ผิวสวยนาน ไม่ดรอประหว่างวัน! มาเลือกรองพื้นด้วยทฤษฎีสี JUSME COLOR จาก COVERMARK

29 6
ฮายยยย~~ สวัสดีชาวจีบันทุกคนน ใครเคยเป็นบ้างคะ แต่งหน้าตอนเช้าก็สวยอยู่ดีๆ แต่พอตกบ่ายปุ๊บ หน้าหมองเหมือนโดนของเลยจ้าา

บอกเลยว่าใครมีปัญหานี้อยู่ กระทู้นี้คือตัวช่วย! เพราะปัญหาหน้าดรอประหว่างวันจะหมดไป และมีผิวสวยกระจ่างใสยาวนานยิ่งขึ้น หนุ่มๆ สาวๆ มามุงกันเร็ววว... เพราะเราจะพาไปเทสสีรองพื้นในรูปแบบที่ถูกต้องโดยทฤษฎีสี JUSME COLOR ของ COVERMARK นั่นเอง

ซึ่ง JUSME COLOR เป็นทฤษฎีสีที่แบ่งเป็นอันเดอร์โทนฟ้า และอันเดอร์โทนเหลือง ซึ่งจะเป็นตัวที่สามารถบอกอันเดอร์โทนของผิวเราได้อย่างถูกต้องว่ามีสีผิวอันเดอร์โทนนี้ ควรใช้ลองพื้นเฉดไหนกันแน่ ถ้าอยากรู้ก็แค่แวะเข้าไปลองทดสอบที่หน้าเคาน์เตอร์ของ COVERMARK ได้เลย รออะไรล่ะคะซิสไปลุยกัน!!
เคาน์เตอร์ COVERMARK สาขาเซ็นทรัลพระราม9 ฝั่งโรบินสัน สาขานี้มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกช้อปเยอะมาก ซึ่งเคาน์เตอร์ของเขาจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยจะมีมุมรองพื้นโดยเฉพาะ และมุมผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างพวกงานเมคอัพ อายคัลเลอร์ บลัชออน อู้ยยยย.. สีสวยมาก รับรองว่าสาวๆ ที่ชอบเมคอัพสายธรรมชาติปัดแล้วละมุนสไตล์เจแปนนิสจะต้องเลิฟมากเป็นพิเศษ เอ้า มาเทสสีรองพื้นกัน!!
รองพื้นที่แบ่งตามอันเดอร์โทน ฟ้า และเหลืองของ COVERMARK โดยใช้ JUSME COLOR มี 2 รุ่นคือ

  • COVERMARK  < JUSME > Essence Foundation 
    รองพื้นชนิดอิมัลชัน สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งกร้าน เนื่องจากขาดความชุ่มชื้น ให้ผลลัพธ์ เรียบเนียน เปล่งประกายตลอดวัน

  • COVERMARK < JUSME > Essence Foundation Liquid
    รองพื้นชนิดน้ำ สัมผัสบางเบา ให้ผิวหน้าไม่มันวาว พร้อมกระชับรูขุมขน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเบาสบายผิว หรือผู้ที่มีผิวขาดน้ำ
จะเล่าให้ฟังว่าการที่ผิวเรามีสีผิวอันเดอร์โทนสีฟ้า หรือสีเหลืองนั้นเกิดขึ้นจากการไหลเวียนของเส้นเลือดที่อยู่ใต้ผิวหนังของเรา ต่างกับสีผิวภายนอกของเราที่จะได้รับอิทธิพลมาจากเม็ดสีเมลานินซึ่งทำให้สีผิวของเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

แต่อันเดอร์โทนผิวของเราได้รับอิทธิพลจากเส้นเลือดดำ หรือเส้นเลือดแดง ซึ่งมันจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ เช่นคนที่มีอันเดอร์โทนฟ้า นั่นก็เป็นเพราะได้รับอิทธิพลของการหมุนเวียนเลือดจากเส้นเลือดดำมากกว่าเส้นเลือดแดง ทำให้เป็นปัจจัยที่เราเปลี่ยนแปลงสีอันเดอร์โทนของตัวเองไม่ได้ ไม่เหมือนกับสีผิวที่เราเห็นได้ด้วยตาภายนอกค่ะ

