Update ล่าสุด ของScandal สั่นสะเทือนเกาหลี

39 8
เพื่อนๆ ชาว Jeban คงไม่พลาดเหตุการณ์สุดฉาวในหน้าประวัติศาสตร์บันเทิงเกาหลีใต้เมื่อไอดอลระดับตัวพ่อ และนักแสดงอีกหลายคนถูกกล่าวหาพร้อมหลักฐาน chat สุดเด็ดที่ใช้มัดตัวไม่ให้ดิ้นหนีความผิดไปได้ ยิ่งเรื่องราวถูกตีแผ่ออกมามากเท่าใด ก็ยิ่งทำให้แฟนคลับจำนวนมากมายหัวใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี

แต่อย่างที่หลายคนได้วิเคราะห์กันไว้ นี่ไม่ใช่เป็นเพียงการแฉฉากหลังของคนดังภาพลักษณ์สวยหรูเท่านั้น แต่มันเป็นความพยายามขุดรากถอนโคนกลุ่มผู้มีอิทธิพลในสังคมชายเป็นใหญ่ใช้อำนาจกำเริบเสิบสานในทางเสื่อมเสียโดยที่เหยื่อไร้โอกาสในการเรียกร้องความเป็นธรรม

แต่ตอนนี้ บางสิ่งในสังคมเกาหลีอาจกำลังจะเปลี่ยนไป

บรรดาผู้ที่ถูกพาดพิงกล่าวหาจะอธิบายตัวเองอย่างไร เราลองมาอัพเดทเหตุการณ์กันต่อเลยค่ะ



Seungri  ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา


หลังจากไอดอลคนดังได้โต้ข่าวปัดเรื่องการเป็นผู้บริหารถือหุ้น Burning Sun คลับอันเป็นต้นกำเนิดของมหากาพย์สุดฉาวโฉ่ว่าตัวเองเป็นผู้ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารธุรกิจของคลับ ทั้งต้นสังกัดและตัวแทนของ Burning Sun ต่างแถลงตรงกัน แต่กลับถูกสื่อดังนำเอกสารมาตอกกลับว่าเขาคือหนึ่งในผู้บริหารที่ร่วมลงทุนมีหุ้นร่วมกับผู้อำนวยการคนอื่นๆ ที่นำกำไรมาจัดสรรปันส่วนกันจริงๆ

และมันอาจจะทำให้คุณสงสัยว่า เราจะได้ยินความจริงจากปากของนักร้องหนุ่มบ้างหรือไม่   ?

ล่าสุด Seungri ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sisa Press เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเองแล้วค่ะ



"เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากบทสนทนาในห้องแชท KakaoTalk พวกเราแค่สะกดคำว่าผู้กำกับการผิดไป เราเป็นพวกงี่เง่าที่โอ้อวดข่มใส่กันในหมู่เพื่อนโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ ทั้งนั้น " Seungri ได้อธิบายเรื่องข้อความในแชทที่ระบุว่ามีตำรวจระดับสูงคอยช่วยเหลือ แต่เพราะการสะกดผิดนั้นทำให้ชาวเน็ทสงสัยว่าพวกเขาอาจจะหมายถึงอัยการสูงสุดหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่มีความคล้ายคลึงกันในภาษาเกาหลี

ส่วนผู้กำกับที่ถูกระบุชื่อก็ได้ออกมาโต้กลับข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่คอยช่วยให้สมาชิกห้องแชทกลบเกลื่อนความผิดทางกฎหมาย แต่ในปี 2014 ตรงกับเวลาในแชทนั้น เขาไม่ได้รู้จัก Seungri เลย ไม่รู้จักแม้กระทั่ง Big Bang


"ข้อความใน chat ทำให้คนในสังคมคิดว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษีและมีตำรวจสมรู้ร่วมคิด ซึ่ง ณ ตอนนี้ ผมได้ตกอยู่ในสถานะที่แม้ว่าจะพูดความจริงออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ แม้แต่เจ้าที่สืบสวนเองก็ยังคิดว่าข้อความทุกอย่างใน Kakao Talk เป็นเรื่องจริงและถือว่ามันเป็นหลักฐาน ผมกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้รับการตัดสินที่เป็นธรรมด้วยเหตุผลว่าผมมีชื่อเสียงจากการเป็นคนดัง เพราะผมมีความรู้สึกผิดต่อชาวเกาหลีจึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะโอดครวญหรือโต้แย้งใดๆ "


