รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม จัดเต็มผลิตภัณฑ์บำรุงผมจาก The Fitzrovia Centre London สูตร Hair thickening system ยกเซ็ต อ่านจนตาแฉะกันไปข้าง

32 7
PARTNERS IN BEAUTY
สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆบ้านจีบันทุกๆท่าน

วันนี้มี่มีรีวิวผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมตัวใหม่จากอังกฤษมาฝากกันค่ะ
เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ The Fitzrovia Centre London จากอังกฤษนะคะ

ขอเกริ่นนำถึงแบรนด์ The Fitzrovia Centre London นิดหน่อยนะคะ

The Fitzrovia Centre London เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าสำหรับ haircare และ beauty care จากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อปี 2015 ซึ่งทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาสูตร และการนำนวัตกรรมใหม่ๆมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัท สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างตรงจุด

ส่วนตัวมี่เองก็มีโอกาสได้ลองสินค้าในกลุ่มสำหรับดูแลปัญหาผมร่วง ผมบาง ซึ่งออกแบบมาสำหรับฟื้นฟูปัญหาผมร่วงผมบาง ด้วยนวัตกรรมสารสกัด Redensyl (รีเดนซิล) ซึ่งผ่านการทดสอบแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูปัญหาผมร่วง ชะลอการหลุดร่วง และเสริมการเจริญของเส้นผมค่ะ

โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้มีด้วยกัน 3 ชิ้น ได้แก่ แชมพู ครีมนวดผม และแฮร์เซรั่ม นะคะ
มาเป็นกิฟท์เซ็ตน่ารักๆมีหน้าตาแบบนี้เลยจ้า

ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเขาก็ถือว่าทำมาได้อย่างเรียบหรู และจัดเต็มมาด้วยส่วนผสมที่เน้นไปทางด้านการฟื้นฟูเส้นผมได้โดยตรงเลย และเสริมสารบำรุงเข้ามาหลายชนิดได้อย่างลงตัว ดูแลผมได้ครบวงจรเลยค่ะ
 
ขอเปิดการรีวิวด้วยคู่หูแชมพูกับครีมนวด ตาม Step การใช้งานจริงเลยนะคะ

เริ่มกันที่ตัวแชมพูนะคะ

อย่างแรกที่มี่ประทับใจ คือ แพคเกจค่ะ ที่มีการดีไซน์มาแบบ Tampered-proof คือ ออกแบบมาให้รู้เลยว่าผ่านมือใครมาหรือยัง เพราะเมื่อเราแกะครั้งแรก ซีลที่เขาล็อคฝาไว้ก็จะหักทำให้ฝาเด้งขึ้นมาแบบนี้เองจ้า

ชอบความใส่ใจในจุดนี้มากๆ

ตัวแชมพูมาในรูปแบบใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
ในด้านของฟอง ฟองเล็กละเอียด ค่อนข้างละมุน เกลี่ยบนผมได้ง่าย ไม่พันกัน แต่ส่วนตัวมี่ค่อนข้างบ้าฟอง เลยอยากได้ฟองเยอะกว่านี้นิดนึง
ค่า pH ของแชมพูหลังละลายน้ำอยู่ที่ราวๆ 5 นะคะ เราไม่ค่อยเจอแชมพูที่มี pH ประมาณนี้เท่าไหร่ เพราะแชมพูโดยทั่วไปส่วนใหญ่ pH จะอยู่ที่ราวๆ 8 ซึ่งเป็นด่างเล็กน้อย โดยปกติ pH ของหนังศีรษะจะอยู่ในช่วงกรดอ่อน การใช้แชมพูที่เป็นด่างอาจจะรบกวนสมดุลบนหนังศีรษะได้ แต่ตัวนี้คือโอเคเลยหละ
สำหรับส่วนผสมของแชมพู เป็นดังภาพนี้นะคะ
เดี๋ยวมี่ค่อยรีวิวสารบำรุงรวดเดียวจบในตัว Hair Serum นะคะ

สำหรับแชมพูนั้นมีจุดเด่นอยู่ที่ปราศจากสารในกลุ่มของ SLS/SLES และก็ซิลิโคน รวมถึงสารอื่นๆที่ไม่เป็นมิตรกับผิว อาทิเช่น Silicone, Parabens , Sulfate อื่นๆ, DEA, MEA และกลุ่มของพวกสารกันเสียที่เป็น Formaldehyde releaser
 
ส่วนครีมนวดมาด้วยเนื้อแบบน้ำนม ข้นเล็กน้อย

ส่วนผสมของครีมนวดเป็นดังภาพนี้นะคะ
ส่วนผสมของครีมนวดใช้สารประจุบวก Distearoylethyl dimonium chloride เป็นตัวปรับสภาพผมเสียให้นุ่มสวย เงางาม และลดการชี้ฟูค่ะ

ซึ่งปกติการสระผม แชมพูจะมีประจุลบ นางจะไปดึงประจุบวกออกมาจากเส้นผม ทำให้ผมเราเหลือแต่ลบ ผมเราจึงผลักกันด้วยแรงทางไฟฟ้า ทำให้ชี้ฟู การใช้ครีมนวดผมที่มีประจุบวก ก็จะเข้าไปจับกับประจุลบดังกล่าว ก็จะลดแรงทางไฟฟ้า ทำให้ผมไม่ผลักกันเกิดการชี้ฟูค่ะ

ใช้ครีมนวดคู่กับแชมพูก็จะลดการชี้ฟู ช่วยให้จัดทรงได้ง่าย และแลดูเงางามค่ะ


ต่อมาจะเป็นตัว Hair serum ที่เราเอามาลงที่บนหนังศีรษะหลังเป่าผมจนแห้งแล้วค่ะ

หน้าตาของเซรั่มเป็นแบบนี้นะคะ

มาในขวดแบบหยดปลายแหลม ใช้ง่าย ใช้สะดวกค่ะ
ตัวเซรั่มเป็นเนื้อใส เกลี่ยง่าย แห้งเร็ว ไม่เหนอะหนะ หลังใช้รู้สึกเบาสบายหนังศีรษะ ไม่ได้รู้สึก แห้ง ระคายเคืองหรือแสบร้อนใดๆค่ะ
ค่า pH อยู่ที่ราวๆ 5 ค่ะ
ปิดท้ายรีวิววันนี้ด้วยส่วนผสมของ Hair serum ค่ะ
ตัว Serum นี้มาในเบสแบบสารละลายใส ซึ่งมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมอยู่นะคะ

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มแบบ Alcohol มาลำดับแรกเลย จะไม่เป็นอะไรหรือ? จริงๆ Alcohol ในผลิตภัณฑ์สำหรับบำรุงรากผมจำเป็นมากนะคะ จากบทความวิชาการของ Patzelt และ Lademann มีการกล่าวว่า ตำรับที่ใช้ Alcohol และน้ำเป็นเบส สามารถเพิ่มการนำส่งสารเข้าสู่รากผมได้ดีขึ้น (Patzelt, A., & Lademann, J. (2013). Drug delivery to hair follicles. Expert Opinion on Drug Delivery, 10(6), 787–797.)

เพราะว่าในสภาพของรูขุมขนเรา โดยเฉพาะที่หนังศีรษะ จะถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยไขมัน Sebum หนาๆ การใช้เบสน้ำเพียงอย่างเดียวสารจะไม่สามารถละลายหรือซึมผ่าน Sebum ลงไปได้ หรือได้น้อยนั่นเองค่ะ Alcohol มีความสามารถในการละลายไขมัน มีผู้เสนอแนะกลไกของ Alcohol ในการเสริมการดูดซึมสารบำรุงต่างๆเข้าสู่รากผมไว้ 2 กลไก ได้แก่
  1. Alcohol ไปชะเอา Sebum ออกมา ทำให้สารแพร่ลงไปได้
  2. Alcohol นำพาสารลงไปก่อนจะระเหยหนีหายออกไป
 
ทีนี้มาถึงเรื่องสารบำรุงกันบ้างค่ะ

สำหรับ Redensyl เป็นวัตถุดิบของบริษัท Givaudan Active Beauty ประเทศฝรั่งเศส เป็นวัตถุดิบที่เบลนด์ระหว่าง Glycerin (and) Aqua (and) Sodium Metabisulfite (and) Larix Europaea Wood Extract (and) Glycine (and) Zinc Chloride (and) Camellia Sinensis Leaf Extract ซึ่งมี่เลือก Highlight เฉพาะสารสำคัญบางตัวด้วยสีม่วงนะคะ

ทีนี้ก่อนกล่าวถึงสารบำรุงนี้ขอกล่าวถึงวงจรการเจริญของเส้นผมกันก่อนนะคะ
การเจริญของเส้นผมของคนเราแบ่งเป็น 3 ระยะค่ะ
  1. Anagen เป็นระยะที่เส้นผมกำลัง Active กำลังโต
  2. Catagen เป็นระยะที่เส้นผมเริ่มหยุดสร้างตัวเอง เริ่มถดถอย
  3. Telogen เป็นระยะสุดท้ายที่ผมนั้นพร้อมหลุดออกไป
ซึ่งในคนเมื่อถึง Telogen แล้ว รากผมก็จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่ Anagen อีกรอบค่ะ ทำให้เรามีผมตลอดเวลาไม่มีระยะผลัดขนเหมือนสัตว์บางชนิด

ทีนี้ในกรณีของโรคบางโรค อย่างเช่น อาการผมร่วงจากฮอร์โมนเพศชาย มันจะไปทำให้ Anagen สั้นลง และ Telogen ยาวขึ้น รวมถึงไปขัดขวางไม่ให้เกิด Anagen ใหม่ขึ้นมา ผมเลยบาง และล้านในที่สุด และฮอร์โมนเพศชายเองก็มีผลต่อรากผมโดยตรง ทำให้รากผมมีขนาดเล็กลง เส้นผมจึงเล็กลง ทำให้ผมยิ่งดูบางลงไปอีกค่ะ กระบวนการนี้เราเรียกว่า Hair follicular miniaturization

นอกจากนี้ ถ้าพิจารณาจากส่วนผสมต่างๆแล้ว ผลิตภัณฑ์ Set ดังกล่าว น่าจะเหมาะกับอาการผมร่วงแบบอื่นๆ เช่น อาการผมร่วงเนื่องจากความเครียด หรือ การผมร่วงที่มีอิทธิพลจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นในคุณแม่หลังคลอด ได้ด้วยค่ะ
ถ้าพูดถึงฮอร์โมนเพศชาย หรือ Androgen ที่เรารู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนชีววิทยาตอนม.ปลาย ก็คือเจ้า Testosterone ในร่างกายของผู้ชาย จะมีการทำงานของฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า 5α-reductase ซึ่งจะเปลี่ยน Testosterone ให้กลายเป็น Dihydrotestosterone หรือ DHT ค่ะ

DHT นี้ปกตินางมีประโยชน์ในการควบคุมลักษณะทางเพศของผู้ชาย การเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น รวมถึงการทำงานของระบบบางระบบ แต่ถ้ามีมากเกินไปนางก็ทำให้เกิดโรคได้หลายอย่าง เช่น ผิวมัน หนังศรีษะมัน ผมบาง ผมร่วง ภาวะขนดกในสตรี รวมไปถึงต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมากค่ะ

หลังๆนี้เราจะเห็นวัตถุดิบในเครื่องสำอางหลายๆตัว เริ่มพูดถึงฤทธิ์ในการต้านเอนไซม์ 5α-reductase นี้กันแล้ว

ตัวอย่างสารสกัดจากพืชที่สามารถต้านเอนไซม์นี้ได้ก็คือ ชาเขียว ซึ่งประกอบด้วยสาร EGCG ที่มีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์นี้ ทำให้ลดอาการของผมร่วง ผมบางได้ค่ะ นอกจากนี้ชาเขียวเองก็ยังมีประโยชน์อีกหลายประการไม่ว่าจะเป็น Antioxidant และคุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคือง
 
ทีนี้ขอวกกลับมาที่วัตถุดิบ Redensyl นางเป็นวัตถุดิบที่ได้รับรางวัลเหรียญเงินนวัตกรรมเครื่องสำอางยอดเยี่ยมมาจากงาน in-cosmetics เมื่อปี 2014 ค่ะ

เอ๊ะนางดียังไงทำไมนางถึงได้เหรียญเงิน

นางเป็นวัตถุดิบที่เลือกผสมเอาสารออกฤทธิ์หลายตัวมารวมกันอย่างลงตัวให้ประโยชน์กับเส้นผม และหนังศีรษะในหลายๆด้านไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น
  • เสริมการแบ่งตัวของรากผม ช่วยให้เส้นผมแข็งแรง และหนาตัวขึ้น
  • ปรับสมดุลของ Hair growth cycle ให้กลับมาอยู่ใน Anagen ทำให้เส้นผมเจริญเติบโต
  • เสริมการทำงานและปกป้องสเตมเซลล์ภายในรากผมให้ทำงานเป็นปกติ
  • ลดการอักเสบและระคายเคืองที่หนังศีรษะ
ซึ่งทางบริษัทเองก็มีผลการทดสอบในอาสาสมัครด้วยค่ะ ว่าให้ผลในระยะเวลา 84 วัน หรือราวๆ 3 เดือนค่ะ
ซึ่งนอกจากสารบำรุง Redensyl แล้ว ก็ยังมีส่วนผสมของโปรตีนจากพืช 3 ชนิด Hydrolyzed corn protein, Hydrolyzed soy protein, Hydrolyzed wheat protein ซึ่งมีการเคลมว่าเป็น Keratin ที่ได้จากพืช เนื่องจากองค์ประกอบของกรดอะมิโนต่างๆเมื่อเบลนด์เข้ากันด้วยสัดส่วนที่เหมาะสมแล้ว จะคล้ายกับ Keratin ของผมเราค่ะ

ในแชมพู และครีมนวดยังเสริมสารบำรุงอื่นๆอีก 3 ชนิด ได้แก่
  • Betaine ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของกรดอะมิโน Glycine มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว (รวมถึงหนังศีรษะ)
  • Oat-beta glucan ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้น และ ลดการอักเสบระคายเคือง ให้ความรู้สึกสบายผิว (รวมถึงหนังศีรษะ)
  • Panthenol หรือที่เราเรียกๆกันว่า โปรวิตามินบี 5 เป็นวัตถุดิบยอดฮิตอีกตัวในวงการ Hair เพราะนางมีคุณสมบัติที่ดีในการเสริมการเจริญของเส้นผมค่ะ
 
ทีนี้มาถึงประเด็นที่คาใจหลายๆคน ในแชมพู ครีมนวดผม นี่เราจะหวังผลในด้านการบำรุงได้จริงไหม เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้สัมผัสเส้นผมและหนังศีรษะแค่ชั่วคราวแล้วก็ล้างออกไป ในจุดนี้ทางแบรนด์เคลมว่าการใช้ผลิตภัณฑ์แบบครบเซ็ต ก็จะช่วย Maintain (คงไว้) ปริมาณของ Redensyl ให้คงที่ และบำรุงผิวได้ในช่วงเวลาที่ยาวนานขึ้นค่ะ

และการเลือกแชมพู/ครีมนวดผมก็เป็นส่วนสำคัญนะคะ เพราะในกรณีของผมร่วงบางประเภท อาจจะเกิดจากการอักเสบระคายเคือง หรือ หนังศีรษะแห้ง ถ้าแชมพู/ครีมนวดที่ใช้ไม่เหมาะสม อาการผมร่วงก็อาจจะไม่ดีขึ้นก็ได้ค่ะ

มาลองดูประสิทธิภาพกันบ้างนะคะ

มี่ใช้วิธีใช้หวีซี่ถี่ๆ หวีผม 60 ครั้ง แล้วเก็บผมที่ร่วงลงมาเพื่อเปรียบเทียบกัน ก่อน-หลังใช้ค่ะ

มี่เริ่มใช้ผลิตภัณฑ์นี้มาได้ราวๆ 3 สัปดาห์นะคะ
โดยรวมถือว่าผมก็แข็งแรงขึ้น และหลุดร่วงน้อยลงนะคะ
 
มาให้คะแนนกันดีกว่าค่ะ วันนี้มี่ให้คะแนนรวบทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์เลยนะคะ
  1. สารบำรุง นอกจากตัว Redensyl ที่เป็นตัวสารบำรุงหลักแล้ว ก็ยังมีส่วนผสมของสารบำรุงอีกหลายตัว ซึ่งเน้นไปที่การลดการอักเสบระคายเคือง ฟื้นฟูและปรับสภาพหนังศีรษะให้แข็งแรงค่ะ และสารสกัดจากชาเขียวเองก็สามารถดูแลผลผ่านทางกลไกฝั่งฮอร์โมนไปพร้อมๆกัน Zinc เองก็คุมมันให้กับหนังศีรษะ จึงเรียกได้ว่าดูแลผมได้ครบจบทุกปัญหาค่ะ โดยรวมขอให้ไป 5 ฟลาสก์
  2. ส่วนผสมอื่นๆ ทางแบรนด์เลือกใช้ส่วนผสมที่ค่อนข้างอ่อนโยนและเป็นมิตรกับผม และหนังศีรษะ เลยไม่มีที่ให้หักคะแนน ได้ไป 5 ฟลาสก์
  3. การใช้งาน สำหรับตัวแชมพู ส่วนตัวมี่คิดว่าฟองน้อยไปนิดนะคะสำหรับมี่ มี่ชอบฟองเยอะๆค่ะ และตัวแชมพูอาจจะเหลวไปหน่อย แต่สระออกมาก็ให้ผมนุ่มสลวย ไม่ชี้ฟู สำหรับครีมนวด ใครที่ผมเสียมากๆอาจจะยังรู้สึกว่าผมยังพันกันอยู่เล็กน้อย ส่วนตัวมี่ก็ผมเส้นเล็ก + ทำสีเนอะ ครีมนวดนี้ยังเอาอยู่ค่ะ ไม่มีปัญหาใดๆ และไม่เยิ้ม ไม่เมือก ไม่ทำให้ผมเป็นลิ่มแต่อย่างใด และตัว Serum เอง มี่ค่อนข้างชอบค่ะ เคยใช้ Tonic บางยี่ห้อแล้วรู้สึกมันจับผมเป็นลิ่มๆ แต่ตัวนี้สบายหัว ไม่ทำให้ผมเป็นลิ่มๆค่ะ ให้ไป 5 ฟลาสก์
สุดท้ายนี้ขอบคุณทางแบรนด์ The Fitzrovia Centre London ด้วยนะคะ ที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆมาให้มี่ได้ทดลองใช้ และขอบคุณทุกๆท่านด้วยค่ะที่ติดตามรับชมมาจนจบ

Disclaimer/conflict of interests: ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับมาจากทางแบรนด์ The Fitzrovia Centre London การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณ


LadyMiyeon

LadyMiyeon

ชื่อมี่ มียอน สาวสกินแคร์สายเกาหลี ชอบอ่านส่วนผสมเครื่องสำอาง เน้นรีวิวส่วนผสมค่ะ กำลังหัดแต่งหน้าอยู่ แต่ยังได้แค่พอไปวัดไปวา คุยกันได้นะคะ ดูเหมือนโหดแต่จริงๆน่ารักแบ๊วๆใสๆ ไม่กัดจ้าาา

FULL PROFILE