รีวิว " 8 ครีมทาก่อนนอน " ลูกรักของสาวผิวผสม
yuyee_Ohsis 20 4
สวัสดีค่า... หลังจากเก็บตัวเป็นเงามืดตามอ่านหลายกระทู้แบบเงียบๆ เกี่ยวกับความสวยความงามมานาน จนถึงเวลาแล้วที่เราจะขอมารีวิวบ้าง อ่านเก็บข้อมูลจนอัดอั้น ได้ฤกษ์งามยามดี ขอปล่อยของหน่อยและกัน เพราะก็ได้เสียทรัยพ์ส่วนตัวไปซื้อมาลองผิดลองถูก จนได้ Night cream ในดวงใจมา 8 ตัว รวมถึง Sleeping mark ที่ดีเด่นสำหรับสาวผิวผสมอย่างเรา
จะว่าเป็น Night Cream จ๋าเลยก็ไม่ใช่ แต่ต้องทาก่อนนอนเลยเหมาๆ รวมว่าเป็น Night Cream เลยแล้วกัน เอาง่ายๆ แบบนี้แหละ แต่ครีมทุกตัวที่เรามาแนะนำมันไม่ธรรมดานะคะคู๊ณณณ
ขอบอกก่อน เราเป็นสาวออฟฟิศที่นั่งอยู่หน้าคอม หน้าจะมันบริเวณ T-Zone ยิ่งออกไปดูงานข้างนอกไม่ต้องห่วง ทั้งมัน ทั้งหมอง สงสารสายตาผู้พบเห็นเป็นที่สุด อย่าช้าอยู่ใยเราไปเริ่มกันที่ตัวที่ 1 เลยค่า
ตัวนี้ซื้อมาเพราะเพื่อนแนะนำล้วนๆ แอบมโนไปเองว่าเราอยู่ในห้องแอร์ทั้งวันหน้าอาจแห้ง เลยตัดสินใจซื้อมา ตัวนี้อาจไม่ใช่ Night Cream โดยตรง แต่จะออกไปแนวมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ใช้ทาก่อนนอนเป็นประจำ ใช้ไปใช้มากลายเป็นลูกรักซะงั้น ดูได้จากสภาพของขวดที่ไม่ต้องพูดถึงว่า ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง เนื้อครีมสีเหลืองอ่อน ไม่เหลวจนเป็นน้ำและไม่เหนียวจนเป็นก้อน ทางเจ้าของแบรนด์เขาเคลมมาว่าตัวนี้ ไม่มีน้ำหอม และแอลกอฮอล์ด้วยนะจ๊ะ ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบายหายห่วง
คุณสมบัติเด่น
- ซึมลงผิวได้เร็ว
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีมากกกกกกก ยิ่งช่วงไหนจมูกลอก หน้าลอก โบกไปเลยจ้า เอาอยู่
- ผิวหน้าแข็งแรงขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด
โดยรวมให้คะแนน ตัวนี้ 9/10 ค่ะ ขอแนะนำใครหน้าแห้งตัวนี้ควรมี
2. Eucerin UltraSensitive soothing care 50 ml. ราคาประมาณ 1,170 บาท
หลังจากเป็นหนูทดลองครีมให้เพื่อนๆ เพราะหน้าเรานั้นค่อนข้างหนากว่าชาวบ้าน เพื่อนๆ เลยให้ลองครีมนั้นครีมนี่ สุดท้ายพังจ้า ! งานเข้าและไง ทำไงดี ? เช่นเดิมค่ะแปลงร่างเป็นเงามืดตามอ่านกระทู้ต่างๆ จนมาเจอตัวนี้ ก็เลยตัดสินใจลองดู ไม่มีอะไรจะเสียละ
สรุปคุณขาาาา หน้ามันดีขึ้นจริงๆ และทางแบรนด์เขาเคลมว่า สามารถช่วยลดการเกิดปัญหาผิวบอบบางแพ้ง่าย ช่วยฟื้นบำรุงผิวระคายทันที เนื้อครีมสีขาว ไม่เหลวเลยค่ะตัวนี้ พอทาแล้วมีความหนักหน้าเราเลยใช้เฉพาะก่อนนอนเท่านั้น เพราะถ้าทาตอนกลางวันคงไม่เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศเราเท่าไรนัก
คุณสมบัติเด่น
- กู้ผิวหน้าที่ระคายเคือง จะแดง จะผื่น ให้ดีขึ้น
- เนื้อครีมไม่หอมนะคะตัวนี้ ใครติดกลิ่นหอมๆ อาจไม่ถูกใจแต่สำหรับเราไม่ใช่ปัญหา ขอแค่หน้ากลับมาเด้งเหมือนเดิมพอ
โดยรวมตัวนี้ให้ คะแนน 9/10 ไปเลยจ้า เพราะสามารถกู้ผิวหน้าของเรากลับมาเด้งได้ ผ่านค่า ! แต่ที่หักไป 1 เพราะเนื้อครีมอาจจะเหนียวๆ ไปนิด พอไปวัดไปวาได้ หักแค่นี้พอ ไปตัวต่อไปกันเลย
ตัวนี้ได้รับคำแนะนำจากพี่ที่ทำงาน และนางใช้อยู่จริงเราก็เห็นด้วย เพราะเมื่อก่อนหน้านางดูไม่เรียบเนียน ริ้วรอยต่างๆ เห็นชัดพอสมควร
ถูกต้องค่ะ ! เราไม่รอช้า ตามไปซื้อมาเป็นของตัวเองในที่สุด ใช้ไปซัก 3-4 อาทิตย์ หลังตื่นนอนหน้าไม่แห้ง รูขุมขนดูกระชับขึ้น เนื้อครีมสีขาวขุ่น เราได้ไปลองหาข้อมูลมา เขาบอกว่าตัวนี้มีส่วนผสมของ ARTICHOKE สารสกัดจากยุโรป ที่ช่วยชะลอริ้วรอยต่างๆ รวมถึงและยังมี Green Apple ช่วยกระชับรูขุมขน พร้อมค่อยๆ ปรับให้ผิวละเอียด เด้งฟูขึ้น
คุณสมบัติเด่น
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์
- รูขุมขนกระชับขึ้นหลังจากใช้อย่างต่อเนื่อง
- ตื่นมาหน้าไม่มันจนเกินไป ผิวดูอิ่มน้ำ ผดเม็ดเล็กๆ ลดลง
- ริ้วรอยก่อนวัยจากความเครียดต่างๆ ดูจางลง
- หลังจากที่ใช้มาประมาณ 3-4 อาทิตย์ ผิวหน้าดูละเอียด เรียบเนียนขึ้น
โดยรวมค่ะตัวนี้ให้ 9.5/10 เพราะราคาจับต้องได้ ซึ่งเราก็ไม่ปล่อยผ่านค่ะ ติดใจใช้เป็นครีมสามัญประจำโต๊ะไปอีก 1 ตัวเรียบร้อย ลองดูนะคะ ตัวนี้เราแนะนำ
4. Estee lauder advanced night repair 50 ml. ราคา 4,700 บาท
ตัวนี้ หลายกระทู้ หลายเว็บไซต์ เหล่าคนดัง ต่างลงความเห็นว่าเป็นสุดยอดของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ใช่ค่ะ ! เราไม่รอช้า ตัดใจซื้อมาที่ขนาด 50 ml.เลย จะลองดู ที่ว่ากันว่าดีนักดีหนามันจะขนาดไหนเชียว กลิ่นของตัวนี้ไม่ค่อยหอมนะคะ เราว่ากลิ่นออกเปรี้ยวๆ นิดนึง แต่พอรับได้ค่ะ ไม่เป็นปัญหา
คุณสมบัติเด่น
- หลังจากทดลองใช้มา 1-2 สัปดาห์ หลังจากตื่นนอนผิวหน้าดูชุ่มชื้นขึ้น
- รูขุมขนดูกระชับ สิวผดเล็กๆ ลดลง
- ความกระจ่างใสยังไม่ค่อยเห็นผล แต่รู้สึกว่าผิวหน้าแข็งแรงขึ้น
- รอยดำ รอยแดง จางลงไวดี
- ไม่มีสิวใหม่เกิดขึ้น ผิวหน้าละเอียดอย่างเห็นได้ชัด
โดยรวมตัวนี้ถือว่าดีสมคำร่ำลือค่ะ ต้องใช้เฉพาะทาก่อนนอนเท่านั้น สำหรับเรา ให้คะแนนอยู่ที่ 9.5/10 ค่ะ หัก 0.5 เพราะราคาแรงในระดับหนึ่ง แต่ลองคำนวนดูว่าใช้เพียงคนละ 3-4 หยด ก็สามารถใช้ได้หลายเดือน หากใครอยากลองใช้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
5. Biotherm life plankton essence 125 ml. ราคา 2,170 บาท
essence ในตำนาน เป็นตัวที่ขาดไม่ได้อีกตัวหน้าบนโต๊ะเครื่องแป้งของเรา ตัวนี้ตามอ่านรีวิวมานานพอสมควร พอได้มาก็เลยพักครีมทุกอย่าง ทาแต่ essence ตัวเดียว เพราะอยากรู้ถึงผลลัพธ์ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน และนางก็ไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ ผิวช่วงบริเวณแก้มที่มีรอยสิวดูจากลง และที่เด่นชัดคือผิวอิ่มน้ำ ไม่แห้ง ผิวหน้าชุ่มชื้น
คุณสมบัติเด่น
- บริเวณข้างขอบปากหรือจมูกที่ชอบลอก เป็นขุ่ย ไม่มีปัญหานี้เข้ามากวนใจแล้ว
- แต่งหน้าติดทนมากขึ้น
- ถ้าเอาไปแช่ตู้เย็นแล้วนำมาทาจะมีความสดชื่นเพิ่มเป็นพิเศษ รูขุมขนกระชับ
สำหรับตัวนี้ให้คะแนน 9/10 นะคะ เพราะมีน้ำหอมและตัว essence มีความเหนียว ราคาแรงพอสมควร เรื่องความกระจ่างใสไม่ค่อยเห็นผล แต่ที่เห็นผลชัดๆ คือสุขภาพผิวหน้าแข็งแรงขึ้น หากใครที่มีปัญหาหน้าแห้ง หน้าลอกเป็นขุ่ยแนะนำตัวนี้เลยค่ะ มั่นใจว่าเอายู่ นอนดึกๆ ก็ทาตัวนี้ก่อนนอน ตื่นมาไม่มีโทรม ผิวหน้าเด้งฟู รับรอบค่ะนางไม่ทำให้ผิดหวัง
ต้องเรียนตามตรงว่าตัวนี้ได้ทดลองใช้จากเทสเตอร์ซองเล็กๆ ก่อนเพราะไซส์ขนาดจริง ราคาเอาเรื่องอยู่ เราใช้เทสเตอร์อยู่ประมาณ 4-5 ซองแล้วคิดว่าผิวดูเรียบเนียนขึ้น หน้าดูเนียน กระจ่างใสขึ้น จะอ่านตามรีวิวก็น้อยเหลือเกินสำหรับเจ้าตัวนี้ บางรีวิวก็กลัวจะเป็นหน้าม้า เลยตัดสินใจครั้งใหญ่หลวงไปซื้อไซร์ขนาดจริงมา ให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย
คุณสมบัติเด่น
- กลิ่นไม่หอมจนฉุน หอมเหมือนพวกโสมอ่อนๆ
- ผิวหน้าค่อยๆ กระจ่างใสขึ้น
- ผิวหน้านุ่มมากๆ
- เวลาล้างหน้าแล้วรู้สึกผิวหน้าเรียบเนียน
เจ้าตัวนี้เราให้อยู่ที่ 9/10 คุณภาพถือว่าดีแต่ก็ไม่ค่อยแตกต่าง จากตัวด้านบนที่รีวิวมาเท่าไร แต่เรื่องราคาทิ้งห่างอยู่พอสมควร เราเลยหักคะแนนตรงนี้ออกไป โดยส่วนตัวเราถ้าหมดก็คงไม่ซื้อใช้ซ้ำแน่นอน ผลลัพธ์ดีแต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะต้องซื้อมาติดโต๊ะเครื่องแป้ง
7. Innisfree wine jelly sleeping pack 80 ml. ราคา 540 บาท
( ถ้าซื้อจากร้านหิ้วอาจจะถูกกว่าในช้อป แต่ระวังของปลอมกันด้วยนะคะ ตัวนี้ของปลอมเกลื่อนกราดมากค่ะคุณ )
สำหรับตัวนี้อิมพอร์ตมาจากเกาหลี ภายใต้แบรนด์ Innisfree อย่างแรกที่ต้องพูดถึงคือเนื้อของมาส์ก หอมมากกกหอมจนฉุน คิดดู 555 สำหรับใครแพ้น้ำหอมอาจไม่เหมาะเท่าไหร่ ตัวนี้เห็นรีวิวมาเยอะมากๆ เห็นบอกว่าเขาจะเน้นเรื่องความชุ่มชื่นผิวอิ่มน้ำ ไม่รอช้าค่ะ รีบไปตำมาอย่างไว โดยส่วนตัว ชอบกลิ่น ชอบเนื้อมาส์กที่ดูเป็นเจลลี่เด้งดึ๋งๆ ส่วนความชุ่มชื่นดีไหม สำหรับเราเฉยๆ ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ แต่ที่นำมารีวิวเพราะชอบกลิ่นมันแค่นั้นเองค่ะ อิอิ
คุณสมบัติเด่น
- กลิ่นที่หอมไวท์แบบอ่อนๆ คือดีค่ะคุณ
- เนื้อมาส์กแปลกตาไม่ค่อยได้เห็น มีคุณสมบัติพิเศษที่เราอ่านเจอมาคือ ถ้าเป็นของแท้ ไม่ว่าเราจะล้วง ควัก จ้วงแค่ไหนเปิดกระปุกมาใหม่ในวันถัดไป เนื้อมาส์กจะกลับเข้าสู่สภาพเดิม ซึ่งจริงค่ะ เราลองแล้ว
ภาพรวมให้แค่ 7.5/10 เพราะไม่ได้ว้าวกับผลลัพธ์เท่าไหร่ เฉยๆ ที่ชอบคงเป็นกลิ่นกับเนื้อมาส์ก แต่ถ้าใครอยากลองก็ลองดูได้ค่ะ เพราะราคาจับต้องได้ หลายๆ ท่านก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ แต่อาจจะไม่ถูกกับจริตผิวหน้าของเราเท่านั้นเอง
ถ้าพูดถึง sleeping mask ไม่พูดถึงตัวนี้ไม่ได้ ทาแล้วเหมือนเอาน้ำมาเทใส่หน้าทั้งคืนค่ะคู๊ณณณ มอบความชุ่มชื่นให้กับผิวได้เต็มๆ สำหรับผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้นะคะ เราไปสืบไปส่องตามหลายๆ กระทู้ที่รีวิวตัวนี้ หลายเสียงยืนยันว่าดีจริง ซึ่งสำหรับเราก็ถือว่าดี เพราะลองครั้งแรกรู้สึกว่าผิวหน้าได้พักผ่อน เราคิดว่าตัวนี้เอาอยู่ ยิ่งคนหน้าแห้ง ควรไปตำให้ไว ยิ่งถ้านำไปแช่ตู้เย็นก่อนนำมามาส์กหน้า บอกว่าฟินไปอี้กกกกกก
คุณสมบัติเด่น
- ผิวได้รับการพักผ่อน ตื่นมารู้สึกว่าผิวอิ่มน้ำจริงๆ
- ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบาย เพราะผ่านการทดสอบมาเรียบร้อย
- เนื้อมาส์กจะเป็นเจลขุ่นสีฟ้าอ่อน มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์หอมอ่อนๆ ไม่รุนแรง
โดยรวมให้ 9.5/10 ค่ะ เรื่องความชุ่มชื่นตัวนี้เขาเด็ดจริง แต่ถ้าใครจะหวังเรื่องความขาวใส ตัดตัวนี้ออกไปนะคะ เพราะเหมือนเขาเน้นว่าเติมน้ำใหผิวซะมากกว่า เป็นมาส์กอีกตัวที่ควรมีติดโต๊ะเครื่องแป้งไว้ค่า
จบแล้วค่าสำหรับ Night cream และ Sleeping mark ที่เราใช้ก่อนนอนเป็นประจำ ผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจไม่เท่ากันเพราะผิวหน้า มลภาวะต่างๆ ที่เราต้องเจอในแต่ละวันแตกต่างกัน ครีมที่รีวิวมา คือได้ทดลองกับตัวเองมาซักพักนึง เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านเป็นข้อมูลและอาจจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจต่างๆ หากการรีวิวของเราผิดพลาดหรือพาดพิงแบรนด์ไหนขอประทานโทษมา ณ ที่นี้นะคะ เพราะเรารีวิวจากการใช้เองโดยส่วนตัว ส่วนครั้งหน้าจะมีครีมหรือสกินแคร์ตัวไหนมารีวิวอีก ฝากติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่า..