"นอกจากนั้น ผมก็ไม่ได้ไปเล่นการพนันที่ต่างประเทศหรือเป็นคนจัดหาผู้หญิงไปให้บริการทางเพศนะครับ"



"ในตอนนั้นที่ผมบอกคนอื่นว่าตัวเองได้เงินมาเยอะแยะแล้วก็ส่งภาพเงินให้ดูน่ะ มันเป็นแค่การพูดโม้โอ้อวด ผมแค่อยากจะแกล้งอวดไปงั้นเอง ก็เลยโป้ปดออกไป A (หนึ่งใน CEO) ไม่ได้เห็นผมตอนเล่นพนัน เขาไม่ได้ไปที่นั่นกับผม คุณสามารถเช็คกับทางโรงแรมได้เลย"




และที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ฝั่ง Seungri และทนายของเขาได้แสดงออกว่าเขาคือเหยื่อ หาใช่ผู้กระทำผิดอุจฉกรรจ์ดั่งที่ถูกสังคมประนาม สิ่งที่เขาผิดพลาดไปคือการคบหากับพวกคนเลวที่บ่อลวงให้เขามาเกี่ยวข้องกับความเสื่อมเสียทั้งหลายแหล่
Sisa บังได้สัมภาษณ์กับทนายของ Seungri ที่พยายามแก้ต่างว่า ในแชทมีรายละเอียดของผู้หญิงที่จะจัดหาให้ CEO จนถูกกล่าวหาว่าทำตัวไม่ต่างจากพ่อเล้าเพราะ Seungri ได้นำเสนอโพรไฟล์ของผู้หญิงเหล่านั้นอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นอายุ อาชีพ รูปร่างหน้าตาให้ "ลูกค้า" ได้เลือกนั้น แท้จริงแล้ว CEO ได้ request ให้ Seungri หาผู้หญิงเพื่อให้เดินทางร่วมทริปไปที่อินโดนีเซีย เพื่อให้แสดงบทบาทคนรักหรือภรรยา แต่ในที่สุดแล้วพวกเขาก็เดินทางไปต่างประเทศด้วยกันโดยไม่ได้พาผู้หญิงคนใดไปด้วยเลย  


"ผมเป็นฝ่ายคนผิด ผมไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นและทำเรื่องยุ่งลงไป"



สรุปคือ เขาโบ้ยว่าไม่ได้เล่นพนัน แค่อยากจะอวดเงินกับเพื่อนๆ  และไม่ยอมรับว่ามีแบคเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนเรื่องเป็นพ่อเล้า  ถึงจะมีแชทที่นำเสนอโพรไฟล์ผู้หญิงให้ชายใน chat กลุ่มเลือก  แต่สุดท้ายก็ไปต่างประเทศโดยไม่ได้มีผู้หญิงไปด้วย  ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นการค้ากาม 


ส่วนข้อกล่าวหาล่าสุดคือการเสพโคเคนและจัดหาผู้หญิงขายบริการใน party ที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้น ทนายได้โต้ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตัว Seungri สามารถเข้าเครื่องจับเท็จเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์  การตรวจหาสารเสพติดที่ผ่านมาก็มีผลเป็นลบอีกด้วย




ไม่ได้มีแต่ผู้ชายที่ถูกตามเอาผิด


นางเอกซีรีส์ Love in Sadness ที่กำลังอยู่ในช่วงออนแอร์ต้องถูกต่อต้านจากผู้ชมถึงขนาดมีการเรียกร้องให้เธอถอนตัวออกจากการแสดงในเรื่องนี้ ด้วยต้นเหตุมาจากนาย Yoo In Suk  สามีของเธอคือหนึ่งในตัวละครที่เป็นกุญแจสำคัญ เพราะนอกจากเขาจะเป็นอดีต CEO ของ Yuri Holdings ก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนดำเนิน Burning Sun ร่วมกับ Seungri และถูกระบุตัวว่าเป็นผู้ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้กำกับการ Yoon ถึงขนาดไปตีกอล์ฟด้วยกันโดยที่พาภรรยาไปร่วมด้วย ตำรวจยศสูงผู้นี้เองที่ถูกเล็งไว้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ผู้เอื้อประโยชน์ให้คลับ Burning Sun ให้รอดพ้นเงื้อมมือกฎหมายเมื่อมีการกระทำผิดเกิดขึ้น นางเอกสาวสวยออกมาขอโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพราะการถ่ายทำซีรีส์นั้นมีผลกระทบต่อผู้คนหลายฝ่าย เธอจึงต้องพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ผลงานเรื่องนี้ดำเนินต่อไป


อย่างไรก็ตาม แม้ Love in Sadness จะมีชื่อของ Park Han Byul เป็นนางเอก แต่อนาคตทางการแสดงของเธออาจจะสิ้นสุดเพียงเท่านี้ สำหรับชาวเกาหลีใต้ ก็อาจจะไม่สามารถเปิดใจต้อนรับผู้ที่พัวพันกับ scandal ระดับชาติได้อีก เมื่อนางเอกดังไปพัวพันกับเรื่องข้อกล่าวหาติดสินบนและใช้อำนาจในทางมิชอบ ไม่ได้มีแต่ฝ่ายสามีที่ต้องถูกสอบสวนเท่านั้น แต่อาจจะรวมถึงตัวเธอที่ต้องให้ข้อมูลในเรื่อง connection กับนายตำรวจผู้นี้


* ผูัที่คายข้อมูลเรื่องเกมกอล์ฟระหว่างนาย Yoo และผู้กำกับการYoon ก็คือ  Choi Jong Hoon  แห่ง FT Island นั่นเองค่ะ  เขาถูกเรียกตัวมาสอบสวนหลังจากที่ถูกแฉว่าเป็นหนึ่งในchat กลุ่มสุดฉาวที่กระชากหัวใจแฟนๆ


คำอธิบายจาก Yoo In suk

รายการ Newsdesk ที่ช่อง MBC ได้อ้างว่าได้รับจดหมายขอโทษและยืนยันความบริสุทธิ์จาก Yoo In Suk CEO ที่รับหน้าที่ผู้จัดการปัญหาต่างๆ ให้กับชายร่วม group chat และคลับ Burning Sun ที่ร่วมบริหาร แต่ไม่ต่างจาก Seungri  เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด


- เขาขอโทษในคำพูดงี่เง่าต่างๆ ที่แสดงถึงความไร้วุฒิภาวะใน chat ที่บางอย่างเค้าก็แทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำ

- อธิบายว่าที่ปิดปากเงียบไปก่อนหน้านั้น เพราะรู้ว่าไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ (ไดอะล็อคเดียวกับ Seungri เป๊ะๆ)

- ยอมรับเรื่องความสนิทสนมกับผู้กำกับการ Yoon เริ่มต้นจากการได้รับคำแนะนำจากคนรู้จักให้ปรึกษาแนวทางการดำเนินธุรกิจกับนายตำรวจคนนี้ และได้รับคำปรึกษาต่างๆ รวมกับร่วมกินอาหารและเล่นกอล์ฟด้วยกันสองสามครั้ง เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่นำปัญหายุ่งยากมาให้ทั้งๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้เป็นตัวอย่างที่ดีงามในการรับใช้สังคม

- ส่วนเรื่องที่สมาชิก group chat ได้บรรยายถึงผู้กำกับการราวกับว่าเขาเป็น back ที่คอยช่วยเหลือกลบเกลื่อนความผิดให้นั้น เป็นเพียงนิสัยปากพล่อยของเขาและเพื่อนๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจริงๆ

- ข้อกล่าวหาค้าประเวณีมาจากบทสนทนากับสาวต่างชาติที่ต้องการมาที่เกาหลีกับพวกเขา จึงมีการใช้คำพูดอย่างคึกคะนองกับนาย Kim (อีกหนึ่งตัวละครสำคัญ) ให้ดูแลผู้หญิงคนนี้ให้ดี และพูดเกินเลยไปถึงการจัดผู้หญิงขายบริการให้ แต่มันเป็นเพียงมุกตลกเท่านั้น

- เหตุผลที่ได้อ้างว่าบทสนทนาจาก KakaoTalk เป็นของปลอมก็เพราะไม่ได้มีเรื่องค้าประเวณีเกิดขึ้น

- ประกาศว่าข้อมูลต่างๆ ในโทรศัพท์ของ Jung Joon Young (ดารานักแอบถ่ายตอนมี sex กับสาวๆ) ได้หลุดไปยังมือของนักข่าว และเมื่อข้อมูลเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกมา พวกเขาก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันจะสร้างความช็อคให้กับสังคมหรือข้อความสนทนาส่วนตัวอันใดจะถูกใช้มาเป็รหลักฐานในการสืบสวน

- ย้ำว่านี่คือการกระทำไร้ความยั้งคิดของชายวัยหนุ่ม เขาไม่รู้เลยว่าจะรับมือที่ต้องถูกประจานข้อความส่วนตัวและการสอบสวนได้อย่างไร เพราะชีวิตส่วนตัวของพวกเขาก็หมายถึงชีวิตครอบครัวคนสนิทรอบข้างด้วย เรื่องพวกนี้ทำให้ครอบครัวของพวกเขาตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง






เราคงไม่ถึงขนาดจะเรียกการแก้ต่างเหล่านี้ว่าเป็นการ "หงายการ์ดความคะนองปาก" เพราะดังที่หลายคนยืนยันว่าต้องฟังความสองข้าง แม้สื่อยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้กำลังแข่งขันกันงัดหาหลักฐานและพยานขึ้นมาแฉผู้เกี่ยวข้องออกมาไม่หยุดยั้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มผู้ถูกกล่าวหาจะไร้สิทธิ์ในการปกป้องตัวเอง และพวกเขาอาจจะเป็นตัวแปรทำให้ตำรวจสาวไปถึงตัวการที่ใหญ่เบื้มกว่าเดิม หลายคนเชื่อว่า งานนี้ ตำรวจเกาหลีถูกสังคมกดดันอย่างหนัก และไม่สามารถบิดเบือนความผิดของคนร้ายได้ และมันจะนำไปสู่การกระชากหน้ากากของผู้มีอำนาจในสังคมชายเป็นใหญ่ที่สั่นสะเทือนไปทั่วสังคมเกาหลี


ไอดอลที่ได้รับผลกระทบจากความสนุกสนานในgroup chat ที่ Jung Joon-young อวดคลิปsex


ผู้คนจำนวนมากแทบรอไม่ไหวว่าเจ้าหน้าที่ผู้ใช้กฎหมายจะลากผู้กระทำผิดมาลงโทษได้หรือไม่ แต่ชายที่ก่อวีรกรรมน่ารังเกียจอย่างรุนแรงในระดับไม่สามารถใช้คำว่า "คึกคะนอง"มาแก้ตัวได้ นั่นคือ Jung Joon-young ดาราหนุ่มที่ถ่ายคลิปตอนที่กำลังมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าโดยที่ผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวว่าถูกบันทึกภาพลับเฉพาะไว้ ซ้ำร้ายคลิปเหล่านั้นก็ถูกคนใจต่ำนำมาโชว์เพื่อนๆ ใน group chat เมื่อ Jung Joon-young ถูกจับได้พร้อมด้วยหลักฐาน เขาจึงยอมรับผิดทุกอย่างและต้องทำใจรอสู้คดีที่อาจจะนำไปสู่การจำคุก เชื่อว่าเขาคงไม่ได้ผุดได้เกิดในวงการบันเทิงได้อีกต่อไป

แต่ผลกระทบที่ตามมาราวกับการล้มโดมิโนก็คือเหล่าไอดอลที่ร่วมชมและวิพากษ์วิจารณ์คลิปพวกนั้นโดยไม่คำนึงถึงเกียรติของเหยื่อและดูไม่รู้สึกรู้สาว่านี่คือความผิดที่ยากจะให้อภัย
Yong Jun-hyung  

"ผมได้รับวีดีโอที่ส่งต่อมาจาก Jung และแสดงความเห็นอันไม่เหมาะสม พฤติกรรมนี้ผิดศีลธรรมจรรยาและผมก็ช่างโง่เง่า ผมขอลาออกจากวง Highlight ด้วยความตระหนักว่านี่เป็นเรื่องร้ายแรงและผมก็ไม่ต้องการที่จะทำร้ายแฟนๆ ที่ต้องรู้สึกผิดหวังในตัวผม รวมไปถึงสมาชิกในวงคนอื่นๆ จากนี้ผมจะใช้ชีวิตต่อไปด้วยการทบทวนไตร่ตรองในการกระทำของตัวเองครับ"


Lee Jong-hyun 

ต้นสังกัดของมือกีตาร์วง CNBLUE ได้แถลงการณ์ด้วยใจความคล้ายคลึงกับไอดอลด้านบน เขาได้ดูคลิป sex และใช้คำพูดไม่เหมาะสมและกำลังสำนึกผิดอยู่ แฟนๆ กดดันให้เขาลาออกจากวงและเริ่มมีคนจับผิดภาพพฤติกรรมของเขาที่มีต่อไอดอลสาวๆคนอื่น

Lee Jong-hyun
อีกคนที่ประกาศออกจากวงพร้อมกับยุติบทบาทในวงการบันเทิงคือ leader วง  FT Island ผู้นี้ และดูเหมือนเขาจะต้องเผชิญกับความกดดันยิ่งกว่าอีกสองคนที่กล่าวถึงไปก่อนหน้า เพราะในแชทได้ระบุถึงการกระทำผิดเมาแล้วขับและติดสินบนตำรวจเพื่อให้เลี่ยงความผิดสถานหนัก ในภายหลัง Choi Jong Hoon  ได้ยอมรับกับต้นสังกัดว่าถูกจับเมาแล้วขับจริงๆ และได้จ่ายค่าปรับจำนวนสองล้านห้าแสนและถูกยึดใบขับขี่นานหนึ่งร้อยวัน  เรื่องนี้เองที่ทำให้มีการสืบสวนสาวไปถึงนายตำรวจที่ทำหน้าที่เป็น back ให้กับกลุ่มผู้ชายใน group chat ฉาวโฉ่

  



เรื่องพวกนี้อาจจะทำให้ผู้เสพบันเทิงเกาหลีต้องใจตุ้มๆ ต่อมๆ ว่า จะมีชื่อไอดอลขวัญใจตัวเองโผล่ขึ้นมาใน group chat  หรือไม่ ! 
update ล่าสุด Jung Joon Young ถูกจับกุมตัวจากการกระทำผิดแอบถ่ายและเผยแพร่คลิปโดยไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย หลักฐานมัดตัวแน่นขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เจ้าตัวมีถ้อยแถลงยอมรับผิดทุกอย่างโดยจะไม่โต้แย้ง เขาแสดงท่าทางเสียใจอย่างสุดซึ้งก่อนจะเดินเข้าไปในศาล

ถ้อยคำที่แสดงความรู้สึกผิดและท่าทางเศร้านี้ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับความเจ็บปวดของเหยื่อได้เลย นักข่าวสาวเหล็กที่เป็นผู้ปล่อยหลักฐานแฉความผิดของกลุ่มชายคนดังเหล่านี้ได้เปิดเผยว่า เหยื่อต่างรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงจนไม่สามารถรับไหว บางคนปล่อยโฮขอร้องให้เธอช่วยเหลือเพราะไม่รู้เลยว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้เช่นไร ภาพตอนที่พวกเธอมีเพศสัมพันธ์กับชายใจโฉดชั่วอาจจะทำลายชีวิตให้พังพินาศ


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE