บำรุงผิวให้แข็งแรง คืนความเรียบเนียนให้ผิวด้วย Clinique iD

      “คุณแม่ วันนี้อากาศแย่สุด รูขุมขนระเบิดมากกก" 

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ จะพูดว่านี่คือบทสนทนาที่เกิดขึ้นถี่

เสียยิ่งกว่าถี่ของเรากับเพื่อนก็ว่าได้

 
(อนึ่ง คุณแม่ไม่ใช่แม่จริงๆแต่เป็นคำเรียกแทนชื่อเพื่อนนะจ้ะ)

---

ก่อนอื่นต้องสวัสดีสาวๆ จีบันทุกคนก่อนเลย :)
เราชื่อ มิ้น ตอนนี้เป็น Youtuber อยู่ที่แชแนล MYNJIMYE จ้า

ช่วงที่ผ่านมาเทรนด์ผิวแบบ Glass skin เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆทุกคนมาก
แต่ด้วยอากาศร้อนตึ้บ (ร้อนจนปวดหัวตึ้บ) อย่างประเทศไทย
เวลาที่ต้องแต่งหน้าไปเจอทั้งแดด ลม ฝน ทำให้เรารู้สึกห่างไกลกับผิวในฝันจริงๆ

เอาจริงช่วงที่ผ่านมาเรื่องที่เรากับเพื่อนเม้าท์มอยกันบ้อยบ่อยก็คือ  

"อยู่ๆกลับบ้านมาสิวก็ขึ้นง่ะ,หน้าเป็นผดอีกแล้วว,รูขุมขนระเบิดเถิดเทิงมากคุณแม่" 

555 พอจะนึกภาพกันออกใช่มั้ยย ผลัดกันบ่นไปมา

อนึ่งเป็นคำทักทายประจำก๊วนแต่สกินแคร์ที่จะมาแชร์วันนี้

มันค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับใครที่มีผิวไม่เรียบเนียน และบอบบางแพ้ง่ายเลยจ้า 

แถมยังสามารถเลือก หรือปรับเปลี่ยนสูตรให้เหมาะกับผิวตัวเองได้ด้วยนะเอ้อ !

เจ้าตัวนั้นคือ

คิดว่าน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้วใช่มั้ยย กับเจ้ามอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อสีเหลือง

และเนื้อเจลลี่สองตัวนี้ แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ตอนนี้ทาง Clinique เขาสามารถให้เราเลือกตัวบูสเตอร์ หรือเจ้าสารบำรุงเข้มข้น (หลอดสีๆด้านใน) มาใส่เองได้

โดยมีให้เลือกถึง 5 สูตร ตอบโจทย์แต่ละปัญหาผิวกันไปเลยจ้า

เผื่อใครที่มีปัญหาผิวไม่เหมือนมิ้น แต่ก็ยังสามารถใช้ได้เหมือนกันค่ะ

แค่เลือกสูตรที่เข้ากับเราโดยเฉพาะแค่นี้เอง

หน้าตาของเขาเป็นหลอดสีๆแบบนี้

แต่ละสีก็จะมีสารบำรุงเข้มข้นที่จะเข้าไปดูแลปัญหาเฉพาะจุด
พอเอาไปเสียบเข้ากับมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวหัวปั้มก็จะทำหน้าที่ดูดมอยเจอร์ไรเซอร์
กับปล่อยบูสเตอร์ออกมาพร้อมกันในทีเดียว เอ้อ เลิศ!

หลังจากเลือกสูตรบูสเตอร์เรียบร้อย

เราก็เลือกว่าอยากได้ Moisturizer แบบไหนได้เลย
(ซึ่งเขาจะมีทั้งเนื้อเจลลี่ (Hydrating Jelly)  เนื้อโลชั่น (Moisturizer Lotion+) 
และอีกสูตรสำหรับผิวมัน (Oil-Control Gel) เหมาะสำหรับแต่ละสภาพผิว

เอาล่ะ! พอเลือกได้แล้ว เราก็แค่เอามาประกอบร่างกัน ก็จะได้ clique iD ที่เหมาะกับผิวของแต่ละคนโดยเฉพาะแล้ว

ที่เลือกสูตรสีฟ้าเพราะเขาบอกว่าเป็นสูตรที่ช่วยเรื่องรูขุมขนและผิวที่ไม่เรียบเนียนได้ดี
ตัวบูสเตอร์จะมีสารบำรุงจากกรดอัลฟ่า ไฮโดรซิล (หรือ AHA)

เข้าไปช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ

ทำให้น้องรูขุมของเรากระชับและผิวเรียบเนียนขึ้น
+
บวกกับมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรเจลลี่

เหมาะกับการทาตอนเช้าอย่างยิ่งยวด ขวดนี้เราใช้ช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า ตัวนี้ทาแล้วสบายผิวมาก ด้วยความที่เป็นเนื้อเจลลี่เหลวๆ ทำให้ซึมง่าย ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำขึ้นทันที แต่ไม่ได้รู้สึกหนัก เราชอบตรงแม้จะเป็นสูตรผลัดเซลล์ผิวแต่พอรวมกับมอยส์เจอร์ไรเซอร์แล้วก็ไม่ทำให้หน้าแห้งนี่แหละ แถมทำให้ผิวดูเรียบเนียน น้องรูขุมขนดูกระชับ แต่งหน้าต่อได้ง่ายด้วย อีกอย่างที่เค้าบอกมาก็คือตัวเจลลี่นี้มีเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องมลภาวะด้วย ดีงามไปอีกก

ส่วนกลางคืนเราเลือกมาเป็นสูตร Irritation ได้ยินมาว่าแบรนด์คลีนิกข์คือ

เหมาะกับผิวแพ้ง่ายอยู่แล้วเพราะไม่มีพวกสารอันตราย ไม่มีน้ำหอม 

แต่ตัวบูสเตอร์สีเขียวนี้ เหมาะกับผิวระคายเคืองง่ายเป็นพิเศษ

เพราะมีสารบำรุงจากสาหร่ายและใบชาขาว ช่วยปรับสมดุลผิว

 

ทำให้ผิวแข็งแรง ปลอบประโลมผิว

บรรเทาเหล่ารอยแดงที่เกิดจากการระคายเคือง 

+

ผนวกกับมอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อโลชั่น 

ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่ ทำให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น

หลังจากได้ลองก็แอบประหลาดใจเพราะดูตอนแรกเหมือนเนื้อเขาจะหนัก

ก็แอบกลัวอุดตันแต่จริงๆแล้วเนื้อไม่ได้หนักอย่างที่คิดเลยยย 

เกลี่ยแล้วให้ความรู้สึกเหมือนจากเนื้อครีมกลายเป็นน้ำ ทำให้เบาผิว 

พอซึมแล้วทิ้งไว้แค่ความชุ่มชื้น ไม่ได้รู้สึกเหนอะผิวด้วย ซึ่งทั้งสองตัวไม่มีน้ำหอมนะ

ส่วนคุณสมบัติของเจ้าตัวนี้คือนางจะช่วยปลอบประโลมผิว
ลดการระคายเคือง หลังจากเจอแดด ลม ฝนมาทั้งวัน 

 เหมือนเป็นการ Therapy ผิวเบาๆ 55 ความรู้สึกหลังตื่นมาจะรู้สึกว่าผิวสดชื่น 

อาการระคายเคืองน้อยลง รู้สึกได้ว่าผิวดูอิ่ม ฟูขึ้น

เราว่าทั้งสองสูตรที่เราใช้ นางเป็น Combination ที่ลงตัวเว่อร์ 

เหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่ต้องเจอแดด ลม ฝนเป็นประจำ

พอใช้แล้วตอนเช้าผิวจะดูนุ่มๆฟูๆดี แต่งหน้าต่อง่าย 

และรู้สึกว่าผิวแข็งแรงขึ้น เวลาทาก็ให้ความรู้สึกดีด้วย ตอนนี้เลยติดใจ

ถ้าลืมทาวันไหนก็เหมือนขาดอะไรไป 555 

ใครสนใจก็สามารถเข้าไปเลือกสูตรที่เหมาะกับตัวเองได้เลย

ที่เค้าท์เตอร์ Clinique ทุกสาขานะจ้ะ สงวนค่าตัวอยู่ที่ 1,900 บาท

(ประกอบไปด้วย Mosturizer 115 ml. และบูสเตอร์ 10 ml.)

ตอนมิ้นซื้อมาก็มีโปรโมชั่นนะคะ ถ้าใครอยากได้ลองไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนได้ที่เคาน์เตอร์คลีนิกข์ หรือไม่ก็เว็บไซต์เค้าเลยค่า www.clinique.co.th