เซตนี้พี่รัก : ฉุดเราไว้เมื่อผิวพังจากการแพ้

            ผิวพังๆ ใครๆ ก็ไม่อยากมีจริงมั้ยคะ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้ว สาวๆ มีวิธีแก้ไขและดูแลผิวในช่วงเวลาที่แสนเศร้านี้กันอย่างไรบ้างน๊า  ส่วนเราครั้งนี้ถือเป็นการแพ้ที่รู้สึกว่ามันกระทบกับชีวิตประจำวันมากเพราะทำให้ผิวหน้าระคายเคือง แดง มีตุ่มคันขึ้นยุบยิบๆ ตลอดเวลาเชียวค่ะ สร้างความทรมานทั้งผิวหน้า และจิตใจกันเลยทีเดียว 

            สาเหตุของการแพ้ในครั้งนี้เกิดจากการแพ้คลีนซิ่งออยล์ค่ะ ทั้งๆที่ทางแบรนด์เคลมไว้ว่าเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย แถมบิวตี้บล็อกเกอร์หลายๆ คนก็แนะนำว่าคุณคนนี้เค้าดีมากกกกกกก และเราก็หาข้อมูลก่อนใช้มาพอสมควรทำให้ค่อนข้างมั่นใจและซื้อไซส์จริงมาลองเลยจร้าาาา ผลที่ได้ก็คือ หน้าพังค่ะทุกคน

            การแพ้ในครั้งนี้ก็ทำให้เราเรียนรู้ว่าสิ่งที่เคลมว่าบอบบางขั้นสุด และใช้สำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นเหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายเสมอไป เพราะสภาพผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกันและตอบสนองต่อสกินแคร์แตกต่างกันออกไป แต่การแพ้ในครั้งนี้ทำให้เรารู้ว่าสกินแคร์ที่มีอยู่นั้นตัวไหนคือตัวที่บอบบาง อ่อนโยน และกอบกู้ผิวหน้าของเราในช่วงที่ผิวอ่อนแอขั้นสุดให้กลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง  .... ถ้าอยากรู้แล้วตามมาดูกันเลยค่ะ

            

เริ่มจากหมวดของการล้างหน้า เพราะการล้างหน้าสำคัญที่สุด!!!

          กลับมาซบอกคนดีคนเดิมของเราอีกครั้ง Smooth E Extra Sensitive Serum Cleanser Premium Makeup Remover การกลับมาครั้งนี้ทำให้เรารักเค้ามากและจะรักตลอดไป.... เมื่อก่อนเราจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเมคอัพที่ต้องใช้สำลีมาตลอดๆๆ แต่ช่วงที่ PM 2.5 บุก การใช้วิธีนี้ทำให้ผิวหน้าเราระคายมากว่าเดิมจึงของลองเปลี่ยนวิธีกันหน่อย สมูทอีตัวนี้จึงเป็นคลีนซิ่งออยล์ตัวแรกที่เราใช้และผลลัพธ์ก็ทำให้เรารักเค้ามาก  

         เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นออยล์ที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา มีกลิ่นหอมอ่อน 

         สำหรับวิธีใช้ เพียงปั๊มลงบนอุ้งมือ 3 - 4 ปั๊ม และนวดบนใบหน้าที่ยังแห้งอยู่ เราชอบนวดๆตามแนวโพรงขนค่ะ เมื่อนวดไปสักพักเมคอัพก็จะเริ่มละลายหลุดออกมา จากนั้นใช้นำน้ำสะอาดมานวดวนๆบนผิวหน้าอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้เนื้อออลย์จะเปลี่ยนเป็นน้ำนม เราก็นวดต่อไปอย่างเบามือจนเมคอัพหลุดหมดจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดต่อได้เลยค่ะ

         ผลลัพธ์ที่ได้ ทำความสะอาดเมคอัพแม้เป็นชนิดกันน้ำได้ดีมาก หลุดออกมาหมดทุกสิ่ง ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึง แต่มีข้อเสียคือแสบตาค่ะ สำหรับเราเรารับข้อเสียของเค้าได้ เพราะเค้ามีข้อดีมากกว่าเราจึงมองข้ามจุดนั้นไป ฮ่าๆๆๆ

