BANOBAGI Vita Genic Mask เปิดโลกชีทมาส์กรูปแบบใหม่ "JELLY MASK" ส่งตรงจากประเทศโคเรีย!

16 5

BANOBAGI : Vita Genic Jelly Mask (1Sheet/88.-)

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ เป็นเหมือนบูมไหม ในวันที่เราเหนื่อยๆ แต่พอกลับถึงบ้านแล้วหยิบชีทมาสก์ในตู้เย็น โปะหน้าแล้วนอนโง่ๆ บนเตียง มันคือความรู้สึกที่ฟินแบบไม่มีคำบรรยาย ยิ่งช่วงที่บูมเพิ่งผ่านการยิงเลเซอร์กำจัดขนด้วยแล้ว การเลือกใช้มาส์กก็ต้องระวังมากขึ้น จะใช้มาสก์ที่มีส่วนผสมของกรด หรือ น้ำหอมก็มีโอกาสทำให้ผิวที่กำลังซ่อมแซมตัวเอง ระคายเคืองเพิ่มขึ้นอีก

พอดีทางแบรนด์ BANOBAGI ส่งชีทมาส์กมาให้บูมได้ทดลองถึง 4 สูตร แต่ที่ทำให้บูมสะดุดตานั่นคือคำว่า "Jelly Mask" ที่แบรนด์เน้นแบบให้เห็ดชัดๆ เนี่ยแหละครับ ทำให้ต่อมความอยากรู้กระดิกดิ๊กๆๆๆๆ เลยรีบเอาไปแช่ตู้เย็น แล้วนั่งรออย่างใจจดใจจ่อ เพื่อจะทดลองใช้และหยิบมาทำรีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมไปชมพร้อมๆ กันเลยครับ


คำเคลมจากแบรนด์ BANOBAGI : Vita Genic Jelly Mask

  • แผ่นมาสก์วิตามินในรูปแบบ “เจลลี่เซรั่ม” ที่คิดค้นและพัฒนาสูตรโดยทีมแพทย์ด้านผิวหนังโรงพยาบาลบาโนบากิ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมอันดับ 1 ของประเทศเกาหลี และถูกใช้จริงในโรงพยาบาลศัลยกรรมด้วย
  • ใช้นวัตกรรมเฉพาะจากบาโนบากิ ในการกักเก็บวิตามินบำรุงผิวนานาชนิด ที่มีปริมาณสูงถึง 40,000 ppm ทั้งวิตามิน A, B1, B2, B3, B5, B7, B9, C และ E ในรูปแบบของ Liposome Vitamin ผสานสารอาหารผิวอื่นๆอีก 15 ชนิด
  • อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง ปราศจากสาระคายเคืองผิวทั้ง 11 ชนิด และไม่มีน้ำหอม


BANOBAGI : Vita Genic Jelly Mask มีให้เลือก 4 สูตรด้วยกัน

สูตรที่บูมเลือกมาทดลองใช้วันนี้คือ "Hydrating"

เนื่องจากช่วยนี้ผ่านมรสุมเลเซอร์อย่างหนักหน่วง แถมเพิ่งกลับจากทริปไต้หวันที่อากาศค่อนข้างแย่ ทำให้ผิวบูมค่อนข้างแห้ง และเสียสมดุล ไม่แข็งแรงเหมือนเก่า จึงเลือกสูตรที่คิดว่าเหมาะกับผิวตอนนี้ที่สุดอย่าง "Hydrating" มาลองใช้ไปดูผลลัพธ์ด้านต่างๆ ว่าเป็นยังไงบ้างดีกว่าครับ

Texture / Scent / Feeling / Moisture & Oil

  • Texture(เนื้อสัมผัส) : ตัวแผ่นมาส์กค่อนข้างหนา และใหญ่สามารถคลุมได้ทั่วหน้าบูมเลยหละ แต่ที่แปลก และน่าสนใจจริงๆ คือตัวเซรั่มข้างใน ที่เป็นรูปแบบเจลลี่ ซึ่งค่อนข้างแปลก ที่สำคัญคือปริมาณเซรั่มที่ใส่มาค่อนข้างเยอะ ประหนึ่งเป็นเซรั่มขวด 30ml. ขวดนึงเลยหละ
  • Scent(กลิ่น) : เป็นอีกจุดนึงที่ประทับใจตั้งแต่ได้ใช้ คือ เค้าไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม/น้ำมันหอมระเหย ซึ่งเอาจริงๆ มีไม่กี่แบรนด์นะที่ทำแบบนี้
  • Feeling(ความรู้สึกขณะใช้) : ด้วยความที่เนื้อเซรั่มของเค้าเป็นเจลเบส ทำให้ความชุ่มของตัวมาส์กคงอยู่ได้นานกว่าปกติ(ความรู้สึกส่วนตัว) เพราะบูมลองมาส์กทิ้งไว้ 20นาทีในห้องแอร์ ปรากฏว่าแผ่นมาส์กก็ยังมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่พอสมควรเลยหละครับ
  • Moisture & Oily : บูมได้ทดสอบด้วยเครื่องวัดระดับความชุ่มชื้นและความมันบนผิวทั้งก่อนและหลังใช้ ซึ่งผลเป็นดังนี้....
เรียกว่าสอบผ่านในการเป็นสูตร Hydrating อย่างไม่ต้องสงสัยเลยหละครับ ที่สำคัญคือในระหว่างมาส์กแอบรู้สึกเหมือนกำลังทา Sleeping Mask อยู่หน่อยๆ ด้วยหละ 

