อัพเดตสกินแคร์กู้ผิวพังในช่วงที่ผ่านมา 💋 l AadiiwAiew

24 2
สวัสดีค่ะเพื่อนๆเช้าจีบันทุกคน
ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปซักพักนึง (หรออออ?)
ตอนนี้กลับมาแล้ว เลยขอมาอัพเดตกันหน่อย เนื่องจากมีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์เยอะแยะมากมาย และเป็นคนขี้ทดลองมากก ความซวยเลยบังเกิด 5555
เหตุเกิดจากช่วงต้นเดือน พค ที่ผ่านมา เราจะไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน เลยซื้อเม็ดล้างหน้าแบรนด์นึงมา จะได้พกง่ายๆ เกิดเรื่องเลยจ้าา
เราก็ยังใช้มาตลอดนะ ระหว่างที่ไปเที่ยว ยังไม่รู้ว่าแพ้ 555 แต่รู้สึกว่าหน้ามันสากๆขึ้น แสบขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกก็คิดว่าแพ้แดด พอกลับมากรุงเทพ คือมันแสบจนแบบ รอบดวงตาคือแสบมาก ทาอายครีมที่เบามาก ก็แสบจนน้ำตาไหล
พอดีว่าเจอกับหมอที่รู้จักกัน เค้าบอกว่าหน้าแพ้แหล่ะ ระคายเคืองมาก แล้วไปเจอแดดแรงๆ มันระคายเคืองอยู่ กันแดดก็จะเอาไม่ค่อยอยู่ 5555 เลยให้คำแนะนำมา
เราก็เลยปรับสกินแคร์ช่วงนี้ สำหรับกู้ผิวเลย เลยมาเล่าให้ฟังนะ

ทั้งหมดนี้เราใช้เวลากู้ผิวไม่เกิน 1 สัปดาห์จ้า
อ่อๆ ขอบอกก่อนว่า ลักษณะอาการที่เราเป็นคือ หน้ามันสากๆ เหมือนมีผื่นๆเล็กๆทั่วหน้าไปหมด แต่งหน้าก็ไม่ติด แสบหน้ามากๆด้วย มีอาการแดงๆตรงหน้าแก้ม แต่ไม่ได้มีสิวเม็ดใหญ่นะคะ

อ่ะ มาเริ่มกันเลย

และนี่คือหน้าตาทั้งหมดที่เราใช้จ้า มีแค่นี้เลยจริงๆ วนไป 1 สัปดาห์ ตอนนี้หน้ากลับมาปกติแล้ว ก็กลับมาบำรุงผิวเหมือนปกติ พร้อมเทสครีมใหม่ๆ ได้เหมือนเดิม 5555 แต่ตั้งเป้าว่า ถ้าหน้าแพ้อีก ก็จะกลับมาใช้เซ็ทนี้แหล่ะ (จะให้แพ้อีกเพื่ออออ!?)

1. BANILA CO  Clean it Zero Cleansing Balm Original

เริ่มต้นที่การล้างหน้ากันก่อนเลย เราปรับการคลีนเครื่องสำอางมาเป็นแบบบาล์มแทนค่ะ เพราะว่าใช้สำลีแล้วแสบผิวมาก เลยหยิบเอาตัว banila co ไซส์ทดลองที่มีอยู่มาใช้ กลายเป็นว่าชอบจนไปตุนไซส์จริงมาแล้ว  มันดีมาก เค้าสามารถทำความสพอาดหน้าเราได้อย่างหมดจดอ่ะ ด้วยความที่เนื้อบาล์มก็จะไปจับกับสิ่งสกปรกบนผิวเราได้ดี

ตัวนี้เราจะควักมา 1 ควัก 5555 เรียกว่าไรนะ นั่นแหล่ะ แล้วก็นวดวนๆบนหน้าที่แห้งนะคะ จริงๆสามารถใช้ล้างเครื่องสำอางตาและปากได้ แต่อันนั้นเราใช้ eye and lip remover นะ อันนี้นวดวนให้ทั่วผิวประมาณ 1-2 นาที หรือจนกว่าจะรู้สึกว่าสะอาดอ่ะ จากนั้นก็เอาน้ำมาลูบๆ เค้าจะเปลี่ยนเป็นน้ำนม แล้วก็นวดวนอีกนิดนึง ล้างออกด้วยน้ำเปล่า แล้วก็โฟมล้างหน้าต่อค่ะ

รู้สึกว่าหน้าสะอาดมาก แต่ก็ชุ่มชื้น ไม่มันนะ ไม่ได้รู้สึกว่าหน้ามันเยิ้ม
เราเป็นคนผิวผสมค่อนไปทางมัน แรกๆกลัวมาก ไม่กล้าใช้ กลัวจะยิ่งอุดตัน แล้วก็มันมากขึ้น สรุป ผลตรงข้ามเลย ล้างสะอาด แถมหน้ามันลดลงอีกต่างหากอ่ะ

เราซื้อเทสเตอร์มาราคา 50 บาทค่ะ
กระปุกใหญ่เราซื้อมาจากช้อป 890 บาท แต่ตอนที่เราไปซื้อมีโปรซื้อ 2 แถม 1 ยังไงลองไปดูกันก่อนนะคะ



2. Cetaphil Gentle Skin Cleanser

มาต่อกันที่เจลล้างหน้ากันบ้าง ปกติในทุกวันเราจะใช้เป็นโฟมนะคะ  แต่ช่วงผิวแพ้ก็จะใช้เป็นเจลแหล่ะ หลังจากรู้ว่าแพ้ เราก็พุ่งตัวไปวัตสันไปซื้อ Cetaphil เลย เป็น 1 แบรนด์ที่เรามักจะไว้ใจในช่วงหน้าแหก 

ตัวนี้ไม่ต้องพูดเยอะเนอะ จริงๆถ้าใครไม่แต่งหน้า สามารถใช้ตัวนี้คลีนหน้เราว่าาตอนหน้าแห้งได้เลยนะคะ แต่ทางเราต้องการความมั่นใจว่าสะอาดแน่ๆ เลยขอเพิ่มตัว banila co เมื่อกี้เข้ามาด้วย

หลังล้างหน้าเสร็จเค้าจะทิ้งความชุ่มชื้นเอาไว้ให้ จะรู้สึกเหมือนล้างไม่สะอาดอ่ะ แต่จริงๆคือสะอาดแล้วนะ คนที่ชอบความรู้สึกเอี๊ยดๆ อาจจะตกใจนิดนึง 5555
เราว่าตัวนี้เค้าถนอมผิวดีเลยแหล่ะ


(อันนี้เราซื้อมาเป็นเซ็ทนะคะ travel size ราคา 350 บาท มี Cleanser, Lotion, กันแดด2หลอด เหมือนจะเป็นเซ็ทเฉพาะในวัตสันนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน ลองไปดูกันค่า)



3. Tramsilone Cream 0.02%

สเต็ปบำรุงกันบ้าง ตัวนี้เป็นพระเอกเลยก็ว่าได้ เป็นยาค่ะ เรียกง่ายๆว่า TA cream ถามเภสัชมาแล้ว เค้าว่าไม่จำเป็นต้องแพทย์สั่ง สามารถซื้อได้เองเลยที่ร้านขายยาค่ะ
ตัวนี้เราได้รับคำแนะนำจากหมอว่าให้ใช้ประมาณ 3-5 วัน หรือจนกว่าผื่นที่หน้าจะหาย

เค้าเป็นยาที่เป็นสเตียรอยด์นะ (ไม่ต้องตกใจ เป็นสเตียรอยด์ชนิดอ่อนถึงปานกลาง) ก็ใช้ทาเฉพาะบริเวณที่มีผื่นหรืออาการอักเสบค่ะ อย่าทาทั้งหน้านะเดี๋ยวหน้าพัง ทาแค่บริเวณที่มีอาการค่ะ แต่เรา เป็นทั้งหน้า!!! ก็ทาหมดเลยทั้งหน้า แล้วก็ทารอบดวงตาได้ด้วยค่ะ เราแสบบริเวณรอบตาด้วย
จะบอกว่าฤทธิ์มันดีจริงๆ ทา 1 ครั้ง อาการดีขึ้นทันตา แหมมม สเตียรอยด์จริงๆ 5555
จริงๆสามารถทาได้ทั้งวันเลยนะคะ แต่เราทาแค่เช้ากับก่อนนอนค่ะ

เวลาจะไปซื้อก็บอกเค้าว่าเอา TA Cream 0.02% นะคะ จะเป็นระดับที่เหมาะกับใบหน้า ทางที่ดีก็บอกอาการเภสัชเค้าก็ได้ค่ะ ให้เค้าเป็นคนจ่ายให้ ปลอดภัยที่สุดจ้า

* ข้อแนะนำนอกจากนี้คือ ถ้าหายแล้วก็หยุดทาค่ะ และเมื่อตอนใช้ตัวยานี้ ก็ใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นผิวเยอะๆ ด้วยนะคะ *

เรื่องราคาจำไม่ได้ค่า แล้วแต่ร้านเลย อันนี้พี่เภสัชที่เรารู้จักเค้าให้มาใช้ก่อนจ้า ยังไม่ได้จ่ายตังเค้าเลย 555555555



4. Dr. Andrew Weil for Origins™ Mega-Mushroom Relief & Resilience Advanced Face Serum



มาต่อที่สเต็ปบำรุงกันบ้าง จะบอกว่า Origins ตัวนี้คือที่สุดของที่สุด หยิบมาใช้ทุกครั้งที่หน้าพัง เค้าสามารถกู้ผิวได้แบบว๊าวมากกกกก
ขอเล่าว่า มีวันนึง แฟนเราอยู่ๆหน้านางแพ้อะไรก็ไม่รู้ แดงขึ้นมาหน้าแก้ม แล้วก็คันๆ เราก็ไม่รู้จะทำไง เลยเอาตัวนี้ทาให้ แล้วเราก็ไปแต่งหน้าต่อ พอแต่งหน้าเสร็จประมาณ 1 ชม. หันหน้าไปดูอีกที แม่เจ้า!! รอยแดงหายไปแล้ว ถามนาง นางก็ว่าไม่คันแล้ว เรานี่แบบช้อคมาก ทำไมมันดีทันตาแบบเน้!!! หลังจากนั้นก็หลงรักนางมาตลอด ให้ชื่อนางว่า เซรั่มกู้ผิว หมดก็ซื้อต่ออ่ะ แพงก็ยอมจ่าย 55555

อ่ะๆ ตัวนี้เราว่าเค้าให้ความชุ่มชื้นได้ดีเลยนะ ใครที่มีอาการผิวอักเสบทั้งหลายควรมีมาก นอกจากนี้แล้ว ใช้ต่อเนื่องกันเราว่าผิวแข็งแรงขึ้นอ่ะ เค้าเป็นเซรั่มเนื้อครีมนะคะ แต่ซึมเร็วอยู่ ส่วนเรื่องกลิ่นก็เห็ดมาก ไม่ถูกจริตเท่าไหร่ แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ยอมจ้า!!!

แนะนำมากๆสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ไปทะเล ไปตากแดด ควรมีติดบ้าน เป็นยาสามัญประจำบ้านไปเลยจ้ะ

เราซื้อมาจาก Sephora จ้า 3900 บาท แต่ลองดูนะคะ ในช้อปหรือในเซนทรัลอาจจะมีส่วนลดอะไรบ้าง อันนี้ไม่แน่ใจจ้า



5. Cetaphil  Moisturizing Lotion

มาต่อที่สเต็ปบำรุงสเต็ปสุดท้าย ตัวนี้ให้ความชุ่มชื้นดีมาก เป็นโลชั่นเนื้อกึ่งครีม ตอนแรกใช้เหมือนจะเหนอะผิวนะคะ แต่เล่นเกมรอแปปนึง เค้าก็ซึมเข้าผิวไปละ
ตอนแรกกลัวหน้าเยิ้มมาก แล้วก็กลัวจะอุดตัน สรุปคือ ดีค่ะ ไม่อุดตัน ไม่เยิ้ม แต่ให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดีเลยแหล่ะ

สำหรับเราที่หน้าค่อนไปทางมัน ใช้ตัวนี้แล้วรอดนะคะ ขอออกตัวว่าเราใช้แค่ในช่วงหน้าพังช่วงนี้นะคะ ไม่ได้มาใช้เปนรูทีน เลยไม่แน่ใจว่า ถ้าในชีวิตปกติคนหน้ามันจะรอดมั้ย แต่ผิวคนที่แพ้มา ขาดความชุ่มชื้น สากๆ ตัวนี้ถือว่าเอาอยู่เลยค่า

เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายมากๆ ปลอดภัยหายห่วง



6. Cetaphil UVA/UVB Defence SPF50+ 

สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย ไม่ใช่จะไม่ทาครีมกันแดดนะคะ ช่วงหน้าแพ้นี่ไวต่อแสงมากๆ เสี่ยงต่อการแสบและระคายเคืองขั้นสุด เราแนะนำให้เลือกกันแดดที่เป็น Physical Sunscreen ค่ะ จะช่วยลดอาการระคายเคืองได้อยู่

เราเลือกใช้ตัว Cetaphil อีกเช่นเคย ไม่เคยใช้มาก่อนเลยนะ แต่ได้มาในเซ็ทเดียวกันอย่างที่บอก 5555 ตอนแรกก็กลัวเยิ้ม กลัวอุดตันเหมือนกัน สรุปว่า ไม่อุดตันค่ะ ไม่เยิ้มด้วย แถมไม่แสบหน้าเลย เค้าช่วยปกป้องผิวเราจากแสงแดดได้ดีมากๆๆๆๆ เลยค่ะ อยากให้ลองกัน

ไม่จำเป็นว่าต้องหน้าแพ้ด้วยนะ คนที่หน้าไวต่อแสง เช่น คนที่ทำเลเซอร์หน้ามาอะไรแบบนี้ ยิ่งควรใช้ครีมกันแดดน้า ไม่งั้นล่ะพังแน่นอนจ้า

เย้ๆ ก็จบไปแล้ว กับการรีวิวกู้ผิวช่วงผิวพังของเราใน 1 อาทิตย์ หวังว่าเพื่อนๆจะชอบกันนะคะ ไม่ได้ถ่ายรูปรีวิว  Before After มาให้ดู เพราะตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะทำรีวิว ตอนนั้นจิตตกด้วย อยากหายเร็วๆ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

อ่อ ทริคของเราอีกอย่างนึงคือ ช่วงนี้ถามว่าเราแต่างหน้ามั้ย ก็แต่งนะคะ แต่ไม่ได้แต่งมาก ในส่วนของผิวที่พังอยู่นั้น เราไม่ลงรองพื้นเลยค่ะ ใช้แค่คอนซีลเลอร์ผิดใต้ตา กับรอยดำสิวที่มีอนู่ก่อนนี้ นิดหน่อย แล้วก็ลงแป้งฝุ่นเลย ส่วน point makeup อื่นๆก็ยังแต่งปกตินะ เราเน้นพักผิวล่ะ

ยังไงช่วงนี้ผิวแพ้ เน้นพักผิวให้ได้มากที่สุดนะคะ จะได้หายไวๆ


สำหรับวันนี้ลาไปก่อน เอาไว้เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ
สวัสดีค่ะ


AadiiwAiew

AadiiwAiew

สวัสดีค่ะ อิ๋วเอง
♥เป็นผู้หญิงผิวสองสี
♥รักการแต่งหน้า
♥ชอบบอกต่อผลิตภัณฑ์ดีๆ

FULL PROFILE