Review : skincare ผู้พิชิต "รูขุมขน" สำหรับสาวผู้มีปัญหารูขุมขนกว้าง

66 24
สวัสดีค่ะสาวๆ ป้าอบกลับมาอีกแล้ววววววว ?
นานๆ ป้าจะมีกระทู้รีวิวที วันนี้ขอมาแบบจุกๆ อ่านให้ตาลายกันไปเลย ?

**อบเป็นคนที่มีผิวผสม และรูขุมขนกว้างมากบริเวณหน้าแก้ม
ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้เวลาแต่งหน้าแล้วรองพื้น/แป้งจะไม่เรียบเนียนบนผิว
อบมีปัญหานี้มาตั้งแต่วัยรุ่น จนตอนนี้ข้ามไปสู่อายุหลัก 3 แล้ว เพิ่งจะค้นพบสกินแคร์ที่ช่วยดูแลปัญหาผิวตรงนี้ได้จริงๆ จังๆ เมื่อ 1-2 ปีนี้เอง วันนี้เลยจะมาแชร์ที่นี่ เผื่อสาวๆ ที่มีปัญหาเดียวกัน จะได้ลองพิจารณาสกินแคร์เหล่านี้ดูนะคะ 

*ปล.1 เดี๋ยวจะมีพาร์ท 2 เกี่ยวกับการแต่งหน้ายังไงให้เนียน สำหรับสาวรูขุมขนกว้างนะคะ รอติดตามได้เลย :D
**ปล.2 วันนี้ขอพูดถึงเฉพาะรูขุมขนนะคะ ฝ้าป้าขอละไว้ก่อน ตอนนี้กำลังทดลองสกินแคร์ใหม่ๆ เพื่อจัดการปัญหานี้อยู่ ไว้แล้วจะมีอัพเดทอีกทีจ้า
ก่อนที่จะไปถึงรีวิวสกินแคร์ เรามาทำความเข้าใจคร่าวๆ กันก่อนดีกว่าว่า ทำไมบางคนถึงมีรูขุมขนกว้าง? แต่บางคนไม่มี..

สาเหตุที่คนเรามีรูขุมขนกว้าง มีอยู่ 3 ประเด็นหลักๆ

  • พันธุกรรม ก็ตามนั้นเลย รูขุมขนกว้างเป็นลักษณะทางพันธุกรรมอย่างหนึ่งที่มีอยู่ใน DNA เกิดมาก็ติดตัวมาแต่กำเนิด หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยปกติผู้ชายจะมีแนวโน้มที่จะมีรูขุมขนกว้างกว่าผู้หญิง ในขณะที่ผู้หญิงเองก็มีแนวโน้มที่ผิวหนังจะเปลี่ยนแปลงในช่วงที่มีประจำเดือนเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปนั่นเอง
  • ต่อมไขมันใต้ผิวมีการผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป เมื่อมีการผลิตน้ำมันมาก ไขมันก็จะอยู่ในรูขุมขนเยอะ เมื่อรวมกับเศษเซลล์ที่ตายแล้วตามธรรมชาติของผิวหนัง ก็จะทำให้รูขุมขนถูกดันออกด้านข้าง ทำให้เราเห็นรูขุมขนที่ชัดเจน แถมยังอาจก่อให้เกิดสิวตามมาอีกต่างหาก
  • ผิวหนังรอบๆ ต่อมไขมันหย่อนคล้อย เมื่อผิวหนังรอบๆ รูขุมขนไม่เต่งตึงจะทำให้รูขุมขนแลดูใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งอาจจะมาจากหลายสาเหตุ เช่น อายุที่มากขึ้น ผิวถูกทำร้ายด้วยแสงแดด หรือบำรุงไม่ดีพอเป็นต้น

แล้วจะทำให้รูขุมขนหายไปเลย ทำได้ไหม?

        สำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้างโดยกำเนิด การจะทำให้รูขุมขนหายไปเลยนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่สามารถทำให้ดูเล็กลงได้ ด้วยการ
  • ทำความสะอาดให้ดี เมื่อรูขุมขนสะอาดและไม่มีน้ำมันส่วนเกิน+ไม่มีเซลล์ที่ตายแล้วไปอุดรูขุมขน รูขุมขนก็แลดูเล็กลงได้
  • บำรุงผิวอย่างต่อเนื่อง ใช้กันแดดเป็นกระจำเพื่อลดการทำลายคอลลาเจน/อิลาสตินใต้ผิว เพื่อทำให้ผิวอิ่มฟู แล้วเซลล์ที่เต่งตึงเหล่านั้นก็จะเบียดรูขุมขนให้ดูเล็กลงไปนั่นเอง
  • Laser คือการกระตุ้นคอลลาเจน/อิลาสตินใต้ผิวให้มีการสร้างใหม่ที่แข็งแรงขึ้น ทำให้ผิวมีการจัดเรียงตัวใหม่ ดูหนาแน่นขึ้น และเหมือนข้อสองคือจะทำให้รูขุมขนดูเล็กลง *การทำ laser มีหลายแบบ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะ

เมื่อทำความเข้าใจคร่าวๆ แล้ว เราก็เข้าเรื่องกันเลยเนอะ

วันนี้ป้ามีสกินแคร์หลายสิ่งที่จะมาแนะนำ ทั้งที่ใช้อยู่ เคยใช้ ใช้หมดแล้ว มาเล่าสู่กันฟังจ้าา ?


การดูแลรูขุมขนจะขาดการทำความสะอาดที่ดีไปไม่ได้เลย ผลิตภัณฑ์ที่อบใช้ล้างหน้าเป็นประจำมาเป็น 10 ปี คือ 2 สิ่งนี้เลย
  • Acne-Aid liquid cleanser สีฟ้า สูตรอ่อนโยน อบชอบใช้ตอนเช้า หรือช่วงที่หน้าโดนแดดมาจัดๆ ใช้แล้วรู้สึกสะอาดแต่ไม่เอี๊ยด ไม่แห้งตึง เหมาะกับคนที่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย
  • Acne-Aid liquid cleanser สีแดง สูตรสำหรับผิวมัน-ผิวผสม ตัวนี้เหมาะกับคนที่เป็นสิว หลังใช้รู้จะสึกสะอาดกว่าสูตรสีฟ้า (และผิวจะรู้สึกแห้งกว่าเช่นกัน) ใช้แล้วสิวขึ้นน้อยมาก ใช้จนต้องซื้อแบบแกลลอนอะพูดเลย หมดไปหลายแกลลอนแล้วด้วย ? *สูตรนี้มีน้ำหอมนะคะ ผิวแพ้ง่ายอาจจะต้องระวังนิดหนึ่ง
เนื้อสัมผัสเป็นสีขาวขุ่น บีบออกมาเหมือนโลชั่นข้นๆ โดนน้ำแล้วเป็นฟองดี ทั้งคู่ใช้สารทำความสะอาดที่อ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง มีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิวตามธรรมชาติ เลยเหมาะในการรักษาความสมดุลของผิวและน้ำมันใต้ผิวไปพร้อมๆ กับทำความสะอาดผิวไปด้วย เพราะถ้าเราใช้ผลิตภัณฑ์ที่ชะล้างได้ดีมากเกินไป มันจะไปล้างเอาน้ำมันธรรมชาติที่อยู่บนผิวเราออกไปจนหมด ซึ่งจะเป็นการส่งสัญญาณบอกต่อมไขมันใต้ผิวว่า "ผิวแห้งมากแล้วนะ ผลิตน้ำมันออกมาอีกสิ" แล้วผิวเราก็จะยิ่งมันขึ้นไปอีก (=รูขุมขนดูกว้างขึ้น) เป็นวงจรอุบาทที่ไม่จบสิ้นเลยจ้า ?

  • The ordinary Salicylic Acid 2% Solution คือ BHA เข้มข้น 2% ที่ทำหน้าที่ exfoliate หรือ ขัดผิว/การที่เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกนั่นเอง (รู้หรือไม่ว่าเซลล์ผิวชั้นบนสุดของมนุษย์นั้นล้วนแต่เป็นเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วทั้งสิ้น) ข้อดีของตัวนี้คือ มันสามารถลงลึกไปถึงรูขุมขนและละลายเอาไขมัน+เซลล์ที่ตายแล้วที่อยู่ในรูขุมขนออกมาได้ ทำให้ผิวสะอาด ลดการอุดตันของรูขุมขน (ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง) ลดโอกาสการเกิดสิวด้วย
เนื้อเป็นลักษณะใส หยดแล้วไหลเลยนะ เพราะงั้นระวังเรื่องหยดบนหน้าผากแล้วไหลเข้าตาด้วยเด้อ ใช้ครั้งแรกอาจจะรู้สึกยุบยิบ เพราะเค้าเป็นกรดที่ pH ค่อนข้างต่ำเลยจ้า (pH ยิ่งต่ำ ความเป็นกรดยิ่งสูง)

 *ข้อควรระวัง Salicylic Acid เป็นกรดที่ pH ต่ำ มีโอกาสระคายเคืองสูง หากไม่เคยใช้ หรือผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย ควรเริ่มที่ความเข้มข้นต่ำ และเว้นระยะห่างในการใช้งาน รู้สึกว่า BHA ของ PAULA' S CHOICE จะมีเริ่มต้นที่ 0.5%, 1 % และ 2% เริ่มที่อันนั้นได้ ตอนนี้ป้าไม่ค่อยมีปัญหาสิวแล้ว เลยใช้แค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก่อนนอน หรือคืนก่อนจะออกงาน ตื่นมาจะรู้สึกผิวสะอาดและเรียบเนียนเป็นพิเศษ ?

