มาค่าา สาวๆ สาย K-Beauty เรายังคงอัพเดททริคแต่งหน้าสไตล์เกาหลี และกูลเท็มลับจากรายการ Beauty no.9 กันเช่นเคย ใครพลาด EP. ไหน ไปตามเก็บกันได้ Jeban จัดให้แล้ววว

สัปดาห์นี้เนื้อหาของรายการก็ดีเว่อร์ เพราะเค้าหยิบเรื่องโทนสีผิว พร้อมกับเทคนิกเลือกเมคอัพมาแชร์กันแบบไม่มีกั๊ก ใครที่ยังงงๆ ว่า สีผิวของเรานั้นเป็นโทนไหนกันแน่ ลองไปดูวิธีเช็คโทนผิวแบบเกาหลีกันเลย

หัวข้อของ Beauty No.9 วันนี้คือ ‘BASE COLOR’ ที่สาวเกาหลียกให้เป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของขั้นตอนเมคอัพ เพราแต่ละคนมีโทนผิวไม่เหมือนกัน การรู้สีเบสที่เหมาะกับตัวเองจึงจำเป็น

คุณปาร์คแทยุน บอกว่า สาวๆ หลายคนยังไม่รู้วิธีเลือกรองพื้น ไม่รู้ว่าสีรองพื้นเฉดไหนที่เข้ากับตัวเอง ที่เกาหลีจะมีคำว่า "พาเด ยูมกมิน" แปลว่าคนที่กำลังสับสน ลองใช้รองพื้นไปทั่ว เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับโทนผิว วันนี้เค้าเลยจะมาสอนเทคนิคเช็คโทนสีผิว และโทนอัพผิวด้วยสกินแคร์ รวมถึงวิธีใช้เบสที่เข้ากันด้วยกูลเท็มเมคอัพที่หยิบมาแนะนำกัน

โทนสีผิวของเราเป็นแบบไหน 

ตามหลักการของ K-beauty จะแบ่งสีผิวออกเป็น 3 โทน ซึ่งออกแบบมาแล้วสำหรับโทนสีผิวยอดนิยมของสาวไทย วิธีสังเกตง่ายๆ ก็ตามนี้

• COOLTONE เส้นเลือดเป็นสีน้ำเงิน หรือสีม่วง หากตากแดดเป็นเวลานานผิวจะแดง สาวคูลโทนจะเหมาะกับเครื่องประดับสีเงิน 
• WARMTONE เส้นเลือดเป็นสีเขียว ผิวไหม้แดดได้ง่าย สาววอล์มโทนจะเหมาะกับเครื่องประดับสีทอง 
• OAK(honey)TONE เส้นเลือดเป็นสีเขียวอ่อนๆ ไม่มีเลือดฝาด สาวฮันนี่โทนจะเข้ากับเครื่องประดับได้ทุกสี 

ส่วนกูลเท็มไหนที่จะช่วยปรับผิวให้สวยได้บ้าง ไปดูเฉลยกัน

1. คลีนเซอร์โคลน ช่วยดูดซึมความมัน 

หากใช้คลีนซิ่งให้เหมาะกับผิว เวลาที่แต่งหน้าจะทำให้เมคอัพติดทนมากขึ้น ยิ่งถ้า
เป็นคนที่กังวลเรื่องความมัน และรูขุมขนกว้างแล้วละก็ ให้ลองใช้คลีนเซอร์เนื้อโคลนที่สามารถสามารถดูดซึมความมัน และช่วยปรับสมดุลให้ผิว

กูลเท็มที่แนะนำเป็นตัวแรกในวันนี้คือ PPL TREECHADA <Deep sea mud cleansing mask> Mud Cleansing Stick แบรนด์ไทย ที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ จุดเด่นคือเป็นกูลเท็มแบบแท่งที่ใช้หมุนแล้วทา ทำให้มือไม่เปื้อน และยังสามารถคลีนซิ่งได้อย่างสะอาดและสะดวก เพราะคลีนเซอร์โคลนจะช่วยดูดซึมความมัน ดูแลให้รูขุมขนสะอาด และยังช่วยทำให้โทนผิวสม่ำเสมอด้วย

Tips ควรทาหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก ควรทิ้งระยะการล้างน้ำตามสภาพผิว เช่นถ้าเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย ให้ล้างน้ำก่อนที่ผลิตภัณฑ์จะแห้ง

