มารู้จักตัวตนของนักแสดงดังจาก Game Of Thrones กันเถอะ

Game Of Thrones อาจจะลาจอไปเรียบร้อยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้  

บทสรุปของseason สุดท้ายอาจจะสร้างกระแสต่อต้านจากผู้ชมที่ไม่ happy กับการย่นย่อลงมาให้เหลือหกตอน จน storylines ดูรวบรัดและย้อนแย้งจนแฟนๆนับล้านร่วมลงชื่อให้มีการสร้าง season 8 ขึ้นมาใหม่ (ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้)

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อันหนักหน่วงในช่วงท้าย แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็ถูกยกให้เป็นศิลปะบันเทิงที่สร้างความสำเร็จเหนือกว่าปรากฏการณ์ จากบทประพันธ์ที่ผู้คนมากมายปลาบปลื้ม (และรอคอยอย่างมีความหวังว่าจะได้อ่านเล่มต่อไป) ได้ถูกพัฒนาให้โลดแล่นบนจอจนทำให้เกิดกระแสเสพติด Game Of Thrones ไปทั่วโลก เครดิตที่สำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้คือเหล่านักแสดงที่ทำให้พวกเราอินจนบางครั้งเอามาปะปนกับความเป็นจริง

 แต่นอกเหนือจากงานซีรีส์เรื่องนี้   พวกเค้ามีความโดดเด่นกันเช่นไร เรามาทำความรู้จักกับทีมนักแสดง GOT กันเลยค่ะ 

Iain Glen

รับบทเป็น  Ser Jorah Mormont

อัศวินผู้ภักดีต่อหญิงผู้เป็นรักแท้อาจจะไม่ใช่ตัวละครหลักที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของโลก แต่เขาก็ได้ใจแฟนๆ ด้วยเสน่ห์หนุ่มใหญ่ที่ดูอบอุ่นน่าพึ่งพิง

Iain เป็นพระเอกชาวสก็อตวัย 57ที่วนเวียนในวงการแสดงมาตั้งแต่ยุค 80s และตอนหนุ่มๆก็หล่อ sex appeal ล้นเหลือ จนไม่น่าแปลกใจเลยว่าสาวๆจะเทใจไปให้ Lord Friendzone แบบไม่ลังเล

มีเสน่ห์คล้ายๆกับพระเอกหนุ่มหลายคน  เราคิดถึง Jamie Dornan  Colin Firth   น้ำเสียงก็นุ่มๆ ฟังเร้าใจยิ่งนัก   แม้ตอนนี้จะเป็นเข้าใกล้วัยสูงอายุ  แต่ก็ยังสร้างความเกรียวกราวได้มากโข

อาจจะเห็นรับบทรองมาแล้วหลายครั้ง แต่นอกจาก Game Of Thrones เขาก็ยังสร้างชื่อเสียงด้วยบทพระเอกนำซีรีส์สืบสวน  Jack Taylor  ทั้ง 3 seaon   กระแสตอบรับอันดีเยี่ยมจากบท Ser Jorah  ยิ่งทำให้มีบทดีๆหลั่งไหลมาให้เขาเลือกรับแสดง   ล่าสุดคือการจับคู่อย่างเหนือความคาดหมายในซีรีส์เรื่องใหม่   นางเอกที่ประชันบทบาทกับ Iain คือ Lena Heady  AKA  Cersei Lannister นั่นเองค่ะ!

และที่จับตามองก็คือบทรับเชิญในซีรีส Titan ในฐานะ ฺBruce Wayne หรือ Batman WOW!

ในชีวิตจริง  เขาเป็นลุงหน้าหล่อที่ชอบขี่จักรยานไปไหนมาไหน   เจ้าตัวให้เหตผลว่า แฟนๆที่คลั่งไคล้ในตัว Jorah จะไม่ลังเลในการพุ่งตัวเข้าหาเพื่อขอกอดรัดฟัดเหวี่ยงพระเอกขวัญใจ  แต่พอเขาปั่นจักรยาน แฟนๆกลับเมิน ไม่ยอมมองหน้ากันซะงั้น

Gwendoline Christie

รับบทเป็น  Brienne of Tarth

สาวตัวสูงปรี๊ดที่ในชีวิตจริงแทบจะอยู่คนละขั้วกับบทนักสู้หญิงผู้กล้าหาญบึกบึนไม่แพ้อัศวินชาย

