เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวด้วย Acseine Moistbalance Lotion | Lallun

40 9
PARTNERS IN BEAUTY

สวัสดีค่า ลัลได้มีโอกาสไปร่วมทดสอบเนื้อผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่ายมาตัวนึง อยากจะมาบอกเล่ารายละเอียดให้ฟังกันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะรีวิวผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้ชมกันด้วย

วันนี้เราเดินทางมากันที่ห้าง Central Plaza สาขาแจ้งวัฒนะ ค่ะ มาไกลมาก 555+ 

บ้านอยู่สุขุมวิท ทำไมต้องมาถึงนี่ ... ก็เพราะว่าเค้ามีผลิตภัณฑ์เปิดตัวใหม่เป็นสาขาแรกกับทางห้าง Central ซึ่งก่อนหน้านี้เคยได้เปิดตัวไปแล้วกับทาง ICONSIAM ซึ่งเป็นที่แรกของประเทศไทยไปหมาดๆ ที่ต้องขอบอกว่าเป็นนวัตกรรมสุดล้ำ กวาดรางวัลมาเยอะแยะมากมายจากประเทศญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ

ACSEINE MOISTBALANCE LOTION
(โลชั่นนำ้ตบแอคซีน มอยส์บาลานซ์)


โลชั่นตัวนี้จริงๆลัลเคยได้ยินชื่อมานานมากแล้วตามหน้า Search Engine ต่างๆ เพราะเป็นน้ำตบที่ขึ้นแท่นติดอันดับของรางวัล Cosme ในหมวด Toner/Lotion อีกทั้งยังได้คะแนนรีวิวจากสาวๆจีบันถึง 5.0 อีกด้วย เค้าจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน เป็นหลักๆเลย (ทางแบรนด์เองก็ได้เคลมมาว่า โลชั่นตัวนี้สามารถเก็บกักความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 12 ชม.)


หลายคนอาจสงสัยว่า จริงๆแล้วการเติมความชุ่มชื้นผิว ควรทำเฉพาะคนที่มีผิวแห้งหรือไม่? ... คำตอบคือ ไม่เสมอไปค่ะ จริงๆแล้วการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวสามารถทำได้ในทุกสภาพผิวเลย เนื่องจาก


สาเหตุสำคัญ แรกเลย คือ “ปัญหาผิวขาดน้ำ”ค่ะ และความชุ่มชื้นที่เติมเข้าไป ไม่ได้ทำให้ผิวมันกว่าเดิมด้วย แต่ทำให้ผิวเราไม่มันเกินไปต่างหาก

เพราะว่า พอผิวเราไม่มีความชุ่มชื้น ต่อมไขมันก็จะผลิตความมันออกมามากขึ้นเพื่อปรับสมดุลผิวไม่ให้ผิวขาดน้ำเกินไป ถ้าใครมีปัญหาหน้ามันที่แก้ไม่ตก ลองหันมาโฟกัสที่ความชุ่มชื้นค่ะ


สาเหตุที่สอง นอกจากเซลล์ผิวเก่าผลัดออกไม่หมดแล้ว ผิวที่ขาดความชุ่มชื้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหมอง ถ้าใครมีปัญหาหน้าหมองแบบ แก้ไม่หายสักที ก่อนจะไปหา Whitening ลองเริ่มที่วิธีง่ายๆ นี้ดูค่ะ คือการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ หรือเซรั่มที่มีส่วนกระตุ้นให้ผิวสร้างความชุ่มชื้น พอผิวอิ่มน้ำ ก็จะช่วยให้ผิวเราดูเปล่งปลั่งขึ้น


อย่างสุดท้าย คือ ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น จะทำให้ผิวง่ายต่อการระคายเคือง และเป็นสัญญาณของผิวอ่อนแอ ลองสังเกตเวลาใช้โฟมล้างหน้าแรงๆ ล้างแต่ละที ผิวแห้งเอี๊ยด สิ่งที่มักตามมาคือรอยแดง และแพ้คันได้ง่าย แต่ถ้าหากมีน้ำเติมเต็ม ความชุ่มชื้นเหล่านี้ก็จะช่วยปกป้องผิวไม่ให้แพ้หรือระคายเคืองต่อสิ่งเร้าได้ง่ายนั่นเอง


Referrence by: Six Benefits To Hydration Your Skin And How To Get That Boing Boing Effect 


เทคโนโลยี

Allergen Control System Theory for sensitive skin ระบบควบคุมสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองซึ่งเป็นเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะของแอคซีน
 

Balance & Shield คงสมดุล และเสริมปราการ เพื่อผิวสุขภาพดี ไร้ปัญหา แห้งกร้าน

 และระคายเคืองแพ้ง่าย


Cell Bounce Technology ช่วยเติมเต็มเซลล์ผิวชั้นบนที่แห้งให้ดูเด้ง อิ่มเอิบ ผิวกระชับและเส้นริ้วรอยดูเลือนลง  


Nano - Capsulation บรรจุเซราไมด์ขนาดนาโนเฉพาะของแอคซีนที่ขนาดเล็กกว่าช่องว่างชั้นผิวหนังกำพร้าจึงซึมซาบและเติมความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก เติมเต็มร่องผิวแห้งให้กลับมาชุ่มฉ่ำ โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะ     


pH Balance Water  ช่วยให้สภาวะความเป็นกรดด่างของผิวกลับมาสมดุล แข็งแรงตามธรรมชาติ    

ส่วนผสมสำคัญ


เซราไมด์ (Ceramide) : คือสารจำพวกไขมัน ที่มีชื่อว่า สฟิงโกไลปิด (Sphingolipid) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) มีหน้าที่ในการปกป้องเซลล์จากสิ่งแปลกปลอมภายนอก และยังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ผิวหนังสามารถทำหน้าที่อุ้มน้ำ และรักษาระดับการซึมผ่านของน้ำในผิวหนัง โดยเซราไมด์จะพบได้ที่ชั้นหนังกำพร้าชั้นนอก (Stratum Corneum)ซึ่งเป็นบริเวณผิวชั้นบนสุดของหนังกำพร้า (Epidermis) โดยจะอยู่ติดกับเคราติน (Keratin) ของผิว


อนุพันธ์วิตามินซี : ถูกดัดแปลงมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของวิตามินซีรูปแบบธรรมชาติ อนุพันธ์วิตามินซีจึงแสดงประสิทธิภาพได้เต็มที่และดูดซึมสู่ผิวของเราได้ง่าย โดยจะเปลี่ยนเป็นวิตามินซีให้อยู่ในรูปออกฤทธิ์ เมื่อถูกดูดซึมเข้าผิวหนังไปแล้ว  สามารถยับยั้งการเกิดเมลานิน เรียกกระบวนการเกิดเมลานินว่า Melanogenesis โดยจะเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ไม่ให้ทำงานและยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ คุณสมบัติคอลลาเจนคือช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นดูอ่อนเยาว์ 



โซเดียมไฮยาลูโรเนต (Sodium Hyaluronate) : เกลือของกรดไฮยาลูรอนิค เนื่องจากมีขนาดโมเลกุลที่เล็กกว่า จึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเมื่อใช้เฉพาะจุด และสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้มากถึง 1000 เท่า



*** ไม่ใส่สี, แอลกอฮอล์, พาราเบน, สารตึงผิว, น้ำหอม และผ่านการทดสอบว่าไม่ใช่ต้นเหตุของการเกิดสิว (Non-comedogenic) ***

ลักษณะ


มาในขวดสีฟ้าอ่อนไล่ระดับกับสีขาว ดูแล้วสะอาดตาและเรียบง่าย ปริมาณสุทธิ 360 ml. คือขวดใหญ่มาก มีฉลากทั้งภาษาอังกฤษ ในส่วนของด้านหน้าขวด และภาษาญี่ปุ่น บอกวันที่ผลิต, สรรพคุณ, ปริมาณ กำกับอยู่ด้านหลังขวด ตัวนี้ MADE IN JAPAN ค่ะ 

เปิดปิดฝาขวดโดยการหมุน และจุดสังเกตในส่วนของฝาขวดนั้น มีตัวอักษรเขียนไว้ว่า AQUA ซึ่งหมายถึง "น้ำ" นั่นเอง ในส่วนนี้ต้องระวังหน่อยตอนใช้งานนะ เพราะช่องปากขวดค่อนข้างกว้าง ให้เทโลชั่นอย่างเบามือค่ะ

ลักษณะเนื้อโลชั่น


โลชั่นเนื้อน้ำ ใสไม่มีสี ไม่มีกลิ่นใดๆ คือจะรู้สึกว่าสัมผัสเหมือนน้ำ มีความบางเบามากๆ สัมผัสลงบนผิวรู้สึกเย็นสดชื่น ลื่นมือเพียงเล็กน้อยค่ะ 



วิธีการใช้

หลังจากการล้างหน้าแล้ว ให้เราเทโลชั่นเท่าปริมาณเหรียญ 10 บาท หรือ เหยาะขวดโลชั่นประมาณ 2-3 ครั้ง ลงบนฝ่ามือ และทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอ (ในขั้นตอนนี้ ให้ตบเบาๆทั่วบริเวณผิวที่เราทาด้วยนะคะ จะทำให้เนื้อโลชั่นซึมได้รวดเร็วและบำรุงได้อย่างล้ำลึก)


โลชั่นน้ำตบตัวนี้ก็ยังสามารถประยุกต์ใช้เป็นมาร์คหน้า สำหรับผู้ที่ต้องการความชุ่มชื้นผิวเร่งด่วนอีกด้วยนะคะ วิธีการคือเทน้ำตบ ลงบนแผ่นมาร์คชีทเปล่าให้ชุ่มแล้ว นำมาแปะมาร์คไว้บนผิวหน้า 10-15 นาที แล้วใช้มือตบเนื้อโลชั่นให้ซึมลงบนผิวเบาๆโดยไม่ต้องล้างออก ก็จะมีผิวชุ่มชื้นนุ่มเด้งพร้อมสำหรับการบำรุงในขั้นต่อไปแล้วค่ะ




สภาพปัญหาผิวก่อนใช้

ผิวมันมาก เหงื่อออกที่หน้าบ่อย รูขุมขนกว้าง บางส่วนของใบหน้าตั้งแต่คางจนถึงกรามค่อนข้างแห้งผิวลอกบ่อยบริเวณใกล้ขอบปาก สภาพผิวแพ้ง่ายมาก แพ้ฝุ่นและควันรถยนต์ ในบางครั้งมีอาการคัน ผื่นแดงร่วมด้วย




ผลลัพธ์ที่ได้เมื่อผ่านไป 5 วัน

ผิวอิ่มฟู เด้งฉ่ำน้ำจริงๆ คือเวลาวัดค่าความชุ่มชื้นผิวเราอาจจะวัดยาก เพราะไม่มีเครื่องมือวิเคราะห์ผิวแต่หลักการง่ายๆคือ ถ้าทาแป้งแล้วติดทนบนผิวหน้า  นั่นแสดงว่าผิวเราสุขภาพดีและชุ่มชื้นขึ้น ไม่แห้งจนทำให้แป้งไม่ติด หรือมีความมันมากจนทำให้แป้งไหล หน้ามันลดลงนิดหน่อย ผิวที่ชอบลอกตรงขอบปากไม่มีแล้วค่ะ ส่วนอาการแพ้ฝุ่นหรือควันรถยนต์ยังไม่มีมาให้เห็น ทาครีมอื่นๆง่าย ครีมซึมไวดี  (ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะเห็นผลได้ไวขนาดนี้ยังแอบตกใจผลที่ได้เกินคาดไปมากจริง ฮ่าๆ ) ชอบหนักสุดคือ *** โลชั่นตัวนี้ใช้แล้วไม่เกิดอาการคัน หรือแพ้ มีผื่นแดงหรือสิวอักเสบขึ้นใดๆเลยค่ะ ***


ทดลองแต่งหน้า โดยวันนี้จะไม่ใช้ ไพรเมอร์ จะลงแค่โลชั่นตัวนี้ (ไม่ทากันแดดเพื่อควบคุมตัวแปรให้น้อยที่สุดค่ะ) แล้วก็ทารองพื้น ตามด้วยแป้งฝุ่นปกติที่ใช้อยู่ทุกวัน โดยกิจกรรมที่ทำวันนี้คือ ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆ (ดูดฝุ่น ทำกับข้าว ล้างจาน) อ่านหนังสือ และออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า โจทย์หลักคือ ลัลเป็นคนที่เหงื่อออกที่หน้าเยอะ และหน้ามันมาก โดยปกติแล้วแต่งหน้าเสร็จ ผ่านไปไม่ถึง 3 ชม.หน้าก็จะมันมากตรงบริเวณ T-Zone รองพื้นจะพากันไหลเป็นปื้นๆตรงช่วงคาง

ผลที่เกิดขึ้นเมื่อระยะเวลาผ่านไป 5 ชม. สังเกตว่าผิวหน้า เริ่มมีความมันเกิดขึ้นแล้วค่ะ และจนถึง 12 ชม. นี่คือหน้ามันมาก 


แต่รองพื้นและแป้งฝุ่นนั้นยังไม่ไหล ไม่เป็นคราบ (ค่อนข้างติดทนกว่าปกติเลยทีเดียว) ลองซับความมันออกก็ยังเป็นงานผิวได้ตามปกติเลย ส่วนสีแก้มและสีปากก็หลุดไปตามสภาพ 

เอาจริงคือลัลชอบมากๆ สำหรับน้ำตบตัวนี้ หนึ่งเลยเค้าช่วยให้ผิวเราละเอียดและฉ่ำเด้ง ความมันลดลงอย่างเห็นได้ชัด  ผิวดูสุขภาพดีขึ้น ไม่คันหน้ายิบๆเหมือนแต่ก่อน เพียงแค่ระยะเวลาไม่กี่วันซึ่งต่อให้เราจะเป็นคนที่หน้ามันมากๆแล้ว การเติมน้ำให้ผิวก็ยังจำเป็นอยู่


ลัลเคยแอบถาม BA ว่ามันจะมีจุดที่เรารู้สึกว่าเติมน้ำให้ผิวจนล้นมั้ย 555+ เป็นคำถามที่ตลกมาก แต่ลัลเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่แอบสงสัยเหมือนลัล BA ตอบลัลว่า ไม่ล้นค่ะคือ ถ้าผิวเราเข้าสู่สมดุลเมื่อไหร่ก็จะหยุดแค่นั้น อีกทั้งโลชั่นน้ำตบตัวนี้เค้าจะมีเทคโนโลยีที่ควบคุมสมดุลน้ำบนผิวอยู่แล้วด้วย


ฟังแล้วก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ อาจจะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อรู้สึกได้ด้วยตัวเองละมั้ง ฮ่าๆๆ  แนะนำเลยว่า โลชั่นตัวนี้เหมาะเป็นน้ำตบแก่ทุกสภาพผิวจริงๆ นี่ใช้ทุกวัน วันไหนไม่ได้ใช้เหมือนมันขาดๆอะไรไปสักอย่าง 

ให้คะแนนไปเลย 10 /10 


(แต่แอบไม่ประทับใจ นิดเดียวจริงๆตรงฝาขวดแบบหมุน  ชอบทำฝาหล่นหลุดมือ และโลชั่นก็หกก่อนจะได้ทาตลอด 555)

ACSEINE Moist Balance Lotion 360ml.   ราคา 2,100 บาท

ก็ถือว่าครบถ้วนสำหรับรีวิวน้ำตบตัวดังจากญี่ปุ่นตัวนี้ ลัลหวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์แก่ทุกคนที่เข้ามาอ่านและช่วยเป็นแนวทาง ในการตัดสินใจสำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้นะค้า 

เจอกันใหม่ ... สวัสดีค่า 


lanaliive

lanaliive

❤ Hello "ลัล" >>> ʟᴜɴᴀʀɪᴤᴇ
❤ ᴀɢᴇ 28
❤ ᴏɪʟʏ ᴀɴᴅ ᴀᴄɴᴇ ᴘʀᴏɴᴇ ᴤᴋɪɴ
❤ ɴᴄ 30-35
❤ ʟᴏɴɢ ᴤᴛʀᴀɪɢʜᴛ ʜᴀɪʀ

FULL PROFILE