คนดังเกาหลีที่หวนคืนวงการหลังผ่านมรสุม scandal
candy 31 4
.
Park Bom
หญิงสาวที่สละอนาคตทางการศึกษาที่อเมริกา และฝืนใจพ่อแม่ด้วยการเดินทางกลับเกาหลีใต้ มาเป็นไอดอล และนั่นก็เป็นการตัดสินใจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเธออย่างสิ้นเชิง Park Bom กลายเป็นหนึ่งในสี่สมาชิกวงเกิร์ลแบนด์ที่ดังที่สุดของเกาหลีใต้
แต่ความฝันที่จะโลดแล่นไปอย่างสวยงามในวงการดนตรีได้หยุดชะงักไปจากข้อหา "ลักลอบนำเข้ายาเสพติด" ภาพไอดอลที่เป็นแบบอย่างดีงามต้องมัวหมองชั่วข้ามคืนเพราะมีคนเชื่อว่าเธอเล่นยา
แต่ความฝันที่จะโลดแล่นไปอย่างสวยงามในวงการดนตรีได้หยุดชะงักไปจากข้อหา "ลักลอบนำเข้ายาเสพติด" ภาพไอดอลที่เป็นแบบอย่างดีงามต้องมัวหมองชั่วข้ามคืนเพราะมีคนเชื่อว่าเธอเล่นยา
หลังจากที่มีการตรวจพบว่าครอบครัวของเธอที่อเมริกาได้ส่งยา Adderall ที่มีส่วนผสมของ amphetamine ที่อเมริกานั้นสามารถนำมาใช้รักษาตามใบสั่งของแพทย์ได้อย่างถูกต้อง
แต่ในเกาหลี amphetamine คือยาเสพติดผิดกฎหมาย และเมื่อข่าวเผยแพร่ออกไปสู่มวลชน จากไอดอลที่ได้รับความรักมากมาย เธอก็กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาหลายๆคน เพราะแม้จะมีหลักฐานอธิบายว่าเธอใช้ยานี้เพื่อรักษาอาการป่วยทางจิตใจ และที่ต้องลักลอกนำเข้าเพราะตัวยาที่แพทย์ในเกาหลีใช้รักษานั้นไม่ได้ผล แต่ก็ยังไม่ได้ลดความคลางแคลงใจในกลุ่มชาวเน็ทที่โหดกันจนขึ้นชื่อลือชา ด้วยความมีคนจำนวนไม่น้อยที่นำ Adderall มาใช้ผิดๆ สร้างความมึนเมาแบบยาเสพติด กระแสความเกลียดชังจึงพุ่งไปสู่ไอดอลสาวตาแป๋วจนแทบไม่มีที่ยืนในวงการ ไม่มีความกล้าแม้แต่จะออกไปข้างนอกเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่
แม้อัยการเกาหลีจะยอมรับหลักฐานที่เธอจำเป็นต้องใช้ Adderall ในการรักษาโรคสมาธิสั้นและเธอก็รอดพ้นจากข้อกล่าวหามาได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับคำติฉินนินทาว่าประธาน YG ใช้อิทธิพลปกป้องเธอให้พ้นผิดและถูกโจมตีเรื่องอภิสิทธิ์ความเป็นเซเลบ เมื่อ 2NE1 ประกาศแยกวงช็อกวงการ Park Bom ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำโจมตีเรื่องที่เป็นสาเหตุที่วงต้องแตกไปได้ รวมไปถึงสารพัดข่าวลือเสียหายจนมีคนเชื่อว่าชีวิตการเป็นนักร้องของ Park Bom ไปแล้ว
ในปีที่แล้ว เธอได้ออกมาเปิดเผยถึงความอัดอั้นตันใจที่ถูกมองว่าเป็นพวกลักลอบนำเข้ายาเสพติดมาเสพ และถูกมองว่าเสพ amphetamine ทั้งๆ ที่จำเป็นต้องใช้ adderall รักษาโรคสมาธิสั้นที่พยายามปกปิดไม่ให้คนอื่นได้ล่วงรู้ กระแสความเกลียดชังที่ถาโถมเข้ามาทำให้เธอต้องหยุดงานดนตรีไปถึงห้าปี เธอไม่กล้าที่จะกลับมาทำสิ่งที่รัก แต่ในที่สุดก็พยายามลุกขึ้นมาขอโอกาสจากแฟนๆ ให้รับฟังเธออีกครั้ง
Spring เป็น single ที่มีเพื่อนคนสำคัญอย่าง Sandara Park มา featuring นั้นลบคำปรามาสว่า Park Bom จะไม่มีทางได้ผุดได้เกิดในวงการดนตรีเกาหลีได้ด้วยการพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงในชาร์ท แฟนๆ ที่ยืนหยัดให้กำลังใจเสมอมาได้คิดแฮชแทก #OurSpringParkBom จนเป็น trending อันดับ 1 บน twitter แม้เธอจะต้องฝ่าฟันกับ hater ที่ไม่ยอมรับฟังคำอธิบายเหตุผล แต่ก็ยังมีคนที่เฝ้ารอการกลับมาและคอยส่งกำลังใจให้เธอฟื้นตัวจากมรสุม scandal ตลอดหลายปีมานี้ ในวัย 35 Park Bom ได้กลับมาเปล่งประกายอีกครั้ง
Kim Hyun-joong
จากพระเอกหนุ่มที่มีภาพลักษณ์ดูอบอุ่น เขาก็ต้องเข้าสู่สงครามกฎหมายหลังจากถูกแฟนสาวกล่าวหาว่าเขาทำร้ายร่างกายเธอ และหนักหนาขนาดที่เธอต้องแท้งลูกไปแล้วหลายครั้ง
แม้ว่าคุณอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวของการใช้ความรุนแรงที่ประเทศเกาหลีมาบ้าง แต่สำหรับกลุ่มแฟนคลับ คงไม่มีใครคาดคิดว่าพระเอกหนุ่ม/นักร้องที่กำลังมาแรงจะมาพัวพันกับข่าวทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนแท้งลูก
เอาเป็นว่า แค่มีแฟนที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกันก็ถือว่าเป็น scandal แล้วเมื่อมีเรื่องความรุนแรงจึงกลายเป็นมหากาพย์ที่ผู้คนมากมายเกาะติดหนึบด้วยใจระทึก เพราะนี่ไม่ใช่เพียงจ่าวฉาวของดาราดัง แต่มันทำให้กระแสสังคมแตกแยกเป็นสองฝั่งและทิ่มแทงกันผ่านคีย์บอร์ดอยู่นานสองนานโดยหาข้อยุติไมได้ว่าพวกเค้าควรจะเชื่อใคร
เอาเป็นว่า แค่มีแฟนที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกันก็ถือว่าเป็น scandal แล้วเมื่อมีเรื่องความรุนแรงจึงกลายเป็นมหากาพย์ที่ผู้คนมากมายเกาะติดหนึบด้วยใจระทึก เพราะนี่ไม่ใช่เพียงจ่าวฉาวของดาราดัง แต่มันทำให้กระแสสังคมแตกแยกเป็นสองฝั่งและทิ่มแทงกันผ่านคีย์บอร์ดอยู่นานสองนานโดยหาข้อยุติไมได้ว่าพวกเค้าควรจะเชื่อใคร
มันจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่คำพูดของฝ่ายหญิงฟังดูมีน้ำหนักจนทำให้คนจำนวนไม่น้อยประนาม Kim Hyun Joong ว่าเป็นชายชั่วช้ารังแกผู้หญิง เนื่องจากนางสาว Choi เคยฟ้องว่าเขาทำร้ายเธอหลายครั้งจนซี่โครงหัก แต่พระเอกหนุ่มยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด แต่ยอมรับว่าเคยทำให้แฟนสาวบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจจากการฝึกศิลปะป้องกันตัวและต้องจ่ายค่าปรับจำนวนห้าล้านวอนเนื่องจากอัยการเห็นว่าร่างกายของเธอมีร่องรอยความบาดเจ็บ แม้จำเลยจะยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
หลายคนมองว่าการกลับมาคืนดีของคนทั้งสองนั้นแสดงถึงพฤติกรรม abusive ที่มีรูปแบบซ้ำซากดังที่เหยื่อหลายคนเคยผ่านประสบการณ์ที่ต้องถูกทำร้ายร่างกายแล้วภายหลังก็ยอมให้อภัยจากคำขอโทษและแก้ตัวว่าจะไม่ลงไม้ลงมืออีกแต่ก็ถูกกระทำอยู่ดี เมื่อนางสาว Choi ลุกขึ้นมาฟ้องร้อง Kim Hyun Joong อีกรอบและคราวนี้เธอมาพร้อมกับหลักฐานต่างๆ เพื่อยืนยันว่าถูกซ้อมจนแท้งลูกมาแล้วถึงสี่ครั้ง! เธอแยกทางกับเขาในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ และเมื่อคลอดลูกชายได้ไม่นาน ผลพิสูจน์ DNA ยืนยันแน่ชัดว่า Kim Hyun Joong คือพ่อของเด็ก เรื่องราวมันก็ดูสอดคล้องกับคำกล่าวอ้างเรื่องการถูกทำร้ายร่างกายจนแท้งมาก่อนหน้านี้
จากภาพหนุ่มหล่อใจดีที่มักบริจาคเงินก้อนโตให้กับผู้ประสบภัย Kim Hyun Joong ก็กลายเป็นชายหน้าเนื้อใจเสือที่เลวขนาดบังคับให้ผู้หญิงทำแท้งและตบตีเธอจนสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขในท้อง ในขณะคนที่เชื่อมั่นในตัวเขาก็ยังยืนกรานไม่หวั่นไหวว่า ตัวนางสาว Choi มิใช่เหยื่อที่แท้จริง แต่พยายามทำลายชื่อเสียงของอดีตคนรักเพื่อเงินและความแค้นส่วนตัว แฟนๆ เหล่านี้ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเห็นผิดเป็นชอบ รักหลงศิลปินอย่างไม่ลืมหูลืมตา
และในที่สุด การสู้คดีอันยืดยาวก็ได้ยุติที่ความพ่ายแพ้ของหญิงสาวที่อ้างตัวว่าเป็นเหยื่อ อัยการระบุว่านางสาว Choi ปลอมข้อความ รูปภาพและหลักฐานการตั้งครรภ์เพื่อเรียกเงินจากอดีตแฟน รวมถึงการฟ้องร้องในครั้งแรกก็มีหลักฐานชี้ว่าเป็นการบาดเจ็บใน gym ด้วยมือตนเอง เธอยอมรับว่าโกหกเรื่องการตั้งครรภ์ และกล่าวคำขอโทษการกระทำของตนและวิงวอนขอความเห็นใจในฐานะแม่ที่ต้องดิ้นรนเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ศาลจึงตัดสินให้เธอจ่ายค่ารับจำนวนห้าล้านวอนเพื่อชดใช้ความผิดหลอกลวงและหมิ่นประมาท เธอรอดพ้นจากการติดคุกอันเป็นโทษที่อัยการตั้งเป้าหมายไว้เพราะศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้เธอจะลบข้อความส่วนหนึ่งออกไป แต่ก็ไม่มีสิ่งใดที่ชี้ชัดเจนว่าเธอตกแต่งภาพและข้อความและปลอมหลักฐาน แต่ศาลก็ได้ลงโทษในส่วนที่เธอให้การเท็จเรื่องการตั้งครรภ์
ดราม่าความฉาวไม่ได้จบลงแค่นั้น แม้ว่าเขาอาจจะเป็นผู้ชนะคดี แต่ก็ได้เปลี่ยนมุมมองของผู้คนจำนวนมากมายโดยไม่สามารถหวนกลับมาปลาบปลื้มได้เต็มร้อยเหมือนเดิม หลายคนเชื่อว่า แม้นางสาว Choi จะโกหก แต่ Kim Hyun Joong ก็ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์แบบไร้ที่ติ หนำซ้ำก็ยังมีกรณีเมาแล้วขับเพียงแค่ไม่นานหลังจากการสู้คดีสุดฉาวจบลง แฟนๆ จึงวิตกกังวลว่า เขาจะต้องถูกบีบให้ออกจากวงการบันเทิง หากมีเรื่อง scandal จนฮือฮาไปทั่วประเทศ การ come back ก็คงไม่ประสบความสำเร็จ
เขากลับทำงานดนตรีและทัวร์คอนเสิร์ตไปในหลายประเทศ เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้หวนคืนสู่จอ TV ด้วยผลงาน When Time Stopped แต่เรตติ้งไม่ดีนักค่ะ มีการตั้งข้อสงสัยว่า scandal ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้อาจจะเป็นต้นเหตุที่ผู้คนไม่เปิดใจให้กับซีรีส์เรื่องนี้หรือไม่ แต่หลายคนก็วิจารณ์ตรงกันว่าน่าจะมาจากบทที่เชื่องช้าไม่ดึงดูดความสนใจผู้ชมมากกว่า
ในปัจจุบันเขาก็ยังถูกยิงคำถามเรื่องลูกชายที่อาศัยอยู่กับคนรักเก่า แต่เจ้าตัวตอบได้เพียงว่า เขายังไม่ได้รับโอกาสให้ได้เจอกับลูกและไม่สามารถอธิบายได้มากกว่านี้เพราะไม่อยากให้กระทบกระเทือนกับทายาทตัวน้อยนั่นเองค่ะ
Lee Byung Hun
ชื่อเสียงของพระเอกระดับ A List ที่ดังไกลไปถึงฮอลลีวู้ดคนนี้เคยมัวหมองลงจาก scandal สุดช็อก หลังจากที่มีสาวงามระดับอดีตไอดอลและนางแบบร่วมมือวางแผนแอบถ่ายคลิปของเขาในขณะดื่มเหล้าด้วยกัน รวมทั้งยังพูดจาสองแง่สองง่ามใส่ พวกเธอขู่ว่าจะเปิดเผยคลิปนี้สู่สาธารณชนหากเขาไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนห้าพันล้านวอน
เรื่องนี้อาจจะฉาวน้อยลง หากสถานะของ Lee Byung Hun เป็นหนุ่มโสด แต่คนที่ปวดหัวหนักกับเรื่องนี้อีกคนก็น่าจะเป็น Lee Min-jung นางเอกดังที่แต่งงานกับเขามาครบหนึ่งปีแล้วนั่นเอง
เงืนห้าฟันล้านวอน เมื่อแปลงเป็นเงินไทยก็เหยียบๆร้อยสี่สิบล้านค่ะ เจอแบล็คเมลหนักขนาดนั้น พระเอกหนุ่มใหญ่ก็วิ่งหาตำรวจทันที หนึ่งในสองสาวแผนสูงอ้างว่า แผนการนี้เกิดขึ้นจากความคั่งแค้นใจที่ Lee Byung Hun จบความสัมพันธ์กับเธอ แต่หลักฐานขั้นตอนของแผนการแบล็กเมลนี้ชัดเจนแจ่มแจ้ง พวกเธอจองตั๋วเครื่องบินเพื่อหลบหนีไปต่างประเทศและเตรียมกระเป๋าเพื่อใส่เงินห้าพันล้านไว้เรียบร้อย ตำรวจจึงดำเนินการจับกุมอย่างฉับไว
แต่คำถามที่คาใจผู้คนก็คือ ในเบื้องหลังภาพของคู่สามีภรรยาเซเลบทรงอิทธิพลของเกาหลีใต้นั้น ฝ่ายชายนอกใจภรรยาจนผู้หญิงรวมหัวดัดหลังแบล็คเมลจริงหรือไม่ ??
หญิงสาวทั้งสองคนถูกตัดสินจำคุกประมาณปีเศษๆ แต่ก็ยังมีคนทักท้วงว่าโทษนี้หนักเกินไป ตัว Lee Byung Hun นั้นใช่ย่อย สื่อกอสสิปชื่อดังอย่าง Dispatch ได้ปล่อยข้อความโต้ตอบระหว่างพระเอกรุ่นใหญ่กับนางแบบสาวเอ๊าะออกมา มันเป็นนทสนทนาที่แสดงออกชัดเจนว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์เร่าร้อนซ่อนเร้น แม้เอเจนซี่ของเขาจะปฏิเสธ แต่ในสายตาชาวเน็ทจำนวนมาก เขาคือชายที่นอกใจภรรยาจนพลาดท่าสาวเจ้าเล่ห์นั่นเอง
พระเอกดังได้ขอโทษภรรยาและครอบครัวอย่างเป็นทางการออกสื่อ และดูเหมือนว่าสังคมจะก้าวผ่านข่าวฉาวนี้ไปได้จากมุมมองว่าเขาคือเหยื่อของหญิงโลภมาก ถ้าลองคิดดูเล่นๆ หากสลับเพศกันให้ Lee Byung Hun เป็นนางเอกสาวใหญ่ที่มีสามีแล้ว แต่เข้าไปแนบชิดกับหนุ่มเอ๊าะจนถูกวางแผนแบล็คแมล คุณคิดว่าจะมีโอกาสได้กลับคืนสู่วงการรึเปล่า ??
ข้อครหาเรื่องนอกใจภรรยาจางหายไปกับกาลเวลา เขายังมีผลงานหนังสม่ำเสมอ ล่าสุดก็หวนสู่จอแก้วด้วยผลงาน Mister Sunshine ซีรีส์พีเรียดจากช่องเคเบิ้ล tVN ที่เรตติ้งสูงปรี๊ดและยังได้ลง Netflix สร้างความนิยมไปยังต่างประเทศ และยังใช้ชีวิตคู่กับ Lee Min Jung พร้อมกับเลี้ยงดูลูกชายตัวเล็กด้วยกัน เธอพูดถึงเขาด้วยความชื่นชมออกสื่อ และดูเหมือนว่าจะก้าวผ่านวิกฤติแบล็คเมลไปได้จริงๆ