2. อายเจลปรับผิวรอบดวงตา

อยากปรับผิวรอบดวงตาให้ดูเต่งตึง สว่างสดใส ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสาวเกาหลีเค้านิยมใช้ Eye gel pad มาสก์เฉพาะส่วนที่ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ หรือบริเวณข้างจมูกไปจนถึงร่องแก้ม ที่เสี่ยงต่อการหลุดลอกของเมคอัพ

กูลเท็มที่แนะนำตัวต่อไป PPL VT <CICA NATURAL EYE GEL PATCH> แผ่นไฮโครเจลจะทำปฏิกิริยาทันทีในอุณหภูมิผิว ช่วยเติมความเย็นและสารอาหาร และมีใบบัวบกเป็นส่วนประกอบช่วยให้ความชุ่มชื่นและปลอบประโลมผิว

Tips ไม่ใช่แค่รอบดวงตาเท่านั้น บริเวณที่ต้องการดูแลอย่างรอบริมฝีปาก ก็สามารถนำมาใช้ได้ หลังจากที่ทาครีมและโทนเนอร์เพื่อจัดการผิวหลังล้างหน้าแล้ว ให้แปะ Eye gel pad ในบริเวณที่ต้องการประมาณ 10-20 นาทีแล้วลอกออก เอสเซนส์ที่เหลืออยู่ก็ตบเบาๆ เพื่อเติมความชุ่มชื่นซึมเข้าสู่ผิว

3. ขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว

แพดชุ่มโทนเนอร์ช่วยดูแลเรื่องความมัน สิ่งตกค้าง และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ชุ่มชื่น อย่าง COSRX <pimple pad> ที่ระคายเคืองน้อย สามารถใช้เป็นประจำทุกวันได้ ถ้าใช้ก่อนลงเบสเมคอัพจะดีมากเลย เพราะแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ขจัดเซลล์ผิว แต่ก็ชุ่มด้วยโทนเนอร์ที่ช่วยดูแลเรื่องความมัน ช่วยจัดการผิวโดยไม่ต้องล้างน้ำ และทำให้เมคอัพติดทน

Tips หลังจากขจัดสิ่งตกค้างและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ด้วยแพดด้านที่มีลายนูนแล้ว ให้ใช้ด้านตรงข้ามที่นุ่มนวลเช็ดเพื่อจัดการผิว

4. เซรั่มเติมความชุ่มชื่นให้ผิว

เซรั่มที่ช่วยดูแลเรื่องความชุ่มชื่นและความเต่งตึงของผิว ที่มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “เซรั่มแสงไฟ” Wellage <Real Hyaluronic Capsule Serum> มีแคปซูลอนูเล็กที่มีกรดไฮยาลูโรนิค 3 โมเลกุล ทั้งสูง กลางและต่ำ กว่า 5,000 โมเลกุล ช่วยให้ผิวชุ่มชื่นและเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย ไม่ใช่แค่ดูแลผิวภายนอกเท่านั้น ยังซึมซับให้ความชุ่มชื่นเข้าไปในชั้นผิว (2.5 mm) กูลเท็มตัวนี้ หากทาก่อนแต่งหน้าก็จะทำให้แต่งหน้าง่าย ผิวดูดีขึ้น

5. Sleeping mask ช่วยคืนสภาพผิว

กูลเท็มต่อไปจะช่วยคืนสภาพผิวให้กลับเป็นปกติ และช่วยให้แต่งหน้าสวยติดทน เพราะเป็น Sleeping mask ที่ช่วยสร้างเกราะความชุ่มชื่นและแคร์ผิวขณะหลับ และครีมปลอบประโลมที่อ่อนโยน ช่วยสร้างความสมดุลให้ผิว

PPL VT <CICA Sleeping Mask+CICA Cream> ทั้งสองผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของ cicalio ที่ช่วยปลอบประโลมผิวที่แห้งและอ่อนแอ และมีกรดไฮยาลูโลนิก 3 ประเภท ที่ช่วยสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื่นให้ผิว สามารถใช้เป็นครีมมอยซ์เจอไรเซอร์ได้ เนื่องจากเป็นเนื้อครีมแบบเจลที่ไม่เหนียวเหนอะหนะและมันวาว อีกทั้งยังมีส่วนประกอบสมุนไพรกว่า 7 ชนิดที่ช่วยปลอบประโลมผิว

Tips ครีมตัวนี้ให้ความรู้สึกเย็นสบายโดยไม่ให้ความมันเงา ทำให้น่าจะแต่งหน้าติดทนเลือกใช้ตามประเภทของผิว แทนครีมบำรุงผิวที่ใช่เฉพาะตอนกลางคืนก็เพียงพอ

6. รองพื้นปรับผิวให้ดูเรียบเนียน

การรู้ว่าโทนผิวของตัวเองเป็นโทนไหนคือเรื่องที่สำคัญมาก สาวไทยจะแบ่งโทนสีผิวได้เป็น 3 โทน คูลโทน วอร์มโทน และโอ๊กโทน เป็นหลักในการเลือกรองพื้น อย่าง MAC <studio fix fluid broad spectrum> รองพื้นที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน ปกปิดรูขุมขนและริ้วรอยอย่างพิถีพิถัน มีเฉดสีกว่า 42 เฉด ทุกโทนผิวสามารถเลือกใช้ได้ กูลเท็มนี้โดดเด่นในเรื่องความติดทนแม้เจอเหงื่อหรือความชื้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ขณะทาให้ความรู้สึกเรียบเนียนและนุ่มนวล และเมื่อทาเสร็จแล้วให้ผลลัพธ์แบบแมตต์

Tips การเทสต์สีรองพื้นที่หลังมือ หรือกลางใบหน้า (บริเวณที่สว่าง) เป็นการเทสต์ที่ผิด ให้ใช้คัตตอนบัดลองทาที่คอ แล้วเทียบสีดู แบบนี้จะทำให้รู้สีโทนผิวของตัวเองได้ถูกต้องมากขึ้น หรือใช้ถ่ายรูปเซลฟี่เก็บไว้ และเทียบดูสีจากรูปได้ด้วย

7. ใช้แปรงที่ออกแบบให้เข้ากับโครงหน้า

แปรงที่ถูกออกแบบให้เข้ารูปหน้า ทำให้มือใหม่หัดแต่งหน้าก็สามารถหาตำแหน่งที่จะคอนทัวร์ได้อย่างง่ายดาย gesgep ชุดแปรง Contouring ที่ช่วยให้โครงหน้าชัดเจนเพราะถูกออกแบบให้เข้ากับโหนกแก้มบนใบหน้า แปรง Foundation ที่แนบสนิทกับใบหน้า ขนแปรงแน่นทำให้ไม่เหลือร่องรอยขนแปรง และ Cheek&Hilighter ผลิตจากขนแกะธรรมชาติที่นุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว แม้ผิวแพ้ง่าย สามารถเบลนดิ้งได้อย่างนุ่มนวล

8. เลือกคอนทัวร์ให้เหมาะกับสีโทนสีผิว

ต่อไปเป็นกูลเท็มที่ออกแบบมาเพื่อให้หาเบสไอเท็มที่เหมาะกับผิวตัวเองให้ง่ายขึ้น
Fenty Beauty <Match STIX TRIO> ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบแท่งที่เหมาะกับสีโทนผิว มีทั้งคอนซีลเลอร์, คอนทัวร์, ไฮไลท์เตอร์ ประกอบด้วยแมตต์สติ๊ก 2 แท่ง และชิมเชอร์สติ๊ก 1 แท่ง มีสีที่เหมาะกับโทนผิว สามารถเลือกสีแบบ DIY ได้ สามารถทาได้อย่างลื่นไหล และติดทนนาน

9. ไฮไลท์อย่างเป็นธรรมชาติ

ตัวถัดมาเป็นกูลเท็มที่โด่งดัง เพราะช่างแต่งหน้าต่างประเทศและเซเลปนิยมใช้ Becca <Shimmering Skin Perfector Highlighter> ชิมเมอร์ไฮไลท์เตอร์ที่มีทั้งหมด 10 เฉดสี ที่ผลิตออกมาเพื่อให้เข้ากับโทนผิวต่างๆ เป็นเนื้อผลิตภัณฑ์นุ่มราวกับเนย ไม่ใช่เนื้อแป้งอัด ทำให้ไฮไลท์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ให้สีที่ชัดเจน

