[In-depth] เจาะลึก Yves Saint Laurent : Top Secrets Instant Matte Pore Refiner ที่นี่ก่อนใคร

สำหรับซัมเมอร์ประเทศไทยที่ร้อนจนหน้าเยิ้มกันได้ง่ายๆ เราจะทำยังไงให้ “ความมัน” ไม่เป็นอุปสรรคในการทำกิจกรรมตลอดทั้งวันของเรา เรามีน้องคนนึงมาแนะนำ และน้องคนนั้นคือ Top Secrets Instant Matte Pore Refiner จาก Yves Saint Laurent นั่นเอง ??

เกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนที่รูขุมขนกว้าง และผิวมันม้ากกกก ยิ่งซัมเมอร์คือรองพื้นแบบโกลว์คือไม่คิดจะแตะเลยด้วย และเราเป็นคน “ไม่ใช้ไพรเมอร์” ด้วยเหตุผลหลักๆ คือไพรเมอร์สำหรับผิวมันส่วนใหญ่จะมี texture เป็น “ซิลิโคน” จ๋าาาา และเนื้อหนัก ซึ่งผิวเราอุดตันได้ง่ายมาก เรารู้สึกว่าผิวหายใจไม่ออกแล้วพอหมดวันสิวอุดตันก็คือมาเยี่ยมและ เราเลยเลือกที่จะข้ามไป แต่เราก็ลองเปิดใจให้กับน้องคนนี้หน่อยจะเป็นยังไงเชิญชมด้านล่างได้เลยครับ

ไลน์ Top Secrets ของ YSL เป็นไลน์ที่เน้นในเรื่องของการเตรียมผิวอย่างรวดเร็ว โดยการผสานขั้นตอนทั้งการบำรุงและปรับสภาพผิวไปพร้อมกัน ได้ผลลัพธ์ทันทีและต่อเนื่อง ล่าสุดทาง YSL ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ประเภทไพรเมอร์ออกมาคือ Yves Saint Laurent : Top Secrets Instant Matte Pore Refiner ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของความมันวาวส่วนเกิน ช่วยให้เมคอัพติดทน และรูขุมขนที่มองเห็นได้ชัด เพื่อช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น อำพรางรูขุมขนด้วย Blurring Techonology และไร้ความมันวาว ทันทีหลังใช้ โดยส่วนผสมชูโรงที่ทาง YSL ใส่มาในผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้มี 2 ตัว

1. ซาลิไซลิก แอซิด (Salicylic Acid) ช่วยให้รูขุมขนดูกระชับ และลดเลือนเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

2. สารสกัดจากใบวอลนัต (Walnut Leaf Extract) มีคุณสมบัติในการเสริมกระบวนการผลัดผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพเพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนและละเอียดขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำ

Packaging

เป็นสีดำด้าน สวยงาม หรูหรา ตามสไตล์ YSL ตั้งแล้วดูแพงกว่าโต๊ะเครื่องแป้งอีกกก เป็นหลอดบีบที่ปลายหลอดไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปสามารควบคุมปริมาณในการบีบออกมาได้ น้ำหนักเบาสะดวกต่อการพกพา ปริมาณที่ให้มาคือ 30ml.

Texture 

จะเป็นแบบเจลครีม เนื้อลื่น เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า ทาแล้วซึมลงไปกับผิวไวม้ากกก เหมือนทาสกินแคร์เลย และไม่ ball up เป็นก้อนๆ ไม่รบกวน ผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ลงไปก่อนหน้า ใช้เวลาเซ็ตตัวประมาณ 1 - 2 นาที ถ้าสัมผัสที่ผิวจะรู้ได้เลยว่าผิวจะลื่น ๆ ไม่หนึบ แต่ไม่ได้ดูแมตต์แบนเหมือนไพรเมอร์ทั่วไป คือผิวสบายผิว ชุ่มชื้น แต่ไม่มัน และที่เราชอบอีกอย่างนึงคือเค้าไม่ได้เป็นซิลิโคนจ๋าเหมือนตัวอื่นๆ คือรู้สึกสบายผิวและเบาหน้ามาก