  • The ordinary Ascorbyl Glucoside Solution 12% หรือ Vitamin C ความเข้มข้น 12% ตัวนี้เป็น active antioxidant สามารถชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวที่ถูกทำร้าย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และลดเลือนจุดด่างดำ *ทิป วิตามินซีสามารถทำงานได้ดีขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินอี โดยเฉพาะในการลดเลือนรอยสิวใหม่ๆ เพราะฉะนั้นใครมีปัญหาเรื่องรอยสิวลองหาวิตามินอีมาใช้คู่กับตัวนี้ได้นะคะ (เคยใช้ยี่ห้อ mademaker นานแล้ว ใช้เดี่ยวๆ ก็ให้ผลลัพท์ที่ดีมาก แต่หน้าจะเยิ้มหน่อย สำหรับป้าทาตอนนอนเท่านั้น) ส่วนตัวป้าไม่ค่อยหวังผลในเรื่องรักษารอยสิว เพราะสิวไม่ค่อยขึ้นแล้ว แต่ป้าหวังผลในเรื่อง antioxidant มากกว่า ใช้แล้วรู้สึกผิวละเอียดและกระชับขึ้น ป้องกันผิวคล้ำเสียได้ดี โดยเฉพาะเวลาโดนแดดจัดๆ ฝ้าไม่เข้มขึ้นด้วย
เนื้อใส มีความหนืดกว่าตัว BHA 2% หยดแล้วทาทั่วหน้า ปกติป้าใช้กลางคืนในวันที่ไม่ได้ใช้ BHA (ใช้บ่อยกว่า) เพราะวิตามินซีสามารถส่งเสริมการหลุดลอกของผิวตามธรรมชาติได้ (epidermal turnover) เพราะงั้นป้าจึงไม่อยากใช้ตอนเช้า เพราะเราต้องไปเจอแสงแดดระหว่างวันอีก **ข้อควรระวัง การใช้วิตามินซีความเข้มข้นสูง อาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ คนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรทดลองใช้วิตามินซีที่ความเข้มข้นต่ำๆ ก่อน และเว้นระยะห่างในการใช้งาน
ต่อมาคือพรีเซรั่ม ซึ่งลงก่อนจะลงมอยเจอร์ไรเซอร์
สำหรับอบขั้นตอนนี้จะเน้นใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Bifida Ferment Lysate ซึ่งเกิดจากการบ่มของแบคทีเรีย Bifida หรือ Bifidobacterium ซึ่งเคลมว่าสามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างของผิวได้ถึงระดับ DNA ลดความเสียหายของผิวจากแสงแดด ลดอาการระคายเคืองต่อผิวและเติมความชุ่มชื่นให้กับผิว และดูแลผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ที่ความเข้มข้น 10% ขึ้นไป ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายแบรนที่นำสารสะกัดตัวนี้มีใช้ ที่มีชื่อดังๆ ที่น่าจะรู้จักกันก็ได้แก่ Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex ii หรือ ANR, Lancôme Génifique Youth Activating Concentrate หรือ L'oreal Youth Code Pre Essence ก็มีนำมาใช้เหมือนกัน
  • Estée Lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion ตัวนี้มีลักษณะเหมือนโทนเนอร์ ใช้ก่อนทุกตัว เนื้อมีลักษณะใส ไหลเป็นน้ำเลย แต่ให้ความชุ่มชื่นได้ดี มี bifida อยู่ลำดับที่ 2 ในส่วนผสม แต่น่าจะใส่มาราวๆ 10% ใช้คู่กับ Bifida เข้มข้นตัวอื่นๆ แล้วเห็นผลที่ดีขึ้นชัดเจนมาก ผิวละเอียดขึ้น รูขุมขนเล็กลง แต่ถ้างบจำกัดซื้อตัวอื่นที่ความเข้มข้นสูงๆ ดีกว่า ป้าลองใช้ขนาดทดลองแล้วชอบ แต่จน ไว้ถูกหวยเงินเหลือๆ จะซื้อมาใช้อีกนะ

  • Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Recovery Complex ii หรือ ANR ตัวนี้กัดฟันซื้อหลังจากที่ใช้ขนาดทดลองหมดไปเป็นสิบๆ ขวด ตอนแรกก็ซื้อไซส์ 50 ml พอหมดก็ขยับไปใช้ 100 ml นี่หมดแล้วก็ยังไม่กล้าทิ้งขวด ? เป็นของที่ต้องมีจริงๆ สำหรับสาวรูขุมขนกว้างอย่างเรา เนื้อมีลักษณะหนืดเล็กน้อย มีสีออกเหลืองๆ ส้มๆ กลิ่นเปรี้ยวๆ แต่ไม่ถึงกับฉุน มี bifida อยู่ลำดับที่ 2 ในส่วนผสมแต่ไม่รู้ความเข้มข้น สำหรับอบให้ผลลัพท์ที่ดีมากกกกกกกก ใช้แค่ไม่กี่วัน ผิวกระชับ อิ่มฟู รูขุมขนดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดที่ว่าตังหมดไม่มีใช้น้องที่ทำงานทักว่าทำไมรูขุมขนกว้างจัง ? เอาเป็นว่าเป็นยาสามัญประจำบ้านไปแล้วจ้า ตัวนี้แพงสุดในบรรดา 3 ตัวที่หยิบมาวันนี้ แต่ทำงานได้ไวสุด สำหรับผู้ต้องการฟื้นผิวแบบเร่งด่วน จัดตัวนี้เลยรู้เรื่อง! ไม่มีน้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอร์เด้อ
  • The faceshop bifida 97.5% all-in-one treatment ตัวนี้เป็นสกินแคร์ที่มี bifida เป็นส่วนผสม แต่เหมือนคนไม่ค่อยรู้จัก ที่เกาหลีก็เหมือนต้องสั่งออนไลน์เอา ข้อดีคือใส่ Bifida มาเยอะ หลังจากใช้งานหมดไป 1 ขวด ป้าพบว่าประสิทธิภาพการใช้งานยังเป็นรอง ANR อยู่ (สำหรับอบ ANR เห็นผลใน 1-3 วัน ตัวนี้เห็นผลใน 1 สัปดาห์) แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่ามากก็ถือว่าใช้ทดแทนกันได้เมื่อใช้ต่อเนื่อง เนื้อใส มีความไหลกว่า ANR แต่ข้อเสียคือเค้าจะทิ้งความมันส่วนเกินเอาไว้หลังใช้ (ใช้ที่เนเธอแลนด์โอเคนะ แต่ใช้ที่ไทยรู้สึกเหนอะหนะเบาๆ เก็บไว้ใช้หน้าหนาว) เรื่องความชุ่มชื่นยังไม่เท่า ANR แต่กระชับรูขุมขนได้เหมือนกันเมื่อใช้ต่อเนื่อง หมดไป 1 ขวดถ้วน ขวดที่ 2 ยังไม่ได้เปิด เพราะใช้อีกตัวอยู่จ้า

  • Graymelin Bifida Fermentation Serum ตัวนี้เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดใช้งานได้ประมาณเดือนกว่าๆ ประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับ 2 ตัวข้างบนถือว่ายังตามห่างอยู่มาก ใช้แล้วผิวละเอียดขึ้น รูขุมขนเล็กลงนิดหน่อย แต่ไม่ได้เห็นชัดเจน ต้องใช้ร่วมกับสกินแคร์อีกตัวที่จะเล่าต่อไป ข้อดีคือเนื้อเค้าไหลเป็นน้ำเลย ไม่เหนียว ไม่ทิ้งความมันใดๆ แต่ก็ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นต่อผิว ใส่ Bifida มา 99% เลยทีเดียว แต่ผิวก็ต้องการสารอื่นๆ นอกจากตัวนี้ด้วยอะนะ ส่วนตัวจะซื้อซ้ำนะ เพราะถูกดี แล้วค่อยใช้ตัวอื่นเสริมเรื่องความชุ่มชื่นอีกที **คำเตือนระวังหยดบนหน้าผากแล้วเข้าตา เข้าปาก เพราะนางไหลเก่ง รสชาติไม่ดีหรอก เข้าปากบ่อยมาก 555

สรุป 

ประสบการณ์การใช้งาน/ความชุ่มชื่น/ประสิทธิภาพ/ราคา :
 ANR > The faceshop > Graymelin
ต่อมาหมวดนี้จะให้ความชุ่มชื่นและบำรุงละ มีอยู่ 4 ตัวที่ยังมีอยู่ตอนนี้ อีกตัวหมดไปแล้วและไม่ได้ซื้อซ้ำ ไปดูกันเลยจ้า
  • the face shop bifida total care emulsion ตัวนี้ใส่ bifida มาเหมือนกัน แต่ใส่มาลำดับ 9 แหนะ น่าจะหวังผลได้จาก Niacinamide หรือ วิตามิน B3 ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื่น ทำให้ผิวเรียบเนียนซึ่งใส่มาลำดับ 6 มากกว่า เนื้อข้น แต่ยังไหลได้อยู่ กลิ่นแนวส้มๆ หน่อย ส่วนตัวไม่ค่อยใช้ รู้สึกหนักเกินไปโดยเฉพาะตอนอยู่ที่ไทย เรื่องกระชับรูขุมขน ไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง  หมดแล้วคงไม่ซื้อต่อ เพราะตอนนี้พยายามใช้ก็แทบไม่หมดละ *มีซิลิโคน และน้ำหอม ใครผิวอุดตันง่าย/แพ้ง่ายโปรดระวัง
  • Za true white ex essence lotion ตัวนี้อาจจะไม่ได้ช่วยในเรื่องรูขุมขน แต่เป็นไวท์เทนนิ่งที่ป้าใช้แล้วรู้สึกชอบ ใช้แล้วไม่เหนอะ ไม่เหนียว ราคาย่อมเยา แต่เห็นผลดีเมื่อใช้ต่อเนื่อง เนื้อขุ่นนิดหน่อย มีความหนืดๆ ไม่ถึงกับไหลโจ๊ก ตัวนี้เค้าจะมี Potassium Menthoxysalicylate ซึ่งเป็นสารไวท์เทนนิ่งจากชิเซโด้และวิตามินซี วิตามินอีมากรุบกริบ ตัวนี้ใช้ลดความหมองคล้ำจากแสงแดดได้ดี ใช้ไปนานๆ แล้วจะเห็นความแตกต่างของสีผิวหน้า+คอ กับตัวเลยทีเดียว ? แต่ไม่ได้ทำให้หน้าขาววิ๊ง 10 เฉดสีอะไรแบบนั้นนะ แค่รู้สึกว่าผิวมันกระจ่างใส เรื่องรอยสิวก็ไม่ได้ช่วยซักเท่าไหร่หรอก ไม่ได้คาดหวัง คิดว่าจะซื้อซ้ำถ้าหมด

  • AMPLE: N Peptide Shot Ampoule น้องใหม่อีกตัวที่เพิ่งใช้มาประมาณ 1 เดือนแต่ขอบอกว่าปลื้มเว่อร์! เนื่องจากป้าลองใช้ bifida ของ Graymelin อยู่พักหนึ่งแล้วพบว่าประสิทธิภาพนั้นไม่ได้ดีเลิศอย่างที่เราคาดหวังไว้ แต่พอลองใช้คู่กับสิ่งนี้แล้ว ความผิวฟู รูขุมขนกระชับก็กลับมา! มันดีงาม พอๆ กับตอนใช้ ANR เดี่ยวๆ เลยจ้าาาา แต่สองสิ่งนี้ใช้คู่กันถูกกว่า ANR ขวดเดียว 1 ใน 3!!! ซึ่งตัวชูโรงของเค้า ก็คือ peptide 3 ตัว และสาร antioxidant อื่นๆ ตัวนี้ใช้เทคโนโลยี Micro Derma-Shot technology คือทำให้สารออกฤทธิ์ซึมลึกลงไปทำงานถึงชั้นผิวข้างใต้ได้นั่นเอง เค้าเคลมว่าสามารถทำให้ผิวดูกระชับ เต่งตึง และช่วยทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งป้าก็รู้สึกถึงความกระชับของผิว และความชุ่มชื่นที่ได้รับมา โดยไม่เหลือความมันตกค้างบนผิวเลยน้า ? **มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ผิวแพ้ง่ายระวังด้วยนะจ่ะ
อีกตัวหนึ่งที่ป้าเคยใช้แล้วชอบ คือตัว The ordinary buffet นะคะ ตัวนั้นก็มี Peptide หลายตัวใส่มาผสมกับสารให้ความชุ่มชื่นหลายชนิด ใช้แล้วผิวชุ่มชื่นดี เรื่องรูขุมขนยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ ใช้หมดขวดแล้วเลยลองใช้ตัวอื่นดู แต่ความรู้สึกของป้าคิดว่าตัว AMPLE: N Peptide Shot Ampoule เห็นผลในเรื่องรูขุมขนมากกว่า แต่มันดีตรงที่ไม่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ขอดูต่อไปจนกว่าจะใช้หมดขวดค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะซื้อตัวไหนต่ออีกที อิอิ
  • Kiehl's Precision Lifting & Pore-Tightening Concentrate : ตัวนี้ก็เคลมในเครื่องช่วยให้ผิวกระชับ เต่งตึง ช่วยในเรื่องรูขุมขน โดยมีสารสกัดจากยีส มาเป็นตัวชูโรง (คนละตัวกับ Bifida) ตัวนี้เห็นผลในเครื่องกระชับดีนะ ผิวดูยืดหยุ่นดี แต่ไม่รู้สึกเรื่องรูขุมขนเท่าไหร่ เหมือนจะช่วยได้ชั่วคราวเท่านั้น ให้ผลเรื่องความชุ่มชื่นและริ้วรอยเล็กๆ แลดูตื้นขึ้นมากกว่า แต่เนื้อเค้าหนักมากๆ เลย ใช้ได้แค่ก่อนนอน (แบบเหนอะๆ นิดหนึ่ง) หรือตอนอยู่ที่เนเธอแลนด์เท่านั้น หมดขวดแล้วป้าเลยไม่ซื้อต่อ
แถมท้าย ทิปอื่นๆ ในการดูแลรูขุมขนกว้าง

