Badass LGBT characters that WE LOVE

34 5

Cheryl Blossom แห่ง Riverdale


แน่นอนว่า ซีรีส์วัยรุ่นชื่อดังที่นำเสนอเรื่องราวที่วุ่นวายสับสนของคนรุ่นใหม่ที่พยายามค้นหาตัวตนและยอมรับมันให้ได้ก็ย่อมขาดเพศทางเลือกไปไม่ได้อยู่แล้ว

และเมื่อสาวร้ายที่เป็นจุดศูนย์กลางของซีรีส์วัยรุ่นกระแสดีได้เปิดตัวว่ามีรสนิยมรักร่วมเพศ   ชาวเน็ทจำนวนมากก็เฮลั่นด้วยความปลาบปลื้ม
คุณคะ    หากเป็นอุตสาหกรรมบันเทิงชั้นนำของตะวันตก  ตัวละคร LGBT ได้ก้าวผ่านพล็อทเรื่องแบบ cliche ไปนานแล้ว   เพศทางเลือกไม่ได้เป็น "สีสัน" ที่ทำให้ fiction ดูน่าสนใจขึ้นเหมือนที่หลายคนเคยชิน   แต่เป็น "ส่วนหนึ่ง" ของการดำเนินชีวิต  พวกเค้าไม่ได้ถูกกำหนดให้เป็นตัวตลกหรือแสดงบุคลิกแบบ "แรงๆ" เพื่อทำให้เรื่องราวดูเผ็ดร้อนเรียกความสนใจจากผูชมมากขึ้น แต่การเขียนบทของตัวละคร LGBT ในปัจจุบันมีความหลากหลาย และทำให้พวกเราเข้าถึงได้กว่าแต่ก่อน  เพราะชาวเพศทางเลือกก็ไม่ได้เป็นหนึ่งในกลไกของสังคมที่สำคัญไม่ต่างจากใครอื่น ในขณะที่เราเสพความบันเทิงจากวิถีชีวิตของความ straight โดยไม่มีอคติใดๆ   ทำไมจะต้องมีปัญหากับอัตลักษณ์ทางเพศอื่นๆด้วย?

ลองไล่ดูแบบชิลๆ ทุกวันนี้หนังซีรีส์ทุกแนวจะมีนักแสดงนำ LGBT ไล่ดูแบบสนุกๆ Game Of Thrones - The walking dead - Gray's Anatomy - How to get away with murder - Once Upon a Time - Hannibal เยอะมากจนยกมาไม่หวาดไม่ไหว ไม่ว่าจะเป็นดราม่าแนวตลกโปกฮาหรือสยองขวัญเลือดสาดก็มีตัวละคร LGBT เด่นๆครบทุกสายอาชีพ

ก็เพราะมันคือเรื่องปกติที่สังคมควรเต็มใจยอมรับยังไงล่ะ!



นักเขียนไม่ได้เปลี่ยนให้คุณหนูหยิ่งยโสจอมบงการให้ดูอ่อนแอเจ้าน้ำตาแบบชั่วข้ามคืน  แต่เธอค่อยๆกระเทาะเปลือกที่เย็นชาร้ายกาจให้คนๆหนึ่งได้เห็นตัวตนด้านในว่าแท้จริงแล้ว ความทุกข์ที่ต้องปิดบังตัวตนต่างหากที่ทำให้เธอต้องสร้างเครื่องป้องกันตัวด้วยภาพของคนไร้หัวใจ

เพราะหลังจากที่แม่ของ Cheryl พบเธออยู่บนเตียงกับเพื่อนรัก เธอก็ถูกแม่ประนามว่าเป็นพวกผิดปกติ


และคนๆที่รับฟัง Cheryl เปิดเผยความจริงเรื่องรสนิยมทางเพศก็คือ Toni คู่อริที่ฟาดฟันกันมาตลอด  แล้วค่อยๆ แปรเปลี่ยนมาเป็นความรัก   และกลายมาเป็นแฟนสาวอย่างเปิดเผยคนแรกของเธอ
หลายคนชิปคู่ Choni มาก่อนสาวร้ายปากแดงจะเปิดตัวซะอีกค่ะ   พอทั้งสองสารภาพความรู้สึกต่อกันก็ทำให้ฟินกันไปถ้วนหน้า   และแน่นอนว่าเมื่อพวกเธอแสดงความรักต่อหน้าผู้คนแบบไม่ต้องรู้สึกผิดและอับอายก็ยิ่งทำให้เสียงเชียร์ลั่นดังมากกว่าเดิมไปอีก

เมื่อก่อนเราเคยมองว่า Cheryl มีอิทธิฤทธิ์ของ mean girl ที่ไม่แตกต่างจาก Blair แห่ง Gossip Girl แต่เมื่อเธอยอมรับตัวตนจริงๆแล้วก็ยิ่งดูน่าติดตามจากแง่มุมการปรับตัวให้เข้ากับความสัมพันธ์ของผู้หญิงด้วยกันหลังจากที่ต้องปกปิดตัวเองมาตลอด

ส่วนคำถามที่บางคนอาจจะคาใจก็คือรสนิยมทางเพศที่แท้จริงของ Cheryl ว่าเป็น Bi เหมือนกับ Toni รึเปล่า .ในตอนแรก ตัวนางเอกสาว Madelaine Petsch ได้อธิบายว่าชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิงค่ะ แต่ล่าสุดเธอได้เปลี่ยนแปลงคำตอบ

"ชั้นคิดว่า Cheryl เป็น lesbian ค่ะ พอได้คุยกับ Roberto (ผู้สร้าง Riverdale) แล้ว เรามีความเห็นว่าเธอชอบผู้หญิงเท่านั้น มันเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ ในซีซันที่ผ่านมาเป็นช่วงที่เธอพยายามค้นหาตัวเองว่ามีรสนิยมทางเพศแบบไหนกันแน่ และชั้นว่าตอนนี้เธอน่าจะค้นพบมันแล้วค่ะ"





Patrick   แห่ง The Perks of Being a Wallflower





"ยอมรับเหอะว่าชั้นสวยเป๊ะกว่าสาวๆทุกคนในห้องนี้!"





เรามักจะพบหนังซีรีส์วัยรุ่นที่นำเสนอชาว LGBT ในภาพของผู้ถูกกระทำที่เลือกยอมแพ้ต่อพวกเหยียดเพศ แต่ใน The Perks of Being a Wallflower เราหลงรัก Patrick เกย์หนุ่มมัธยมที่แสนจะไฮเปอร์และอยู่ตรงข้ามกับความซีเรียส เพราะภายใต้บุคลิกที่สนุกสนานนั้น เขามีความเข้มแข็งและกล้าหาญในระดับที่ต่อกรพวกจอม bully ได้แบบไม่หวั่น


แม้จะเป็นผู้ที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับเพื่อนฝูงเสมอ   แต่ความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญกับเสียงเหยียดหยามจากคนที่ไม่ยอมรับเพศทางเลือกก็ต้องทำให้ Patrick ต้องผ่านวันเวลาที่มืดหม่นมาแล้ว       เขาอาจจะแกร่งจนลุกมาสู้กับ bully ได้ก็จริง       แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำใจให้ชินชาเลย     ความสัมพันธ์ลับสุดยอดกับนักฟุตบอลดังของโรงเรียนที่เสแสร้งว่าเป็น straight เต็มร้อยยิ่งทำให้เขาสับสน       เขาอาจดูเป็นพวกที่มั่นใจตัวเองอยู่ตลอดเวลา     แต่กลับเป็นฝ่ายยอมรับแฟนหนุ่มที่อับอายกับเรื่องรักร่วมเพศ

ไม่ว่าใครก็พบกับความรักที่ผิดหวังเพราะเลือกคนผิดได้ทั้งนั้น   แต่สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผ่านพ้นความทุกข์ไปเจอวันวันใหม่ที่ดีกว่าคือความเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง     Patrick อาจจะเจอพวกเกเรแบบหมาหมู่หยามว่าเป็นไอ้ห่วยไร้ตัวตน และมันก็เป็นฝันร้ายของชีวิตวัยรุ่น   แต่เขารู้ดีว่าตัวเองมีดีเหนือกว่าพวกจิตใจคับแคบ  เขาฟื้นฟูจากประสบการณ์เลวร้ายในโรงเรียนมัธยมจนกลับมาร่าเริง  และมุ่งไปสู่ชีวิตใหม่ในเมืองใหญ่ด้วยความหวังว่าจะพบกับความเปลี่ยนแปลง
 
