My Simple Skincare Routine : ใช้สกินแคร์แบบน้อยแต่มาก ❤️✨

57 12
PARTNERS IN BEAUTY
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาเล่าถึง skincare routine กันค่ะ ว่ามี product ตัวไหนที่เอิร์กชอบหรือขาดไม่ได้กันบ้าง ช่วงนี้เอิร์กอินกับ minimal skincare ที่มีความน้อยแต่มากค่ะ ถึงจะใช้ product น้อยชิ้นแต่ทุกชิ้นสามารถช่วยเสริมให้ผิวมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้น แถมยังช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้ตรงจุด จะมีอะไรบ้างไปฟังกันเลยดีกว่าค่ะ ☺️

My Skin Profile ?


สภาพผิว : ผิวผสม-แห้ง
ปัญหาผิว : สิวอุดตันและสิวอักเสบประปราย ต้องการเริ่มป้องกันริ้วรอย เพราะอายุเกิน mid-20 แล้ว ฮืออ 


Step 01 : Always double clean, like ALWAYS!


วันนี้ขอพูดถึง night routine เป็นหลักนะคะ ก่อนจะจบวันแน่นอนว่าเราต้องทำความสะอาดผิวค่ะ! การทำความสะอาดผิวที่จริงสำคัญมาก แต่ในความสำคัญนี้ ก็ไม่อยากให้ทุกคนไป focus กับผลิตภัทณ์ล้างหน้าเยอะเกินไป เพราะที่จริงการทำความสะอาดคือการทำความสะอาดค่ะ อย่าไปหวังเรื่องการบำรุงกับขั้นตอนนี้มาก อยากให้ทุกคนเน้นเลือกใช้  Cleanser ที่สะอาดและไม่ทำให้ผิวแห้งตึงไปจะดีกว่า #Keyหลัก ของการทำความสะอาดผิวคือ ‘ต้องสะอาดแต่อ่อนโยน’ เอิร์กอยากแนะนำให้ทุกคนแบ่งการล้างหน้าเป็น  2 ขั้นตอนค่ะ 

“First Clean”

การทำความสะอาดครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางค์ ขั้นตอนนี้ต้องใช้ product ที่ทำความสะอาดได้ล้ำลึกหน่อย พวกคราบเครื่องสำอางค์กันน้ำต้องออกจากผิวให้หมด

Bobbi Brown Soothing Cleansing Oil ? ฿ 2,250 I 200ml

ที่จริงใครจะใช้เป็นอะไรก็ได้นะคะ cleansing water หรืออะไรก็ได้เลย แต่เอิร์กชอบ cleansing oil ตัวนี้มากกกก เพราะเค้าอ่อนโยนค่ะ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เข้าตาแล้วไม่แสบเลยยยยยยย แถมล้างได้สะอาดมากๆ มาสคาร่ากันน้ำคืออกหมดแบบไม่ต้องกังวล เอิร์กชอบนวด oil ลงไปบนผิวที่แห้ง พอ makeup ละลายหมดก็ค่อยๆเพิ่มน้ำแล้วนวดจนกว่า oil จะกลายเป็นน้ำนมทั้งหมด แล้วล้างตามด้วยน้ำเปล่าค่าาา

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

“Second Clean”

คือการล้างหน้าอีกรอบนั่นเองค่าาา หลายคนคงจะงงว่าทำไมต้องล้างอีก? มันคือการ make sure ว่าผิวเราไม่มีอะไรตกค้างแล้วจริงๆ เลือก cleanser ที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เพราะอาจจะทำให้ผิวเราเสียสมดุลและความชุ่มชื้นมากเกินไปได้ ขั้นตอนนี้เอิร์กเลือกใช้…


It Cosmetics Confidence in a Cleanser ? ฿ 1,1450 I 148ml

เป็นโฟมล้างหน้าที่ใช้แล้วหน้านุ่มมากกกก เนื้อเจลก็นุ๊มมม ฟองไม่เยอะไป แถมสะอาดไม่ทำให้รู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบผิวอยู่เลย ไม่ทำให้ผิวเราแห้งเกินไป ความจริงจะใช้แค่ acne aid ก็ได้นะคะสำหรับขั้นตอนนี้ แต่เราชอบใช้  It Cosmetics เพราะชอบ feeling ตอนล้างมาก เหมือนเอานมข้นมาล้างหน้าเลยอะ  

Step 02 : Unclog the pores, gently exfoliate your skin


มาถึงขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนนึง คือการผลัดเซลล์ผิวค่ะ ทำไมต้องผลัดเซลล์? ที่จริงแล้วผิวของทุกคนมี process ในการผลัดและสร้างเซลล์ผิวใหม่ด้วยตัวเองอยู่แล้วแหละ แต่เมื่อเราอายุมากขึ้น natural process ในการผลัดเซลล์ผิวก็จะช้าลงทำให้ผิวดูไม่สดใส แถมถ้าเรามีพวกน้ำมันส่วนเกินเยอะๆ ก็อาจจะทำให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบได้ เพื่อที่จะรักษาและป้องกันไม่ให้ผิวเราอุดตันเราควรมีตัวช่วยกันบ้าง ขั้นตอนนี้เอิร์กเลือกใช้...

