เปิดกรุบลัชออน สวยหลักร้อย ไม่น้อยคุณภาพ

48 13
อันยอง จ้ะซิส ถ้าพูดถึงเรื่อง เครื่องสำอาง แน่นอนว่าทุกคนต้องมีมากกว่า หนึ่งอย่างอยู่แล้วใช่ปะ 
 แล้วถ้าพูดถึงบลัชออน สาวๆทุกคน ก็ต้องมีมากกว่า หนึ่งสีเช่นเดียวกัน เราเองก็เช่นกันจ้ะ
 เราเป็นคนที่เลิฟเวอร์บลัชออนมากๆ   วันไหนจะใส่ชุดสีอะไร make up ก็ต้องคุมโทนไปกับชุด
เรื่องบลัชออน ก็ต้องเลือกให้แมทซ์เช่นกัน ทำให้มีบลัชออนในกรุโต้ะเครื่องแป้งเยอะมากๆ
 แต่ถ้าจะเล่าหมดครบทุกอัน คงไม่ไหว เลยจะมาแนะนำสาวๆ เอาเบาๆ แค่ 10 ชิ้นพอฉ่ำๆ
ขอกระซิบไว้ ณ ที่นี่ว่า แต่ละชิ้นนั้น ราคาหลักร้อย แต่ไม่น้อยคุณภาพค่ะคุณณณณ
 ว่าแล้วววก็ตามมาดูที่ชิ้นแรกกันเลยดีกว่าค่ะ

 
wet n wild Coloricon 
 สี Pearlesent Pink 


 
รุ่นนี้ช่วงนึงเป็นอะไรที่คนกรี๊ดกราด แห่กันไปซื้อเยอะ รุ่นนี้สีเขาจะคล้ายๆกับ Nars orgasm
 สีเขาจะออกแนวส้มอมชมพู ผสมชิมเมอร์ ค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ
 ข้อดีคือ ไม่ต้องเสียเวลาปัดไฮไลท์เพิ่ม
 แต่ข้อเสียคือ fall out เป็นฝุ่นร่วงเยอะมาก เวลาปัดอาจต้องใช้แปรงที่พุ่มเล็ก
แล้วก็ขนแปรงแน่นๆนิดนึงนะคะ จะจิกสีได้ดีกว่า
  
ถัดมาๆ ขยับมาที่สัญชาติเกาหลีกันบ้าง นั้นก็คือ
 The Seam หรือ Seammul  สีที่อื้ออืงกันในทวิตเตอร์กันมากๆอีกสีนึง ก็คือ RD 002

 

จะเป็นสีแดงอมน้ำตาลตุ๋นๆ แมทซ์สนิท  ใครมาสายเกา แต่งหน้าสไตล์บ่มแดด
ก็คือพลาดไม่ได้ พิกเม้นต์นั้นไม่ต้องพูดถึงค่ะ แน่นมาก
 แนะนำว่าแตะเบาๆ ปัดน้อยๆ ค่อยๆปัดนะคะ ส่วนราคานั้น ประมาณ 220 บาท ค่ะ
 
 แบรนด์ถัดมาสำหรับเกาหลี ต้องนี่เลยอีกแบรนด์
 16 Brand แบรนด์ที่เด่นดังมาจากอายแชโดว   แต่บลัชออนเขาก็ไม่แพ้กัน
 รุ่นที่เราแนะนำ ก็คือรุ่น Mochiblusher 

แค่แพคเกจกิ้ง ก็พาสเทลวัยใสมากๆค่ะ เรื่องเนื้อบลัชออนนุ่มๆเหมือนโมจิ ให้ฟิลล์สาวเกาวัยแรกแย้มใสๆ
 เนื้อบางๆ ทาแล้วดูแก้มเป็นธรรมชาติ แต่สีที่เราเลือกมานั้น จำชื่อสีไม่ได้อะ
 แต่จะเป็นสีแนวๆชมพูอ่อนๆอมส้มนิดนึง
บางๆแบบนี้จ้ะ

 

มาดูอีกแบรนด์เกาหลี ที่ใครๆก็ต่างพูดถึงก็คือ 3CE stylenanda

บลัชออนรุ่น heart pot  สี maroon beige ก็เป็นอีกสีที่น่าสนใจมากๆค่ะ

สีส้มอมน้ำตาล เนื้อครีมแมทซ์ สามารถทาได้ทั้งแก้มและปาก ตลับก็น่ารักมาก 

มาเป็นรูปหัวใจ พกพาง่ายอีกด้วยค่ะ แต่เสียดายสีไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ค่ะ


คราวนี้ไปต่อกันที่แบรนด์จากตุรกีกันบ้าง ต้องอันนี้ Golden Rose Powder

 Blush Soft & Sliky No.11 Nude Sheen บลัชออนเนื้อแป้ง สีนี้ติดพอประมาณระดับนึงค่ะ 

พิกเม้นไม่ได้แน่นมาก อาจจะต้องปัดสองสามรอบถึงจะได้สีที่ชัด เบอร์11 สีชมพูอมนู้ด อันนี้แนะนำว่าแต่งหน้าสไตล์สายฝอ ตาสโมคกี้อาย ก็คือปั้วะมากแม่

อีกตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยค่ะ ก็คือ Catrice Blush Box สี 010 soft rose

พิกเม้นต์รุ่นนี้ค่อนข้างแน่นค่ะ สีติดทน ปัดได้ทุกๆวัน สีชมพูนมๆอ่อนๆ ทาง่ายเหมาะกับหลายลุคส์ ราคาก็ 149 บาท ค่ะ

อีกแบรนด์ที่โด่งดังไม่แพ้กัน จากฝั่งตะวันตก ไม่พูดถึงคงไม่ได้

คือ Benefit galifornia บลัชออนสีส้ม ผสมชิมเมอร์ ที่เขาบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจากยามตะวันตกดิน


พิกเม้นต์แน่น สีติดทน ปาดครั้งเดียวก็คืออยู่ ราคานั้นก็แอบแพงนิดนึง 
อันนี้แค่ size Mini อยู่ที่ 650 บาท แต่ก็ใช่ได้นานอยู่มากๆเลยค่ะ 

ถัดมา  บินกลับมาพักที่แบรนด์ไทยกันค่ะ
กับบลัชออน ที่พี่นุ่น นบลักรีวิวแล้ว หมดเกลี้ยงทั้งวัตสัน (เราก็เป็นเหยื่อไปตำตามมาเช่นกัน)
 กับแบรนด์ 2P Original Oh my Blush 

 
สีที่เราเลือกมานั้น คือ สี No.4 Coral จะเป็นสีส้ม เป็นเนื้อแมทซ์ สีติดทนประมาณนึงเลยนะคะ แต่แอบเกลี่ยยากไปนิดนึงค่ะ ต้องใช้แปรงพุ่ม ที่ไม่แน่นมาก ข้อเสียของแบรนด์นี้เลย คือ 
เนื้อบลัชออนแตกง่ายมากๆ ไม่ได้ทำตกน้า แต่ใช้ไปใช้มาได้แบบเดียวก็คือ แตกเลยจ้า สาวๆอาจจะต้องระวังมือด้วยนิดนึงนะคะ แต่โดยรวมสีสวยเลยจ้า

 
ชิ้นต่อไป เดินไปที่บ้านหลังสีชมพู ดำ กันบ้างค่ะ บ้านนี้เขาเป็นช้อปขายสินค้าที่ใครๆก็แวะไป จะเป็นบ้านไหนไม่ได้ นอกจาก Eve and boy ตอนนี้เขาทำเครื่องสำอางมาขายด้วยแล้วนะคะ ที่ขายดีมากๆของเขาเลยก็คือ บลัชออนนี่เลยจ้า
 Eve and boy Classic Blush สีที่เราเลือกมา คือ สี South Kensington สีส้มอ่อนๆ ปัดแล้วดูสุขภาพดี 
 ตลับเขาจะมาเป็นแนวสีดำ ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบๆ ส่วนเนื้อสีนั้น พิกเม้นต์เนื้อละเอียดดีค่ะ แต่ไม่ค่อยติดทนเท่าไหร่ จะเป็นสีบางๆ ใครที่ต้องการความชัดเจน อาจจะต้องปัดสักสองรอบละนะ 

 

ยังคงอยู่กันที่แบรนด์ไทย อย่างต่อเนื่อง ค่ะ กับ
 Milan Rose Blushlighter สี san siro บลัชออนรูปดอกกุหลาบ สีพีช ผสมชิมเมอร์ 

สีติดทนดีมากๆค่ะ ไม่ต้องปัดไฮไลท์เพิ่ม เสียดาย fall out ฝุ่นร่วงไปนิดนึง

ราคานั้นอยู่ที่ 890  บาทค่ะ ถ้าใครอยากให้เป็นของขวัญในโอกาสต่างๆก็ย่อมได้นะ น่ารักมากๆเลย

กลับไปฝั่งแบรนด์เอเชีย เกาะญี่ปุ่นกันบ้างดีกว่าค่ะ ถ้าพูดถึงแบรนด์จากญี่ปุ่น ก็ต้องนึกถึง 

canmake บลัชออนที่ปังๆก็คือ นี่เลย รุ่นนี้ Cream Cheek  

16 Almond Terracotta บลัชออนเนื้อครีมเนียนนุ่ม ให้ฟิลล์สาวญี่ปุ่น 
น้องๆทาบางๆไปโรงเรียนก็ได้นะคะสีนี้ 

พิกเม้นต๋ไม่ได้แน่นมาก แต่ทาแล้วได้แก้มที่ดูธรรมชาติมากๆค่ะ

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงชิ้นสุดท้ายPound  to present มากๆเลยค่ะ 

Goldberry Simplify Ultra light Blush

บลัชออนสัญชาติญี่ปุ่นอีกแบรนด์ ราคาหลักร้อย เป็นอะไรที่อะเมซิ่งมากๆค่ะ 

เขาเป็นแบรนด์ skincare make up เป็นมากกว่าเมคอัพ คือได้การบำรุงหน้าไปในตัวด้วยจ้า ได้ยินแค่นี้ก็เป็นอะไรที่ประทับใจมากๆแล้ว ที่พีคกว่านั้น เขาไม่มีพวกสารอันตรายต่างๆที่จะทำลายผิวของเราด้วยนะคะ อาทิ paraben ,SLS,Alcohol  และอื่นๆ สาวผิวแพ้ง่าย บอบบางก็ใช้ได้หายห่วงไปเลย ส่วนบลัชออนจริงๆเขามีด้วยกันถึง 4 สี

แต่สีที่เราชอบมากที่สุด จะมีดังนี้จ้า

สีแรกคือสี No.1 เป็นสีชมพูอ่อนๆพีชๆผสมชิมเมอร์เล็กน้อย ปัดแล้วดูเป็นสาวหวาน ผิวสุขภาพดีมากๆค่ะ

โทนสีก็สุภาพ จะปัดไปทำงาน หรือออดเดตก็ได้

มาถึงสีที่เราชอบที่สุดอีกสี เอาใจคยรักโทนส้ม ต้อง No3 เลยจ้ะ เป็นสีแนวส้มแมนดาริน เนื้อแมทซ์ ให้ฟิลล์เป็นสาวสดใส ซัมเมอร์ เฟี้ยดๆ 

เราปัดตั้งแต่เช้า ไปขึ้นเครื่องบิน ไปต่างจังหวัด จนถึงค่ำ สีก็ยังแน่นชัดติดทนมากๆค่ะ 
อยากให้ทุกคนไปซื้อตามมากๆ ราคาก็ 199 บาทเองค่ะ ถูกและดีขนาดนี้ไม่มีอีกแล้วนะแม่

ใครชอบยังไง ใช้อันไหนอยู่บ้านลองมาแชร์ พูดคุยกันได้คอมเม้นเหมือนเดิมนะ 
ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ

บั้ยส์จ้า :))


ampere.p

ampere.p

อันยองค่ะซิสสส แอมแปร์ค่ะ
Make up Skincare & Fashion lover


for work review pls add line ID >> ampereparichat
^^

FULL PROFILE