ชาวเน็ทหลายคนได้เปิดเผยว่ารู้สึกเข้าถึงในความเป็น Patrick จากเรื่องราว bully ในโรงเรียน Ezra Miller ได้ถ่ายทอดความใจสลายออกมาจนทำให้ผู้ชมสะเทือนใจ โดยเฉพาะฉากทะเลาะวิวาทในแคนทีนที่อาจเรียกน้ำตาจากความสงสารแล้วแปรเปลี่ยนมาเป็นความประทับใจในมิตรภาพของเพื่อนแท้
เราเชื่อว่า  มีผู้ชมอีกมากมายที่เห็นด้วยกับการปลูกฝังความเข้าใจเรื่องชาวเพศทางเลือกที่ถูกต้อง   พวกเค้าไม่ได้มีหน้าที่คอยสร้างเสียงหัวเราะให้กับคนรอบข้างตลอดเวลาโดยไม่มีวันหมดพลังงาน  ผู้ชายที่เป็นเกย์ไม่ได้ยินดีกับการถูกเรียกว่าเจ๊ไปหมดทุกคน   และการชอบผู้ชายก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเค้าจะต้องมีหน้าที่เป็นเพื่อนสาวหรือมันไม่เห็นแปลกหากจะสนิทสนมกับผู้ชาย straight คนอื่นๆแบบเพื่อน




Hannibal Lecter  และ Will Graham แห่ง Hannibal


ช่วงที่ Hannibal ยังออนแอร์อยู่   ก็เรียกเสียงวิจารณ์อื้ออึงว่าผู้สร้างพยายามขายซีรีส์กด้วยเรื่อง homoerotic   มีการบอกใบ้เป็นนัยๆให้ผู้ชม debate กันเองว่า  ตกลงแล้วHannibal และ Will นั้นมีความสัมพันธ์แบบรักร่วมเพศหรือไม่  ซึ่งตอนแรกๆผู้กำกับก็ออกมาตอบแบบกำกวมว่า   ทั้งคู่ต่างหลงไหลกัน แต่ความรู้สึกนั้นไม่ใช่ความสัมพันธ์ทางกาย   สิ่งที่พวกเค้าเป็นมันเหนือกว่าเรื่องทางกาย   แม้จะเป็นผู้ชายที่มีรสนิยมชอบเพศตรงข้าม แต่ก็ถูกดึงดูดเข้าหากัน   ผู้กำกับพยายามปฏิเสธว่านี่ไม่ใช่ความรักของ gay   แต่ในที่สุด  เมื่อถูกตั้งคำถามครั้งแล้วครั้งเล่าก็ยืนยันชัดเจนแล้วว่า   Hanninal และ  Will  มีความรักแบบ queer   แต่ยังระบุไม่ได้ว่าอยู่ในterm อะไรในกลุ่มเพศทางเลือก



แม้จะไม่มีการระบุชัดเจนว่ารสนิยมทางเพศของพวกเค้าตรงกับคำว่าอะไร  แต่ที่เห็นได้ชัดคือไม่ straight แน่ๆ     ฆาตกรโรคจิตผู้ปราดเปรื่องในเวอร์ชั่นหนังมีความหมกมุ่นกับ FBI สาวแกร่งอย่าง Clarice Starling    และก็ดูเหมือนว่า Will Graham จะกลายมาเป็น Starling ในภาคผู้ชายใน TV series   และมันไม่ใช่ความหลงไหลเพียงข้างเดียว   ถึงจะสัมผัสได้ถึงความอันตรายของ Dr. Lecter   แต่นักสืบหนุ่มก็ไม่สามารถถอนตัวจากแรงดึงดูดของฆาตกรวิปริตในคราบมิตรไปได้
คนที่แนะนำให้ผู้เขียนชม Hannibal  เป็นเพื่อนที่เป็นสาววายมาหลายทศวรรษ   นางไม่ค่อยติดตามซีรีส์ฝรั่งมากเท่าใด  แต่พอลองชมตามสามีแล้วถอนตัวไม่ขึ้น  และลงความเห็นว่า  ถึงจะฟันธงไม่ได้100%ว่าพระเอกทั้งสองรักกันแบบชาย - ชาย   แต่ก็ทำให้จิ้นแบบคู่เคะ-เมะได้ไม่ต่างกับการอ่านนิยายจีนหรือโดจินญี่ปุ่น    