FYNE Skin BHA Clarifying Serum ⚡️฿ 990 I 30ml


เซรั่มตัวนี้มีส่วนผสมหลักคือ BHA (Beta Hydroxy Acid) หรือ Salicylic Acid 2% ค่ะ ซึ่งเป็นอะไรที่ทุกคนก็น่าจะคุ้นเคยอยู่แล้วแหละว่า BHA ช่วยเรื่องสิวอุดตันได้ดีมากกก เนื่องจากเค้าเป็นกรดที่สามารถละลายในน้ำมันได้ เค้าเลยสามารถเข้าไปฆ่าเชื้อแบคทีเรียและทำความสะอาดรูขุมขนได้ในชั้นที่ลึกมากกว่ากรดประเภทอื่นๆ อย่าง AHA / PHA ที่จะเน้นเรื่องความกระจ่างใสของผิวเป็นหลัก

ที่จริง BHA ก็มีให้เลือกซื้อกันเยอะมากนะคะ แต่ที่เอิร์กชอบ FYNE เพราะว่าเค้าอ่อนโยนกว่า BHA ทั่วไปค่ะ ไม่ทำให้หน้าแห้งลอกเลย ซึ่งอาการแห้งลอกมักจะชอบเกิดขึ้นเมื่อเริ่มใช้ acid ต่างๆ เนื่องจาก FYNE เค้าใส่ส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นอย่าง สารสกัดจากว่านหางจระเข้ และ Sodium Hyaluronate (HA) ร่วมถึงสารที่ช่วยเรื่องการปลอบประโลมผิวอย่าง สารสกัดจากใบบัวบก (CICA) และสารสกัดจากชาเขียว เข้ามาด้วยเพื่อลดการเกิดการระคายเคือง ซึ่งมันช่วยได้จริงๆ ทาแล้วผิวไม่แดงหรือเกิดอาการยิบๆเลย ตอนนี้ใช้ใกล้หมดขวดแล้วค่ะ รู้สึกว่าสิวอุดตันลดลงจากเมื่อก่อน แถมหัวสิวยังหลุดออกมาง่ายด้วย รวมๆคือรู้สึกว่าผิวสะอาดขึ้น คงจะเป็น item ที่มีติดบ้านไว้ให้อุ่นใจ เอิร์กใช้ทุกวันเฉพาะตอนกลางคืนนะ

ปล. ตัวนี้ส่วนผสมดี และปลอดภัยกับผิวแพ้ง่ายมากๆ เพราะเค้าไม่มี Silicone ❌, Alcohol ❌, น้ำหอม ❌, Paraben ❌, หรือ Mineral oil ❌ ให้เราต้องกังวลเลย Highly recommend!

___________________________________________

Step 03 : Be specific, use a target serum!


ในขั้นตอนนี้ทุกคนสามารถเลือกใช้เซรั่มที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวที่เรากังวลได้เลย ซึ่งแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกันนะ 


ช่วงนี้เอิร์กอยากเริ่มใช้อะไรที่เป็น anti-aging ค่ะ เลยเลือกใช้เซรั่ม Peptide เพราะถ้าให้พูดถึง active ingredient สำหรับการป้องกันริ้วรอยระยะเริ่มต้นคงหนีไม่พ้น Peptide อะแหละ อธิบายแบบสั้นๆคือเค้าเป็น fermented proteins ทีมีขนาดโมเลกุลเล็กพอที่จะซึมลงไปในชั้นผิว ซึ่ง Peptide พวกนี้จะทำหน้าที่ส่งสัญญาณกระตุ้นให้ผิวเราผลิต Collagen ขึ้นมาเพิ่ม ส่งผลให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกระชับขึ้นเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

Dr.Jart+ Peptidin Serum ❤️ ฿ 1,XXX I 40ml


อันนี้เราได้มาจากตอนที่ไปเที่ยวเกาหลีค่ะ ที่ชอบตัวนี้มากๆเพราะทาแล้วผิวรู้สึกเหมือนผิวได้รับความชุ่มชื้นและอิ่ม firm ขึ้นจริงๆ ผลลัพธ์อาจจะไม่ได้ว้าวมาก แต่เราคิดว่าการใช้ Peptide แบบนี้เป็นการป้องกันมากกว่า ถือว่าเป็น product ที่ช่วยประคองผิวได้ดี ส่วนตัวคิดว่าเวิคกว่าตัว Coreana Peptide Shot ที่ดังๆแหละ ตัวนี้ยังไม่เข้าไทยนะคะ แต่ถ้าใครมีโอกาสไปเกาหลีก็น่าลองซื้อมาใช้ค่ะ


___________________________________________

Step 04 : Strengthen your skin barrier, stay moisturized!


จะบอกว่า Step นี้ก็สำคัญมากๆเช่นกัน ทาครีมค่ะทุกคน! ใครที่ทาแต่เซรั่มแล้วไม่ยอมทาครีมจะบอกเลยว่าผิดมากๆ เพราะความจริงแล้วเรา “จำเป็น” ต้องทา moisturizer เพื่อ Lock สารต่างๆในเซรั่มที่เราทาไปให้อยู่บนผิวเราไปนานๆ ไม่ใช่ทาแล้วระเหยหรือซึมหายไปหมด ทำให้ไม่เกิดประโยชน์ใดๆนั่นเอง 


นอกจากนี้..การทา moisturizer ยังช่วยทำให้ผิวของเราอยู่ในสภาพที่สมดุลมีความชุ่มชื้นตลอดวัน หรือที่เราเรียกกันว่าผิวแข็งแรงนั่นแหละ ซึ่งสุดท้ายแล้วถ้าเรามีผิวที่แข็งแรง ปัญหาผิวต่างๆ อย่างเช่น สิว ริ้วรอย จุดด่างดำก็จะลดลงได้โดยปริยายค่า 

FYNE Skin Barrier Serum-in-Cream ✨ ฿ 1,390 I 50ml


จะบอกว่าเรารักตัวนี้มากๆๆๆๆ จะเรียกว่าเป็นครีมกันตายเลยก็ว่าได้ เพราะใช้แล้วผิวนุ่มชุ่มชื้น ทาเยอะแค่ไหนก็ไม่อุดตัน แถมรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้นในระยะยาวด้วย เพราะส่วนผสมหลักๆของเค้าคือ Ceramide ค่ะ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น รักษาสมดุลทำให้ผิวไม่แห้งหรือไม่มันจนเกินไป แนะนำมากๆสำหรับทุกสภาพผิวเลย  โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่ายหรือรักษาสิวอยู่ เพราะการที่เรามีปัญหาผิวส่วนนึงก็เพราะผิวไม่แข็งแรงเนี้ยแหละ การที่เรามีสิวก็เท่ากับผิวเราป็นแผลอะทุกคน เพราะฉะนั้นเค้าต้องการสิ่งที่จะช่วยรักษาให้เค้าแข็งแรงขึ้น ซึ่งครีมตัวนี้ก็ตอบโจทย์มาก มีความ simple but effective! ที่เรากล้าแนะนำเพราะครีมตัวนี้เค้าไม่ใส่สารทำให้เสี่ยงต่อการอุดตันอย่าง  Silicone, Alchohol, หรือ Mineral Oil มาเลย โอกาสเกิดการแพ้หรือระคายเคืองถือว่าน้อยมากค่ะ 


Trick เล็กๆ : สำหรับการใช้ครีมตัวนี้คือเค้าดีตรงที่ใช้ได้ทุกสภาพผิวจริงๆค่ะ ความชุ่มชื้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณที่เราเลือกทาเลย คนผิวมันอาจจะใช้สัก 1-2 ปั๊มก็พอ แต่สำหรับเอิร์กผิวแห้ง กดไปเลยค่ะ 3-4 ปั๊มไปเลย ทากันจะหน้าฉ่ำ 555

Pai Rosehip Oil ✨ ฿ 1,950 I 30ml

ตัวนี้เป็น facial oil ช่วยปรับสภาพผิวค่ะ เอิร์กจะใช้แค่ในวันที่รู้สึกผิวไม่ balance หรือต้องการความชุ่มชื้นแบบ extra ก็จะผสมลงไปใน FYNE เลย ส่วนตัวเป็นคนชอบ rosehip oil มาก เพราะเป็น oil ที่ทำให้เกิดการอุดตันต่ำ แถมยังช่วยรักษารอยสิวและรอยแผลเป็นได้ดีด้วยค่ะ ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นน้า เอิร์กใช้แค่บางวันเท่านั้นค่ะ 

AHC The Real Eye Cream for Face ? ฿880 I 60ml

จะบอกว่าตัวนี้ก็ไม่จำเป็นเท่าไหร่อีกอะแหละ จะใช้ moisturizer ปกติทาใต้ตาก็ได้นะคะ แต่เอิร์กเป็นคนตาแห้งมากๆ เพราะฉะนั้นการเจอ eye cream ดีๆถือว่าเป็น big deal มากค่ะ 555 ตัวนี้เราแนะนำสุดๆ สำหรับคนตาแห้งแตกเป็นเส้นๆ เนื้อดี ชุ่มชื้นนาน แถมหลอดใหญ่มากกก คุ้มสุดๆ แถมยังทาได้ทั้งหน้าทั้งตา แต่ที่เราไม่ทาทั้งหน้าเพราะเค้าใส่น้ำหอมมาเยอะอยู่ค่ะ เราไม่ค่อยชอบกลิ่น นอกเหนือจากนั้นถือว่าดีมากๆ เป็น eye cream #ถูกและดี ที่ควรลองมากๆค่าา


จบแล้วกับ my very simple skincare routine ของเอิร์ก เพื่อนๆมีความคิดเห็นหรือคำถามอะไรสามารถเม้นตามใต้กระทู้กันมาได้เลยน้าา หวังว่าทุกคนจะชอบค่ะ อิอิ 





eark-ii

eark-ii

@eark.and.etc

FULL PROFILE