ดังนั้นแล้วการเลือกสีรองพื้นให้ตรงอันเดอร์โทนผิวถือเป็นด่านแรก ที่จะทำให้ผิวดูกระจ่างใส เป็นธรรมชาติ จากนั้นเราจึงเลือกที่เฉดสีรองพื้นให้ตรงกับสีที่คอของเรา เพื่อให้หน้าไม่เทา ไม่ลอยค่ะ มีสาวๆ คนไหนมีอันเดอร์โทนสีฟ้า อยากจะมีอันเดอร์โทนสีเหลืองแทน แบบนี้ไม่ได้น้าาา
ซึ่งข้อดีของการเลือกสีอันเดอร์โทนของรองพื้นตรงกับผิว จะทำให้หน้าของเราไม่หมอง สีไม่ดรอประหว่างวันเมื่อรองพื้นเซ็ทตัว ถึงแม้ว่ารองพื้นจะเป็นเนื้อบางเบา เราก็จะได้ลุคงานผิวเนียนใส สุขภาพดีไม่หมอง หน้าดูกระจ่างใส

ซึ่งวิธีการดูง่ายๆ ของคนส่วนใหญ่ก็คือ คนที่มีเส้นเลือดเห็นเป็นสีม่วงมักจะมีอันเดอร์โทนผิวสีฟ้า หรือถ้าคนที่มีเส้นเลือดเห็นเป็นสีเขียว ก็เป็นไปได้ว่ามีอันเดอร์โทนผิวสีเหลือง แต่แนะนำว่าถ้าอยากรู้ว่าเรามีอันเดอร์โทนไหน แนะนำให้มาเช็คเพื่อความชัวร์กับพี่ BA ผู้เชี่ยวชาญของเราดีกว่านะ
มาดูตัวอย่างของทั้ง 2 อันเดอร์โทนดีกว่า อันนี้แขนซ้ายทารองพื้นอันเดอร์โทนฟ้า ส่วนแขนขวาทาเป็นอันเดอร์โทนสีเหลือง สังเกตุผิวบริเวณช่องว่างระหว่างรองพื้นเฉดเข้มกับสว่าง ฝั่งขวาที่ทารองพื้นอันเดอร์โทนเหลือง  ผิวดูสดใสไม่ซีดเหมือนฝั่งซ้ายที่เป็นอันเดอร์โทนฟ้าค่ะ

มองด้วยตาอย่างเดียวคงไม่พอ มาลองส่องไฟเช็คกันเลยดีกว่าว่าถ้าผิวถูกแสงโดยตรงแล้วจะเป็นยังไง

ตรงจุดนี้จะให้ดูตรงผิวกึ่งกลางก่อน บางคนจะเห็นชัดมากทันทีว่าผิวข้างที่ไม่ตรงอันเดอร์โทนจะดูซีดหมอง แต่น้องมินดูก้ำกึ่ง ดังนั้นเราจะไปดูที่เนื้อรองพื้นกัน ก็จะพบว่า ฝั่งขวาเนื้อรองพื้นอันเดอร์โทนเหลืองบนผิวดูนวลละมุนสวย ส่วนฝั่งซ้ายที่เป็นอันเดอร์โทนฟ้าเนื้อรองพื้นดูลอยๆ ยิ่งเฉดสว่างนี่เทาชัดเลย

สรุปน้องมินผิวอันเดอร์โทนเหลืองชัวร์!!
เมื่อได้อันเดอร์โทนของตัวเองแล้ว ลองมาปาดเทสเฉดรองพื้นลงบนผิวหน้ากันเลยดีกว่า แนะนำว่าบริเวณที่ลองสีรองพื้น ควรจะเป็นผิวบริเวณข้างแก้มช่วงกราม เพื่อหาเฉดรองพื้นที่เข้ากับผิวหน้า และคอมากที่สุด ถ้าปาดลองแค่บนมืออาจจะทำให้หน้าลอยได้ เพราะว่าสีผิวหน้าและสีมือไม่เหมือนกันนะจ๊ะ