ฝ่ายหนึ่งเป็นฆาตกรเลือดเย็นที่ยึดมั่นว่าการสังหารคือศิลปะอันงดงาม หากเป็นโลกแห่งความจริงความไร้ศีลธรรมนี้ก็คงสร้างความขยะแขยงให้กับผู้คน แต่เพราะเป็นเพียง fiction แล้วแฟนๆก็ต้องยอมรับในเสน่ห์ของตัวละครนี้

ส่วนอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ในฝั่งความชอบธรรมนั้นคือนักสืบหนุ่มหน้าสวยที่ดูอ่อนวัยในหลายมุม เขาหลงรักหมา ไม่ปลื้มการเข้าสังคมแต่ก็อดเอ็นดูไม่ได้ คนที่ใจเต้นกับเคมีของสองหนุ่มจึงพยายามเชียร์ให้ Hannigram กลายเป็นคนรักแบบออกหน้าออกตา


แต่นี่คือซีรีส์แนวสยองขวัญสั่นประสาท ความรักแบบ Hannigram จึงลึกลับซับซ้อน ไม่ได้เป็น romance ชวนจิกหมอนแต่ต้องขนลุกอยู่บ่อยๆ



ส่วนเพื่อนสาวของเราอีกคนที่ยืนยันว่าไม่ได้นิยมความวาย  แต่กลับหลงรักตัวละครทั้งสอง  จากความท้าทายที่ไม่สามารถคาดเดาความปรารถนาของพวกเค้าได้ถูก   คุณจะได้เห็นชายผู้มีเสน่ห์แตกต่างแบบสุดขั้วยั่วยวนกันโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ  แต่ไม่นานก็ไปสร้างความสัมพันธ์กับผู้หญิงอีกคน
connection ของทั้งคู่ลึกล้ำเกินกว่าคนอื่นจะเข้าใจ  ต่างฝ่ายต่างก็เปลี่ยนแปลงตัวตนกันและกันแต่ก็มีความขัดแย้งไม่สิ้นสุด  ยิ่งมีความสัมพันธ์ที่กำกวมมากเท่าไหร่ก็ทำให้แฟนๆยิ่ง shipมากขึ้นไปอีก   เพียงแค่แตะเนื้อต้องตัวกันเพียงนิดเดียวก็Twitter ก็ฮือฮาซะแล้ว

Hannibal อาจจะไม่ได้ลงจอต่อ  แต่ซีรีส์เรื่องใหม่ที่เพิ่งฉายไปสองซีซันอย่าง Killing Eve มีนางเอกเป็นนักฆ่าจิตวิปลาสที่มีรสนิยมทางเพศแบบ  bisexual  และเกิดหลงไหลในตัวสายลับหญิงที่กำลังไล่ล่าตัวเองอยู่จนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่บิดเบี้ยว
เราไม่เห็นกระแสฮือฮาของซีรีส์เรื่องนี้ในบ้านเรานะคะ  แต่มันประสบความสำเร็จมากพอที่ได้ไปต่อในซีซัน 3  และทำให้ Sandra Oh ที่รับบท Eve คว้ารางวัลนางเอกยอดเยี่ยมมาแล้ว  ส่วน Jodie Comer ที่เล่นเป็นนักฆ่าสาวโรคจิตก็แจ้งเกิดในอมริกาได้เต็มตัว  สร้างกระแส shipping  Villanelle - Eve ไม่ต่างอะไรจากคู่  Hannigram   



Eric  แห่ง Sex Education


ในซีรีส์เรื่องนี้ หนุ่มเกย์หน้าสวยที่เป็นกลุ่มคนดังในโรงเรียนเคยปกป้องเพื่อนเกย์ที่กำลังถูก bully ว่า "รู้มั้ย เรื่องเหยียดเกย์น่ะมันหมดยุคตั้งแต่ปี 2008 แล้ว"

และมันตรงกับความรู้สึกของเราเป๊ะ     2019 แล้วค่ะ  การเหยียดเพศทางเลือกมันแสดงถึงความไม่พัฒนาทางจิตใจ  ไม่สามารถรับธรรมชาติของมนุษย์ที่แตกต่างกันได้จนต้องทำร้ายผู้อื่น  และมันไม่เกิดประโยชน์อะไรสักนิด  มีแต่จะเสื่อมถอย      ตัวละคร Eric ทำให้เราอยากดึงเค้ามากอดให้แน่นๆและบอกว่า "เธอสวยจ้ะ เธอจะต้องไปได้ดีแน่ๆ"


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE