จากน้ำหนัก 48 กก. สู่ 85 กก. แต่รักตัวเองมากขึ้น
Arisaya Swank 26 11
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้แตงโม ขอมาแชร์เรื่องของน้ำหนักตัวกับไทรอยด์
ให้เพื่อนจีบันได้ฟังนะคะ บอกเลยว่า กว่าที่จะรักตัวเองขนาดนี้ ร้องไห้ ไปหลายรอบ
เดิมทีแตงโมเป็นคนที่มีน้ำหนักมาตรฐานมาตลอด ประมาณ 52-54 กก เริ่มทำงานจริงจังตอนอายุ 25 สูง 167 น้ำหนัก 52 ค่ะ แต่เป็นคนที่กินหนักดื่มหนักมาก ตั้งแต่สมัยเรียน ปีแรกที่ทำงานน้ำหนักขึ้น 10 กก ยังเฉยๆไม่รู้อะไร กินเยอะอ้วนเป็นธรรมชาติ ตอนชั่งน้ำหนัก เห็น เลข 62 ไม่เป็นไรอ้วนได้อีก 55555 ตามใจปาก จนเริ่มมีพี่ที่ทำงานทัก ว่า แตงโมดูอ้วนและบวมมาก ยังไม่สะทกสะท้าน บอกกลับไปว่า กินเยอะอ้วนเรื่องธรรมดา ระหว่างนั้นมีอาการ เหนื่อยง่าย เหงื่ออกเยอะ หงุดหงิด มือสั่น
ร่างกายเริ่มเตือนว่า ร่างกายไม่ปกติแล้วนะ ยังคิดว่าแค่ อ้วน ก็ต้องเหนื่อยง่าย เป็นธรรมดา ครั้งนึงปวดท้องอาหารเป็นพิษ ซึ่งการไปหาหมอต้องมีการชั่งน้ำหนัก ช๊อกเลยค่ะ 65 กก (เพิ่งคิดได้ว่าต้องตกใจ^^) แตงโมไม่ได้สนใจอาการปวดท้องเลย สนใจแค่ว่า จะลดน้ำหนักยังไง ความคิดสั้นๆเลย หายปวดท้องแล้ว จะไปหาซื้อยาลดน้ำหนักมากิน ได้กินค่ะ ดังมากด้วยตัวนี้ กินไปสองเม็ดแรก ต้องขอบคุณที่ดวงยังไม่ถึงคาด เพราะกินตอนเช้า 1 เม็ด แทบวูบเลยค่ะ ยังฝืนกินก่อนนอนอีก 1 เม็ด ความรู้สึกบอกเลยว่า ไม่อยากหลับเลยในคืนนี้กลัวตาย หวิวมาก เหมือนพร้อมจะหยุดหายใจตลอดเวลา แต่ไม่กล้าบอกใครกลัวโดนด่า รอดในค่ำคืนนั้นได้ เช้ามามีข่าวคนกินยาลดความอ้วนยี่ห้อนี้ เสียชีวิต (น้ำตาแทบไหล) ไม่กล้ายุ่งกับยาลดความอ้วนอีกเลย .....ชีวิตยังต้องเดินต่อไป...ตั้งเป้าลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ลดอาหาร เลิกดื่ม แต่ น้ำหนักขึ้นค่ะ ขึ้นมา 70 กก. ภายในระยะเวลา 1 เดือน มาเอ๊ะใจเท้าแตงโมบวมมากค่ะ บวมเหมือนคนท้องจะคลอด ไปหาหมอทันทีค่ะ วันนั้นเลย กลัวมาก ไปคนเดียว คุณหมอซักประวัติและให้เจาะเลือด มีสองอย่างที่เป็นได้ คือโรคไตกับไทรอยด์ ดราม่าชีวิตเลยค่ะ รู้สึกว่า อะไรเนี้ย อายุแค่นี้ ต้องมามีโรคประจำตัว ลุ้นมาก ช่วงฟังผลคือมีให้เลือกแค่สองโรคเอา ไทรอยด์ก็ได้ เพราะโรคไตรุนแรงกว่า ตามคาดค่ะ ไทรอยด์หมอตกใจกับอาการ เพราะอาการแบบเราควรจะผอม เป็นแค่ไม่กี่ % ที่เป็นแบบเป็นพิษและอ้วน เข้าสู่โหมดรักษา หมอบอกเลยว่า กินยาแล้วจะอ้วนขึ้นอีก แต่อาการใจสั่น มือสั่น เหนื่อยง่าย ที่เป็นอยู่จะดีขึ้นแต่น้ำหนักขึ้น เรายังชั่งใจ จะขึ้นสักเท่าไหร่เชียว เดือนแรกเลยค่ะ 5 กก และกินมาเรื่อยๆ 1 ปีครึ่ง น้ำหนัก จัดไปค่ะ 85 กก ป่วยกายไม่พอ ต้องมา ร้องไห้บ่อยมากกับคำคนอื่น ร่างกายของแตงโมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รูปร่างตัวเองโดนล้อหนักมาก มากแบบจริงๆ อ้วน ฮิปโป แขนใหญ่ มาครบหมด คำพูดคนอื่นตอนนั้นมีผลกับชีวิตเรามาก เรารู้สึกแบบอยากหายไปเลยจริงๆ เคยเดินหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำทำมาแล้ว คือคนที่ไม่รู้อาการของโรคนี้จะไม่เข้าใจจริงๆนะว่าทำไมถึงอ้วน แต่เราโชคดีตรงที่ กำลังใจจากพ่อแม่ แฟน เพื่อน ที่ดีมาก พ่อแม่เราไม่ได้สนใจว่าเราจะอ้วนแค่อยากให้เรากลับมาแข็งแรง แฟนเราโมโหทุกครั้งที่เราร้องไห้เพราะคนอื่นล้อเรา เพื่อนเราให้กำลังใจดีทุกคน จนวันนึงเราเห็นพ่อนับเม็ดยาที่เรากินว่าเรากินครบมั้ย กินทุกวันหรือเปล่า และพ่อเป็นคนที่เตือนให้กินยาตลอด เราเลยมาคิดได้ว่า ทำไมต้องแคร์คนอื่น ปรับความคิดตัวเองใหม่ ในเมื่อชีวิตเรามันเป็นของเรา คำพูดของคนอื่นจะเอามาแคร์ทำไม เราเริ่มซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องสำอางค์ คิดเสมอว่า นี่แหละคือฉันคนใหม่ คนใหม่ที่อ้วนและมีความสุข
ตอนนี้ happy มาก เป็นตัวของตัวเอง รักและภูมิใจในตัวเองมากขึ้น อยากใส่อะไรใส่ แขนใหญ่ ฉันจะใส่สายเดี่ยว 555
ป่วยกายได้แต่อย่าป่วยใจ
(อย่าลืมสังเกตร่างกายตัวเองด้วยนะโรคภัยเยอะมาไม่ทันตั้งตัว)
ให้เพื่อนจีบันได้ฟังนะคะ บอกเลยว่า กว่าที่จะรักตัวเองขนาดนี้ ร้องไห้ ไปหลายรอบ
เดิมทีแตงโมเป็นคนที่มีน้ำหนักมาตรฐานมาตลอด ประมาณ 52-54 กก เริ่มทำงานจริงจังตอนอายุ 25 สูง 167 น้ำหนัก 52 ค่ะ แต่เป็นคนที่กินหนักดื่มหนักมาก ตั้งแต่สมัยเรียน ปีแรกที่ทำงานน้ำหนักขึ้น 10 กก ยังเฉยๆไม่รู้อะไร กินเยอะอ้วนเป็นธรรมชาติ ตอนชั่งน้ำหนัก เห็น เลข 62 ไม่เป็นไรอ้วนได้อีก 55555 ตามใจปาก จนเริ่มมีพี่ที่ทำงานทัก ว่า แตงโมดูอ้วนและบวมมาก ยังไม่สะทกสะท้าน บอกกลับไปว่า กินเยอะอ้วนเรื่องธรรมดา ระหว่างนั้นมีอาการ เหนื่อยง่าย เหงื่ออกเยอะ หงุดหงิด มือสั่น
ร่างกายเริ่มเตือนว่า ร่างกายไม่ปกติแล้วนะ ยังคิดว่าแค่ อ้วน ก็ต้องเหนื่อยง่าย เป็นธรรมดา ครั้งนึงปวดท้องอาหารเป็นพิษ ซึ่งการไปหาหมอต้องมีการชั่งน้ำหนัก ช๊อกเลยค่ะ 65 กก (เพิ่งคิดได้ว่าต้องตกใจ^^) แตงโมไม่ได้สนใจอาการปวดท้องเลย สนใจแค่ว่า จะลดน้ำหนักยังไง ความคิดสั้นๆเลย หายปวดท้องแล้ว จะไปหาซื้อยาลดน้ำหนักมากิน ได้กินค่ะ ดังมากด้วยตัวนี้ กินไปสองเม็ดแรก ต้องขอบคุณที่ดวงยังไม่ถึงคาด เพราะกินตอนเช้า 1 เม็ด แทบวูบเลยค่ะ ยังฝืนกินก่อนนอนอีก 1 เม็ด ความรู้สึกบอกเลยว่า ไม่อยากหลับเลยในคืนนี้กลัวตาย หวิวมาก เหมือนพร้อมจะหยุดหายใจตลอดเวลา แต่ไม่กล้าบอกใครกลัวโดนด่า รอดในค่ำคืนนั้นได้ เช้ามามีข่าวคนกินยาลดความอ้วนยี่ห้อนี้ เสียชีวิต (น้ำตาแทบไหล) ไม่กล้ายุ่งกับยาลดความอ้วนอีกเลย .....ชีวิตยังต้องเดินต่อไป...ตั้งเป้าลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ลดอาหาร เลิกดื่ม แต่ น้ำหนักขึ้นค่ะ ขึ้นมา 70 กก. ภายในระยะเวลา 1 เดือน มาเอ๊ะใจเท้าแตงโมบวมมากค่ะ บวมเหมือนคนท้องจะคลอด ไปหาหมอทันทีค่ะ วันนั้นเลย กลัวมาก ไปคนเดียว คุณหมอซักประวัติและให้เจาะเลือด มีสองอย่างที่เป็นได้ คือโรคไตกับไทรอยด์ ดราม่าชีวิตเลยค่ะ รู้สึกว่า อะไรเนี้ย อายุแค่นี้ ต้องมามีโรคประจำตัว ลุ้นมาก ช่วงฟังผลคือมีให้เลือกแค่สองโรคเอา ไทรอยด์ก็ได้ เพราะโรคไตรุนแรงกว่า ตามคาดค่ะ ไทรอยด์หมอตกใจกับอาการ เพราะอาการแบบเราควรจะผอม เป็นแค่ไม่กี่ % ที่เป็นแบบเป็นพิษและอ้วน เข้าสู่โหมดรักษา หมอบอกเลยว่า กินยาแล้วจะอ้วนขึ้นอีก แต่อาการใจสั่น มือสั่น เหนื่อยง่าย ที่เป็นอยู่จะดีขึ้นแต่น้ำหนักขึ้น เรายังชั่งใจ จะขึ้นสักเท่าไหร่เชียว เดือนแรกเลยค่ะ 5 กก และกินมาเรื่อยๆ 1 ปีครึ่ง น้ำหนัก จัดไปค่ะ 85 กก ป่วยกายไม่พอ ต้องมา ร้องไห้บ่อยมากกับคำคนอื่น ร่างกายของแตงโมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รูปร่างตัวเองโดนล้อหนักมาก มากแบบจริงๆ อ้วน ฮิปโป แขนใหญ่ มาครบหมด คำพูดคนอื่นตอนนั้นมีผลกับชีวิตเรามาก เรารู้สึกแบบอยากหายไปเลยจริงๆ เคยเดินหนีไปร้องไห้ในห้องน้ำทำมาแล้ว คือคนที่ไม่รู้อาการของโรคนี้จะไม่เข้าใจจริงๆนะว่าทำไมถึงอ้วน แต่เราโชคดีตรงที่ กำลังใจจากพ่อแม่ แฟน เพื่อน ที่ดีมาก พ่อแม่เราไม่ได้สนใจว่าเราจะอ้วนแค่อยากให้เรากลับมาแข็งแรง แฟนเราโมโหทุกครั้งที่เราร้องไห้เพราะคนอื่นล้อเรา เพื่อนเราให้กำลังใจดีทุกคน จนวันนึงเราเห็นพ่อนับเม็ดยาที่เรากินว่าเรากินครบมั้ย กินทุกวันหรือเปล่า และพ่อเป็นคนที่เตือนให้กินยาตลอด เราเลยมาคิดได้ว่า ทำไมต้องแคร์คนอื่น ปรับความคิดตัวเองใหม่ ในเมื่อชีวิตเรามันเป็นของเรา คำพูดของคนอื่นจะเอามาแคร์ทำไม เราเริ่มซื้อเสื้อผ้า ซื้อเครื่องสำอางค์ คิดเสมอว่า นี่แหละคือฉันคนใหม่ คนใหม่ที่อ้วนและมีความสุข
ตอนนี้ happy มาก เป็นตัวของตัวเอง รักและภูมิใจในตัวเองมากขึ้น อยากใส่อะไรใส่ แขนใหญ่ ฉันจะใส่สายเดี่ยว 555
ป่วยกายได้แต่อย่าป่วยใจ
(อย่าลืมสังเกตร่างกายตัวเองด้วยนะโรคภัยเยอะมาไม่ทันตั้งตัว)