ส่วนสีที่เลือกลองบนหน้าคราวนี้คือเบอร์ YN10 ค่ะ ปาดรองพื้นแล้ว ก็ค่อยๆเกลี่ยเนื้อรองพื้นให้เนียนกริบเข้ากับผิวไปเลยค่า
หูยยย.. แค่มองก็รู้เลยว่ารองพื้นนี้ให้ลุคธรรมชาติสีเนียนเป็นผิวของเรามาก แล้วยังช่วยให้ผิวดูเปล่าปลั่งสดใสขึ้นเลย ไม่ต้องเมคอัพจุดอื่นเยอะก็ได้ลุคโชว์ผิวสวยๆ แล้วค่า

ทีนี้มาถึงตาน้องอิงบ้าง ดูสิว่าอิงจะมีสีอันเดอร์โทนฟ้า หรือเหลืองน้าาา..

สำหรับผิวของน้องอิง สังเกตุผิวบริเวณช่องว่างระหว่างรองพื้นเฉดเข้มกับสว่าง ฝั่งซ้ายที่ทารองพื้นอันเดอร์โทนฟ้า ผิวดูขาวผ่องสดใส ไม่เหมือนฝั่งขวาที่ทารองพื้นอันเดอร์เหลือง ที่ผิวตรงกลางเส้นรองพื้นดูหมองคล้ำกว่ากัน

มาถึงขั้นตอนส่องไฟเช็คเนื้อรองพื้นกันอีกครั้ง! ฝั่งซ้ายที่ลงรองพื้นอันเดอร์โทนสีฟ้า เนื้อรองพื้นแทบจะกลืนเนียนไปกับผิวอยู่แล้ว โดยเฉพาะเฉดเข้ม เป๊ะ บอกได้เลยว่าน้องอิงมีผิวอันเดอร์โทนฟ้าชัวร์!!

ซึ่งสำหรับเฉดที่พอดีผิวอิงคือเบอร์ BO10 ค่า
มาดู Finish Look ผิวหลังจากลงรองพื้นออกมาดีงาม ให้ความปกปิดเป็นธรรมชาติ เบาสบายผิวมากเหมาะกับอากาศบ้านเรามาก ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังว่าระหว่างวันจะเทาจะหมองด้วยนะจ๊ะ เพราะเลือกถูกตรงทั้งสีอันเดอร์โทน และเฉดสีรองพื้นที่หน้ากับคอมาเบอร์เดียวกันชัวร์!! หมดปัญหาเพื่อนทักหน้าลอยให้เสียเซล์ฟกันแล้วจ้า
เดี๋ยวใครจะบอกว่าผิวสวยแค่หลังจากทาหรือเปล่าน้าา? แต่มาดูนี่ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่.. ดู๊ดูๆๆๆ ผิวยังเป๊ะมากก บอกเลยว่าผลจากการทดสอบตามทฤษฎีสี JUSME ได้ผลสีรองพื้นที่ตรงกับอันเดอร์โทนผิวจริง ช่วยให้หน้าไม่หมอง สีรองพื้นไม่ดรอประหว่างวัน เป็นลุคเมคอัพงานผิวสุขภาพดีที่แท้ทรู

ไม่ใช่แค่รองพื้นแล้วหน้าสวยอย่างเดียวนะคะ อันเดอร์โทนยังสามารถบอกได้ด้วยว่าเสื้อผ้าหรือเครื่องสำอางโทนอุ่น หรือโทนเย็นที่จะเข้ากับสีผิวของสาวๆ ได้มากที่สุด

สาวๆ คนไหนที่สงสัยว่าเอ๊ะ.. ตัวเราจะเป็นคนที่มีอันเดอร์โทนสีผิวฟ้าหรือเหลืองกันแน่? และต้องใช้รองพื้นเบอร์ไหนนะ หน้าจะได้ปังๆ แนะนำว่าให้พุ่งตรงมาที่เคาน์เตอร์  COVERMARK ให้พี่ BA ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเลือกรองพื้นสีที่ถูกที่ควรที่เคาน์เตอร์ COVERMARK ทุกสาขาได้เลยค่าาา