รวมสกินแคร์สายมินิมอลมาแรงในปี 2018

52 7

ใครเป็นสาวก
"สกินแคร์"


เชิญมามุง!


ในปี 2018 ที่ผ่านมา กระแสของเครื่องสำอางและสกินแคร์ในวงการบิวตี้ยังถูกพูดถึงกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปียันปลายปี มีสีใหม่ๆ แพคเกจใหม่ๆ รวมไปถึงนวัตกรรมเด็ดๆ ออกมาล่อตาล่อใจเราอยู่เรื่อยๆ อารมณ์แบบ...เหตุใดเติมใจเธอไม่เคยเต็ม!!

แต่สิ่งที่สะดุดตาเราสุดๆ คงจะเป็น "สกินแคร์สายมินิมอล 2018"  ซึ่งเอาจริงแพคเกจมันคือที่สุดอ่ะ ไม่ว่าจะเป็น รูปทรงและสีของขวด รวมไปถึงเนื้อและสีของผลิตภัณฑ์ ซึ่งก็มีหลายแบรนด์เลยนะที่ขายในไทย แต่ก็อาจจะมีบางส่วนที่อาจจะต้องหาพรีจากข้างนอก แต่เราก็เชื่ออ่ะ ว่าถ้าสาวๆ หมายตาอันไหนไว้ ต่อให้ของอยู่ประเทศไกลแค่ไหน ก็จะต้องคว้ามาจนได้ ถูกมะ ><
เราเลยรวบรวม "สกินแคร์สายมินิมอล 2018" ที่เป็นกระแสอื้ออึงในปีนี้ มาให้ได้ดูกัน รวมไปถึงตัวเด็ดของแบรนด์นั้นๆ ว่า เอ้อออ..แบรนด์นี้ เค้ามีดีเรื่องอะไรนะ เผื่อสาวๆ จะได้เซฟไปตำแล้วเอามารีวิวอวดกันบ้าง อิอิ

แต่ก็นั่นแหละ ทุกคน! เราจะสติแตกตำทุกสิ่งไม่ได้! ก่อนซื้ออาจจะต้องมานั่งคิดกับตัวเองก่อนว่า ซื้อมาแล้วจะได้ใช้มั้ย ซื้อมาแล้วจะแพ้หรือเปล่า หรือ...ร้านที่เราเลือกซื้อเค้าขายของแท้หรือปลอม ดังนั้นก่อนการลงทุนต้องตัดสินใจให้ดีนะคะ เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงนะคะ!

มาเริ่มกันที่...Glossier 

ตัวเด็ดของแบรนด์  Milky Jelly Cleanser ราคา 585 บาท

โอ่ยยยยย..เห็นแล้วอยากจะกวาดมาให้หมด นอกจากไลน์ makeup ของเค้าที่ดังเป็นพลุแตกแล้ว เจ้าตัว Milky Jelly Cleanser ก็ดังไม่แพ้กัน คลีนเซอร์เนื้อครีมน้ำนม ใช้ล้างเครื่องสำอางหรือล้างทำความสะอาดผิวเช้า - เย็นก็ได้ค่า

Truly Organic

ตัวเด็ดของแบรนด์  Dew You Love Me? Jelly Face Mask ราคา 650 บาท

ใครจะไปคิดว่าบนโลกนี้จะมีมาสก์กลิตเตอร์จริงๆ เคยแต่ตอนเรียนศิลปะก็เอามาแปะๆ บนหน้าให้พอชื่นใจ พอมีมาสก์ออกมาจริงๆ กรี๊ดแตกจ้าาา ตัวนี้หลักๆ จะช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอแล้วก็ช่วยเติมน้ำให้กับผิว ที่สำคัญส่วนผสมของแบรนด์นี้ทำมาจากธรรมชาติทั้งหมดจ้า

​​​​

The Ordinary

ตัวเด็ดของแบรนด์ Niacinamide 10%+Zinc 1% ราคา 300 บาท

แบรนด์นี้ถ้าไม่พูดถึงจะโมโหตัวเองอย่างมาก อื้ออึงทั้งในเว็บจีบันและทั่วโลก สกินแคร์ถูกและดีที่ใครหลายๆ คนติดใจ ตัวนี้จะช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื่นและลดความมันบนผิว เนื้อสัมผัสจะเป็นเนื้อเซรั่มใสๆ หนืดๆ นิดหน่อย แต่ทาไปแล้วซึมเข้าผิวไปเลย อิอิ

อยากดูรีวิว จิ้มเลย!

Ample: N

ตัวเด็ดของแบรนด์ Peptide Shot Ampoule ราคา 480 บาท

สกินแคร์ตัวดังจากฝั่งเกาหลี ที่เป็นกระแสสุดฮอตตอนนี้ก็เพราะ "โบรา ลิม" นางแบบสุดน่ารักจากเกาหลี เค้าออกมาพูดถึงสกินแคร์ที่เค้าใช้ ซึ่งตัวนั้นก็คือ Ample: N สูตร Peptide Shot Ampoule แพคเกจเป็นขวดแก้วใสๆ ตัดกับเนื้อเซรั่มสีเหลืองทอง ในเซรั่มเค้าจะมีเป็นเหมือนเส้นๆ เปปไทน์ ตัวนี้จะช่วยปรับให้ผิวเรียบเนียนและเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวด้วย

​​​​​

Pixi

ตัวเด็ดของแบรนด์ Glow Tonic ราคา 740 บาท

กระแสโทนเนอร์ในบ้านเราปีนี้มาแรงจริงๆ ซึ่งแบรนด์ Pixi จากประเทศอังกฤษเค้าดังมานานละล่ะ แต่รู้สึกว่าปีนี้จะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง ตัวนี้จะช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไปและช่วยลดพวกสิวอักเสบ สิวผดบนผิวของเราด้วย แต่แนะนำว่าใช้แค่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็พอค่ะ เพราะว่าเค้าผลัดเซลล์ผิวเราอ่ะเนอะ ผลัดบ่อยไปอาจไปทำร้ายผิวได้นะจ๊ะ

​​​​​

Mario Badescu  (มีขายในไทย)

ตัวเด็ดของแบรนด์ Facial Spray with Aloe, Herbs and Rosewater ราคา 290 บาท

ต้องบอกก่อนว่าสเปรย์น้ำแร่ของแบรนด์นี้ถ้าคนรักคือรัก ถ้าเกลียดคือเกลียดเลย เพราะกลิ่นเค้าค่อนข้างจะเฉพาะตัวมากๆ กลิ่นจะเหมือนกลีบกุหลาบแบบแป้งๆ ใช้ฉีดระหว่างวันเพื่อใช้ความชุ่มชื่นบนหน้าหรือว่าจะฉีดเพื่อเซ็ต makeup ก็ได้เหมือนกัน เค้ามี 3 สูตร 3 กลิ่น ลองไปเลือกกันได้

​​​​

Sunday Riley  (มีขายในไทย)

ตัวเด็ดของแบรนด์  Luna Sleeping Night Oil ราคา 1,898 บาท

แบรนด์สกินแคร์สุดดังจากประเทศอเมริกา แบรนด์นี้เค้าจะเด่นเรื่องออยล์ค่ะ แก้พวกปัญหาผิวที่มีริ้วรอยแล้วก็เน้นเรื่องให้ความชุ่มชื่นแบบจัดเต็ม ที่เห็นว่าแพคเกจเค้าเป็นสีๆ แบบนี้คือ ตัวขวดจะใสๆ นะ แต่ที่เป็นสคือสีของเนื้อออยล์ค่ะ แต่ละสี แต่ละสูตร สีของออยล์จะไม่เหมือนกัน พอมาอยู่ในขวดแล้ว สวยจังอ่ะะะ :P

Glow Recipe

ตัวเด็ดของแบรนด์  WATERMELON GLOW SLEEPING MASK ราคา 1,460 บาท

แค่เห็นแพคเกจก็ยกธงขาวแล้วจ้าาา สีชมพูนัวๆ น่ารักมุ้งมิ้งเหลือเกิ้น สกินแคร์แบรนด์ดังจากประเทศเกาหลี แต่ไม่มีขายที่เกาหลีมีแต่ที่อเมริกา งงมะ อิอิ ซึ่งในตัวนี้เค้ามีกรด AHA จากผลไม้แบบอ่อนๆ ก็จะช่วยผลัดผิวให้กระจ่างใสและก็ทำให้หน้าเราดู glow แบบสุขภาพดีย์

Saturday Skin (มีขายในไทย)

ตัวเด็ดของแบรนด์  Press Pause Moisturizing Beauty Essence  ราคา 1,680 บาท

จะบอกว่าแบรนด์นี้เค้าถูกโหวตให้เป็น ‘Beauty Game Changer’ จาก Teen Vogue ใน 2016 นะจ๊ะะะะะะะะะ กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้จะเป็นกลิ่นเลมอนหอมๆ มาในแพคเกจแบบขวดสีชมพูสุดน่ารัก ตัวนี้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ค่ะ มีส่วนผสมของทับทิม ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น กระจ่างใส

Kopari Beauty (มีขายในไทย)

ตัวเด็ดของแบรนด์  Coconut Crush Scrub ราคา 1,615 บาท

ใครสาวกกลิ่นมะพร้าว ต้องโดน!! เพราะแบรนด์นี้มีส่วนผสมหลักเป็นมะพร้าว ก็อย่างที่รู้กัน น้ำมันมะพร้าวนี้แบบ สรรพคุณครบถ้วน ใช้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่วนตัวนี้จะเป็นตัวสครับค่า สครับได้ทั้งตัวและหน้าเลยด้วย แนะนำว่าให้สครับแค่เบาๆ นวดๆ วนๆ หลังจากนั้นทิ้งไว้สัก 5 นาทีแล้วค่อยล้างออกค่ะ

​​​​

Thayers

ตัวเด็ดของแบรนด์  Rose Petal Witch Hazel Toner ราคา 890 บาท

ก็บอกแล้ว ปีนี้โทนเนอร์มาแรงงงงงงงงง โทนเนอร์สูตรกลิ่นกุหลาบ out of stock ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์ แถมยังเป็นสูตรกุหลาบสูตรลับของแบรนด์อีกด้วย วิธีใช้ก็เหยาะโทนเนอร์ลงบนสำลีแล้วเช็ดเบาๆ ทั่วหน้า ก็จะช่วยฟื้นฟูผิวและก็ให้ความชุ่มชื่นกับผิวเราด้วย

​​​​​

ถ้าใครลองซื้อมาแล้ว แนะนำว่าให้ลองใช้บริเวณผิวที่อ่อนๆ บนร่างกายเราก่อนค่ะ ปาดที่ท้องแขน ปาดที่หลังหูแล้วทิ้งไว้สัก 15-20 นาที ถ้าไม่มีอาการแดง คัน แสดงว่า อ่ะ...รอด แต่ถ้ามีอาการแพ้ บวม แดงหรือคัน แนะนำให้รีบล้างออกแล้วหยุดใช้ทันทีนะคะ อย่าเสียดาย!! หน้าของเราแพงกว่าสกินแคร์ที่เราซื้อมาค่ะทุกคน!!

แต่อย่างที่บอกนะคะ สกินแคร์ทุกแบรนด์ ทุกสูตรไม่ได้เหมาะกับทุกคนเสมอไป
ใครเคยใช้ตัวไหนในลิสต์นี้ก็แวะมาคอมเม็นท์บอกกันบ้างน้าาา เผื่อจะได้แชร์บุญ บอกบุญต่อๆ กัน อิอิ


wipawant.th

wipawant.th

สวัสดีค่าา ฝ้ายนะค้าา :)

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ :P

*Jeban Team

FULL PROFILE