Part 3 ว่าด้วยเรื่อง"อยู่ก่อนแต่ง" ตอน ปรับตัวเรื่องไหนบ้าง

49 7
สวัสดีค่า เพื่อนๆทุกคน

วันนี้ มีเวลาว่างแวะมาเขียน กระทู้ในจีบัน อีกแล้ว

ก่อนอื่นเลย ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ให้การสนับสนุนนะคะ

ต่อจาก ความเดิมตอนที่แล้ว เพื่อนๆสามารถ คลิก ลิงค์ไปอ่านได้เลยค่ะ

Part 1 >> https://www.jeban.com/topic/279039
Part 2 >> https://www.jeban.com/topic/279705

ว่าด้วยเรื่อง อยู่ก่อนแต่ง การปรับ และ เปลี่ยน เพื่อให้คนสองคนใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข

เราสองคน ยังที่บอกมาจากคนละบ้าน คนละเชื้อชาติ พูดคนละภาษา ศาสนาคนละอย่าง สิ่งนึงที่เราต้องคำนึงเลย คือ การให้เกรียติ และ การให้เกรียติ ของเขาและเรา
มันไม่เหมือนกันนะคะ

สิ่งที่ยากสำหรับเราในช่วงแรกในการปรับตัวคือ
ตอนนั้นยังไม่ได้อยู่ด้วยกันนะคะ ตอนคบกัน 6 เดือนแรก
แฟนเป็นคนไม่ติด Social ไม่เล่นมือถือ คือ มือถือนางนี่เก่ามาก
นานที ปีหน เข้าเฟสบุค หรือ IG
แต่ทางอิฉัน คือ โซเชียล มีเดีย ตัวแม่ เล่นยูทูป ไอจี เฟสบุค
อัพเดทข่าวสาร ทางเขาคือ อ่านหนังสือพิมพ์ อ่านข่าวจากเวปไซต์หลัก
เวลาเราติดต่อกันบางทีเราโทรหานาง นางไม่ชอบจะรับสายเพราะ
มือถือ อยู่บ้าน หรือ เราเคยแบบ ส่งข้อความหานาง
สามวัน นางกลับมาตอบ แม่เจ้าาาาา

ตอนนั้นคือปี๊ดแตกมาก บอกเลยว่า มึงไม่ผ่านแน่นอน หกเดือน โปรโมชั่นไม่มี
ฮ่าๆ คือ ไม่มีการคุยกันเกิน สามนาทีผ่านมือถือ
แต่นางจะมาหาที่บ้านเลย หรือ นัดทานข้าว ดื่มกาแฟกัน
มีตอนนึง นางนัดเราไปเจอที่ห้องสมุด เพราะว่าจะอ่านหนังสือ
เราก็คิดว่าเป็นมุขเวย ก็ไปห้องสมุด แต่นางไปอ่านหนังสือจริงจัง
สามชั่วโมง นั่งอ่าน - -''
ชะนียังเราก็เลย อะจ่ะ นางไม่เล่นมุขละจ่ะ

แต่พอมาอยู่ด้วยกัน เราเริ่มเปิดใจคุยว่าเรื่องรับโทรศัพท์ อยากให้นาง
รับ เพราะบางทีเราเป็นห่วง กลัวว่า นางเกิดอันตรายขึ้นรึเปล่า
และ หลังจากนั้นแฟนเราก็ เปลี่ยนเรื่อยๆ และ ก็เปลี่ยนมือถือ จนในที่สุด
ต้องบอกก่อนว่าสังคมเพื่อนเขา เป็นแบบนี้กันหมด
ยัง เพื่อนชาว ออสเตเลีย เพื่อนสนิทนางคนนึง
ใช้มือถือที่เล่นเน็ตไม่ได้ แบบ ส่งเมสเสจได้ แต่เข้าเฟสไม่ได้ไรเงี้ย
คือไลฟสไตลจะเป็น ในทางเดียวกันหมด
เพราะพวกเขาค่อนข้างจะให้เกรียติกันมาก ยังบนโต๊ะอาหาร คือ มือถือตัดออกเลย
ถ้าเราทานเสร็จแล้วหยิบมือถือมา ปัดๆถูๆ นี่ทุกคนในนั้นมองหมดนะ
ทำให้เราเริ่มเปลี่ยน ปรับ และให้เกรียติเขา ไปในทางเดียวกันด้วย
เราก็เริ่มเปิดใจรับ บางทีเราก็มีมุมแบบง้องแง้งตอนนั้นเด็กๆอะเนอะ
อยากอัพรูปคู่ บลาๆ อัพเดท สเตตัส
แต่ แฟนทำให้เข้าใจ โลก โซเชียล กับความเป็นจริงมากขึ้น
เรากลายเป็นคนที่ เริ่ม ถอยๆ มาบ้าง วันนึงอาจจะเล่นสักสอง ชั่วโมง ที่แบบ
ดูยูทูป ดูข่าวอ่านข่าว คุยกะเพื่อนขำๆ

สำหรับเราการเดทกับเขา เป็นการเดท ที่ ต่างจากการมีแฟน คนก่อน มาก
เพราะ นิสัยเขาค่อนข้างโต และ คิดบวก
เขาคิดบวกจนบางทีเรามองว่าเขาโดนเอาเปรียบ บางทีเราพยามพูด อีกมุมนึง
จนเขา มานั่งคิด มันก็ใช่นะ แต่เขาก็ยัง พยาม ดึงเรากลับมาในโลก คิดบวก
ของเขา จนตอนนี้การใช้ชีวิตของเรา คือ เรื่องที่จะทำให้ทุกข์จริงๆ
คือ ครอบครัว เพื่อน และ สิ่งแวดล้อม ยังเช่น สัตว์ ธรรมชาติ
เมื่อก่อนคือ ทุกข์กับทุกอย่างในชีวิต ไม่เข้าใจโลก ไม่เข้าใจอะไรเลย
แต่การซึมซับจากเขาทำให้เรา อภัย มากขึ้น และ ปล่อยวาง มาก
เรา ไม่ยึดติดกับสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้หรือ เป็นแค่เรื่องปรุงแต่ง
ตอนนี้ สิ่งทีจะทำให้ทุกข์ ก็ ไม่มีอะไรมากนักเพราะเชื่อว่าชีวิตที่มีอยู่ตอนนี้
มันดีมากแล้ว ดีมากจริงๆ ครอบครัวของเรา มีเขาและเรา ทำงานกันสองคน
สร้างพื้นฐาน ว่างก็ไปเที่ยว ดูหนัง กินข้าว
จริงๆ ชีวิตที่ไม่ต้องปรุงแต่งมาก ปรับกันคนละหน่อย
เราเชื่อว่าคนสองคนถ้ารักกัน เราจะไม่อยากเอาชนะ
อะไรยอมได้ก็ยอม ถ้ายอมและไม่สูญเสียความเป็นตัวเอง ยอมและได้สิ่งที่ดีกับมา

วันนี้ขอฝากไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ช่วงนี้ฝิ่นย้าย บ้าน กำลังจัดบ้านเข้าที่เข้าทาง
ไว้จะมาทำวีดีโอ จากฝั่งคุณสามีมาฝากเพื่อนๆนะคะ

อย่าลืมคอมเม้นและให้กำลังใจฝิ่นด้วยนะคะ เพื่อนๆสามารถแชร์เรื่องราวที่ต้องปรับและเปลี่ยนให้ฝิ่นได้อ่านเพื่อเป็นอีกมุมมองนึง ได้นะคะ
ขอบคุณมากๆค่า


Withinyou

Withinyou

Nata
Only Coffee with milk.
Wine lover.
Makeup and Travel is my fav
Lives in London
from Thailand.
ผู้หญิงผิวสีแทน :D

FULL PROFILE