การคุกคามทางเพศที่แฝงมากับซีรีส์เกาหลี

25 7
คุณคงเป็นอีกคนที่เคยผ่านช่วงเวลาที่ลืมการหลับนอนเพราะต้องชมซีรีส์เกาหลีให้จบภายในเวลาชั่วข้ามคืน อุตสาหกรรมการแสดงที่เฟื่องฟูจากดินแดนกิมจินั้นดูห่างไกลกับคำว่าถึงทางตัน แต่ในบางครั้งการนำเสนอในบางสิ่งบางอย่างอาจจะทำให้คุณรู้สึกกังขาถึงความเหมาะสม


"การคุกคามทางเพศ"


ไม่ว่าจะเป็นเพศหรือวัยใดก็ถูกคุกคามและล่วงละเมิดได้ แต่ในสังคมที่ขึ้นขื่อลือชาเรื่องแนวคิดชายเป็นใหญ่ที่ฝังรากลึกมายาวนานนับตั้งแต่โบราณนั้น การนำเสนอเรื่องคุกคามทางเพศให้เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนรับได้อย่างสบายใจฟังดูล่อแหลมที่จะทำให้เกิดปัญหาในสเกลที่ใหญ่ขึ้นตามมา หากเป็นที่ประเทศไทยในระยะหลังนี้ ผู้คนเริ่มออกเสียงวิจารณ์ต่อต้านละครที่สร้างจากจินตนาการที่ฟังดูบิดเบี้ยว ชายหนุ่มรูปงามข่มขืนหญิงสาวผู้อ่อนแอ แต่ในที่สุดทั้งสองก็ลงเอยกันอย่างมีความสุข แต่มันช่างสวนทางกับประสบการณ์ที่เหยื่อของการข่มขืนได้เปิดเผยว่ามันเจ็บปวดร้าวรานเพียงใด

แต่ถ้าเป็นฝั่งเกาหลีล่ะ? การคุกคามทางเพศที่แฝงมากับความบันเทิงทาง TV จะมาในรูปแบบใดบ้าง ลองมาติดตามกันค่ะ    



The Last Empress

ซีรีส์รสแซบที่หลายคนบอกต่อ ตอนจบสอยเรตติ้งไปเกิน 16% แต่ในบางเนื้อหาก็อาจจะทำให้คุณคิดว่า "จะดีเหรอ?"

ซีรีส์ที่ได้รับการการรันตีเรื่องความเผ็ด สมมุติเอาราชวงศ์เกาหลีขึ้นมาบอกเล่าอีกครั้ง และแม้จะขึ้นว่าเป็นราชวงศ์ แต่ก็เป็นการสื่อออกมาในรูปแบบของตระกูลทรงอิทธิพลที่มีบทบาทสำคัญในสังคมและเศรษฐกิจเกาหลี แต่ภาพที่ดีงามนั้นก็มีความเน่าเฟะของอภิสิทธิ์ชนที่ใช้อำนาจในทางที่ผิดอันเป็นพล็อทแนวถนัดของวงการซีรีส์แดนโสม คุณจะได้พบผู้ร้ายในภาพจักรพรรดิผู้แสนสมบูรณ์แบบ เขาดูเหมือนคนวิปริตที่ไม่เพียงแต่ทำร้ายคนอ่อนแอกว่า แต่ยัง abuse ผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ด้วยทั้งทางวาจาและร่างกาย
แต่จะเพราะอะไรก็ตาม นักเขียนบทหญิงก็ได้สร้างภาพของจักรพรรดิโรคจิตให้มีมุมน่ารักน่าเอ็นดูจนชาวเน็ทหลายคนอดไม่ได้ที่จะ ship เขากับนางเอกตาโตหน้าเด็ก

แม้ว่าเขาจะแสดงพฤติกรรมที่รุนแรง เป็นต้นว่า
บีบคอภรรยาจนเกือบตายจากความหึงโหด
เมื่อรู้สึกไม่ไว้ใจใครขึ้นมาก็ใช้ปืนจ่อ
แม้จะเคยแสดงความรักหลงมากแค่ไหน หากทำให้ไม่พอใจก็พยายามฆ่าได้ทันที


แต่การนำเสนอนั้นกลับทำให้เรื่องพวกนี้ soft ลงด้วยฉากหวานๆ ดนตรีประกอบกุ๊งกิ๊งเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ภาพของชายผู้โหดร้ายก็ถูกอ้าแขนตอบรับด้วยจิตใจที่ให้อภัยว่า โถ ถูกเลี้ยงดูมาอย่างผิดๆ จนทำให้กลายเป็นคนนิสัยเสีย แต่ถ้าเค้ารักใครจริงจัง ก็ทุ่มเทอย่างจริงใจ เราควรจะให้อภัยเค้าไม่ใช่เหรอ ??

ดูเหมือนว่า จากจักรพรรดิผู้โฉดชั่วในซีรีส์นี้จะดูมีดีกรีที่ร้ายกาจน้อยลงเหลือเป็นเพียง playboy โมโหร้ายที่ไม่เชื่อในความรัก แต่แท้จริงแล้ว นั่นไม่ต่างจากภาพผู้ชายจอม abusive ที่ทำให้ผู้หญิงทุกข์ทรมานด้วยการทำร้ายทั้งจิตใจและร่างกายแล้วมาขอร้องให้ยกโทษให้ในภายหลัง เหยื่อจะต้องฟังซ้ำๆ ว่าอีกฝ่ายรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน และมันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะลงมือใช้ความรุนแรง เธอจะปลอบใจตัวเองด้วยโมเมนท์แสนดีและให้โอกาสด้วยความเชื่อมั่นว่าคนรักจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองได้  แต่กลับถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า



ภาพของนางเอกในเรื่องอาจจะไม่เหมือนกับเหยื่อที่บูชาความรักจนหลอกตัวเองว่าจะไม่ถูกทำร้ายอีกครั้ง จักรพรรดินีพยายามเปิดโปงความชั่วร้ายของราชวงศ์และมีสติรู้เสมอว่าเธอเกือบถูกสวามีสั่งฆ่าให้ดับดิ้น และผู้หญิงคนก่อนๆของเขาก็เป็นเหยื่อความรุนแรงมาก่อน อย่างไรก็ตาม ฉากมุ้งมุ้งชวนฟินของคู่สามีภรรยาสูงศักดิ์ในเรื่องก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกจุกขึ้นมาเฉยๆ


แม้ว่าเรื่องนี้จะชูเรื่องการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของหญิงสาวสามัญชนตัวเล็กๆ กับชายผู้ทรงอำนาจที่สุดแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน แต่ระหว่างนั้นก็ได้เห็นภาพของฝ่ายชายที่คอยง้องอนและทุ่มเทเพื่อชดเชยความผิดที่ได้ทำไว้ แม้ผู้หญิงจะใจแข็งไม่ได้ตอบรับด้วยความเต็มใจ และก็ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ตัดรอนเขาไปหมดทุกอย่าง ยังมีสายตาที่แสดงความใจอ่อนอยู่บ้าง แต่เมื่อไหร่ที่เขาเกิดมีโทสะขึ้นมา คอน้อยๆ ของเธอก็ไม่รอดมือใหญ่ที่เต็มไปด้วยพละกำลังของเขาไปได้



หากจะแย้งว่า นี่คือตัวร้ายตามสูตรสำเร็จของเกาหลีที่หนีกฎแห่งกรรมไปไม่ได้ ตัวร้ายไม่ว่ายังไงก็ร้ายให้คนเกลียด แต่ความเป็นจักรพรรดิในเรื่องนี้ดูจะเบี่ยงเข้าสู่เลนเข้าพระเอกมากกว่าด้วยซ้ำ แต่บางคนอาจจะสงสัยว่า นี่เค้ากำลังสื่อให้เราคิดตามหรือไม่ว่า มันเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หากผู้ชายจะใช้ความรุนแรงหากเขามีปูมหลังที่น่าสงสารและพยายามแก้ตัวใหม่ ความรักที่จริงใจจะชนะทุกสิ่งแม้ว่าเขาเคยพยายามทำร้ายเรามาก่อน


มันเป็นไปได้จริงๆ หรือ ? 


แต่ถ้าจะให้เราคิดถึงโลกแห่งความเป็นจริงมิใช่ซีรีส์ที่สร้างความสนุกสนาน ภาพความ romantic ของหญิงชายที่ตั้งอยู่บนปัญหาจากการใช้ความรุนแแรงนั้นคงไม่จำเป็นมากเท่ากับการบำบัดรักษาพฤติกรรมให้กลับมาเป็นปกติแล้วจะมีซีรีส์เรื่องไหนบ้างที่จะเสนอเรื่องราวของชายที่ลงไม้ลงมือกับผู้หญิงแล้วไปรักษาสภาพจิตเพื่อควบคุมตัวเองในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น



Father Is Strange  

ซีรีส์ครอบครัวของเกาหลีโกยเรตติ้งสูงๆ มานักต่อนักค่ะ พล็อทประเภทลูกเยอะๆ มีสี่ซ้าห้าสิบตอนนั้นนี่แทบจะการันตีคนดูได้เลย Father is strange  คือผลงานอีกเรื่องที่ได้รับความนิยมสูง  

แต่ก็มีฉากน่ากังขาเช่นเดียวกัน
มันเป็นฉากของ Mi Young ลูกสาวคนที่ 3 ของครอบครัวที่ทำงานเป็นผู้จัดการดูแลนักแสดงหนุ่ม ด้วยความผิดพลาดบางอย่างทำให้พวกเค้าไปถึงกองถ่ายสายและทำให้ทุกคนเสียเวลา ตัวผู้จัดการจึงถูกผู้กำกับและทีมงานบีบให้ทำรอยลิปสติกบนหน้าของพระเอกที่เธอรับหน้าที่ดูแลด้วยเหตุผลที่ว่าคงไม่มีใครเหมาะกับหน้าที่นี้มากกว่าตัวเธอ Mi Young แสดงความลำบากใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่เพื่อ "สปิริริต"ของอาชีพผู้จัดการ เธอจึงบรรจงจูบลงไปที่ที่แก้มของชายหนุ่มที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เป็นคนรักกัน แต่เท่านั้นกลับไม่สร้างความพอใจให้กับผู้กำกับ พวกเค้ายังบอกให้เธอจูบไปที่ปากของเค้าด้วย!

สำหรับการจูบปากเพื่องานนั้น ฝ่ายพระเอกหนุ่มหล่อตัดสินใจเป็นคนจูบเธอเอง คนที่เชียร์คู่นี้อยู่แล้วอาจจะฟิน เพราะจูบที่แก้มก็ทำให้ฝ่ายชายดูตื่นเต้นอย่างออกนอกหน้าแล้ว ยิ่งเป็นการจูบปากแนบแน่น ภาพ show motion ก็มาพร้อมกับเพลงรักคลอบิ๊วให้คนดูฟินตามไปด้วย
แต่ถ้ามองในมุมของ harassment ในที่ทำงาน ตัวของ Mi Young  คือผู้เสียหายที่ถูกบีบบังคับให้เปลืองเนื้อตัวด้วยคำว่า "หน้าที่" ค้ำคอ เธอไม่ได้เป็นนางเอกหนังที่เจรจายอมรับค่าตอบแทนเพื่อแสดงบทจูบ แต่กลับต้องจูบผู้ชายที่ทำงานคลุกคลีด้วยกันต่อหน้าทีมงาน การเป็นผู้จัดการของดาราจะทิ้งสิทธิ์ส่วนตัวไปขนาดนี้เชียวหรือ? จะเป็นอย่างไรถ้าเธอมีคนรักอยู่แล้ว หรือถ้าร้ายขึ้นมา หากผู้ชายมีโรคที่ติดต่อผ่านการจูบแล้วใครจะรับผิดชอบ ?

หรือถ้าจะมองให้ครบด้าน แล้วฝ่ายชายที่ไม่ได้มีข้อตกลงใดๆ ในการจูบกับผู้จัดการตัวเองล่ะ? จะมีพระเอกกี่คนที่เต็มอกเต็มใจจูบผู้จัดการโดยที่ไม่ได้เตรียมใจไว้เหมือนกับการถ่ายหนัง แต่ในซีรีส์ มันกลับเป็นภาพ romance ที่ทำให้ใจเต้น ??



การฝืนใจในหลายต่อหลายเรื่องที่ยังไม่มีทีท่าจะหยุดลงได้

หากย้อนคิดดูแล้ว ใบหน้าที่ดูหวาดกลัว ทั้งอึดอัดทรมานใจของนางเอกที่ถูกจู่โจมจูบโดยไม่ได้แสดงท่าทางยินยอมได้อยู่คู่กับซีรีส์เกาหลีมายาวนานเท่าใด เราอาจจะไม่สามารถบอกได้ชัดเจน แต่เชื่อว่าคุณยังต้องเห็นฉากแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

 หากคุณย้อนกลับไปชม The Heirs ซีรีส์รักวัยรุ่นที่หลายคนยืนยันถึงความสนุกสุดฟินก็อาจจะพบว่า ในฉากจูบนั้นนางเอกแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เต็มใจ เธอไม่ได้จูบตอบแต่เม้มปากและมีสีหน้าที่อึดอัดหวั่นเกรง และถ้ามีใครบอกว่า ไม่ว่าใครที่ถูกหนุ่มคนรักจูบก็ต้องตื่นเต้นดีใจทั้งนั้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่อย่างนั้นไปหมด หากไม่พร้อมไม่ตอบสนองและผลักไสออกไปมันคือความไม่ยินยอมพร้อมใจ จะมีใครบ้างที่รู้สึกมีความสุขไปกับจูบที่ต้องถูกผลักไปติดกำแพงและจับมือกดไว้ไม้ให้ดิ้นหนีไปไหน ?

อาจจะมีหลายคนที่ส่งเสียงแย้งออกมาว่า หากผู้ชายมีรูปร่างหน้าตาแบบโหดๆ ไม่หล่อใสแบบพระเอกเกาหลี ก็คงไม่ได้สร้างความฟินเหมือนกับตอนชมซีรีส์ใช่มั้ย ?
หรือจะเป็น Secret Garden ที่โด่งดังถล่มทลาย สร้างชื่อด้วยเคมีดีงามของคู่พระนาง แต่ในช่วงที่ฝ่ายหญิงยังไม่ได้เปิดใจให้ก็ถูกบังคับจูบเหมือนกัน  แม้เธอจะดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่รอด  
บางเรื่องจะเห็นได้ว่าผู้ชายใช้กำลังบังคับจูบและผู้หญิงก็ดิ้นรนผลักไสเต็มที่แต่สุดท้ายก็อ่อนระทวยในภายหลังและเป็นฝ่ายจูบคืนอย่างเร่าร้อน



Something In The Rain


ในซีรีส์เรื่องอื่นๆ ภาพของพนักงานหญิงที่ถูกฝืนใจให้ยอมรับการล่วงเกินทางเพศดูจะเป็นเรื่อง "ปกติ" ที่ไม่ว่าจะทำงานที่บริษัทไหนก็ต้องเจอแบบนี้ ความยึดมั่นเรื่องลำดับความอาวุโสและตำแหน่งอย่างสุดโต่งในสังคมเกาหลีก็แทบจะไม่เหลือที่ว่างให้ผู้หญิงที่มีตำแหน่งต่ำกว่าได้หาทางปฏิเสธได้เลย ในขณะที่ผู้ชายตำแหน่งสูงกว่ามีภาพของคนสำคัญที่ต้องให้เกียรติ พนักงานหญิงกลับถูกมองเป็นเพียงฟันเฟืองการทำงานที่ไม่ได้สำคัญและยังต้องคอยentertain ผู้ชายในการสังสสรค์นอกเวลาทำงานอีกด้วย ผู้หญิงเกาหลีขึ้นชื่อลือชาในความคอแข็ง แต่มันก็อาจจะเป็นทักษะที่ใช้ป้องกันตัวก็เป็นได้  หากพวกเธอเป็นประเภทดื่มโซจูไม่ถึงขวดก็เมามายก็อาจเปิดช่องทางให้มีพวกฉวยโอกาสล่วงละเมิดตอนที่พวกเธอไม่ไม่สติสมบูรณ์ เมื่อเข้าที่ทำงานแล้วคงเลี่ยงการสังสรรค์ไปไม่ได้ พวกเธอต้องดูแลตัวเองจากพวกมือปลาหมึกเพราะมีแต่เสียกับเสีย  หากร้องเรียนขึ้นมาก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับการช่วยเหลือ บอสใหญ่ก็มีแต่ผู้ชายที่เป็นพรรคพวกเดียวกัน ดีไม่ดี คนที่ต้องสูญเสียการงานอาจจะเป็นฝ่ายเหยื่อเอง

Something In The Rain ไม่ได้บอกเล่าเรื่องราว romance ของสาววัยสามสิบกว่ากับหน่มรุ่นน้องที่ชวนฟินเท่านั้น แต่ยังเปิดเผยด้านมืดในวัฒนธรรมในที่ทำงานของเกาหลี แต่นำเสนอภาพของสาวทำงานที่ไม่สามารถอดทนกับความไม่เป็นธรรมของแนวคิดชายเป็นใหญ่และต่อสู้กับการคุกคามทางเพศ แต่ก็น่าแปลกที่แม้เธอจะสู้อย่างสุดตัว แต่บทสรุปของเรื่องกลับละเลยการให้คำอธิบายว่าตัวผู้ชายที่ล่วงละเมิดต้องพบกับบทลงโทษใดบ้าง สวนทางกับซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นๆ ที่มักจะปิดท้ายในรูปแบบ "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"

แม้จะบอกว่านางเอกคือผู้ชนะก็ตาม แต่พวกเราไม่รู้เลยว่าเกิดสิ่งใดกับชายเหล่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะยังรักษาตำแหน่งไว้ได้ และไม่มีสิ่งใดที่เปลี่ยนแปลงไปมากมายนักนอกจากการลาออกจากบริษัทของนางเอก  ทำให้เราตั้งข้อสงสัยว่า การต่อสู้ของผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดในที่ทำงานนั้นจะเกิดประโยชน์อะไร ในเมื่อในซีรีส์บอกเราเพียงแค่ว่าเธอเป็นฝ่ายที่ควรต้องยิ้มรับกับชัยชนะ แล้วตัวผู้แพ้ล่ะ ?  มีอะไรรับรองกับพวกเราได้ไหมว่าพวกเขาได้ชดเชยความผิดและจะไม่ทำตัวชั่วร้ายกับเหยื่อคนอื่นอีก ?


Because This is My First Life


ซีรีส์อีกหนึ่งเรื่องที่ถ่ายทอดเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องเผชิญกับการคุกคามทางเพศด้วยน้ำมือของเพื่อนร่วมงาน สาเหตุอาจจะไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าอคติที่เกิดจากแนวคิดต่อต้านเพศหญิง แม้ว่าเธอจะเก่งกาจมีเงินเดือนสูง แต่ความสามารถที่มีอาจจะไปขวางหูขวางตาใครบางคนได้  ยิ่งถ้ามีทัศนคติสวนทางกับค่านิยมสังคม แสดงความมั่นใจก็จะถูกข้อหาว่า "มั่นหน้า" ถูกนินทาปล่อยข่าวลือและกลายเป็นขวากหนามในการทำงาน  หากจะลาออกก็ไม่รู้ว่าจะมีงานการดีๆ รอในอนาคตหรือไม่

แต่ในจอ TV นั้น ผู้หญิงที่จะลุกมาต่อกรกับเหล่าชายที่เป็นผู้กุมอำนาจในที่ทำงานนั้นจะต้องเป็นสาว strong กล้าแสดงความเห็น แรงมาก็แรงกลับ พวกเธอมีจุดยืนในสิทธิผู้หญิง เรายังไม่เห็นผู้หญิงทำงานที่ดูเรียบร้อยหัวอ่อนพยายามแก้ปัญหาการคุกคามทางเพศด้วยตัวเอง แต่เป็นสาวมั่นรักความยุติธรรม ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริง   ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะมีความกล้าเรียกร้องสิทธิ์ตัวเอง ความกดดันที่ไม่อยากสูญเสียงานอาจทำให้พวกเธอก้มหน้ายอมรับชะตากรรมต่อไป


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE