ก็แค่เป็นคนที่ชอบสีสันก็เท่านั้นเอง อีกนิดจะทำสีรุ้งแล้วนะคะ 555
and.ann.ans
32
10
นี่เป็นเพียงรูปส่วนนึงของการทำสีผมของเราตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ต้องออกตัวก่อนนะคะว่าเราเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าร้านทำผม นอกจากจะไปตัดผม เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบไปนั่งนานๆ ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เราชอบแบบทำเองที่บ้าน เวลาที่รอก็สามารถทำโน่นนี่ไปด้วยได้ ไม่ใช่แค่นั่งรอเฉยๆ เลยเป็นที่มาที่เราชอบทำสีผมเองที่บ้านค่ะ อ้อ ในกระทู้นี้ นอกจากจะเห็นวิวัฒนาการทางด้านสีผมแล้ว ยังจะเป็นวิวัฒนาการทางด้านหน้าตาเราไปพร้อมๆ กันด้วย 5555
คือโดยปกติแล้ว เราเป็นคนที่ชอบทำสีผมอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็จะทำสีธรรมชาติ ไม่แรงมาก เพราะเราทำงานเป็นเซลล์มาตลอด เราคิดมาเสมอว่าเราจะต้องดูน่าเชื่อถือ ทำผมสีแรงมากๆ ไม่ได้ จนเราได้มีโอกาสไปเรียนที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย นั่นเลยเป็นจุดที่ทำให้เราตัดสินใจที่จะกัดสีผมและทำสีผมแรงๆ เป็นครั้งแรก เพราะเราไม่มีเหตุผลที่จะต้องดูภูมิฐานและน่าเชื่อถือในสายตาคนอื่นอีกแล้ว เราเลยตัดสินใจทำสีนี้ในตอนที่อายุ 29 ปี เราจำได้ว่าเราเดินไปที่ห้างแล้วไปซื้อน้ำยากัดสีผมสีขาวมาแล้วก็ทำเองที่บ้านเลย กัดอยู่ 2 รอบ แล้วก็พักอยู่อาทิตย์นึงค่อยย้อมต่อ ช่วงที่พักนี่ก็หัวขาวไปเรียนเลยจ้าาาา แต่กว่าจะมาเป็นสีนี้ เราก็วอแวอยู่นานเลือกไม่ถูกว่าจะลงสีอะไรดี เราเลยซื้อสีแบบชั่วคราวมาย้อมก่อน แต่ด้วยความที่มันเป็นสีม่วงก็เลยหลุดไว เราเลยได้โอกาสเปลี่ยนสีใหม่อีก (อ่อ คือนี่เป็นรูปเมื่อ 5 ปีที่แล้วเนอะ กล้องอาจจะไม่ชัดมาก โปรดอย่าถือสาเลยนะคะ)
หลังจากที่ผมม่วงลาเวนเดอร์แล้ว ก็มาสีนี้เลยจ้าาา แล้วเราก็พบว่ามันไม่เข้ากับหน้าเราเลยอ่ะ 5555 หลังจากนั้นก็เปลี่ยนไปอีกหลายสีเหมือนกันแหละ แต่พอดีช่วงนั้นใกล้จะกลับเมืองไทยแล้ว แล้วโทรศัพท์ก็เจ๊งพอดี เลยไม่มีรูป อ่อ จะบอกก่อนว่าเวลาที่เรากัดสีผมอ่ะ สีผมมันติดง่ายแล้วสีชัดก็จริงนะคะ แต่แป๊บเดียวมันก็หลุดแล้วนะคะ เพราะเกร็ดผมเราเปิดแล้ว มันเลยไม่ค่อยซึมซับสีผมเท่าไหร่ สระไม่กี่ครั้งสีก็เฟดแล้วค่ะ
หลังจากที่กลับมาถึงเมืองไทย เราก็ย้อมสีนี้เลยจ้าาา ตอนที่แม่เห็นสีนี้ตอนแรกนี่ถึงกับเบะปากเลยอ่ะ 555 คือสีขัดใจนางมาก แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรมาก คงจะชินกับลูกสาวประมาณนึงล่ะค่ะ
หลังจากสีผมขัดใจแม่ เราก็ได้เวลากลับเข้าสู่โหมดทำงานออฟฟิศกันอีกครั้งนึงค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่กลับมาหางานทำ และต้องสัมภาษณ์งาน เราเลยคิดว่ากลับมามีสีผมเหมือนมนุษย์ปกติน่าจะดีกว่า ก็เลยทำสีนี้ค่ะ
ไม่ต้องสืบว่าตอนที่ทำผมสีนี้เรามีงานทำแล้ว 555 ผมก็เริ่มยาวแล้ว เลยอยากทำสีที่แรงขึ้นมาอีกนิด เพราะเจ้านายเค้ารับเราแล้ว เราทำงานให้เค้าแล้ว เค้าคงไม่ไล่เราออกเพราะย้อมสีผมหรอกนะ 55
จากรูปเมื่อกี้มาถึงรูปนี้ เราจำไม่ได้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่รู้ว่ามีผีสิงค่ะ อยู่ดีๆ ก็อยากจะผมดำขึ้นมา ทั้งๆ ที่สีผมปกติของเราก็ไม่ได้ดำเลย พอทำแล้วก็รู้สึกว่าไม่น่าทำเลย หน้าดุมากอ่ะ
แต่ใจมันรักอ่ะเนอะ 555 บอกตามตรงว่าเราได้แรงบันดาลใจมาจากน้องที่เป็นเซลล์อีกคนนึง น้องเป็นคนเปรี้ยวมาก น้องก็กัดแล้วทำสีเหมือนกัน แต่น้องทำสีเทาอ่อนเลย เราเลยคิดว่าเจ้านายคงจะไม่ว่าอะไร เราเลยเอาบ้าง 555 (คือนี่เราเพิ่งเปลี่ยนงานได้ไม่นาน ตอนแรกก็ไม่กล้า แต่พอเจอน้องเข้าใจ ได้ค่ะ พี่เอาด้วย 55)
หลังจากนั้นอีก 3 วัน ก็ตัดสินใจเปลี่ยนเป็นสีนี้เลยค่ะ 55555
เหมือนที่บอกแหละค่ะว่าผมที่ผ่านการกัดสีมาแล้ว สีจะหลุดง่ายมาก ช่วงนั้นเลยเป็นช่วงที่เราสนุกสนานกับการเปลี่ยนสีผมราย 2 อาทิตย์เลยค่ะ อย่าถามนะคะว่าผมเสียมั้ย บอกเลยว่ามากค่ะ ผมขาดหลุดร่วง แห้งกรอบ แตกปลาย หนังศีรษะเบิร์นเลยก็มีค่ะ แต่เราก็พยายามบำรุงกลับไปให้ได้มากที่สุดค่ะ
จากรูปจะเห็นว่าผมเริ่มงอกแล้ว แต่ในส่วนที่ผ่านการกัดมาเราก็ทำสีเทาทับลงไปค่ะ
จากรูปจะเห็นเลยว่าปัจจุบันผมเราบางลงมาก แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีผมที่งอกใหม่ชี้ๆ ออกมากอยู่พอสมควรค่ะ
ยังไงก็ขอฝากไว้ด้วยนะคะ ว่าการทำสีผมมันก็ดีค่ะ สนุกดี สวยดี แต่เราก็ต้องดูด้วยเนอะว่าเราอยู่ในสถานะที่สมควรที่จะทำรึป่าว แล้วถ้าทำแล้วก็ต้องบำรุงรักษาให้ดีด้วยนะคะ เพราะเราเจ็บมาเยอะมากค่ะ นี่พูดเลยว่าตอนนี้หนังศีรษะเราก็ยังถือว่าอ่อนแออยู่มาก แพ้ง่ายมาก แล้วก็แห้งมากด้วย น่าจะเกิดจากการที่โดยเคมีเยอะมากไป หน้าสวยแล้วก็อย่าลืมดูแลผมด้วยนะคะ xoxo
