อัพเดท Skincare Routine สําหรับมนุษย์สิว+ผิวแพ้ง่ายที่ใช้แล้วชอบ!

55 18

ต้องขอเกริ่นกับทุกคนก่อนเลยว่าจูนได้ทําการปรับเปลี่ยน ในการใช้สกินแคร์มาได้ระยะนึงแล้วค่ะ เพราะเซ็ทเก่าที่เคยมารีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านมันเริ่มจะหมดแล้วจ้าT_T หมดพร้อมเงินเดือนออกด้วยนะ5555 ดังนั้นวันนี้จูนจะขอมาเล่าและรีวิวสกินแคร์ที่ใช้อยู่ปัจจุบันให้เพื่อนๆได้ดูกันว่าแต่ละตัวมีจุดเด่นยังไง? ควรซื้อไหม? หรือว่าควรพอก่อน?! โดยเฉพาะคนที่มีผิวมันเป็นสิวง่าย จนไปถึงผิวบอบบางแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ค่ะ เพราะแต่ละตัวได้ผ่านการใช้มาระยะนึงแล้ว แต่ทางที่ดีคือควรทดสอบการใช้ก่อนทุกครั้งนะ เนื่องจากสภาพผิวของคนเราก็แตกต่างกันออกไปค่ะ ดังนั้นอย่ารอช้า เราไปเริ่มกันที่ Step แรกกันเลยจ้า

STEP 1: CLEANSING 

BIODERMA Sebium H2O 

มาเริ่มกันที่ตัวคลีนซิ่งกันก่อน ซึ่งแบรนด์นี้จูนได้ลองใช้มาแล้วทั้ง 2 สูตร ที่เป็นฝาชมพูกับฝาสีฟ้าแล้วชอบมากกก พอหมดก็เลยมาต่อกันที่ตัวนี้เลยทันทีซึ่งเขาจะเป็นสูตรสำหรับคนผิวมันเป็นสิวง่าย ซึ่งก็ค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับคนที่หน้ามันหรือชอบเป็นสิวบ่อยๆ หรือแต่งหน้าทุกวัน เขาจะมีส่วนผสมของ Zinc Gluconate(ช่วยลดความมันบนผิว), Copper Sulfate (ช่วยต่อต้านแบคทีเรีย) และมีค่า pH = 5 ไม่ระคายเคืองผิว ไม่ทำให้ผิวแห้ง เป็นสูตร Alcohol-free, Soap-free, Hypoallergenic, Colouring-free แต่มีส่วนผสมของน้ำหอมนะจ๊ะ

หลังจากที่ได้ลองใช้มาสักพัก ตัวนี้เด่นในเรื่องช่วยควบคุมความมันบนผิวได้ดี เพราะปกติจูนเป็นคนหน้ามันค่อนข้างง่ายบริเวณทีโซน แต่พอตื่นมารู้สึกว่าความมันบนผิวมันน้อยลงกว่าเดิม ส่วนเรื่องสิวยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ต้องขอลองใช้ต่อไปอีกสักระยะนึงก่อน ลืมบอกไปว่าตัวนี้เขาจะแอบมีกลิ่นน้ำหอมด้วยแต่ไม่ได้ฉุนนะ จะออกแนวเฟรช ส่วนตัวจูนไม่ได้แพ้อะไร แต่คนที่ผิวแพ้ง่ายมากๆแนะนำให้ใช้เป็นสูตรฝาชมพูหรือฟ้านน่าจะดีกว่า


ขนาด 250 ml. ราคา 790 THB

STEP 2: CLEANSER

FYNE Gentle Facial Cleansing Gel

ตัวนี้เป็นคลีนเซอร์ที่จูนรู้สึกใช้แล้วหน้าไม่แห้งตึง และสิวไม่ค่อยขึ้น  จะเป็นคลีนเซอร์ในรูปแบบเนื้อเจล สีขาวใส ที่สำคัญคือไม่มี SLE SLES ซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ พาราเบน มิเนรัลออยด้วย จึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาสิวและผิวแพ้ง่ายที่แท้ทรู ส่วนผสมเด่นๆ ของตัวนี้คือ Sodium Hyaluronate (ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้งหลังล้างหน้า), Niacinamide (ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส ลดการอักเสบ) และ Allantion (ช่วยลดการระคายเคือง อาการแพ้ต่างๆ) เป็นต้น

ความรู้สึกหลังจากที่ได้ใช้พวกสิวผด สิวอุดตันดูน้อยลง อาจจะไม่ได้หายไปหมดแบบภายใน 2-3 วัน แต่ก็คือจะรู้สึกได้เลยว่าว่าหน้ามันดูสะอาดขึ้น ซึ่งถ้าจะให้สรุปโดยรวมข้อดีของตัวนี้เลยคือช่วยลดการเกิดสิวใหม่ เป็นเจลล้างหน้าที่ค่อนข้างอ่อนโยนและไม่ระคายเคืองผิวเพราะมีค่า pH อยู่ที่ 5.5 ซึ่งใกล้เคียงตามธรรมชาติของผิว เหมาะกับทุกสภาพผิวเลยคนผิวมัน หรือผิวแห้งก็ใช้ได้ ส่วนข้อเสียสำหรับจูนไม่มีนะ แต่ถ้าคนที่ชอบคุ้นเคยกับการใช้โฟมที่มีฟองเยอะๆ นี่อาจจะไม่ค่อยชอบก็ได้ค่ะ


ขนาด 250 ml. ราคา 690 THB

STEP 3: ESSENCE/SERUM

GRAYMELIN Galactomyces Ferment Filtrate

ลำดับต่อมาคือการลงเอสเซนส์ ช่วงนี้จูนจะค่อนข้างมีปัญหาเกี่ยวกับพวกรูขุมขนกว้าง เลยลองซื้อตัวนี้มาใช้ดูเป็นกาแลคโตไมเซสจากแบรนด์ Graymelin ซึ่งตอนนี้ก็ค่อนข้างฮิตกันอยู่พอสมควร ทางเราเลยไม่รอช้าที่จะ CF มาลองใช้บ้าง ซึ่งกาแลคนั้นมีคุณสมบัติช่วยให้ผิวแข็งแรง รูขุมขนกระชับและเล็กลง, กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส รวมถึงช่วยลดพวกริ้วรอย จุดด่างดำ รอยสิวประมาณนี้

เนื้อกาแลคตัวนี้บอกตรงๆว่าคล้ายน้ำเปล่าเลย ไม่เวอร์นะเพราะนางไม่มีกลิ่นและสี ให้หลับตาทาก็คิดว่าน้ำเปล่า และค่อนข้างซึมไวอยู่ เราก็ทาและพยายามไม่ได้คิดอะไร ใช้ไปใช้มาอ่าวเกือบจะหมดขวดเฉย5555 น่าจะประมาณเกือบเดือนได้ค่ะ รู้สึกว่าผิวมันเนียนขึ้นอาจจะไม่ได้เห็นผลชัดเจน แต่รู้สึกได้ว่าพวกรูขุมขนดูเล็กลง ก็ถือว่าโอเคเลยนะค่อนข้างคุ้มค่าค่ะสำหรับขนาด ราคาและผลลัพธ์ที่ได้คือได้ไปต่อ


ขนาด 50 ml. ราคา 460 THB

FYNE BHA Clarifying Serum

เซรั่มตัวนี้ค่อนข้างเหมาะกับคนที่ชอบเป็นสิวอุดตันบ่อยๆ เหมือนจูน เพราะมีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิค 2% ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยลดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของสิวอุดตัน สิวอักเสบอีกทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนของเราให้เล็กลงได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่น่าสนใจอีกหลายตัวเลยเช่น Aloe Vera Extract (ช่วยสมานแผลและลดรอยดำ รอยแดง), Chamomile Extract (ช่วยลดการระคายเคือง ลดผดผื่นบนผิว), Green Tea Extract (ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและแบคทีเรีย) เป็นต้น และคนที่เป็นสิว+ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้อย่างเบาใจเพราะนางไม่มีสารระคายเคืองต่างๆ อาทิเช่น ซิลิโคน  แอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ พาราเบน มิเนรัลออยต่างๆ ที่อาจให้ก่ออาการแพ้ได้ค่ะ

ตัวเนื้อเซรั่มของเขาจะไม่มีสีและกลิ่น ค่อยข้างซึมง่าย คือทาไปแล้วทิ้งไว้ประมาณ 10-15 วินาทีก็คือซึมหายไปเลย ความรู้สึกหลังจากที่ได้ใช้คือรู้สึกว่าสิวอุดตันใต้คางมันแห้งขึ้น หลุดออกง่ายขึ้น  แต่ก็ค่อนข้างใช้เวลาเหมือนกันนะกว่าจะเห็นผล และผิวก็ดูแข็งแรงขึ้นด้วยพอใช้อย่างต่อเนื่องอันนี้คือที่รู้สึกได้จริงๆ แต่พวกรอยสิวต่างๆอาจจะยังไม่ค่อยเห็นผลชัดเจนเท่าไหร่ค่ะ จุดที่ไม่ชอบอีกอย่างนึงคือหัวดรอปกับรูขวดขนาดมันอาจจะใกล้เคียงกันเกินไปเลยทำให้เปิดใช้ค่อนข้างยากค่ะT_T แต่นอกนั้นคือโอเคหมดเลยดีงามพระรามแปด


ขนาด 30 ml. ราคา 990 THB  

STEP 4: CREAM

SKINPLANTS Defenza Cream

ตัวนี้ค่อนข้างโด่งดังในกลุ่มคนที่มีสภาพผิวแพ้ง่าย และมีปัญหาสิวผดต่างๆ จูนรู้จักตัวนี้เพราะมีเพื่อนใช้และบอกว่ามันดีมากและราคาไม่แรง สำหรับคนที่ชอบเป็นสิวผดบ่อยๆ ซึ่งพอได้มาดูที่ส่วนผสมหลักๆของเขาก็จะมี Blackcurrant Seed Oil (ช่วยลดอาการอักเสบบนผิว), Balloon Vine (ช่วยฟื้นฟูและปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ), Sunflower Oil (สารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว) และ Canadian Willowherb (ช่วยลดอาการระคายเคืองบนผิว) และเป็นอีก 1 ทางเลือกที่คนผิวแพ้ง่ายต้องชอบเพราะไม่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ น้ำหอม แอลกอฮอล์ พาราเบน เป็นต้น

ตัวเนื้อครีมของเขาจะเป็นสีเหลืองอ่อน  เนื้อไม่ได้หนักมากอย่างที่คิด แต่แอบซึมช้านิดนึง และมีกลิ่นออกไปทางแนวสมุนไพรมากๆ ความรู้สึกที่ได้ลองใช้คือช่วยลดอาการระคายเคืองบนผิวได้ค่อนข้างเร็ว พวกผื่นแดงผิวอักเสบคือหายไวมาก จูนเคยลองเอาไปทาตอนโดนยุงกัดคือหายคันทันที และแผลที่โดนยุงกัดก็ยุบไวขึ้น จูนชอบทาหน้าตอนกลางคืนคู่กันกับ Skin Barrier Serum-in-Cream ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นมากๆ พอตืนเช้ามาหน้าก็ยังดูชุ่มชื้นอยู่ ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยนะ แต่ข้อเสียของนางมีอยู่อย่างเดียวคือกลิ่น นอกนั้นคือดีย์มากก


ขนาด 12 g. ราคา 295 THB

FYNE Skin Barrier Serum-in-Cream

มาต่อกันที่ครีมของแบรนด์ FYNE เจ้าเก่าเจ้าเดิม เพิ่มเติมคือตัวนี้จะเน้นช่วยเสิรมเกราะป้องกันให้ผิว ช่วยให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น ส่วนตัวใช้ตัวนี้คู่กับตัว Defenza Cream จะบอกว่าเริ่ดสุด พวกสิวผดที่เกิดจากอาการแพ้ต่างๆ หายเรียบขึ้นมากๆ และส่วนผสมเด่นๆของตัวนี้เลยก็จะมี Caramide (เสริมเกราะป้องกันให้ผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง), Omega-6 (ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น  ลดผื่นแพ้), Chamomile Extract (ลดอาการระคายเคืองบนผิว), Sodium Hyaluronate และ Hydrolyzed Hyaluronic Acid (ป้องกันผิวสูญเสียน้ำ เติมน้ำให้ผิว ลดริ้วรอย), Canadian Willow Herb Extract (ลดอาการอักเสบบนผิว) เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ส่วนผสมของเขาจะเห็นได้ว่าจะค่อนข้างเน้นไปทางปกป้องและบำรุงไปในตัว และเหมือนเดิมตามสไตล์ของแบรนด์นี้คือปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์และพาราเบนต่างๆ คือดีย์มาก


ตัวเนื้อครีมของเขาจะเป็นสีขาวและเนื้อค่อนข้างเบา คือไม่รู้สึกหนักหน้านะเวลาที่ทาลงไป แต่อาจใช้เวลาแปปนึงก่อนที่ตัวเนื้อครีมจะซึมหายไป ผลลัพธ์หลังใช้อย่างต่อเนื่อง คือรู้สึกได้เลยว่าผิวค่อนข้างจะละเมียดขึ้น ดูแข็งแรงและพวกสิวผด ผดผื่นไม่ค่อยขึ้นเยอะเหมือนแค่ก่อนเวลาที่เจออากาศร้อนๆ ดีงามมาก แนะนำให้ใช้คู่กับดีเฟนซ่าคือเวิร์คสุด เป็นไอเทมที่คนผิวแพ้ง่ายควรมีจ้า 


ขนาด 50 ml. ราคา 1,390 THB


STEP 5: SUNSCREEN

SKIN AQUA Tone up UV Essence

มาถึง Step สุดท้ายที่สำคัญและมองข้ามไม่ได้เลยนั่นก็คือขั้นตอนการทาครีมกันแดด เชื่อว่ายังมีสาวๆหลายคนที่ขี้เกียจทาครีมกันแดดเพราะคิดว่ามันเหนอะหนะ แต่ความจริงแล้วการไม่ทาครีมกันแดดส่งผลเสียต่อผิวมากกว่าที่เราคิดไม่ว่าจะเป็นผิวเหี่ยว แก่ โทรมก่อนวัยสารพัด รวมไปถึงอาจทำให้เกิดฝ้าตั้งแต่เรายังไม่ทันอายุ 30 เลยด้วยซ้ำ ซึ่งในปัจจุบันก็มีกันแดดมากมายเลยให้เราได้เลือกใช้ตามสภาพผิว และช่วงนี้กันแดดที่จูนอินมากที่สุดคือตัวนี้เลย นางคือกันแดดที่ช่วยปรับสภาพผิวของเราให้กระจ่างใส(Tone up) และเนื้อบางเบามากกก


เนื้อของเขาจะเป็นเอสเซนส์สีออกไปทางโทนม่วงอ่อนหน่อยๆ คล้ายเบส หลังทาจะรู้สึกว่านางซึมไวมาก แต่ตัวนี้ต้องบอกก่อนเลยว่ามีแอลกอฮอล์และซิลิโคนนะ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วครีมกันแดดทุกตัวมักจะมีซิลิโคนเพราะจะช่วยในเรื่องของการเกลี่ยและกันน้ำ แต่ส่วนตัวจูนใช้แล้วไม่ก่อให้เกิดสิวเพิ่มค่ะ หลังทาคือผิวจะดูสว่างเพิ่มประมาณ 1 ระดับ ไม่วอกไม่ลอย กันน้ำกันเหงื่อได้ดี ก็ถือว่าตอบโจทย์มากสำหรับมนุษย์ผิวมันอย่างเรา


ขนาด 80 g. ราคา 480 THB


จบกันไปแล้วสำหรับการอัพเดทสกินแคร์ที่จูนใช้มาตลอดทั้งเดือนนี้ 

ซึ่งการรีวิวในครั้งนี้เป็นความรู้สึกจริงๆของจูนเลยค่ะหลังจากทดลองใช้มาในระยะนึง ส่วนผลลัพธ์ที่ได้อาจขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยน้าา เพราะฉะนั้นก่อนใช้ทุกครั้งควรทดสอบการแพ้ที่ใต้ท้องแขนก่อนจะดีที่สุด ดีกว่าเสียเงินซื้อสกินแคร์แล้ว ยังต้องเสียตังค์ไปหาหมออีกจะไม่คุ้มเอาเน้ออ สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อนไว้เจอกันใหม่จ้า xoxo 


Duangkaew Kemmanunsopon

Duangkaew Kemmanunsopon

สวัสดีค่า ชื่อจูน อายุ 24 ปีค่ะ จูนเป็นคนนึงที่ชอบและรักในการใช้สกินแคร์และเครื่องสำอางทั่วไปค่ะ เลยมักจะมารีวิวสกินแคร์ที่ใช้แล้วชอบบ่อยๆในนี้ เพราะอยากมาแชร์และพูดคุยกับเพื่อนๆเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันค่ะ^^

สามารถทักเข้ามาพูดคุยหรือสอบถามได้ที่นี่เลยค่ะ♥
FB : Duangkaew Kemmanunsopon
ID LINE : junejunstiknow

FULL PROFILE