Tips สีชมพูมุก (champagne pop) เป็นสีที่ได้รับความนิยมที่สุดในเกาหลี

10. แต่งตาให้เป็นประกาย 

มาถึงพาเลตตาที่แนะนำกันบ้าง HUDA Beauty <Rose Gold Palette REMASTERED> อายแชโดว์พาเลตต์ 18 หลุม ที่ประกอบไปด้วยสีที่เหมาะกับทุกโทนผิว ทั้งผิวโทนอุ่นและผิวโทนฮันนี่โอ๊กก็ใช้ได้ เพราะมีสีที่หลากหลายทั้งสีธรรมชาติที่ใช้ได้ง่ายและสีฉูดฉาดที่เหมาะกับงานปาร์ตี้ สีดำสามารถใช้เป็นอายไลน์เนอร์ ทำเป็นสโมคกี้เมคอัพได้ด้วย

11. คัลเลอร์ไอเท็มช่วยให้ผิวดูสว่างสดใส

คัลเลอร์ไอเท็มที่ช่วยปรับผิวให้ผิวดูสว่างสดใสขึ้น แค่ใช้สีที่สว่างเป็นคัลเลอร์พ้อยต์ อย่าง 3CE <Stranger Lights Neon Edition Multi Pot> มัลติเท็มซึ่งสามารถใช้เป็นลิป, บลัชเชอร์, และแชโดว์ ที่ถูกวางขายแป็นคอลเล็กชั่นซัมเมอร์ลิมิเต็ดอิดิชั่น เนื้อผลิตภัณฑ์ airy matte บางเบาเหมือนอากาศ

Tips จุดเด่นของผลิตภัณฑ์เนื้อ airy matte จะให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อทาเสร็จ
แต่เนื่องจากเป็นบาล์มที่มีน้ำมันเป็นส่วนผลม จะต้องหลีกเลี่ยงที่ที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงได้ง่าย

12. ลิปกลิตเตอร์ช่วยให้ปากเงางามมีมิติ

เมื่อทาเบสให้ดูมีสุขภาพดีแล้ว นี่ก็เป็นไอเท็มที่เมื่อทาแล้วก็ยิ่งเหมาะขึ้นไปอีก NYX <LIP Lingerie Glitter> ลิปกลิตเตอร์ที่มีทั้งหมด 9 สี ทำให้ปากดูเงางามทาได้อย่างเรียบเนียน ไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้เดี่ยวๆ หรือจะทาทับบนลิปสติกก็ได้ แอพพลิเคเตอร์เป็นแปรงหัวตัด ทำให้ทาได้อย่างสะดวกและนุ่มนวล ทำให้ปากเป็นประกายมีมิติและยังให้ดูเงางามไม่มากเกินไป

Kat Von D <Liquid Lipstick> ลิปที่เคลมว่าสีชัดและติดทนเหมือนการสัก ตอนทาให้ความรู้สึกครีมมี่ แต่เมื่อทาแล้วจะติดทนที่ริมฝีปาก มีทั้งหมด 56 เฉดสีที่เหมาะกับทุกโทนสีผิว เพราะมีคัลเลอร์สเปคตรัมที่กว้าง และเป็นกูลเท็มยอดนิยมที่ขายหมดทั่วประเทศอเมริกา

Tips สาวคูลโทน แนะนำลิปโทนสีเบอร์รี่ สาววอร์มโทน แนะนำโทนสีคอรัลเรด ส่วนโอ๊กโทนใช้ได้ทุกสี ยิ่งทาสีลิปที่เข้ากับผิวตัวเองแล้ว ใบหน้าก็จะยิ่งดูสดใสขึ้น

การแต่งหน้าให้เข้ากับโทนผิวตัวเองสำคัญแบบนี้นี่เอง วันนี้เราก็ได้เรียนรู้กูลเท็ม Base Color ที่มีประโยชน์ไปแล้ว สาวๆ ชอบทริคไหนก็อย่าลืมเอาไปปรับใช้กันนะจ๊ะ

ส่วนใครที่อยากอัพเดทเทรนด์บิวตี้ กลับมาดูเคล็ดลับดีๆ จากรายการ Beauty No.9 ได้ใหม่อาทิตย์หน้า เวลา 21.30 น. ทาง WorkpointTV และติดตามเฉลยกูลเท็มได้หลังจบรายการที่ Jeban.com นะจ๊ะ สายเกาหลีห้ามพลาด >__<