Gwendoline ยอมรับว่า Game Of Thrones ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ ตลอดเวลาสองทศวรรษที่อยู่ในวงการแสดง เธอต้องพยายามเอาชนะมาตรฐานความงามที่กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญในการ audition ด้วยส่วนสูงถึง 190 เธอไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่หญิงสาวรูปร่างบอบบางหรือมีส่วนเว้าโค้งเย้ายวน ความนิยมในตัว Brienne ทำให้โลกบันเทิงอ้าแขนตอบรับเธออย่างเต็มใจมากขึ้น

" การที่แฟนๆชื่นชมบทบาทBrienne นั้นก็คงไม่มีใครที่ประหลาดใจไปมากกว่าตัวชั้นเองแล้วล่ะค่ะ ก็คิดเอาง่ายๆว่า Brienne ไม่ได้สวยตามพิมพ์นิยม ผู้คนไม่น่าจะเอาใจช่วยเธอหรอก แต่พอพวกเค้าสนับสนุนเธอ มันก็ทำให้ชั้นปลื้มปริ่มไปเลย"

แม้จะต้องสวมบทบาทหญิงเหล็กใส่เกราะราวกับชายในซีรีส์ดัง  แต่เรื่อง fashion ในชีวิตจริงของเธอนั้นเข้าขั้น high profile     คู่ชีวิตของเธอคือ Giles Deacon  ดีไซน์เนอร์ดังแห่งอังกฤษ  เธอซี้ปึ้กกับ Kate Moss  มี lifestyle แบบสาวสังคมสุดแซ่บ  และตอนนี้ยิ่งโด่งดังจากบท Brienne     แบรนด์ต่างๆก็จีบเธฮมาเป็นนางแบบ ทั้งเดินrunwa และถ่ายโฆษณา  และinner ของเธอนั้นเข้าขั้นตัวแม่!

Bella Ramsey
 

ผู้ปกครองเกาะหมีที่ตัวเล็กแต่หัวใจแกร่งดุจเพชร   สิ่งที่น่าเสียใจสำหรับเราคือบทของเธอมีน้อยมาก  ทั้งๆที่ออกมาแค่ฉากเดียวก็ได้ใจแฟนๆมากมายทั่วโลก คำพูดเชือดเฉือนตีแสกหน้าคนฟังให้ไปไม่เป็นฟังดูเหมือนเลดี้วัยสามสิบมากกว่าเด็กหญิง

แม้ว่าจะมีบทไม่มากนัก แต่ออกจอเมื่อไรก็ปังเมื่อนั้น น้องแจ้งเกิดอย่างเต็มที่และมีงานแสดงดีๆหลั่งไหลเข้ามา น้องยืนยันว่าจะโฟกัสกับอาชีพนักแสดงมากกว่าที่จะสร้างความโด่งดังในภาพของcelebrity แม้จะมีคนยื่นข้อเสนอให้เธอนำเสนอภาพของ net idol ผ่าน social media กระตุ้นให้มีผู้ติดตามมากๆ แต่เธอก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้น แม้ว่าจะรู้สึกตื่นเต้นที่ Lyanna ได้รับความนิยมจนเป็นขวัญใจชาวเน็ท เธอก็คอยพึงระลึกไม่ให้หลงไปกับชื่อเสียง

ข้อเท็จจริงก็คือ   Bella ไม่สามารถชม Game Of Thrones ได้ครบทุกตอน   แม้เธอจะรอชมตอนจบก็ยังปะติดปะต่อไม่ได้ เหตุผลก็คือเธอยังเด็กเกินไป  อีกหลายปีกว่าจะอายุถึงเรทที่กำหนด     ที่ผ่านมาก็แสดงจากเนื้อเรื่องคร่าวๆ แต่ไม่เข้าใจในรายละเอียดปลีกย่อยใดๆ  แม้กระทั่งตอนถ่ายทำที่อาจจะมีการพูดคำสบถหยาบคายก็จะมีคนเอามือปิดหูเธอไว้

อ้อ คลิฟที่กลายเป็น viral จากที่มีใครบางคนโพสท์ชื่นชมลีลาเท้าไฟของ Bella จนสร้างความฮือฮานั้น   น้องออกมาชี้แจงแล้วนะคะว่าไม่ใช่ตัวเธอ   ถึงจะคิดว่ามันดูเจ๋งมากจนอยากจะให้เธอจริงๆก็ตาม   แต่ไม่ใช่ Bella ค่ะ  

จากชื่อเสียงโด่งดังชั่วข้ามคืน  Bella ได้รับเลือกให้เป็น ambassador ของโครงการงานการกุศลของเจ้าชาย WIlliam  เธอเลือกเส้นทางในการเป็นแบบอย่างที่ดีตั้งแต่เด็กเลยล่ะ

Emilia Clarke

รับบท     Daenerys Targaryen 

บางคนอาจจะเห็นว่า  แหม  แม่มังกรนั้นดังในระดับ icon  พวกเราต่างก็ได้เห็นกันว่าในชีวิตจริงเธอดูรั่วน่ารักแตกต่างจาก Dany ผู้หยิ่งในศักดิ์ศรีแห่งสายเลือดมังกรมากแค่ไหน    แต่อีกมุมหนึ่งของ Emilia ก็ยังสร้างความประทับใจมากมายเช่นกัน

เพราะนอกจะถูกจัดเข้ากลุ่มผู้หญิงที่สวยเย้ายวนมากที่สุดในวงการ Emilia ยังเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากภาวะหลอดเลือดสมองโป่งพอง ซึ่งเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่ถือว่าเป็นภัยเงียบที่คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนไม่น้อย เพราะอาจจะมีอาการหนักโดยที่ไม่มีสัญญาณมาก่อน นางเอกสาวตากลมโตต้องผ่าตัดสมองถึงสองครั้ง รักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเดือนๆ

แม้การผ่าตัดจะช่วยชีวิตของเธอมาได้  แต่ผลกระทบจากโรคนี้มันหนักหนาสาหัสจนเราต้องประหลาดใจว่า  รอยยิ้มของเธอช่างดูสดใสไม่เปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาที่โด่งดังจาก Game Of Thrones  ทั้งๆที่ผ่านความเป็นความตายตอนที่กำลังแจ้งเกิดในวงการอย่างดงาม    เพราะต้องการจะช่วยโพรโมทผลงานอย่างเต็มที่  เพียงไม่กี่อาทิตย์หลังผ่าตัดก็ต้องกลับไปเดินสายให้สัมภาษณ์และโชว์ตัวใน comic con   แต่คนภายนอกไมไ่ด้รับรู้ว่าเธอต้องทรมานกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรงเพียงไม่นานก่อนจะให้สัมภาษณ์

"ชั้นมีความระแวงฝังลึกตั้งแต่ที่ที่ต้องผ่าตัดในครั้งแรก ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับสมองของชั้นจนสูญเสียความสามารถทางการแสดงไปล่ะ การแสดงคือเหตุผลในการมีชีวิตของชั้นนะ"

ในระหว่างที่เธอต้องแสดงบทบาทแม่มังกรที่พยายามจะสร้างโลกใหม่ด้วยใจกล้าหาญ แต่นอกจอกลับหวาดกลัวความตายจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว กว่าจะกลับมาเป็นตัวเองได้ก็ต้องผ่านความเจ็บปวดมามากมาย เธอจึงไม่เก็บเรื่องนี้เป็นความลับอีกต่อไป เธอก่อตั้งมูลนิธิเพื่อการกุศล Same You ด้วยวัตถุประสงค์นการช่วยเหลือผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้นอาการจากความเสียหายทางสมอง

ภายนอกเป็นหญิงสาวที่มองโลกบวกและมีอารมณ์ขันตลอดเวลา   แต่ชีวิตจริงที่ไม่ได้สวยงามอยู่ตลอดก็ได้พิสูจน์หัวใจให้สร้างความเข้มแข็งขึ้นมา

Isaac Hempstead Wright 

รับบทเป็น  Bran Stark

จากลอร์ดตัวน้อยกลายมาเป็นเรเวนสามตา  คุณสมบัติเหนือมนุษย์นี้ก็ช่วยให้ก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงWesteros ได้   แคแรคเตอร์นี้ช่างเหมาะกับคำว่า น้องมาเงียบๆ แต่ฟาดเรียบนะจ๊ะจริงๆ

Isaac เป็นเด็กหนุ่มที่เติบโตในกองถ่าย Game Of Thrones จากการคว้าบทBran ตอนที่อายุได้เพียงสิบขวบ   แต่กลับกลายเป็นว่า ชื่อเสียงไม่ได้กระทบกับการใช้ชีวิตของเขามากนัก   เขาไม่ได้ย้ายมาที่เมืองหลวง แต่ตั้งใจเรียนจบมัธยมที่ต่างเมืองแล้วก็ต่อมหาวิทยาลัย Bermingham  ก่อนที่จะพักการเรียนไว้ แล้วตั้งใจจะกลับมาเรียนต่อหลังจากถ่ายทำซีรีส์ดังจบ

แต่ชีวิตคนดังในมหาวิทยาลัยก็คู่มากับความยุ่งเหยิงค่ะ พูดได้ว่า Game Of Thrones คือซีรีส์ที่โดด่งดังที่สุดทุบหลายสถิติ แม้บท Bran จะไม่ต้องออกแรงแสดง action หรือขี่มังกรเหินเวหา แต่เขาก็สร้างกระแสความสนใจอย่างล้นหลาม มีคนนำข้อมูลหอของเขาไปปล่อยในnet มีคนส่งข้อความไปที่ email address ประจำตัวนักศึกษาของเขาจนล้น box และมหาวิทยาลัยก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาคอยดูแล มีนักศึกษาคอยรายงานการเคลื่อนไหวของเขาแทบตลอดเวลา แม้ว่าจะมีเพื่อนที่แชร์ห้องนิสัยดีมาก แต่เมื่อนถูกคนรุมล้อมตลอดก็ทำให้เขาถอดใจที่จะหาเพื่อน และดร็อปเรียนไปตั้งต้นใหม่

"แฟน(เก่า) ของผมเคยมาเยี่ยมที่campus แล้วออกไปไหนไม่ได้ ต้องนั่งในในห้องอยู่ทั้งอาทิตย์   เคยลองไปเที่ยวกลางคืนเหมือนกันครับ  แต่ก็เละเทะไปหมด"

น้องเรียนเก่งสายวิทย์ค่ะ  ได้ A จาก A - Level มา 3 ตัว คือคณิตศาสตร์และเคมี  (หลักสูตรนี้จะเรียนหลังจากจบมัธยมและสอบวัดผลเพื่อนำไปยื่นต่อมหาวิทยาลัย) จึงไม่น่าแปลกใจว่าน้องต้องการกลับมาศึกษาต่อในสาขาประสาทวิทยาศาสตร์  เจ้าตัวยืนยันว่าเรียน "สนุก"  แม้จะต้องเรียนหนักก็ตาม   

Lena Headey

รับบทเป็น  Cersei Lannister 

ราชินีที่มี skill การยิ้มเหยียดได้แสบสันที่สุดใน Westeros     การเข้าถึงจิตวิญญาณอันร้ายกาจทำให้คนจำนวนมากเกลียดแคแรคเตอร์นี้ แต่ก็ประทับใจในฝีมือการแสดงของนางเอกสุดแซ่บไปในเวลาเดียวกัน

เธอเป็นหนึ่งในทีมนักแสดง Game Of Thrones อีกคนที่วนเวียนในวงการมานานมากแล้ว และคุ้นหน้าคุ้นตาจากหลายผลงาน   แต่มาเข้าสู่ความmainstream ด้วยบทราชินีCersei ผู้ยืนหนึ่งมาหลายseason นั่นเอง   แต่เมื่อย้อนไปดูช่วงยุค 90s  เธอไม่มีคราบร้ายๆอยู่เลย  แต่เป็นสาวตากลมยิ้มหวานแบบ Emilia Clarke ไม่มีผิด !

ความเป็น Lenaในชีวิตจริงนั้นห่างไกลจาก Cersei  เธอเป็นสาวอินดี้ที่หลงรักการสักลาย ยืนหยัดในฐานะนักเคลื่อนไหวเพื่อความเท่าเทียม   บน instagram ของเธอนั้นเต็มไปด้วยภาพแบบไร้เมคอัพและรอยยิ้มกว้างขวาง   ต่างจากราชินีร้อยเล่ห์ที่ยึดติดในเรื่องอภิสิทธิ์ชนและหยามหยันว่าคนอื่นต่ำต้อยไปหมด  แม้แต่ผู้สร้างซีรีส์ก็ยังยืนยันว่า  ผู้คนอาจจะนึกภาพ Cersei ที่ยิงมุกสุดขำไม่ออก  แต่ระหว่างถ่ายทำ Lena ทำให้ทีมงานหัวเราะได้ตลอดเวลา

ในซีรีส์อาจจะดูสวยเป๊ะไปหมดทุกท่วงม่า  แต่เมื่อไม่ได้สวมบทบาทเป็นคนอื่นต่อหน้ากล้อง Lena ดูสบายใจกับการเปิดเผยรูปลักษณ์ที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่รีทัช  คุณจะได้เห็นสาวตาสีเขียวที่งามสมวัย (45) นำเสนอด้านที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน เธอเป็นเหมือนเพื่อนสาวหัวใจอบอุ่นที่เราอยากอยู่ใกล้ๆ    อย่างเช่นการแชร์ภาพของ Emilia Clarke เพื่อกรี๊ดกร๊าดว่าเพื่อนช่างสวยสตั๊นอะไรอย่างนี้

Maisie Williams

รับบท Arya Stark

เริ่มต้นจากการเป็นเลดี้ดื้อรั้นซุกซน แล้วความโหดร้ายของเกมชิงบัลลังก์ก็หล่อหลอมให้เธอเป็นนักฆ่าเลือดเย็น เมื่อฝึกฝีมือต่อสู้จนฉกาจฉกรรจ์เพื่อกลบมาแก้แค้น Arya ก็กลายเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมสูงปรี๊ด


แต่ก่อนหน้านั้น  ทั้งๆที่เธอแจ้งเกิดกับ Game Of Thrones ไปอย่างสวยงามแล้ว  Maisie ที่เพิ่งเข้าสู่วัยรุ่น กลับถูก cyberbully จากเด็กร่วมโรงเรียน!

"มันเป็นช่วงปีที่แย่ที่สุดในชีวิตชั้นค่ะ เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายจริงๆ มีเด็กผู้หญิงที่ส่งข้อความแบบไม่ระบุตัวตนประมาณว่า เธอมันพวกพิลึกที่ไม่เคยมาโรงเรียน เธอมันนังหลงตัวเองที่คอยโม้แต่เรื่องซีรีส์ Game Of Thrones ไม่มีใครชอบเธอเลย แต่พวกเราแกล้งทำเป็นว่าชอบก็แค่เพราะเธอดังและมีเงินเยอะ มีข้อความแย่ๆเยอะมาก แม่ชั้นก็บอกแต่ว่าให้ลบทิ้งซะ แต่สำหรับผู้ใหญ่ก็พูดออกมาราวกับว่ามันง่าย แต่สำหรับวัยของชั้นที่ร่างกายกำลังเปลี่ยนแปลง ฮอร์โมนก็ท่วมท้น ชั้นก็หวังเพียงว่าจะเข้ากับเพื่อนคนอื่นได้บ้าง"

"แล้วชั้นก็ทำตัวแย่ๆเหมือนกัน ชั้นส่งข้อความด่ากลับพวกนั้น แต่เด็กอายุแค่ 13 ก็คงไม่อยากจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเฉยๆ ก็ต้องอยากจะทำให้พวกนั้นเจ็บปวดเหมือนที่เราเจ็บ แล้วก็ตกไปอยู่ในวังวนนางมารร้ายนี้ เมื่อนึกย้อนกลับไปชั้นก็สงสัยค่ะว่าทำไมต้องไปใส่ใจด้วย แต่มันแค่พูดมันคงง่ายกว่า ตอนนี้ชั้นเติบโตขึ้นและรู้แน่ชัดแล้วว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร"

เพราะยังไม่ทันข้ามวันเด็กได้อย่างเต็มตัว  Maisie จึงไท่สามารถรับมือกับการ bully ด้วยการใช้สติได้   แม้คนรอบข้างจะบอกว่า เด็กเหล่านั้นเพียงแค่อิจฉาความสำเร็จของเธอ  แต่มันก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมาแม้แต่น้อย    เมื่อเติบโตขึ้นมา เธอจึงใช้ประสบการณ์นี้มาแบ่งปันและแนะนำเยาวชนในโครงการต่อต้าน bully 

มันน่าช็อคก็ตรงที่คนมักจะคิดกันว่าคนที่ถูก bully  จะมีบุคลิกที่อ่อนแอ หรือมีรูปลักษณืที่ไม่ตรงกับ beauty standard   แต่สังคมนั้นโหดร้ายถึงขนาดที่นักแสดงวัยรุ่นที่ popular สุดๆ ก็ยังไม่รอดจากกลุ่มเด็กในโรงเรียน

Sophie Turner

รับบทเป็น  Sansa Stark

พูดถึง Maisie แล้ว ยังไงก็คงข้าม Sophie ไปไม่ได้  เธอเฉิดฉายในซีรีส์ในฐานะเลดี้ผู้งดงามติดอันดับต้นๆของ Westeros   ด้วยผิวขาวเนียนราวกับหิมะและผมน้ำตาลแดงและดวงตาเป็นประกาย   หากดูภายนอกแล้วอาจจะเป็น casting ที่เป๊ะสุดๆ

Sansa ในหนังสือถูกบรรยายว่าเป็นสาววัยรุ่นผู้เลอโฉมที่มีความสูงที่โดดเด่น  อ้อนแอ้นน่าทะนุถนอม  และสิ่งนี้เองที่กดดันจนทำให้ Sophie ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยทางจิตใจและต้องรับความช่วยเหลือจากนักบำบัด

"ชั้นไม่มีแรงใจจะทำอะไรสักอย่าง  ไม่อยากออกไปไหน แม้แต่เพื่อนซี้ก็ไม่อยากออกไปเจอ    ชั้นเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด  แค่เปลี่ยนเสื้อผ้ายังเป็นเรื่องที่ยากลำบาก  ชั้นไม่อยากทำอะไรเลยจริงๆค่ะ"



"อยู่ดีๆระบบเผาผลาญของชั้นก็เนือยลง สิวเริ่มขึ้นพร้อมๆกับน้ำหนักตัว และมันก็เกิดขึ้นในระหว่างที่ชั้นต้องถ่ายหนัง แรงกดดันให้ลดน้ำหนักจากทั้งผู้สร้างงานซีรีส์และหนังก็ตามมา "

"นักบำบัดเป็นสิ่งที่จำเป็น ยิ่งถ้าหากคนรอบตัวเอาแต่บอกว่าคุณดีไม่พอและดูดีไม่พอ มันสำคัญนะคะที่จะมีใครบางคนคอยรับฟังและช่วยเหลือให้เราผ่านจุดนั้นไปได้"

"มีความเห็นบนโลกออนไลน์เยอะมากค่ะ ประมาณว่า โห Sansa น้ำหนักขึ้น 5 กิโล Sansa ต้องรีบรีดน้ำหนักสัก 5 กิโล หรือจะจิกกัดว่าชั้นหน้าสิว ทั้งๆที่เป็นเรื่องปกติของวัยทีน แล้วก็ยังมีคำวิจารณ์ว่าชั้นแสดงได้แย่อีก เคยถูกด่าว่าเล่นทื่อเป็นไม้อยู่เรื่อยๆ  ตอนนี้ก็ยังมีอยู่"

" Maisie กับชั้นเอาแต่อยู่ในห้องด้วยกัน แต่การที่เราตัวติดกันขนาดนั้นอาจสร้างความเสียหายได้ เพราะเราต้องเผชิญอะไรมาเหมือนๆกัน พอถ่ายซีรีส์เสร็จ เราก็กลับบ้านด้วยกัน ไปซื้ออาหารที่ Tesco ที่ฝั่งตรงข้าม กลับมาก็กินข้าวบนเตียง เราไม่พบปะสังสรรค์กับใครราวๆสองปี มีแค่เราสองคนเท่านั้น"

ด้วยความโด่งดังตั้งแต่ยังเป็นเด็กสาวสูงเก้งก้าง  หลายคนจึงมองว่าเสียงวิจารณ์ที่ตามกดดันทำให้เธอรีบโตเป็นผู้ใหญ่และตัดสินใจมีครอบครัวแม้ว่าจะผ่านพ้นวัยทีนมาได้เพียงสองปี      Sophie เล่าว่า อาการซึมเศร้าของเธอดีขึ้นเพราะการบำบัดและตัวยา  รวมไปถึงการได้พบกับ Joe ที่คอยเป็นกำลังใจทุ่มเทความรักให้     ประสบการณ์ที่ยังดูน้อยทำให้ถูกมองว่าเป็นสามีภรรยาmillennial เหมือนคู่ Justin - Hailey   แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับมือกับกระแสความสนใจด้วยอารมณ์ขัน