เป็น Influencer อย่างไรให้ปังในเกาหลี

23 5

นำเสนอ authenticity



หลังจากที่เสพ social media มายาวนานหลายปี หลายคนอาจจะรู้สึกกันว่า เหล่า content ต่างๆ นั้นดูซ้ำกันเยอะจนเลือกแทบไม่ถูกว่าจะติดตามใครดี เหล่า influencer ที่สร้างชื่อเสียงมาก่อนหลายปีต่างก็สร้างรากฐานผู้ติดตามไว้เป็นล้านๆ และขยันส่ง content  ที่น่าสนใจออกมาก็อาจจะไม่ต้องกังวลกับการสร้าง "ปรากฏการณ์" และ "viral" ให้ตัวเองฮิตติดลมบน แต่ถ้าเป็นหน้าใหม่ที่มีเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จด้วย platform นี้ล่ะ พวกเขาต้องทำอย่างไร
คุณยาย Park Makrae หรือชื่อที่คุ้นเคยใน internet ว่า Korea Grandma สามารถประกาศด้วยความมั่นใจว่า  ชีวิตได้เริ่มต้นตอนอายุ 71 และมาค้นพบเรื่องนี้ก็ตอนเริ่มทำช่อง Youtube นั่นเอง
Korea Grandma นั้นแทบดูไม่ต่างจากนักแสดงรุ่นใหญ่ในซีรีส์แนวครอบครัวเกาหลี เธอเป็นเจ้าของร้านอาหาร  (ยายๆ ในซีรีส์ก็เป็นเจ้าของร้านอาหารทั้งนั้น) และพูดจาโผงผางมีมุกตลกน่าเอ็นดู ความตรงไปตรงมาแต่ฟังดูจริงใจนั้นดึงดูดชาวเน็ทรุ่นเยาว์ให้ตามติดช่องยายและยกให้เป็นไอดอลอีกต่างหาก!

บางคนอาจจะคาดไม่ถึงว่านี่คือ vlogger ที่เรียกความนิยมจากชาวเน็ทได้อย่างรวดเร็ว แต่ content ของ Korea Grandma นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่นเหมือนกับเรากำลังฟังผู้อาวุโสให้คำแนะนำสิ่งทีมีประโยชน์ให้ด้วยทักษะการเล่าเรื่องชวนเพลิดเพลิน หากเป็นพวก makeup tutorial ก็จะดูสมจริงสมจัง โชว์ผิวอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องมาแต่งภาพ หลายครั้งก็ทำอะไรโก๊ะๆ แบบไม่ต้องจัดฉาก หลายคำแนะนำก็เรียลม้ากกกกก อย่างเช่น

"ยายก็เคยใช้แบรนด์แพงอย่าง Sulwhasoo นะ แต่พอทาแล้วออกไปข้างนอกก็ดูไม่เห็นต่างจากใช้ของถูก คนอื่นไม่คอยมาถามเราหรอกใช้ของแพงรึเปล่า มันก็คือๆ กันนั่นแหละ ไม่ว่าจะถูกหรือแพง เอาแค่มันดีต่อตัวเราก็พอแล้ว แต่ถ้าใช้ของแพงจะทาแบบหนักมือก็ไม่ได้อีก เสียดายของนะซี่"

แล้วก็บ่นว่าพวกเครื่องสำอางแบรนด์แพงชอบหลอกตาด้วยการใส่ขวดหนาๆ แต่ปริมาณนิดเดียว  เอาเป็นว่าดู tutorial ของเวฮัลมอนีแล้วต้องพยักหน้าตามแถมขำได้ทุกนาที


