนะ ก็คือเข้มข้นมากกกก เซรั่มที่ว่าก็คือ Provamed Acerola C Serum Acerola Cherry ซึ่งตัวนี้เนี่ย เค้าสกัดจากผลอะเซโรลา เชอร์รี่ ที่ถือว่าเป็น Super Fruit เลยค่ะ เพราะว่าให้วิตามินซีมากกว่าส้มถึง 30 เท่าเลย! ก็เท่ากับว่าทาเจ้าตัวนี้เข้าไป เราจะได้รับอาหารผิวที่เข้มข้นมากกกแบบเวอร์วังอลังการทีเดียว5555

นอกจากนี้แล้วเค้าก็ยังมีวิตามินB3อีก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวกระจ่างใส พวกรอยดำรอยแดงหายเกลี้ยงงง

แล้วด้วยความที่เค้ามีวิตามินที่ค่อนข้างเข้มข้นมากๆ เราก็เลยจะเอามาทาคอด้วย หน้ากับคอจะได้ขาวเท่ากัน ไม่งั้นหน้าขาววอกน้าา เตือนไว้ก่อน5555

เนื้อเซรั่มเป็นแบบใส ซึมไว เกลี่ยง่ายมากก ไม่เหนอะหนะเลยค่ะ เรารู้สึกว่าเจ้าตัวนี้เนี่ยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นจริงๆค่ะ เค้าสามารถกอบกู้หน้าเราที่โทรมๆจากการปั่นงานดึกๆไม่ได้หลับไม่ได้นอนให้กระจ่างใสขึ้นได้555

ราคา 255.-
ซื้อที่ ร้านขายยาชั้นนำทั่วไป

แต่การดูแลผิวหน้าทั้งหมดทั้งมวลที่ผ่านมา ยังไม่พอนะ ขั้นตอนที่ไม่ควรปล่อยปละละเลยอีกอย่างคือ ผิวหนังรอบดวงตานั่นเองงง จริงๆบริเวณนี้สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะว่าเป็นส่วนที่บอบบางมาก จะมีริ้วรอยเหี่ยวย่นไวมากกว่าส่วนอื่นๆค่ะ

สำหรับไอเท็มอาหารผิวที่ดูแลผิวรอบดวงตาของเราคือ Boots Acerola  Cherry Whitening Eye Gel สารสกัดจากผลอะเซโรลา เชอร์รี่ เหมือนตัวvit cด้านบนเลย งั้นก็จะไม่อธิบายอะไรมาก555 ทางแบรนด์เค้าบอกเลยนะว่าตัวนี้เนี่ย ท้าเห็นผลเลยภายใน 7 วัน!! เห็นผลไวขนาดนี้ ใครที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำควรตำเป็นอย่างมาก!

จริงๆไอเท็มอะเซโรลา เชอร์รี่นี้เค้ามีหลายตัวออกมาเป็นเซ็ตเลยค่ะ แต่เราเองอายเจลที่มีอยู่ใกล้จะหมดก็เลยซื้อมาแค่1ตัว จริงๆ2จิต2ใจจะซื้อดีมั้ย เพราะหารีวิวแทบไม่มีเลย แต่ก็ชอบตรงสารสกัดจากผลอะเซโรลา เชอร์รี่อะ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจซื้อมา ราคาก็ไม่แพงเท่าไหร่ ไม่เสียหาย555

จะเป็นเจลสีใสๆที่ดูมีความเข้มข้นนะ แต่ว่าซึมไวเกลี่ยง่ายค่ะ ความรู้สึกชุ่มชื้นดวงตาดีนะ ตอนนี้ใช้มาเกือบจะ 2 อาทิตย์แล้วค่ะ รู้สึกว่ารอบดวงตาเรากระจ่างใสขึ้นจริงๆแหละ แต่ไม่ได้รวดเร็วถึงขนาดที่บอกว่า 7 วันอะ คือมันจะค่อยๆขาวขึ้นช้าๆค่ะ แต่ก็คงขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยแหละเนอะ บางคนอาจจะใช้แล้วเห็นช้า/เร็ว ต่างกัน ^^

ราคา 119.-
ซื้อที่ ร้าน Boots ทุกสาขา

จบไปแล้วกับการเปิดกรุรีวิวครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของอาหารผิว แต่ละตัวที่คัดมาก็คือดีๆทั้งนั้นเลย แต่ราคาคือไม่แพงอย่างที่คิดเล้ยยยย หวังว่าจะถูกใจสาวๆที่รักผิวบ้างนะคะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตอนเช้าก่อนออกจากบ้านอย่าลืมทาครีมกันแดดทั้งตัวและหน้าก่อนนะคะ อย่าล้อเล่นกับแดดประเทศไทยเลย ไม่คุ้มแน่5555

เอาเป็นว่าวันนี้ขอตัวลาไปก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้า อยากให้รีวิวหมวดหมู่ไหนคอมเม้นท์บอกกันได้นะคะ ♥♥