Scent

กลิ่นจะหอมเป็นแบบ Floral อ่อนๆ ไม่ฉุน

Color 

เป็นสีพีชๆ แต่ทาแล้วไม่ได้เปลี่ยนสีผิว ก็คือซึมไปเลย

Applying

- ผิวมัน เค้าแนะนำให้ทาบางๆ ทั่วใบหน้าได้เลยส่วนตัวเราใช้บริเวณทีโซนและหน้าแก้ม เพราะเป็นส่วนที่มักจะมันก่อนที่อื่น

- ผิวผสม ให้ใช้ในบริเวณที่มีความมันเกิดขึ้นได้ง่ายอย่างช่วง T-zone หรือบริเวณอื่นที่มีความมัน

- หรืออีกวิธีหนึ่งที่คุณ Yvonne Ching บิวตี้อินฟลูเอ็นเซอร์จากจีนแนะนำคือสามารถผสมกับรองพื้นก็ได้

Results

สำหรับเราช่วยเบลอรูขุมขนได้นิดหน่อย แต่ที่เด่นคือเรื่องของการทำให้ผิวแมตต์หลังจากที่ทา การควบคุมความมันระหว่างวัน และการทำให้เมคอัพติดทน เราได้ทำการทดลองมาแล้วประมาณ 1 อาทิตย์ เราพบว่า ระหว่างวันเราแทบไม่ได้ซับหน้า เริ่มต้นวันของเราคือ 8.00 เราซับหน้าเพียงครั้งเดียวช่วงประมาณ 17.00 ในส่วนของระหว่างวันความมันช่วงหน้าแก้มไม่ได้มีเยอะ เป็นอารมณ์แบบผิวโกลว์ๆนิดนึง แต่ที่มันคือช่วงจมูก และเราออกกำลังกายประมาณชั่วโมงนึงในช่วงเย็น คือเราส่องกระจกดูเมคอัพยังอยู่ แต่มีเลือนๆ บ้างตรงช่วงจมูก พี่ที่รู้จักกันถามว่า “นี่ออกกำลังกายจริงๆ ใช่มั้ย ทำไมยังอยู่ครบ” เราคิดในใจชั้นใช้ตัวนี้ ๆๆ เรารู้สึกว่าเค้าทำให้เมคอัพทนขึ้นกว่าปกติด้วย ในส่วนของผลระยะยาวของสกินแคร์คงต้องรอดูกันต่อไปอีกสักระยะ

Conclusion

น้องคนนี้คือ เวิร์กม้าาาาาาก เรียกได้ว่าไม่เสียใจที่เปิดใจลองใช้ไพร์เมอร์ ควบคุมความมันได้ดีระหว่างวันซับหน้าน้อยลง เมคอัพติดทนขึ้น ไม่อุดตันรูขุมขน เหมือนการทาสกินแคร์โดยที่เราได้ผลลัพธ์ในเรื่องของเมคอัพด้วย เหมาะกับช่วงซัมเมอร์สุดๆ ใครที่รู้สึกไม่ชอบไพร์เมอร์ ก็อยากให้ลองเปิดใจให้น้องคนนี้แล้วจะไม่เสียใจแบบที่เราบอกแน่นอน 

ราคา 2100 บาท 

พบได้ที่เคาท์เตอร์ Yves Saint Laurent ทุกสาขา 

ห้างในเครือเซ็นทรัลวางจำหน่ายแล้ว

ส่วนห้างในเครือเดอะมอลล์พบกันหลังสงกรานต์นะครับ หรือเลือกช้อปออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ YSL นะครับ 

สุดท้ายเราขอบคุณทาง YSL Thailand ที่ส่งมาให้ลองใช้ด้วยนะครับ 

#yslbeautyth
#undercontrol