8 มหาเทพ แต้มสิวขั้นอลังการ ตัวไหนดีมาว่ากัน !!!

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ

ตามชื่อกระทู้ที่ก็น่าจะรู้แล้วว่าวันนี้เราจะมารีวิวเจลแต้มสิว !!!

โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนที่สิวค่อนข้างเยอะเลย เลยผ่านมาเยอะมากๆ เจลแต้มสิวยี่ห้อไหนที่ว่าดี มา ! เอามาหมดเลย ลองใช้ไปเยอะม้ากกกก จนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมาแชร์ประสบการณ์การใช้เจลแต้มสิวยี่ห้อต่างๆบ้างหลังจากตามอ่านของคนอื่นมานาน

โดยที่กระทู้นี้จะมีเจลแต้มสิวทั้งหมด 8 ตัวด้วยกัน !!!!

หมดนี่เลยค่ะ 

อย่ารอช้า ไปดูกันเลยจ้า

ปล. ยาวหน่อยนะคะ แต่รับรองว่าข้อมูลครบมากกกกกกก

ข้อมูลเบื้องต้น : ผิวหน้าเราเป็นคนหน้าแห้ง แล้วก็มีสิวอักเสบค่อนข้างเยอะ ทั้งจากฮอร์โมนตอนมีประจำเดือนและสิวที่อุดตันอยู่

1.Differin adapalene 0.1 %

มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยกับ Differin ค่ะ ซึ่งยาตัวนี้นั่นค่อนข้างที่จะแรงมากพอสมควรเลย   ก่อนจะซื้อมาใช้งานจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น ในหลอด differin นี้มีตัวยา Adapalene 0.1% ซึ่งเป็นยาที่ทำปฏิกิริยาโดยตรงกับสิวนั่นเองค่ะ

โดย Differin นี้ข้างกล่องเขียนเตือนไว้เลยค่ะว่าควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร ส่วนตัวเราหมอผิวหนังแนะนำมาค่ะ แต่ให้ใช้ในปริมาณที่น้อยๆมากๆ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• เพื่อรักษาสิวอุดตันได้ชะงัก

ส่วนผสมสำคัญ : 

• Adapalene 0.1%

ใช้สำหรับ : สิวอุดตัน

วิธีใช้งาน : ทาวันละ 1 ครั้งบริเวณที่เป็นสิวก่อนนอน (ห้ามใช้ในตอนกลางวันเนื่องจากอาจทำให้มีอาการแพ้แสงได้)

ข้อมูลสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย : ห้ามใช้ยานี้ในสตรีมีครรภ์

ผลลัพท์หลังใช้ : ผลลัพท์หลังใช้ตัวนี้ค่ะ ตัวนี้ไม่ได้มีมาเพื่อสิวอักเสบ แต่ว่าเป็นสิวอุดตันค่ะ ก็เลยไม่ได้ประทับใจเรื่องสิวยุบมากนัก แต่ใช้แล้วสิวมันปะทุเร็วและหายเร็วมากขึ้น เรื่องรอยดำรอยแดงอันนี้ขอข้ามนะคะ เพราะว่าไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ยังทิ้งรอยเอาไว้จางๆเท่านั้นค่ะ

และที่สำคัญตัวนี้ทำให้ผิวหน้าลอกค่ะเมื่อใช้ติดกันไปสักพัก ลอกหนักมากๆเลยด้วย มุมมองเราเลยมองว่าคนที่ผิวแพ้ง่ายอาจจะไม่เหมาะกับตัวนี้ค่ะ แต่ถ้าอยากใช้ตัวนี้เพื่อรักษาสิวจริงๆ แนะนำเป็นทาแล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วค่อยเช็ดออกดีกว่า อย่าทิ้งไว้ข้ามคืนค่ะ

____________________________________________________

2.Dr. Somchai ACNE SPOT TOUCH GEL

​

ต่อมาที่เจลแต้มสิวจาก Dr. Somchai แบรนด์ที่คนไทยจะต้องรู้จักด้าน “เวชสำอางรักษาสิว” อีกแบรนด์หนึ่งของคนไทยเลยค่ะ โดยเป็นที่รู้กันว่านอกจากจะช่วยเรื่องการรักษาสิวอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังปลอดภัยสำหรับผิวที่แพ้ง่ายด้วยล่ะค่ะ ใครที่ผิวแพ้ง่ายใช้ได้หายห่วงเลย

 โดยผลิตภัณฑ์ที่เราหยิบยกมารีวิวนั่นก็คือ Dr. Somchai ACNE SPOT TOUCH GEL ค่า สิ่งนี้ข้างกล่องเคลมมาเลยว่าเป็น “เจลแต้มสิวสูตรเร่งด่วน สิวแห้ง ยุบทันใจและไม่ทิ้งรอยดำ” เอาไว้ค่ะ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :
- สิวยุบภายใน 24 ชั่วโมง เพราะมีโมเลกุลขนาดเล็กที่ช่วยรักษาถึงต้นตอของสิว และยังดูแลการอักเสบของสิวอย่างต่อเนื่อง ทำให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็ว
- เนื้อเป็นเจลแบบใส ซึ่งความพิเศษของเจลนี้ จะไม่ทำให้เกิดการอุดตัน ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวใหม่
- แต้มทับเครื่องสำอางได้
ส่วนผสมสำคัญ : 

• ไมโครชาลิไซลิค ทรีทเม้นท์ ละลายและลดการอุดตันของสิว ช่วยให้สิวยุบเร็ว

• ไกลโคลิค แอซิด ช่วยลดขนาดและอาการบวมของสิว

• วิชฮาเซล สมานผิวและกระชับรุขุมขน

• แอลฟา ไบซาโบลอน ลดการระคายเคือง ช่วยฟื้นฟูผิวหลังสิวหายให้แข็งแรง

ใช้สำหรับ : สิวอักเสบ

​

วิธีใช้งาน : แต้มเจลบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ 2-4 ครั้งต่อวัน 

ข้อมูลสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย : ไม่มีน้ำมัน / ซิลิโคนจึงไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน , ไม่มีน้ำหอมจึงไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ระคายเคือง หน้าลอกหรือผื่นแพ้สัมผัส

ผลลัพท์หลังใช้ : เรื่องแรกที่เราโฟกัสเลยก็คือเรื่องของสิวอักเสบที่ยุบลง ตามที่บอกว่ายุบภายใน 24 ชั่วโมง เราเลยลองแต้มที่สิวอักเสบตอนกลางคืนก่อนนอนค่ะ ปรากฎว่า “ยุบเร็บมากๆ” ก่อนนอนสิวเราค่อนข้างเป่งเลย เหมือนจะแตกออกมาแล้ว ก็เอาเจลตัวนี้ทาบางๆที่สิวอักเสบแล้วนอนค่ะ ตื่นมายุบลงไปมากกว่า 75% เลย ยังเห็นรอยแดงอยู่นิดหน่อยเท่านั้นเอง

                กลางวันก็เลยทาต่อค่ะ เอาให้หายสนิท 

ปกติยาแต้มสิวจะไม่ค่อยให้ใช้กันตอนกลางวัน แต่ตัวนี้บอกว่าใช้ได้เราก็ทาเลย ซึ่งดีมากๆ ปกติผิวหลังใช้เจลแต้มสิวจะค่อนข้างแห้ง ตัวนี้ไม่แห้ง ไม่ลอกเลยทำให้เราพกมาทาตลอดทั้งวัน ทาทับเครื่องสำอางก็ได้เหมือนกันค่ะตัวนี้ โอเคเลย

3.Vitara anti acne gel

​

ตัวนี้ความพิเศษอยู่ที่เป็นเจลแต้มสิวแบบ 2in1 ที่สามารถดูแลได้ทั้งสิวอุดตัว สิวอักเสบนั่นเองค่ะ แล้วก็ยังมีส่วนช่วยดูแลเรื่องผิวให้ชุ่มชื่น แล้วก้เรื่องริ้วรอยที่จะตามมาหลังจากสิวยุบก็จะน้อยลงและลดปัญหาการเกิดสิวซ้ำซากด้วยค่ะ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• รักษาสิวอักเสบและสิวอุดตัน

• ลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำซาก

• ลดเลือนรอยแผลเป็นสิว

ส่วนผสมสำคัญ : 

• Salicylic Acid ช่วยผลัดเซลผิวที่ตายแล้วออก ทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน ไม่เกิดสิว

• Zinc PCA ช่วยปรับสมดุลความมันบนผิว ลดการสะสมของเชื้อสิว ช่วยลดการสะสมของเชื้อผชสิวบนผิวและปรับสมดุลความมันของผิว

• Mushroom Extract กระชับรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื่น

• Centella Extract ช่วยลดการอักเสบและปลอบประโลมผิวของเรา

ใช้สำหรับ : สิวอักเสบ/สิวอุดตัน

วิธีใช้งาน : แต้มเจลบริเวณบริเวณที่เป็นสิว วันละ 1-3 ครั้ง

ข้อมูลสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย : ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และน้ำหอม

ผลลัพท์หลังใช้ : เรื่องของสิวอักเสบที่กำลังบวมเป่งของเรา พอทาเจลอันนี้ลงไปก็ไม่ได้ยุบเร็วขนาดนั้นค่ะ แต่เห็นความแตกต่างนะ ตรงสิวที่เป่งของเรานั้นค่อนข้างที่จะแห้งลง หมายถึงสิวนะคะ เห็นพัฒนาการว่ามันกำลังค่อยๆ ยุบลงไปอยู่ค่ะ กว่าจะยุบแบบเห็นผลจริงๆ ก็ประมาณ 2-3 วันค่ะ 

 สำหรับคนที่แพ้ง่ายนั้นเราว่าค่อนข้างยากนิดนึงค่ะ เพราะพูดตามตรงว่าหน้าเราที่ไม่แพ้ยังรู้สึกคันๆเลยอ่ะ ถึงแบรนด์จะบอกว่าไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าทำไมถึงมีอาการแสบๆ คันๆ นิดหน่อย

____________________________________________________________

4.Hiruscar Anti-Acne SPOT GEL

Hiruscar ก็เป็นอีกแบรนด์ที่รีวิวเจลแต้มสิวรีวิวไหนก็ต้องมี ทำให้เราจะต้องไปซื้อตามมาค่ะ ตัวนี้ blogger รีวิวกันเยอะมากๆว่าดี ก็เลย ไปโดนซะ ตัวที่ฮิตๆจะเป็นหลอดสีฟ้าขาวค่ะ แต่เป็นรักษาสิวที่หายแล้ว พวกรอยดำรอยแดง แต่เราเป็นสิวอุดตันซะมากกว่า เภสัชกรเลยแนะนำให้ใช้ตัวนี้ค่ะ

ซึ่งตัวนี้ทางแบรนด์นั้นได้เคลมมาว่าเป็นเจลแต้มสิวที่ช่วยดูแลผิวที่เป็นสิว และช่วยลดริ้วรอยด่างดำได้

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• ดูแลผิวที่เป็นสิวไม่ให้เกิดสิว

• ลดรอยด่างดำ

• สลายสิ่งอุดตันบริเวณสิว

ส่วนผสมสำคัญ : 

• Salicylic acid มีคุณสมบัติเป็น Anti-acne

• มีอนุพันธ์วิตามินซีช่วยดูแลรอยด่างดำจากสิว 

• มิวโคโพลีแซ็กคาไรด์ คงความชุ่มชื่นให้กับผิว

ใช้สำหรับ : สิวอุดตัน/สิวอักเสบ/รอบแดงรอยดำสิว

​

วิธีใช้งาน : แต้มบริเวณที่ต้องการ 2-3 ครั้ง 

ผลลัพท์หลังใช้ : สำหรับเราค่ะ เอาที่เรื่องสิวยุบก่อน จากที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์แต้มสิวมาหลากหลายยี่ห้อ Hiruscar อยู่ในระดับกลางๆค่ะ เราใช้เวลาประมาณ 2-3 วันกว่าสิวอักเสบจะยุบ

                ในส่วนของเรื่องรอยดำ รอยแดงต่างๆที่เขาบอกว่าจะมีส่วนชาวยลดรอยดำ รอยแดง ส่วนนี้เราค่อนข้างเฉยๆค่ะ รอยดำ รอยแดงนั้นจางลงก็จริงอยู่ เพียงแต่ว่ามันไม่ได้จางจนหายสนิท ยังเห็นอยู่ว่าเป็นรอยสิวที่เกิดขึ้นที่ผิวหน้าของเราและอีกอย่างที่ไม่ค่อยประทับใจเลยคือตัวเนื้อครีมค่อนข้างแห้งเลยทีเดียว จากการทาแล้ว ผิวบริเวณรอบๆรอยสิวที่ทาเป็นขุยลอกออกมา ทำให้เราใช้เฉพาะกลางคืนค่ะ ไม่ค่อยใช้ตอนกลางวัน

__________________________________________________________

5.Smooth E Acne Hydrogel

​
​

 

Smooth E เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องเวชสำอาง แน่นอนว่าจะต้องมีเจลรักษาสิวแน่นอน

ค่ะ ซึ่ง Acne Hydrogel ต้องเป็นชื่อที่เราคุ้นหูกันแน่นอน และรีวิวยาแต้มสิวส่วนใหย่ก็จะต้องมีตัวนี้กันทั้งนั้นค่ะ

​

ข้างกล่องบอกว่ามีตัวยา Hydrogel cross polymer salicylic acid 2% อยู่ ซึ่งเป็นตัวที่มีส่วนช่วยให้สิวแห้งลงอย่างรวดเร็วแล้วก็อ่อนโยนต่อผิว

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• ออกฤทธิ์ทันที หลังจากที่ใช้ ภายใน 30 วินาที

• สิวยุบภายใน 1 วันหลังใช้งาน

• ไม่มีส่วนผสมของวิตามินเอ ผู้ที่ตั้งครรภ์ใช้ได้

ส่วนผสมสำคัญ : 

• Hydrogel cross polymer salicylic acid 2% ช่วยขจัดสิวอุดตันตามรูขุมขน ทำให้หัวสิวหลุดและแห้งลง

• โอลิโกเปปไทด์ ยับยั้งแบคทีเรีย P.Acne ที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ 

• Rice bran & Boswelia Serrata สารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและปลอบประโลมผิว

ใช้สำหรับ : สิวอักเสบ

​
​

วิธีใช้งาน : ใช้บริเวณที่เป็นสิวอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง

ข้อมูลสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย : เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

ผลลัพท์หลังใช้ : เรื่องสิวที่ยุบภายใน 1 วันตามที่แบรนด์เคลมมา จะเรียกว่ายุบภายใน 1 วันเลยก็ไม่ถูก เพราะมันไม่ได้ยุบแบบหายสนิทไป ยังสามารถเห็นได้อยู่ว่าเป็นตุ่มนูนๆ  แต่เม็ดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด และที่บอกว่าออกฤทธิ์ภายใน 30 วินาทีหลังใช้ก็คือจริงค่ะ หลังทาเราคันยิบๆตรงที่ทาเลย อยากเกามากแต่เข้าใจว่าเนื้อยาทำงานอยู่ ก็นอนข่มตานอน

โดยส่วนตัวแล้วเราทาเจ้าตัวนี้เฉพาะเวลากลางคืนนะคะ เช้ากลางวันจะไม่ทา เพราะมันทำให้ผิวเราค่อนข้างแห้งเลย บริเวณรอบสิวที่เราทาก็สังเกตุได้ว่าแห้งมาก ไม่ค่อยประทับใจตรงนี้ค่ะ แต่เรื่องสิวยุบก่านนะ แค่ไม่ยุบสนิทภายใน 1 วันตามที่เขาเคลมเท่านั้นเอง

6.Tomei anti acne cream

โทเมอิอันโด่งดังมาแล้วค่ะ ตัวนี้ได้รับรีวิวดีๆเยอะม้ากกกกก ทั้งในเว็บหรือพวกบล้อคเกอร์หลายคนประทับใจกับตัวนี้มากๆ เราก็ไม่พลาดที่จะหยิบมารีวิวให้เพื่อนๆดูกันนั่นเอง

เขาบอกว่าตัวนี้เป็น 7in1 เพื่อช่วยดูแลผิวอย่างมีประสิทธิภาพให้ดูกระจ่างใส และไร้จุดด่างดำนั่นเอง 

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• ไม่เจ็บหรือมีอาการคันเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์

• ผิวชุ่มชื่น ไม่แห้ง

• ซึมไว ไม่ทิ้งคราบ

ส่วนผสมสำคัญ : 

• Phytosphingosine ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P. acnes และช่วยลดการอักเสบของผิวหนังได้

• Meadowsweet Extract  ลดการอักเสบของผิวหนังอย่างมีประสิทธิภาพ

• Nopal Extract : สารสกัดบริสุทธิ์จากดอกของต้นกระบองเพชร ช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อลดการอุดตันของรูขุมขน และทำให้ผิวกระจ่างใส

• Niacinamideวิตามิน B3 ที่ช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้ บำรุงและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง

ใช้สำหรับ : สิวอักเสบ

​

วิธีใช้งาน : แต้มครีมบริเวณที่เป็นสิวอักเสบอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน 

ผลลัพท์หลังใช้ : ตัวนี้ใช้แล้วเรื่องสิวอักเสบที่ยุบเรียกได้ว่าดีเลยค่ะ เพราะว่าตอนที่เราเป็นสิวอักเสบแล้วลองทาตอนกลางคืนก่อนนอนแล้ว พอตื่นเช้ามาก็เห็นว่าสิวยุบลงไปประมาณ 50 % แล้ว ถือว่าเร็วอยู่ ค่อนข้างชอบเลยค่ะ เรื่องรอยดำรอยแดงนี่ก็โอเคเลยเพราว่าเราใช้ต่อเนื่องตั้งแต่เป็นสิวอักเสบจนสิวแห้ง แต่ก็ยังแอบเห็นว่ายังมีรอยอยู่จางๆ ไม่หายสนิทนะ 

                และที่สำคัญตัวนี้เป็นตัวที่ใช้แล้วผิวรอบๆ ที่บริเวณที่ใช้ยาไม่แห้งค่ะ หนึ่งในไม่กี่ตัวในกระทู้นี้เลยก็ว่าได้ โดยรวมๆแล้วโอเคเลยค่ะสำหรับ Tomei anti acne cream หลอดนี้

____________________________________________________________

7.PROVAMED ACNE SPOT GEL

​
​

มาต่อกันที่ผลิตภัณฑ์แต้มสิวจากแบรนด์ Provamed ค่ะ แบรนด์นี้ค่อนข้างมีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสิวเยอะพอสมควรเลย แต่เราเลือกตัวที่เราทดลองใช้เองได้จริงๆมาค่ะ ก็เลยเลือกตัวนี้มา Acne spot gel

ตัวนี้เป็นเจลแต้มสิวสูตรเร่งด่วนที่เขาบอกว่าสิวอักเสบ สิวหัวหนองเร็วยุบภายใน 12 ชั่วโมง อันนี้จะจริงหรือไม่ เดี๋ยวจะต้องมาดูกันค่ะ

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• เป็นเจลแต้มสิวสำหรับ T-Zone โดยเฉพาะ

• ทางแบรนด์เคลมมาว่าสิวยุบใน 12 ชั่วโมง

• 
  

ส่วนผสมสำคัญ : 

• Salicylic acid ให้ถูกปล่อยเข้าสู่สิวอย่างต่อเนื่องและออกฤทธิ์ได้ยาวนานเต็มประสิทธิภาพ

• Tea Tree Oilช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ควบคุมความมัน ลดการอุดตันและให้ความชุ่มชื่นสู่ผิว

• Defensil ช่วยลดการแพ้ ระคายเคือง

• Mucopolysaccharides ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจน เติมเต็มหลุมสิวให้แลดูตื้นขึ้นและเรียบเนียน

ใช้สำหรับ : สิวอักเสบ/สิวหัวหนอง

 

วิธีใช้งาน : แต้มเจลบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ เช้า-เย็น วันละ 2 ครั้ง
ข้อมูลสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย : No-Comedogenic, No Silicone, Alcohol-free,Fragrance-free
ผลลัพท์หลังใช้ : ในเรื่องของสิวที่บอกว่ายุบภายใน 12 ชั่วโมงนั้นส่วนตัวเราว่าครึ่งๆนะ แต่น้องก็ไม่ใช่ที่สุดค่ะ ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบเลยนะเพราะว่าตอนทาลงไปแล้วจะมีการแสบๆคันๆนิดหน่อย (ไม่ได้มากจนถึงกับทนไม่ได้) ให้รู้สึกว่าฤทธิ์ยามันกำลังทำงานอยุ่ 55555
พอหลังสิวยุบแล้วสิ่งหนึ่งที่เราประทับใจเลยก็คือไม่ทิ้งรอยดำเอาไว้ตรงที่เป็นสิวค่ะ ประมาณ 2-3 วันก็ยุบสนิท แต่ก็ต้องแลกมากับความแห้งเล็กน้อยที่ผิวนะคะ ซึ่งอันนี้เรามองว่าเป็นปกติของยาแต้มสิว น้อยยี่ห้อมากที่จะไม่แห้งเลย แล้วก็สำหรับคนแพ้ง่ายใช้ได้อันนี้ แต่ก็ระวังเรื่องความแสบคันนิดนึง อาจจะระคายเคืองได้จ้า

________________________________________________________

8.Tarel Natural acne gel

​

ตัวนี้เป็นเจลแต้มสิวที่เป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้ชื่อแบรนด์อาจจะไม่คุ้นหูกันสักเท่าไหร่ค่ะกับ Tarel Natural acne gel

​

หลอดจะค่อนข้างจิ๋วเมื่อเทียบกับชาวบ้านด้วยค่ะ เทียบกับราคาแล้วแอบแรงพอสมควรเลย แต่ทางแบรนด์ได้บอกมาเลยค่ะว่านี่เป็น “นวัตกรรมเจลแต้มสิว TAREL เทคโนโลยีนำส่งสารสกดัจากธรรมชาติสู่ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง เพื่อรักษาและป้องกันสิวอย่างตรงจุด” ไปค่ะ ไปดูกัน

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ :

• เป็นการนำสารสกัดจากธรรมชาติเข้าสู่ต่อมไขมันโดยตรง ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว

• สารสกัดจากธรรมชาติ 100%

ส่วนผสมสำคัญ : 

• สารสกัดของเปลือกมังคุด ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวและลดการอักเสบ

• สารสกัดจากใบชาอู่หลง ช่วยต้านอนุมูลอิสระให้ผิวสุขภาพดี

• สารสกัดจากใบไทม์  ลดรอยแดงและรอยดำจากสิว

• น้ำมันจากใบออริกาโน ช่วยลดการอักเสบและต่อต้านแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว

ใช้สำหรับ : สิวทุกชนิด

​

วิธีใช้งาน : วิธีใช้งานของเจลตัวนี้จะแบ่งตามประเภทของสิวค่ะ แบ่งเป็น 3 แบบ

• สิวผด สิวหัวดำ : แต้มบางๆตอนเช้าและก่อนนอน

• สิวอักเสบที่เพิ่งเริ่มก่อตัว : ตอนเช้าและก่อนนอน ให้แต้มเจลหนาๆทิ้งเอาไว้

• สิวหัวหนอง สิวซีส : ให้แต้มเจลหนาๆบริเวณที่อักเสบ 3-4 ครั้งต่อวันและก่อนนอน

ข้อมูลสำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย : ไม่มีน้ำหอม ไม่มีพาราเบน ไม่มีซิลิโคน 

ผลลัพท์หลังใช้ : ในแง่ของเรื่องสิวนะคะ ส่วนตัวเราแล้วเราเป็นคนที่มีสิวอักเสบค่อนข้างเยอะ ก็เลยทดลองทำตามวิธีใช้ที่บอกไปก็คือให้แต้มเจลหนาๆ พอกเอาไว้ตรงที่อักเสบ ใช้เวลาประมาณ 3-4 วันกว่าจะยุบค่ะ ใครที่อยากได้ยาแต้มสิวที่ยุบไวๆเราว่าตัวนี้ค่อนข้างที่จะไม่ตอบโจทย์เลย แต่ไม่ใช่ไม่ยุบนะ ยุบเหมือนกันค่ะ

 แต่ข้อดีของเจ้าตัวนี้ก็คือหลังจากสิวยุบแล้วนั้น ไม่ทิ้งรอยดำรอยแดงเลยก็ว่าได้ค่ะ แล้วผิวก็ไม่ค่อยลอกแล้ว แค่รุ้สึกว่าแห้งนิดหน่อยเท่านั้น ไม่ได้ลอกเป้นขุยเหมือนแบรนด์อื่นๆที่เคยใช้มา และที่สำคัญอันนี้ให้เต็มเลยเรื่องของคนแพ้ง่าย ไม่ระคายเคือง ไม่คันยิบ เหมาสำหรับคนที่ผิวอ่อนแอมากๆ แต่จะใช้ตัวนี้ได้ต้องใจเย็นนิดนึงนะคะ ยุบช้าแต่ยุบชัวร์จ้า

___________________________________________________________

เราทำตารางเทียบของแต่ละยี่ห้อมาฝากกันค่า

สรุปรวมๆก็คือยี่ห้อที่เราชอบมากที่สุดก็คือ Dr.Somchai กับ Provamed ค่ะ คะแนนเฉือนกันเล็กน้อยเท่านั้น แต่ดูจากคะแนนรวมต้องยกให้ Dr.Somchai ไปเลยค่ะ หลักๆเลยเพราะเรามองว่าตัวนี้สิวยุบได้เร็วจริงๆ แล้วรอยดำรอยแดงก็หายหมด โพรวาเมดแพ้ไปนิดเดียวคือเรื่องสำหรับคนแพ้ง่ายค่ะ เพราะตอนใช้จะมีอาการคันยิบๆที่ Dr.Somchai ไม่มีล่ะ แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนด้วยเนอะว่าผลลัพท์จะออกมาเป็นยังไงค่า

ผิดถูกยังไงขออภัยด้วยนะคะ

สวัสดีค่า

​
​