เพราะหน้าแน่นจึงควรล้างทำความสะอาดเพื่อความชัวร์กันอีกรอบ

          สำหรับตัวนี้ Cetaphil Gentle Skin Cleanser เป็นลูกรักของเรามานานหลายปี มีตุนไว้ทุกขนาดเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะเค้าบอบบางสุดๆ แม้ผิวบอบบางของเด็กก็ยังใช้ได้ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับเราคือมี pH balanced นั่นเอง

          เนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นครีมกึ่งเจลบางเบาสีขาวขุ่น ไม่มีฟอง 

          วิธีใช้ หยดลงบนอุ้งมือพอประมาณและนวดๆวนๆทั่วใบหน้าอย่างเบามือ ส่วนเราก็นวดตามแนวโพรงขนอีกเช่นเดิมค่ะ วันไหนที่รู้สึกว่าเจอมลภาวะหนักมากก็จะนวดแล้วพอกทิ้งไว้ก่อน จากนั้นไปทำอย่างอื่นแป๊บจึึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

          ผลลัพธ์ที่ได้คือ ทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีมาก ไม่แห้งตึง ไม่ระคายเคือง ดีงามสุดๆไปเลยค่ะ

ขั้นตอนต่อไปมาบำรุงผิวที่แสนจะเยินของเรากัน

          ในช่วงที่ผิวแพ้นั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้พื้นฐานผิวของเราประคองตัวเองให้ได้มากที่สุดนั่นก็คือความชุ่มชื่นนั่นเองนะคะ ต่อด้วยการแก้ปัญหาผิวตามสภาพที่เกิดขึ้นในขณะนั้น เช่น สิว และตุ่มแดงคันต่างๆ ตามมาดูกันเลยค่ะว่าเราดูแลผิวด้วยอะไรบ้าง  

          สำหรับคุณคนนี้ Eucerin Sensitive Skins Hyaluron Mist Spray ในช่วงที่ผิวหน้าเรายังดีๆอยู่ เค้าถูกเรามองข้ามและทิ้งขว้าง แต่พอผิวหน้าเราแพ้พัง เรากลับมาใช้เค้าอีกครั้งโดยการประโคมฉีดเข้าไปเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นสู่ผิว ทำให้เราได้พบว่า เฮ้ย!!! ที่ผ่านมาเราทำอะไรลงไป เพราะเค้าช่วยเติมความชุ่มชื่นได้ดีมากๆๆๆ เลยค่ะ ดีพอๆกันกับสกินแคร์กลุ่มที่เติมน้ำให้ผิวราคาแรงๆ ด้วยนะคะ ฉีดหลังล้างหน้าเสร็จช่วยลดการระคายเคือง คันๆๆ แก่ผิวหน้าได้ดีมาก จากนั้นก็ตบเบาๆ เพื่อให้แห้งและเตรียมบำรุงในขั้นตอนต่อไปกันค่ะ

          น้องเห็ดที่รักกลับอยู่ในคอนเทนต์นี้อีกแล้วค่ะ ORIGINS™ MEGA-MUSHROOM RELIEF & RESILIENCE SOOTHING TREATMENT LOTION สำหรับน้องคนนี้เราให้ความรักไปหมดใจเลยจริงๆ หากใครมาขอคำปรึกษาว่าจะเริ่มต้นดูแลผิวหน้าด้วยสกินแคร์ตัวไหนดี เราจะแนะนำน้องเห็ดเป็นอันดับแรกเลย เพราะน้องเค้าช่วยปลอบประโลมผิว ให้ความชุ่ม ลดการระคายเคืองได้ดีมาก และปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากสกินแคร์ต่างๆ ในขั้นตอนต่อไป  ช่วยที่ผิวเราแพ้เราจะใช้น้องเค้าเป็นโทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดผิว โดยจะใช้สำลีเช็ดแค่ตอนเย็นเท่านั้นเพื่อเคลียสิ่งสกปรกที่อาจจะยังคงตกค้างอยู่ ส่วนตอนเช้าเราจะใช้เป็นน้ำตบ ทั้งนี้เพื่อลดการระคายเคืองของผิวหน้านั่นเองค่ะ

        เนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นน้ำใสๆ มีกลิ่นหอมของน้องเห็ด เราชอบกลิ่นของเค้ามาก เป็นกลิ่นที่สะอาดและผ่อนคลาย ... แค่ได้พูดถึงก็มีความสุขแล้วค่ะ (เวอร์ไป๊ อิอิ)

        ผลลัพธ์ที่ได้ ผิวชุ่มชื่น แข็งแรง และระคายเคืองได้ยากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

        คนที่ผิวระคายเคืองง่ายเราเชียร์สุดใจเพราะน้องเค้าปราบพวกตุ่มคันอินดี้ที่อยู่คิดจะขึ้นก็ขึ้นได้อยู่หมัดจริงๆ ตอนนี้เราแบ่งใส่สเปรย์ขวดเล็กๆ พกไปทุกที่ทุกเวลาด้วยค่ะ .... รักจริงรักจังสุดๆ

      

        สำหรับเราแล้วความแพ้พังและสิวมักจะมาคู่กัน เราใช้คู่หูดูโอ้สองตัวนี้ในการปราบสิวค่ะ

        Jula's Herd Marigold Acne Gel  เป็นเจลใสๆ แต้มเฉพาะจุด ใช้ครั้งแรกจะรู้สึกแสบนิดหน่อยแต่พอใช้ไปซักพักอาการนั้นจะหายไปค่ะ 

        ผลลัพธ์ที่ได้คือ ช่วยให้สิวยุบลงได้ดี ลดการอักเสบ ผิวบอบบางแบบเราใช้ได้สบายเลย

        d Program Acne Care Emulsion เนื้ออิมัลชั่นบางเบา ไม่มีสีไม่มีกลิ่น เราใช้ตบๆทั่วใบหน้าเลย เพราะช่วงที่ผิวแพ้จะมีผดเล็กๆๆๆ สิวเล็กๆๆๆ ทั่วไปหน้าเลยค่ะ 

        ผลลัพธ์ที่ได้ ช่วยลดสิวบนใบหน้าโดยรวมได้ดีเลยที่เดียวเชียวล่ะ

          ส่วนตัวนี้ Clarins Double Serum ก็เป็นสิ่งที่ลังเลว่าควรจะหยิบมาใช้ในช่วงที่ผิวหน้ายังแพ้พังดีมั้ย เพราะสาวๆ บางคนแพ้ตัวนี้ แต่ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียไปมากกว่านี้แล้วเราต้องสู้ต่อไปค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ 

         เนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นเซรั่มที่แยกน้ำและน้ำมันออกจากกัน ให้ความเป็นออยล์แบบเบาๆ 

         ผลลัพธ์ที่ได้ ทุกครั้งที่ใช้เค้าให้ความรู้สึกว่าผิวหน้าเรียบเนียนขึ้นในทันที และสบายผิว ตัวน้ำมันไม่ได้ทำให้รู้สึกเหนอะหนะ ซึมไว ผิวไม่อุดตัน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่น ผิวที่กำลังแพ้อยู่ของเราใช้ได้สบายมาก ดีใจอ่า......ได้บำรุงผิวให้สุดๆไปเลยยยยยย

        ใกล้จะถึงตัวสุดท้ายแล้วค่ะทุกคน อดทนกันอีกนิดนะคะ เพราะเราจะข้ามตัวนี้ไปไม่ได้โดยเด็ดขาดค่ะ เพราะเค้าคือ .... Kiehl's Calendula Serum Infused Water Cream ..นางเอกของเราาาาาา สำหรับตัวนี้เราขอแปะกระทู้ที่เราเคยทำแบบเน้นๆ ไว้ให้ทุกคนได้อ่านกันว่าทำไมเราถึงยกให้เค้าเป็นนางเอก ตอนนี้บอกเลยว่าขาดเค้าไม่ได้จริงๆค่ะ ใช้ทุกวันเช้า เย็น ไปเลย ใช้คู่กับน้องเห็ดนี่ร่วมพลังกันได้ดีมากเวอร์ ...ไปดูกันเล้ยยยย   https://www.jeban.com/topic/274611 

         มาถึงสกินแคร์ตัวสุดท้ายยามค่ำคืนกันแล้วค่ะ กับ Physiogel Hypoallergenic Soothing Care A.I. Cream สำหรับตัวนี้เรารู้สึกเฉยมากกกก ในทุกช่วงของสภาพผิวคือเฉยมากกกก ได้มาเพราะอยากลองเปลี่ยนสกินแคร์เนื้อครีมกลุ่ม Soothing ใหม่ๆดูบาง เราว่าตัวนี้สำหรับเราเค้าไม่สามารถให้ผลลัพธ์ตามคำเคลมได้เลย ยกเว้น! เรื่องความชุ่มชื่น ตัวนี้เราจึงน้ำมาใช้เพื่อล็อคผิวหลังจากลงสกินแคร์ต่างๆนานาๆ  เรื่องการปลอบประโลม ลดรอยแดง ลดอาการคัน ตุ่ม ตั่งๆ ... น้องเค้าไม่สามารถช่วยเราได้เลย แต่ใช้ได้ในช่วงที่ผิวแพ้ก็โอเคเน๊อะๆ โดยส่วนตัวถ้าหมดแล้วเราคงไม่ซื้อต่อเพราะมีสิ่งที่ดีอยู่แล้วและยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆ รออยู่ ^^

        ในที่สุดก็มาถึงสกินแคร์ตัวสุดท้ายแล้วจริงๆค่ะ ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายของช่วงเช้านั่นเอง ขอเชิญทุกท่านพบกับกับครีมกันแดด d program Allerdefense Essence SPF40 PA+++  แม้ผิวพังอยู่ครีมกันแดดก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดนะคะ ..นะคะ น้องคนนี้เค้าอยู่ในเครือ  Shiseido ซึ่งได้พัฒนาเทคโนโลยีเครื่องสำอางเพื่อต่อต้านมลภาวะ ฝุ่นละอองต่างๆ รวมถึง PM 2.5 และเกสรดอกไม้  เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย SPF40 PA+++ ปกป้องได้ตั้งรังสี UVA และ UVB ที่วัตสันบ้านเราเค้ามี SPF46 PA+++ ตามความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ประเทศไทย 

       เนื้อผลิตภัณฑ์เป็นเอสเซนส์มีความคล้าย ANESSA ขวดสีเหลือง แต่เหลวกว่านิดหน่อย ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่หนักหน้า ไม่อุดตัน กันน้ำกันเหงื่อได้ดีมากเวอร์เหมือนกันค่ะ และที่สำคัญคือ.... ใช้ได้แม้ผิวหน้าพังเยินแบบเรา

 

และทั้งหมดก็คือสกินแคร์ที่เราหยิบมาใช้เพื่อฟื้นฟูผิวในสภาพผิวที่แพ้ พัง เยิน จากการแพ้คลีนซิ่งออลย์ตัวหนึ่ง ตอนนี้สภาพผิวของเราดีขึ้นมากเลยและก็เริ่มกลับมาใช้สกินแคร์ตัวอื่นๆ ที่มีหมุนเวียนกันไปได้แล้วค่ะ 

หวังอีกแล้วว่าจะเป็นประโยชน์กับสาวๆ ในการเลือกใช้สกินแคร์ให้เหมาะสมกับปัญหาและสภาพผิวในช่วงนั้นๆ ของตนเองนะคะ 

สำหรับใครที่มีสกินแคร์ดีๆสำหรับผิวแพ้ง่ายก็นำมาแชร์กันบ้างนะ 

สำหรับวันนี้  บ๊าย บาย ค่ะ ทุกคน 

ขอบคุณที่ติดตาม .....ไว้กลับมาพบกันใหม่นะค๊า