  • สครับผิวบ้าง แม้ว่าเราจะใช้สารเคมี (BHA) ในการช่วยให้ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออก (chemical exfoliation) การขัดด้วยสครับ ซึ่งก็คือการทำ Physical exfoliation ก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน แต่เราจะไม่ทำบ่อย อาจจะแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น เลือกสครับที่เม็ดไม่บาดผิว ค่อยๆ นวดวนๆ ก็จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกไปได้ อบเลือกซื้อเอาง่ายๆ ใน 7 เลย เห็นอันนี้ใช้ได้หลายที่เลยเลือกมา ขัดหน้าได้ ขัดรักแร้ได้ ขัดเข่าได้  all-in-one 555

  • มาส์กหน้า หน้าช่วยได้ ในวันที่ต้องการความกระชับแบบเร่งด่วน อบจะเลือกมาส์กหน้า 1 คืนก่อนวันออกงาน เพื่อให้ผิวได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่ อบจะไม่เลือกอัดบำรุงตอนเช้าวันงาน เพราะไม่อยากให้ผิวมีความชุ่มชื่นที่มากเกินไป เดี๋ยวแต่งหน้าแล้วจะเยิ้มอีก มาส์กของโรจูคิสอันนี้ใช้ดีเลย สำหรับคนที่อยากให้ผิวกระชับ รูขุมขนแลดูเล็กลงแบบทันทีทันใด แถมมีโปร 1 แถม 1 บ่อย ตุนไว้เยอะเลย เลิฟฟฟฟ ❤

  • ทากันแดดเป็นประจำ กันแดดมีความสำคัญมาก ไม่ใช่แค่กันไม่ให้เราดำ แต่ยังช่วยป้องกันการทำร้ายคอลลาเจน/อิลาสตินใต้ผิวหนัง ชะลอการแก่/เหี่ยว ของผิว และป้องกันฝ้า กระ ด้วย ถ้าไม่อยากเป็นฝ้าเหมือนป้า ใช้กันแดดแต่เนิ่นๆ เลยนะจ่ะเด็กๆ กันแดดที่ป้าเคยใช้แล้วคิดว่าเริ่ดจริงๆ คือตัว La Roche Posay Anthelios Shaka Fluid SPF50+/PA++++ นะฮ่ะ ตอนนี้หมด เลยไม่ได้ถ่ายมา
สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ กระทู้นี้อาจจะยาวววว เวิ่นเว้อนิดหนึ่ง แต่ตั้งใจเขียนมาแชร์กันจริงๆ พบกันต่อคราวหน้าเป็นเทคนิคการแต่งหน้าและเครื่องสำอางสำหรับคนที่มีรูขุมขนกว้างกันน้า ❤❤❤


shiki

shiki

ยังทดลองแต่งหน้าไปเรื่อยๆ ค่ะ

FULL PROFILE