[ รีวิว ] #หัวเชื้อไฮยาเข้มข้น คนผิวแห้งใช้ดี คนผิวมันใช้โดน!

สวัสดีค่าทุกคนน วันนี้จูนจะมารีวิว Skinlants Hyaluronic Oligo Advanced Serum หรือจะเรียกว่าหัวเชื้อไฮยาเข้มข้นก็ได้เพราะเจ้าตัวนี้เขามีจุดเด่นอยู่ตรงที่เขาสามารถช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ถึง 3 ระดับเพราะมีโมเลกุลไฮยาถึงสามขนาดด้วยกัน อันได้แก่ขนาดเล็ก,กลาง และใหญ่ ดังนั้นจึงสามารถแทรกซึมตรงเข้าบำรุงในทุกระดับชั้นผิวเลยค่ะ และที่จูนอยากจะมารีวิวเจ้าไฮยาโอลิโกตัวนี้ก็เพราะว่ามีช่วงนึงที่จูนรู้สึกว่ามีพวกสิวผดและผดผื่นตรงบริเวณแก้มและหน้าผากเยอะมาก อาจเนื่องด้วยอากาศที่ร้อนจัดในช่วงก่อนหน้านี้ บวกกับอาการแพ้ฝุ่นต่างๆ เลยทำให้รู้สึกว่าผิวอ่อนแอและแพ้ง่ายไปเลยช่วงนึง ทีนี้ปกติจูนชอบใช้เป็นตัววิปโฟมของ Skinplants อยู่แล้วและมันหมด เลยต้องไปเดินซื้อที่ร้าน Eveandboy เลยได้ไปเจอกับเจ้าตัวนี้พอดี พอยืนอ่านตรงสรรพคุณสักพักก็เห็นว่านางช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น+ช่วยลดอาการระคายเคืองบนผิวด้วย และราคาไม่แพง เลยไม่รีรอตัดสินใจลองซื้อมาดู หลังจากกลับมาใช้ได้สักพักแล้ว จูนก็รู้สึกว่าอาการต่างๆที่เป็นมันดีขึ้น เลยอยากจะมารีวิวเจ้าตัวนี้ให้เพื่อนได้อ่านกันค่ะ ตามไปดูกันเลย  

ต้องบอกก่อนว่าจูนเป็นคนที่มีสภาพผิวมันขาดน้ำ คือจะมีอาการแห้ง ลอกเป็นขุยบ่อยๆ บริเวณแถวแก้ม ทีนี้เวลาที่แต่งหน้าจะมีปัญหามากกก เพราะเวลาทาแป้งปุ๊ปคราบจะมาทันทีตรงที่มีอาการแห้ง ดังนั้นจูนเลยต้องหาพวกมอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมบำรุงทาก่อนแต่งหน้าเป็นประจำ ทีนี้เวลาที่ผิวเราแห้งสิ่งที่ตามมาก็คือหน้าเราจะมันเพิ่มขึ้นค่ะ เพราะเวลาที่ผิวแห้ง ผิวของเราก็จะผลิตน้ำมันออกมาเพิ่มเพื่อเติมเต็มในส่วนที่แห้งนั่นเอง ดังนั้นจูนเลยจะมีปัญหารูขุมขนกว้างตามมาด้วยค่ะ

เอาจริงๆนะ จูนก็เป็นอีกคนที่เคยใช้ไฮยามาแล้วหลายยี่ห้อที่ดังหรือเขาบอกว่าดีกัน แต่พอได้ลองใช้จริงๆแล้วรู้สึกว่าไม่ชอบ555 อาจด้วยในเรื่องของกลิ่นและผลลัพธ์ที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่ามันดีและเห็นผลจริงๆ ทีนี้พอได้มาลองใช้ตัวนี้ก็รู้สึกว่าเออมันค่อนข้างแตกต่างตรงที่มันไม่มีส่วนผสมของสารระคายเคืองต่างๆ เช่น น้ำหอม แอลกอฮอล์ ซิลิโคนหรือพาราเบน จึงเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ไม่มีกลิ่นและสีด้วยเลยคิดว่าตัวนี้น่าจะค่อนข้างตอบโจทย์สำหรับใครๆหลายๆคน รวมถึงตัวจูนเองด้วยค่ะ

มาดูในส่วนของแพ็คเกจจิ้งกันต่อดีกว่า ไฮยาโอลิโกตัวนี้มาในปริมาณ 10 ml. โดยด้านหน้าจะบอกคุณสมบัติเด่นๆ ของเขาเลยก็คือ ช่วยล็อคความชุ่มชื้น และปรับสมดุลความมันบนผิว จูนมองว่าไฮยาตัวนี้คือสามารถใช้ได้กับทั้งคนที่มีผิวแห้ง/ผิวมันเลย คือมันไม่จำเป็นว่าเราเป็นคนผิวมันหรือผิวแห้งแล้วจะใช้ไม่ได้นะ เพราะจริงๆแล้วไฮยาลูโรนิคคือสารตามธรรมชาติที่มีอยู่ในผิวของคนเราอยู่แล้ว แต่มันจะค่อยๆลดหรือน้อยลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นค่ะ ดังนั้นไม่ว่าเราจะมีสภาพผิวแบบไหนก็สามารถใช้ได้นะ

มาดูที่ส่วนผสมข้างกล่องกันบ้าง โดยที่ตัวเด่นๆเลยนะจะเป็น Sodium Hyaluronate (โมเลขนาดกุลใหญ่) ที่มีคุณสมบัติช่วยล็อคความชุ่มชื้นบนผิวไม่ให้ระเหยออกไป และ Hydrolyzed Hyaluronic Acid (โมเลกุลขนาดกลาง-เล็ก) มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน รวมไปถึงยังช่วยลดอาการระคายเคืองและการอักเสบบนผิว ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นได้ยาวนานถึง 72  ชั่วโมงเลยทีเดียว และอีกตัวนึงที่ใส่เข้ามาเพิ่มจะเป็นตัว Rosa Damascena (Rose) Flower Water หรือน้ำดอกกุหลาบออแกนิคส์ที่มีคุณสมบัติช่วยลดอาการอักเสบ และปลอบประโลมผิว จึงช่วยให้ผิวดูอิ่มน้้ำดูหรือเปล่งปลั่งนั่นเอง

ส่วนตัวขวดจะเป็นสีน้ำเงินเข้มออกใสๆ ทำให้เห็นตัวเนื้อผลิตภัณฑ์ด้านในด้วย และตรงหัวจะเป็นคล้ายหัวจุก เวลาบีบออกมาก็ง่ายดีเพราะตัวขวดเขาจะแบบนิ่มๆ ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในระดับนึง ข้อเสียคือขวดอาจจะเล็กไปหน่อยค่ะ เสี่ยงต่อการหายเป็นอย่างมาก555

ตัวเนื้อไฮยาของเขาจะเป็นเนื้อเซรั่มใสๆ ไม่มีกลิ่น เวลาทาลงไปบนผิวแล้วเกลี่ยนคือซึมไวมาก และไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะเอาไว้เลยค่ะ

มาลองทาที่หน้ากันบ้าง วิธีใช้คือให้หยดประมาณ 3-4 หยดลงบนฝ่ามือ จากนั้นแตะให้ทั่วใบหน้าแล้วค่อยๆเกลี่ยค่ะ พอหลังจากที่ทาลงไปแล้วจะรู้สึกว่าหน้าเราจะตึงๆนิดหน่อย ซึ่งจูนคิดว่าอาจเป็นเพราะไฮยาโมเลกุลใหญ่ที่เขาทำหน้าที่เคลือบผิวเอาไว้เพื่อล็อคความชุ่มชื้นไม่ให้ระเหยออกไป อีกหนึ่งอย่างที่ชอบเพราะตัวนี้เขาไม่มีกลิ่นหรือไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม คนที่แพ้น้ำหอมคือสบายใจได้ สามารถใช้ตัวนี้หยดผสมกับครีมบำรุงที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้วก็ได้นะคะ จะยิ่งทำให้ตัวเนื้อครีมของเราซึมเข้าผิวได้เร็วขึ้น ส่วนตัวลองใช้แล้วชอบมากกก และถ้าใครมีไฮยาตัวอื่นอยู่แล้วก็สามารถทำได้เหมือนกันนะ ส่วนวิธีใช้ไฮยาก็มีหลากหลายรูปแบบมากๆๆ อาทิเช่น

หยดผสมกับคลีนเซอร์หรือวิปโฟมที่เราใช้อยู่เป็นประจำประมาณ 2-3 หยด จะช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้นขึ้น หลังล้างหน้าเสร็จก็จะไม่รู้สึกว่าผิวแห้งตึงค่ะ

หรือใช้ทาบำรุงบริเวณริมฝีปากแทนลิปมันก็ได้นะ เหมาะกับคนที่ชอบมีปัญหาปากแห้งหรือเป็นขุยบ่อย ก็สามารถหยิบไฮยามาทาได้เลย ใช้ประมาณ 1-2 หยดก็พอจ่ะ ทีนี้เรามาดูผลลัพธ์หลังจากใช้ไฮยากันบ้างดีกว่าว่าจะเป็นยังไง...

ผลลัพธ์หลังใช้ประมาณ 10 วัน

มาดูภาพเปรียบเทียบก่อน-หลังใช้ประมาณ 10 วันกัน ต้องบอกก่อนว่าส่วนตัวจูนใช้หัวเชื้อไฮยาตัวนี้ร่วมกับสกินแคร์ที่ใช้ประจำด้วยนะ และพอได้ลองเอาตัวนี้มาใช้ร่วมด้วย ก็รู้สึกว่ามันเห็นผลไวขึ้นกว่าเดิม กว่าตอนที่เราใช้เดี่ยวๆซะอีก โดยสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือเรื่องความมันบนผิวค่ะ คือลดลงมากๆ รองลงมาคือเรื่องรูขุมขนมันดูเล็กลง ดูเนียนละเอียดขึ้นและอีกอย่างคืออยากจะบอกว่าพวกผดผื่นบริเวณแก้มและหน้าผากก็ดีขึ้นด้วยนะแต่อาจไม่ได้ดีขึ้นแบบเห็นผลทันทีนะ มันจะค่อยๆดีขึ้นจนเรารู้สึกได้ค่ะ

สรุปคือถ้าใครที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้น และปรับสมดุลความมันบนผิว ตัวนี้คือตอบโจทย์มากๆ สำหรับทั้งคนที่เป็นมนุษย์ผิวมันและผิวแห้งค่ะ หรือคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้นะ ราคาไม่แรง เหมาะแก่การลงทุนค่ะ 

สำหรับวันนี้จูนต้องขอตัวลาไปก่อนน้า

 ไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าจ้า บ๊ายบายยยย xoxo