ส่วนผสมที่น่าสนใจ

  • Niacinamide : หรือวิตามินบี3 เป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อผิวในหลายด้าน อาทิ ช่วยลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ(hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้น ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเซราไมด์ (ceramide) และยังทำให้ผิวแข็งแรง ต่อสู้กับการระคายเคือง (irritants) ต่างๆได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถลดความมันบนใบหน้า (sebum excretion) และยังเป็น Whitening อีกด้วย ซึ่งเจ้าสาร Niacinamide มีผลการวิจัยรับรองว่าสามารถช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน และลดการเกิดสิวได้ เมื่อใช้ติดต่อกันอย่างน้อย 6-8สัปดาห์ ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (แนะนำ 5%, ชนิด Safe-B3 สามารถใช้ได้สูงสุด 10% โดยไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองผิว)
  • Panthenol : หรือ Vitamin B5 ทำหน้าที่เป็น humectant หรือสารกักเก็บความชื้นที่ดี ช่วยเป็นเกราะให้กับผิว (skin barrier) ป้องกันการสูญเสียความชื้น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่แห้ง โดยจะช่วยให้ความชุ่มชื้น ปกป้องไม่ให้สูญเสียความชุ่มชื้น ให้ผิวนุ่มแล้วเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • Trehalose : ทรีฮาโลส (TreMoisture™) สารให้ความชุ่มชื้น ปกป้องเซลล์ผิว เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่สามารถสกัดได้ปริมาณน้อยมากจากยีสบางชนิด มีคุณสมบัติ :
    • กักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว
    • ปกป้องเซลล์ผิว
    • ป้องกันกลิ่นหืนของน้ำมันในผลิตภัณฑ์
  • Adenosine : เป็นส่วนสำคัญของการทำงานของ Cell ผิว เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณของ Adenosine ของผิวจะลดต่ำลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอย (aging) การให้ Adenosine แก่ผิวเป็นเหมือนพลังงานให้ผิวสามารถซ่อมแซมตัวเองได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ 
  • Retinyl Palmitate : เป็นวิตามินเอรูปแบบหนึ่ง ละลายในน้ำมัน มีประสิทธิภาพในการเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลดริ้วรอย ลดการอักเสบของสิวได้(ความเข้มข้นที่แนะนำคือ 0.5%-1.0%, คำเตือน: การใช้เกิน 1% ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว) ซึ่งในมาสก์บาโนบากิตัวนี้ เค้าใส่มาในปริมาณพอเหมาะ ที่จะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองครับ
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจ และทำให้มาสก์บาโนบากิแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ก็คือการเก็บวิตามินอาหารผิว ไว้ในรูปแบบของ Liposome Vitamin ครับ ถ้าเปรียบเทียบกันง่ายๆก็คือ การเก็บวิตามินเอาไว้ในถุง และตอนที่เราหยิบมาสก์มาใช้บนผิว ถุงนั้นจะสลายไป แล้วปล่อยวิตามินที่สดใหม่ออกมา ซึ่งข้อดีก็คือวิตามินทั้ง 9 ชนิดที่ทางแบรนด์ใส่มา จะไม่สลายหรือเสื่อมสภาพไปซะก่อนที่จะถึงผิวเรา

ผลลัพธ์หลังทดลองใช้

หลังใช้ผิวบูมชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการแห้งลอกที่เคยมีลดลงเยอะทีเดียวหละ แถมยังไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวให้รำคาญใจอีกต่างหาก ที่น่าสนใจอีกอย่างคือแม้บูมจะมาส์กไปแล้ว 20 นาทีแผ่นมาส์กก็ยังคงมีความชุ่มชื้นเหลืออยู่เยอะพอสมควร

เอาหละในเมื่อเราพูดถึงสิ่งที่ชอบกันไปแล้ว เรามาพูดถึงสิ่งที่บูมสังเกตุเห็นกันบ้างครับ ในระหว่างมาส์ก บูมมีความรู้สึกยิบๆ ที่หน้าเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับแสบนะ ถ้าใครที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เป็นกรด ฟิลลิ่งก็จะประมาณนั้นเลย(คาดว่าน่าจะเป็นจากการทำงานของ Retinyl Palmitate และ Ascorbic Acid) แต่ความรู้สึกนี้อยู่แค่ 1-2 นาทีก็หายไป เหมือนผิวค่อยๆ ปรับสภาพได้ (ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะครับ)

สรุป

โดยรวมบูมว่าเจ้า BANOBAGI : Vita Genic Jelly Mask สูตร "Hydrating" เป็นมาส์กอีกแบรนด์หนึ่งที่ทำออกมาได้ค่อนข้างในดีด้านส่วนผสม เนื้อสัมผัส คุณภาพของแผ่นมาส์ก ที่สำคัญราคาไม่แรงจนเกินไป (แอบกระซิบว่าใน Watsons บูมเห็นมีจัดโปรฯ ด้วยหละ)

ก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ แต่ย้ำอีกครั้งว่าบูมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ หรือมีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด ที่สำคัญผลลัพธ์และความรู้สึกที่ได้ Base on สภาพผิว และความชอบส่วยตัวของบูมเท่านั้นครับ 



Wanviset

Wanviset

✨ สวัสดีฮะ ชื่อบูม นะครับ ✨
สกินแคร์คือหนึ่งในความสุขเล็กๆ ของเราและด้วยความอยากรู้อยากลอง ชอบแชร์ทำให้เราลองเขียนบล็อกเล็กๆ ขึ้นมาฝากเพื่อนๆ ติดตามผลงานของเราด้วยน้า

FULL PROFILE