Love @ first sight ❤ เติมความชุ่มชื่น หยุดเวลาผิว ด้วยน้ำตบข้าวหมักญี่ปุ่น

สวัสดีค่า ทุกคน 

POPuniCORN กลับมาแล้วจ้า

ได้แวะเวียนมาอัพเดท เม้นคุยกับเพื่อนๆ 

แต่ไม่ได้ว่างเข้ามาเขียนกระทู้ยาวๆเสียที วันนี้ น้องมาแล้วจ้าาา

มาจ้า เข้าเรื่องเลยยย

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว สกินแคร์ทยอยหมดกันโหดมาก โฟมล้างหน้าก็หมด มอยเจอร์ไรซ์เซอร์  สิ่งบำรุงหน้าหลายๆอย่าง พร้อมใจกันหมด อิหนูจะเป็นลมมม ?

เลยไปเดินเพลินๆในวัตสัน แล้วได้พบกับ 

ผลิตภัณฑ์ไลน์หนึ่งของฮาดะลาโบะ ซึ่งไม่คุ้นหน้าค่าตามาก่อน

นั่นก็คือ Hada Labo Kouji Treatment Essence

ทำไมถึง Love @ first sight ?

 

     เราลองเล่นเจ้า  treatment essence  (ที่จริงเค้ามีผลิตภัณฑ์หลายตัวอยู่นะ แต่ไม่ได้เล่นตัวอื่น ตัวนี้ดึงดูดตาดึงดูดใจอยู่ตัวเดียวเลย) รอบแรก กดผลิตภัณฑ์ ดมๆ (กลิ่นโอเค) เนื้อพอตบๆลงผิว คือ ซึมง่ายมากกกกกก ยังไม่แน่ใจ เดินดูของแล้ววนมาใหม่  อ่านส่วนผสมแล้วโอเค เดินดู 2 - 3 รอบขนาดนี้ สอยมาเลยจ้าา

ความน่าสนใจของ Hada Labo Kouji Treatment Essence 

อยู่ตรงที่ เป็นเอสเซ้นส์ที่มีต้นกำเนิดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมแบบญี่ปุ่น ผสานพลังธรรมชาติจาก “โคจิ” หรือข้าวหมักที่ใช้ทำสาเก  

คุณสมบัติหลักให้การบำรุงผิวไปด้วย วิตามิน แร่ธาตุ อะมิโน แอซิด และสารให้ความชุ่มชื่นผิวตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใส เปล่งประกายความอ่อนเยาว์ 

ข้าวนั้นมีคุณค่าทางอาหารสูงและมีสารสำคัญที่มีประโยชน์มากมาย พอสกินแคร์ที่มีสารสกัดจากข้าวหมักแล้วด้วยนั้น จะช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส ลดความมัน มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดสี ยับยั้งเอนไซน์MMP-2ที่เกี่ยวข้องกับการสลายคอลลาเจนและสามารถลดเลือนริ้วรอยได้  ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิว โดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง

CR : https://www.chemipan.com/

ที่สำคัญ คือ น้องเค้า อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม สี และน้ำมันแร่

   แน่นอนว่าการจะเลือกใช้อะไรก็ตามมาบำรุงผิวหน้าของเรา เราจะอ่านส่วนผสมเสมอ เราเคยใช้ฮาดะกระปุกสีทองแล้ว รู้สึกซึมยากและไม่กล้าลองแบรนด์นี้อีกเลย แต่การซื้อมาครั้งนี้ ได้ลองก่อนรู้สึกชอบ มีความชอบสกินแคร์ญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม แต่ใช้น้ำตบลูกเดือยแล้ว รู้สึกยังไม่เข้ากัน คิดว่าถ้าแพ้หรือไม่ถูกจริตก็จะเอามาใช้กับผิวกายได้ 555 

มาดูส่วนผสมกันดีกว่าค่ะ

• Water

• Glycerin ( เป็น humectant เพื่อช่วยกักเก็บน้ำในผิว และทำให้เวลาทารู้สึกลื่นผิว )

• Butylene Glycol (สารที่ทำหน้าที่เก็บกักความชุ่มชื้น รักษากลิ่นและความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ให้คงรูป มีการวิจัยพบว่า บางคนอาจแพ้ได้  )

• Rice Ferment Filtrate (Sake) (สารสกัดจากสาเก)

• Phenoxyethanol (สารกันเสีย )

• Methylparaben (สารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ได้แก่ แบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อยีสต์ เพื่อป้องกันมิให้เครื่องสำอางเสียง่าย วัตถุกันเสียที่ควรหลีกเลี่ยง  )

• Lactobacillus/Rice Ferment 

• Sorbitol (เป็นสารให้ความหวานหรือน้ำตาลแอลกอฮอล์ )

• Hydrolyzed Soy Protein (โปรตีนที่ได้จากกระบวนการhydrolysisถั่วเหลือง )

• Phytosteryl/Octyldodecyl Lauroyl Glutamate ( การผสมกรดอะมิโนหลายชนิดและสเตอรอลจากพืช กับส่วนผสมที่ทำให้ผิวเนียนนุ่มลื่นมือเวลาสัมผัสชื่อออกทิลโดเดคานอล ทำให้ผิวเนียนนุ่มลื่น )

• Gellan Gum (สารเพิ่มความหนืดใช้เป็นเพื่อเพิ่มความคงตัว  )

• Carbomer ( สารสร้างเนื้อเจล  )

• Cyclodextrin

• PPG-20 Methyl Glucose Ether (สารให้ความลื่น) 

• Disodium EDTA (สารจับประจุในน้ำ ป้องกันไม่ให้มีประจุในน้ำ(ในกรณีที่ไม่ใช่น้ำกลั่น) มารบกวนส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บางตัวที่มีความอ่อนไหวต่อประจุ  )

• Maltitol (สารให้ความหวานแทนน้ำตาล)

• Hydrolyzed Rice Protein (โปรตีนที่ได้จากกระบวนการhydrolysisข้าว )

• Hydrogenated Lecithin (ให้ความชุ่มชื้นผิว ลดการระคายเคืองผิว )

• Polyglyceryl-10 Laurate (สารที่ได้จากพืชทำให้ผิวอ่อนนุ่ม)

• Alcohol* (แอลกอฮอล์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากการหมักโคจิ), 

• Arginine ( เป็นกรดแอมิโนชนิดหนึ่ง คงความเป็นหนุ่มเป็นสาว ช่วยชะลอความแก่ )

• Hydrolyzed Rice Extract ( โปรตีนจากข้าว ผ่านกระบวนการ hydrolysis เพื่อให้สามารถดูดซึมเข้าผิวได้ดี )

***ข้อมูลส่วนผสมเราหาเพิ่มเติมตามเวบไซต์ต่างๆ ถ้าไม่ถูกต้องประการใดแนะนำด้วยนะคะ หลังๆเราชอบอ่านส่วนผสมประกอบกับการตัดสินใจซื้อ  เพราะทำให้เราได้ทราบว่าส่วนผสมแต่ละตัวทำหน้าที่อะไร คุณสมบัติที่ได้ต้องเป็นอะไรบ้าง แล้วได้รู้ด้วยว่าควรจะหลีกเลี่ยงส่วนผสมไหนที่ไม่เป็นมิตรกับผิวบ้าง

วิธีใช้ : หลังจากที่เราล้างหน้าสะอาดแล้ว ใช้ตัวนี้เป็นการบำรุงตัวแรก กด 2 ปั๊ม แล้วตบเบาๆลงบนผิวหน้า ถ้าอยากบำรุงเพิ่มอีกปั๊ม ตบผิว รอให้แห้งก่อนแล้วค่อยทำซ้ำใหม่ 

About This Look!

Before VS After จะเห็นได้ว่าbefore(ทางซ้าย)ผิวดูแห้งกร้านกว่าAfter(ทางขวา) ซึ่งพอทาแล้ว เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมลงผิวแล้ว บำรุงทันที มีความชุ่มชื่น ผิวดูสดชื่นแจ่มใสขึ้น

จุดเด่นที่ทำให้เราหลงรัก ❤

• เนื้อสัมผัสเป็นน้ำ ซึมเข้าผิวได้ง่าย ไม่เหนอะหนะ ทาแล้วมันกลืนหายเข้าผิวไปเลย ตรงนี้แหละมี 10 ให้ 100 เลย

• ไม่มีกลิ่นแอล ไม่มีกลิ่นน้ำหอม ด้วยความที่เป็นข้าวหมักอ่ะนะ เวลาถูๆมือแล้วตบหน้า จะมีความได้กลิ่นข้าวหมากเบาๆ 555

• ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี

• ผิวนุ่มขึ้น

• ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย

• ส่วนผสมธรรมชาติจากข้าว ซึ่งเรารู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก

• ราคาไม่แรงนัก พอมีกำลังซื้อได้

• พูดถึงแพคเกจหน่อย ขาวๆ มีรูปข้าวเหมือนดอกไม้ เรียบๆ ดูมินิมอล น่ารักดีค่ะ 

ความรู้สึกหลังใช้

•     เมื่อซื้อมาแล้ว เราใช้คืนนั้นเลย เป็นการเทสว่าจะแพ้ไหม? โดยตัดสกินแคร์ตัวอื่น ใช้น้ำตบหมักข้าวเท่านั้น หลังเทสผ่านไป 1 คืน พบว่าไม่แพ้ ใช้ต่อได้

•     หลังผ่านไป 3 สัปดาห์กว่าๆ พบว่าผิวมีความใส เนียนนุ่ม ผิวชุ่มชื้น แต่ในเรื่องความอ่อนเยาว์ยังไม่ชัดเจนนัก เราว่าผลจะยังไม่เกิดตอนนี้ แต่จะช่วยดูแลผิวเรา เป็นการเห็นผลแบบระยะยาวมากกว่าเห็นผลแบบระยะสั้น

อย่างที่บอกว่าเราไปเจอในวัตสันมา น้องไม่ได้อยู่รวมกับผลิตของฮาดะลาโบะ

 แต่น้องอยู่แยกตั้งเดี่ยวเลย ถ้าใครไปวัตสันลองสังเกตดูได้ 

จะเป็นไลน์ของ Kouji อย่างเดียวเลยค่ะ 

ใครที่อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว อย่าเพิ่งอยากดั้ย อยากดั้ย ไม่ได้ป้ายยาน้า 

แต่อยากแนะนำ ให้ไปลองเล่นก่อน 

เพราะน้องเค้ามีส่วนผสมบางตัวที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ 

จริงๆน้องเค้ามีคลีนซิ่งโฟม ครีม ไนท์ครีมด้วย 

แต่ทางเรานั้นสนใจตัวน้ำตบนี้อย่างเดียว 

ซึ่งเขามีขนาดเล็ก (30ml)จำหน่าย

เผื่อใครอยากลองก่อน จะได้ไม่เจ็บหนัก

ส่วนเรานั้น บอกตรงว่า น้องเค้าเป็นรักเเรกพบ❤ ได้เล่นแล้วชอบ 

สอยกลับบ้านเลย 

ซื้อเอง จ่ายเอง แต่ไม่เจ็บเองเด้อ 

เอาเป็นว่าอวยแบบพอประมาณ 

วันนี้ขอจบการพรรณนาไว้แต่เพียงเท่านี้

ไว้พบเจอกันใหม่กระทู้หน้า

วันนี้ ขอตัวลาไปก่อนแล้วค่า

บ้ายยย บายยย?