เปิดกรุลิปมันใช้เอง

16 1

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคนนนน วันนี้เราจะมาเปิดกรุ รีวิวลิปมันทั้งหมดที่เรามีและใช้อยู่ ณ ตอนนี้กันน้า พื้นเพเป็นคนปากค่อนข้างแห้ง + คล้ำเหมือนคนอยู่ในน้ำแล้วหนาวเฉพาะริมฝีปากบนนะคะ555555555  เวลาเราทาลิปแมตต์แล้วไม่ค่อยจะเวิค เพราะว่ารู้สึกว่าตกร่องอยู่ตลอดเวลาเลย แล้วก็ชอบดึงปากมากกกกก มันมือถึงที่สุดถ้าปากแห้งต้องมีดึงแน่นอน ไม่แสบไม่เลิกเอาง่าย ๆ และแน่นอนว่าต้องมีพกลิปมันไปบำรุงทุกวันค่ะ ที่เห็นเยอะแบบนี้คือใช้ตลอดเวลาไม่รวมแท่งที่หายไปนะ5555555555555555

เริ่มกันที่ตัวแรกกันเลยดีกว่า ตัวนี้คิดว่าหลาย ๆ คนต้องมีแน่นอน เพราะว่านางคือ Laneige Lip Sleeping Mask #Berry ขนาด 3g

อันนี้ก็ฟังรีวิวจากคนอื่นมาจนต้องไปตำมาตามนะคะ ที่จริงนางมีไม้พายมาให้เราตักทาปากด้วยน้า ซึ่งนางเป็นของที่ต้องมีจริง ๆ เราชอบโบกทิ้งไว้ก่อนนอนก็คือตื่นขึ้นมาก็เห็นผลเลยอะ ปากเรามันดีขึ้นมาก ๆ จากปกติที่เนื้อริมฝีปากข้าง ๆ จะแข็ง ๆ ก็จะไม่มี แล้วก็ดูนุ่มเอานิ้มจิ้มก็ลื่นขึ้นเยอะเลย ทำให้วันนั้นทาลิปได้ไม่ต้องกังวลเลยทีเดียว ถือว่าเป็นชิ้นที่ลองตามแล้วก็ชอบมากกกก ใช้ยังไงก็ยังไม่หมด (ลืมใช้) แต่เอาเป็นว่าตัวนี้ดีงามมาก ดูได้จากหลาย ๆ รีวิว ของมันต้องมีค่ะทุกคนนนนน 555555555

มาตัวถัดไปกันดีกว่า อันนี้เป็นสองแท่งที่ได้มาจาก Lovella Organics ส่วนตัวชอบที่นางเป็นลิปบำรุงออร์แกนิค 100% คือชีวิตต้องการอะไรแบบนี้มากมันทำให้เราไม่แพ้ แล้วก็ช่วยให้ปากของเราความชุ่มขื้นอยู่นะคะ ตัวสีชมพูจะเป็นกลิ่น Rose cupcake เห็นว่าเป็น signature ของยี่ห้อนี้ กลิ่นเป็นกุหลาบตรงตัวเลยค่ะ หอมเหมือนดมกุหลาบตลอดเวลา หอมฟินเว่อจ้า ส่วนสีม่วงก็จะเป็น mixed berry cheesecake เป็น limited edition ชอบมากตัวที่เขียนว่าเป็นลิมิเตดเนี่ยอยากจะเอามาครอบครอง5555555555 สองตัวนี้ก็จะต่างกันแค่กลิ่นนะคะ โดยส่วนตัวชอบลิมิเตดมาก กลิ่นเหมือนหมากฝรั่งยี่ห้อนึงแต่คิดไม่ออก คือกลิ่นหอมมากกกกกกกกกกกกกกกก ชอบที่สุดทาแล้วหอมอ่ะ ยิ่งพูดต้องยิ่งหยิบมาดม ติดจมูกมาก5555555555555 ช่วยลดปากคล้ำได้ เวลาทาเนื้อลิปของเค้าเหมือนจะมีเนื้อเม็ดสครับอยู่ด้วย และ ตาม Concept ของร้านเค้าคือ So Natural All You Can Eat แน่นอนว่าลิปอยู่ที่ปากเรา ต้องมีเลีย มีเข้าปากไปอยู่แล้ว ฉะนั้นหายห่วงได้เลยเพราะว่านางเป็นออแกนิคจ้า และที่สำคัญราคาก็ถูกด้วยเช่นกัน เลิฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

มาเป็นคู่เหมือนกัน สำหรับยี่ห้อ eos ตัวนี้ซื้อตอนไปอเมริการาคาประมาณ $3 - $5 นะคะถ้าจำไม่ผิดแล้วก็เพราะซื้อมาเป็นแพคด้วย ที่จริงมีอีกอันนึงเป็นตัวการ์ตูน ซื้อมาเพราะแพคเกจจิ้งเลย ไม่ได้ต้องการอะไรมากกว่านี้ น่าทำมาราีักมาก แต่น้องจุ้บเอาไปแล้ว ส่วนตัวคิดว่านางไม่ค่อยบำรุงให้ชุ่มชื้นเท่าไหร่นะคะ แต่มีก็ดีกว่าไม่มีเพราะตอนนั้นอยู่เมกาแล้วมันคือประเทศที่แบบหนาวแห้งอะ ปากนี่แตกแบบโอ้ยช่วยด้วย คันไม้คันมืออยากจะแกะอีก ต้องรีบไปซื้อที่ rite aid เลยทีเดียว ตัวสีแดงนั่นคือตัวที่ใช้จริงเลย ลงรีวิวเสร็จเราคงต้องซื้ออันใหม่มาทดแทน55555555 ส่วนแพคเกจยี่ห้อนี่ก็กลม ๆ แบ๊ว ๆ แบบนี้เลยจ้าหล่นทีกลิ้งไปนู้น ที่ไทยน่าจะมีนะคะถ้าจำไม่ผิดแต่ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่ กลิ่นไม่ได้ค่อยหอมเหมือนตัว Lovella Organics หรือตัวอื่นเท่าไหร่ เราคิดว่า eos จะออกแนวกลิ่นยาหน่อย ๆ อะ 

มาคือแฝดคู่สุดท้ายแล้วค่ะ เป็นของยี่ห้อ Nivea นั่นเอง หาซื้อได้ง่ายและราคาถูกกกกกกกกกที่สุด เริ่มจากเจ้าตัวสีแดง strawberry shine  กลิ่นสตอมาเลยจ้า ตัวเนื้อเหมือนจะมีกากเพชรเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยนะคะ ทาแล้วก็จะมีออกสีนิดนึง ส่วนตัวไม่ค่อยชอบอันนี้เท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าทาแล้วสักพักเหมือนจะมีตุ่มคันขึ้นสักพักแล้วก็จะหายไปเลยไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ ส่วนตัวสีขาว deep moisture ตัวนี้ซื้อมาจากญี่ปุ่นค่ะ ไม่รู้ว่าที่ไทยมีรึป่าว แต่ว่าช่วยในเรื่องความชุ่มชื้นอยู่เหมือนกัน พกไว้ตลอดเวลาปากแห้ง


bebabeii

bebabeii

สวัสดีค่ะ ชื่อบี๊นะคะ ยินดีที่ได้รู้จักสาว ๆ จีบันทุกคนค่า :)
Traveller | Photographer | Freelance
♥ nice to meet you xoxo ♥

FULL PROFILE