ช่อง Korea Grandma จะดูสนุกไม่ต่างจากรายการวาไรตี้เกาหลีที่สคริปท์ดีๆ แต่ไม่ดู "พยายาม" มากจนเกินไป คุณยายจะพูดเจื้อยแจ้วน่าฟัง หยอดมุกตลกเป็นระยะ นอกจาก lifestyle แนวผู้สูงอายุ ทั้งการทำอาหาร ช็อปปิ้งและการท่องเที่ยว คุณยายยังโดดเด่นด้วยการแสดงความคิดเห็นที่สังคมอนุรักษ์นิยมของเกาหลีใต้ยังหลีกเลี่ยงจะพูดถึง แม้จะโชคร้ายเติบโตขึ้นมาโดยไม่ได้รับการศึกษา คุณยายได้เปิดใจวิจารณ์เรื่องความไม่เท่าเทียมทางเพศ วัฒนธรรม Pop รวมไปถึงเรื่องการเมืองได้อย่างน่าสนใจ และยังบอกเล่าประวัติจากการสู้ชีวิตในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวจนส่งเสียลูกๆ ให้เลี้ยงตัวเองได้

จนกระทั่งหลานสาว Kim Yura ได้เห็น "ความยาย" ที่แสน unique เธอถ่ายทำวีดีโอชีวิตประจำวันของยายอัพโหลดขึ้น Youtube และนั่นก็คือจุดพลิกผันในชีวิต ดั่งที่คุณยายเปรียบเปรยไว้ว่า "มันพลิกอย่างกับแพนเค้กแน่ะ" 
ความดังของคุณยายนั้นไม่ได้ธรรมดาๆ เพราะกลายเป็นขวัญใจชาวเน็ทเกาหลีแบบชั่วข้ามคืน ได้ดีลโฆษณากับบริษัทระดับ Samsung ออกรายการ TV ถ่ายแบบนิตยสาร (เริ่ดพอจะมีสกู๊ปใน vogue.com) มีรายได้สมทบทุนท่องเที่ยวไปยังหลายประเทศ

"ยายนึกว่าจะต้องอบู่ในเงามืดไปตลอดชีวิตโดยไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน แต่ในที่สุดก็มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาแล้ว"


คำแนะนำที่ยายฝากให้หลานผ่าน VOGUE ที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเข้าถึงชะมัด!


สำหรับเราแล้ว แบบทดสอบของ influencer รุ่นใหม่ๆ นั้น เรื่องไหวพริบที่สามารถสร้าง content ที่สนุกสนานได้ตามธรรมชาตินั้นสำคัญมากค่ะ หลายช่องนั้นอาจจะได้รับความนิยมสูงมียอดเข้าชมเยอะ แต่ถ้าเป็น content ที่ให้ความรู้สึกแบบ "จัดฉาก"  มากๆ ชาวเน็ทก็อาจจะเบื่อหน่ายและเข้ามาจิกกัดแทนชื่นชม และอาจจะเลิกตามไปเลยก็มี แต่สำหรับคุณยายนั้นมาจาก inner ล้วนๆ  จริงๆ ขนาดหลานสาวที่รับหน้าที่ถ่ายทำก็ยังถ่ายไปหัวเราะไป เธอยืนยันว่า "ยายของชั้นโคตรเจ๋งเลยค่ะ"

สังคมเรามีอะไรๆ ชวนเครียดเยอะค่ะ บางทีเวลาติดตามช่องบน youtube ก็อยากเห็นอะไรที่ refreshing และชวนคิดบวก แค่ได้ดูไดอะรี่คุณยายตอนพยายามลดน้ำหนักเพราะเริ่มเจ็บเข่าหรือตอนที่ยายได้ไปเจอดาราที่เป็นติ่งมานานมันก็รู้สึกสบายใจดีนะ


แสดง passion


คุณเคยสังเกตสายตาคนรอบข้างเวลามองอาหารแสนอร่อยตรงหน้ารึเปล่าว่ามีรูปแบบแตกต่างกันไปอย่างไร ? หลายคน อร่อยก็คืออร่อย กินแล้วฟิน ไม่ได้เก็บมาคิดอะไรจริงจัง

แต่สำหรับบางคน ความหลงไหลในอาหารกลับกลายมาเป็นเส้นทางสู่อาชีพที่สร้างชื่อเสียงเงินทองได้ด้วย
เราได้ยินชื่อของ Mukbang ในช่วงปีสองปีมาแล้วนี่เอง ด้วยความที่ชื่นชอบรายการที่นำเสนอคนกินจุอยู่แล้ว พอเหล่า Mukbanger เริ่มสร้างชื่อเสียงข้ามประเทศมาที่บ้านเราก็เข้าทางเลย เราไม่เคยข้องใจเลยว่าเพราะอะไรจึงมีคนมากมายเปิดมาชมช่องที่มีเน็ตไอดอลนั่งกินอาหารจานยักษ์ แต่มันโคตร amazing ตัวเองรู้สึกอยากจะกินตามไปด้วย ทั้งๆ ที่เป็นการกินปูที่ไม่มีน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือจะเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยกิมจิที่เราไม่ถูกโรคด้วย แต่เห็นแล้วก็ยังหิวตามอยู่ดี
หากพูดถึงเรื่องเน็ทไอดอลเกาหลี  คนจำนวนหนึ่งก็อาจจะนึกถึงสาวเอวบางร่างน้อยผิวขาวโอโม่ตามมาตรฐานความงามของบ้านเมืองเค้า แต่ Yang Soo bin ได้สร้างความนิยมแข่งกับเน็ทไอดอลสายกินหุ่นผอมเพรียวคนอื่นๆ จนคว้างานในต่างประเทศ และต่อยอด content มาในด้านอื่นๆ เช่นความงามและดนตรีได้ กว่าจะมาประสบความสำเร็จ  เธอต้องทำยังไงนะ

เราสังเกตว่า ในช่อง youtube Soobin จะจดจ่อกับการกินเป็นอย่างยิ่ง มันสวนทางกับสไตล์กินไปคุยกับแฟนๆ ไปของ Mukbanger เวลามองอาหารก็หวานฉ่ำราวกับมองแฟน พอเอาเข้าปากแล้วก็แสดงความฟินราวกับแฟนเอาของขวัญเริ่ดๆ มาเซอร์ไพรส์ ดูกันห้านาทีสิบนาทีก็จะเห็นเธอกินยาวๆ ไม่มีขาดตอน ถูกใจแล้วก็ร้องอื่ออออ เป็นระยะๆ แต่ดูแล้วมันเต็มไปด้วย passion เหมือนเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ กินอะไรก็ดูอร่อยไปหมด


* แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่รู้สึกไม่ดีกับการเคี้ยวอาหารเสียงดังนะคะ คนที่ดูซีรีส์เกาหลีน่าจะคุ้นเคยกับฉากตอนกินข้าวที่นักแสดงเคี้ยวเสียงดังจั๊บๆ ข้าวพุ่งจากปาก ซุปหยดย้อย ซอสเปรอะเปื้อน เพราะนั่นเป็นวัฒนธรรมการกินที่แตกต่าง สำหรับเราแล้ว ไม่ใส่หูฟัง และใช้ volume น้อยๆ ค่ะ   


"เธอดูมีความสุขกับอาหารจัง" เวลาดูทีไรก็คิดแบบนี้ทุกที ขนาดอาหารง่ายๆ ก็ดูฟินไปหมด บางทีก็คิดว่าเราควรจะให้เวลาสุนทรีย์กับการกินแบบนี้บ้างนะ เพราะบางทีก็รีบเกินจนไม่รู้รส เราว่าความสดใสของเธอนั้นสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ชมได้นะ ดังที่ได้ทราบกันมาว่าคนในสังคมเกาหลีจำนวนไม่น้อยที่มีอคติกับ plus size แม้กระทั่งคนที่รูปร่างอวบๆ ไม่ถึงกับอ้วนน้ำหนักเกินก็ยังถูกวิจารณ์สนุกปาก Soobin จึงหลีกเลี่ยงเรื่อง cyber bully ไปไม่ได้เลย แฟนๆ ของเธอได้ออกความเห็นว่า หากเธอผอมเหมือน Mukbanger ชื่อดังของเกาหลีคนอื่นๆ ก็คงไม่ได้เผชิญกับเสียงโจมตีจาก hater



แต่ตัวนักกินคนดังของ youtube ก็ได้ยืนยันในสัมภาษณ์กับ The Momentum ว่าถึงจะมีคนว่าร้าย แต่เธอจะโฟกัสไปยังแฟนๆ ที่ชื่นชมสนับสนุน ไม่สนใจว่าใครจะมองไม่ดี เพราะเธอได้ทำในสิ่งรักอย่างการกินอาหารที่โปรดปรานก็เท่านั้น




สร้างความสนุกสนานจาก vision ของชาวต่างชาติ


นี่คือ influencer จากเกาหลีที่ไม่ได้มีเชื้อชาติเกาหลี Josh Carrott เคยเป็นหนุ่มน้อยวัยมัธยมจากอังกฤษที่ต้องย้ายตามครอบครัว มาที่เมืองชิงเต่าในจีนอันเต็มไปด้วยชุมชนชาวเกาหลีที่ข้ามฟากติดต่อกันได้ง่าย เขาหลงรักวัฒนธรรมของชาวเกาหลีจนไม่ยอมย้ายกลับบ้านจนกระทั่งต้องศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย แต่เมื่อกลับไปบ้านเกิด ก็ลงเรียนภาษาเกาหลีและยังหาทางมาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนจนพูดเขียนอ่านได้คล่อง


และชาวต่างชาติคนนี้นี่แหละที่เป็นหนึ่งในผู้สร้างช่อง Korean Englishman บน youtube จนมีผู้ติดตามมากกว่าสามล้าน! แฟนๆ จำนวนมากเป็นชาวเกาหลีใต้ เพราะ content จะมี subtitle ทั้งสองภาษาให้อ่านได้เข้าใจ เขาถ่ายทำวีดีโอจากทั้งอังกฤษและเกาหลีใต้เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองต่างวัฒนธรรมสองชาติที่น่าสนใจและเรียกยอดเข้าชมได้สูงปรี๊ด


ตอนแรกที่ได้เห็นข้อมูลของ Josh คร่าวๆ ก็นึกในใจว่า แหม ก็แน่สิ รูปร่างหน้าตาเข้าขั้นนายแบบเลยทีเดียว ส่วนเพื่อนร่วมก่อตั้งช่องอีกคนคือ Ollie ก็เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน แต่พอได้ชม content ก็พอเข้าใจค่ะว่าทำไมเค้าสร้างชื่อเสียงโด่งดังในเกาหลีได้


"แนวคิดหลักๆ ของช่องคือ เราปลื้มวัฒนธรรมเกาหลี แล้วเราก็รักวัฒนธรรมอังกฤษด้วย เราอยากจะแนะนำให้คนอังกฤษได้เรียนรูวัฒนธรรมเกาหลี และอยากให้คนเกาหลีรู้จักกับวัฒนธรรมอังกฤษครับ"

สองคนนี้จะนำวัฒนธรรมเกาหลีมาพูดถึงในแง่ดีๆ และวิจารณ์ได้น่าฟัง โดยไม่ฟังเป็นการดูหมิ่น (เหมือนกับหลายกรณีที่เกิดดราม่ามาแล้ว) แต่ล่ะตอนก็น่าสนใจค่ะ ไม่ใช่แค่ให้คนอังกฤษมาฟังเพลง K Pop กินอาหารเกาหลีเท่านั้น แต่ยังมี lifestyle ต่างๆ ที่น่าติดตาม

อารมณ์ขันแบบอังกฤษน่าจะถูกจริตคนเกาหลีน่าดูค่ะ แม้แต่พ่อของ Ollie ที่เคยมาร่วมรายการพูดสำเนียงหรู+คำศัพท์ fancy แล้วยังยิงมุกจิกกัดตัวเองรัวๆ ก็กลายเป็นขวัญใจแฟนๆ ของช่อง Korean Englishman มีคนนับพันเรียกร้องให้ Ollie เชิญพ่อมาที่เยือนเกาหลีอย่างจริงจัง พอมาจริงๆ ก็ถึงขนาดต้องแจกลายเซ็น และได้รับคำชื่นชมจนเจ้าตัวตกตะลึง
เป็น influencer ที่กระแสดีมาตลอด และเคยได้รับหน้าที่สัมภาษณ์ซุปตาร์ระดับโลกมาแล้ว


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE