Domohorn Wrinkle แบรนด์ญี่ปุ่น ที่ต้องมีถึง 8 ขั้นตอน ราคา2หมื่นกว่าบาทมีอะไรดี!!! (เห่อแกะกล่อง+มินิรีวิว)

33 9
สวัสดีค่าาาทุกคน วันนี้ขอมาเล่าความประทับใจนิดนุงน๊าา แหะๆ แบบว่าดีใจและประทับใจมากจริงๆที่ได้ไป workshop กับทาง Jeban และ แบรนด์ Domohorn Wrinkle จากญี่ปุ่น

คือแบรนด์ Domohorn Wrinkle แพรเชื่อว่าหลายคนต้องเคยผ่านตามาบ้างแน่นอน แพรเองก็เช่นกัน เห็นในเฟซบุคเยอะมากกกก บ่อยมากกก 5555 เพราะคนรอบตัวนี่ก็ไปกดขอสินค้าทดลองใช้ เราก็เกือบจะกดแล้ว แต่เหลือบไปเห็นว่าต้องมีค่านำเข้าจากญี่ปุ่น 200 บาท ตอนนั้นเลยขอเบรคก่อน 5555

แต่ใจก็อยากลองตลอดนะ เพราะคนที่ใช้บอกว่านางดีมาก นางเลอค่า แม้ 200 บาทนั้นใช้ได้ 3 วันก็เถอะ แต่มันดี ดี๊ดีย์แกรรร อืมมม ทำให้อยากทำไม!!!??? ก็คิดแล้วล่ะว่าจะลองสั่งดู และทันใดนั้นทีมงาน Jeban ก็ติดต่อมาจ้าาา ให้ไป workshop อู๊ยยยยย ดีงามมมมม ไปค่ะ!!! ตอบแบบไม่คิดใดๆ แหะๆ

เราต้องไปกันที่ Domohorn Wrinkle ที่ตึก emporio place ค่ะ อยู่ซอย สุขุมวิท 24 ไปง่ายมากๆ แค่ลงบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ เดินลงมาซอย 24 ได้เลยจ้า ใครงง ก็ดูร้าน Naraya ตรงหัวมุมเลยค่ะ ซอยนั้นแล

เมื่อไปถึงที่ตึก ร้าน Domohorn Wrinkle จะอยู่ชั้น 2 นะคะ เดินขึ้นมา จะเจอกับร้านที่ดูอบอุ่นมากๆ คือเดินเข้าไปแล้วสบายใจไม่รู้ทำไม 555 แต่รู้สึกดี ทุกคนแลดูเป็นมิตรมากเว่อร์ สไตล์ญี่ปุ่นจริงๆ


นี่คือบรรยากาศภายในร้านนะคะ  เค้าจะมีผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้เราได้ทดลองสัมผัสกลิ่นและเนื้อผลิตภัณฑ์ค่ะ จะมี Pleaser คอยให้คำแนะนำด้วยค่ะ
ที่นี่เค้าเรียกว่า Pleaser ค่ะ คือผู้ที่คอยให้คำปรึกษา แนะนำ แก้ปัญหาและความกังวลเกี่ยวกับผิวพรรณของเราค่ะ ถ้ามีปัญหาผิวจะปรึกษาก็โทรศัพท์ไปได้เลยค่ะ

ที่โต๊ะ เค้าปีป้ายชื่อเรามาด้วย น่ารักจัง

ขนมนมเนยมีไว้พร้อมค่ะ และชาร้อนของเค้าอร่อยมากค่ะ หอมมากๆ เป็นชาของเค้าเองด้วยล่ะ
เค้ามีกระเป๋า Kumamon ให้ด้วยค่ะ กรี๊ดมากกก เพราะเราชอบเป็นการส่วนตัว 555 คือที่เห็นมี Kumamon ก็เพราะว่าบริษัทเค้าอยู่ที่เมืองคุมาโมโตนั่นเอง
จากนั้นทางแบรนด์ก็จะเล่าให้พวกเราฟังถึงที่มาของแบรนด์ค่ะ ประวัติบริษัท และเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ค่ะ
จะบอกว่าทางเราตั้งใจฟังมาก รู้สึกดีมากๆเลย แพรจะสรุปคร่าวๆนะคะ

ก่อนที่บริษัทเค้าจะทำสกินแคร์นี้ เค้าทำยาและสมุนไพรบำรุงร่างกายมาอยู่แล้วค่ะ ร้อยกว่าปีเลยค่ะ เค้าเป็นบริษัทผลิตยาที่มีแนวคิดตามแบบ "คัมโป" เค้าเชื่อมั่นในพลังอันน่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติค่ะ จากนั้นจึงนำพลังธรรมชาติมาเปลี่ยนเป็นพลังงานแห่งผิว
รวมแนวคิด"คัมโป" และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ไว้ด้วยกัน

จึงเกิดผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แบรนด์ Domohorn Wrinkle ค่ะ ก็เป็นเวลา 40 กว่าปีแล้วค่ะ ที่เค้าไม่หยุดพัฒนา ผลิตภัณฑ์แรกของเค้าคือ Cream 20 ครีมคอลลาเจนเจ้าแรกที่โด่งดังมาจนถึงปัจจุบันค่ะ

Domohorn Wrinkle มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 8 ชิ้นค่ะ เป็น one line ไม่มีการแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามปัญหาผิว ประเภทผิว หรือสภาพอากาศ และไม่มีผลิตภัณฑ์แบบ all in one ค่ะ เค้าบอกว่า ผิวเน็นเรฮาดะ ยากที่จะดูดซึมสารบำรุงได้ในครั้งเดียว อือหืออออ คิดมาละเอียดมากกก

เพราะฉะนั้นผลิตภัณฑ์ทั้ง 8 ชิ้นของเค้าจะทำหน้าที่แตกต่างกันค่ะ แต่จะส่งเสริมการทำงานของกันและกัน

นี่คือ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 8 ชิ้นค่ะ 
แพ็คเกจจิ้งดีงามมากเว่อร์ ขวดจับถนัดมือมาก เพราะเค้าออกแบบมาให้มีร่องที่ขวดจะได้ไม่หลุดมือ และฝาทุกชิ้นเป็นเนื้อด้านค่ะ เวลามือเปียกแล้วหมุนปิด ไม่ลื่นมือแน่นอน

และที่สำคัญใครกลัวว่าจะหยิบขวดผิดสลับกัน ไม่ต้องกังวลค่ะ เค้าใส่ตัวเลขด้านหลังขวดมาตัวใหญ่มากกก 55555 คือเค้าคิดมาดีมากกกกอ่ะ ชอบมาก

อีกอย่างนึงที่แพรชอบมากๆ ก็คือการใช้ผ้าที่มาจากเศษด้ายทอขึ้นมาใหม่เพื่อใช้ห่อผลิตภัณฑ์ที่เป็นขวดแก้วค่ะ ห่อแล้วใส่ปลอกกระดาษแข็งอีกที และจึงนำมาใส่ถุงซิปล็อคค่ะ
ที่เค้าต้องทำขนาดนี้ก็เพราะว่า Domohorn Wrinkle เค้าไม่มีจำหน่ายหน้าร้านค่ะ ทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น ต้องสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซท์หรือโทรศัพท์ค่ะ ทำให้เวลาจัดส่งต้องแพ็คสินค้าให้ดีเพื่อจะได้ถึงมือลูกค้าให้ดีที่สุดค่ะ

เราชอบแนวคิดเค้ามากๆเลย ผ้าที่ใช้ก็นำเศษด้ายกลับมาทอซ้ำ ผ้าที่เราได้มาก็สามารถนำมาใช้เช็ดโต๊ะเช้ดจาน หรือเช็ดมือได้อีก

กระดาษทุกชิ้นที่เค้าใช้ในบริษัทก็คือกระดาษรีไซเคิลทั้งหมด บริษัทเค้าก็มีชั้นเดียวเท่านั้น ทำให้ทุกแผนกสามารถเดินหากันได้สะดวก เห็นความละเอียดของเค้าไหมคะ สุดยอดจริงๆ

เอาล่ะ เพื่อนๆก็คงพอจะรู้จัก Domohorn Wrinkle กันคร่าวๆแล้วเนอะ
ต่อไป เราจะเข้าไปในห้องเพื่อให้ Pleaser สอนเราใช้ผลิตภัณฑ์ทั้ง 8 ชิ้นกันค่ะ
ซึ่งเค้าเรียกว่า การทำ "โอเทะอาเทะ" ตามมาเลย!!!

Domohorn Wrinkle ประกอบไปด้วย 4 ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวขั้นพื้นฐาน Essential 4 ซึ่งมี Cream20 ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลัก  และ 3 ผลิตภัณฑ์เตรียมผิว Refining 3 และ UV Dress Cream ซึ่งเป็นครีมกันแดดค่ะ

ขั้นตอนแรก เริ่มใช้ตอนกลางคืนเนอะ ก็คือล้างเครื่องสำอางค่ะ ก่อนอื่นต้องเก็บผมกันก่อนค่ะ

Oil-in-Gel Remover หลอดนี้ตอนบีบออกมาเป็นเจลแต่พอนวดๆไปซักพักจะเปลี่ยนเป็นออยล์ค่ะ และเมื่อโดนน้ำจะกลายเป็นน้ำนม
ให้ความชุ่มชื้นดีมากกกกก หลังล้างจะหลงเหลือความมันไว้พอสมควร อารมณ์คล้ายๆทาเบบี้ออยล์ค่ะ จึงต้องใช้โฟมล้างหน้าในขั้นตอนต่อไปค่ะ

ขั้นตอนที่ 2 Silky Cream Foam

โฟมล้างหน้าที่ต้องตีเป็นโฟมก่อนค่ะ เพื่อให้มือสัมผัสหน้าน้อยที่สุดค่ะ วันแรกๆแพรก็ตีไม่เป็น ไม่ขึ้นซะที พอใช้ซัก2-3 ครั้งทำได้ละค่ะ เดี๋ยวไว้มารีวิวให้ดูเต็มๆอีกทีนะคะ
ขั้นตอนนี้ต้องล้างถึง 2 รอบเลยค่ะ ฮือออ แอบเหนื่อยเหมือนกัน 5555 ปกติล้างรอบเดียวเอง ต้องปรับตัวนิดนึงค่ะ  แต่หลังล้างก็รู้สึกว่าหน้าสะอาดดีนะคะ รู้สึกสะอาดไปถึงรูขุมขนเลย 5555 ก็แหงสิ ล้างตั้ง 2 รอบ
ขั้นตอนที่ 3 Softening Foam Mask ขวดนี้ราคาแพงมากกก 4,200 บาท ราคาจะเป็นลม เป็นมาส์กเนื้อโฟมค่ะ ต้องเขย่าก่อนใช้
แพรมาส์กทิ้งไว้ 5 นาทีค่ะ มาส์กไปก็ภาวนาไปว่าอย่าให้ใช้แล้วชอบทีเถอะ กลัวจะเสียเงิน 55555
ปรากฎว่าพอล้างออก อะหืออออ ชอบมากกกกก ฮือออ ถ้าหมดคงได้เสียเงินซื้อขวดนี้แน่นอนค่ะ
หลังล้างผิวดูเนียนเรียบขึ้นมากๆ รูขุมขนเล็กลง ผิวดูกระจ่างใสขึ้นเลยอ่ะ สบายผิวมากกกก

ขั้นตอนที่ 4 Intense Hydrator ขวดนี้คล้ายๆน้ำตบแต่ไม่ต้องตบค่ะ 5555 เพราะยิ่งตบแรงส่วนผสมจะยิ่งซึมเข้าผิวยากขึ้นค่ะ

เค้าให้ใช้วิธีประคบเบาๆนับ 1-3 แล้วปล่อย ขั้นตอนนี้ทำซ้ำ 2 รอบค่ะ
เมื่อรู้สึกว่าแก้มติดกับฝ่ามือได้แปลว่าใช้ได้ 555

ขั้นตอนที่ 5 Vital White Essense ขวดนี้ช่วยเรื่องความกระจ่างใสค่ะ มีวิตามินซีด้วยล่ะ
ส่วนตัวแพรชอบขวดนี้ด้วยค่ะ เพราะช่วงนี้ผิวแพ้หนักเลย ลองครีมเยอะ สิวเลยเห่อ พอรักษาสิวหายก็หลงเหลือรอยสิวไว้ให้กังวลใจเล่นค่ะ ทางเราก็เลยคาดหวังกับขวดนี้มากเป็นพิเศษ ว่าจะช่วยเรื่องรอยสิวรอยดำได้ อิอิ เดี๋ยวรีวิวเต็มๆให้ดูอีกทีนะคะ ว่าดีขึ้นจริงรึเปล่า


ขั้นตอนที่ 6 Cream 20 มาค่ะ ได้ใช้แล้วค่ะ ครีมคอลลาเจนที่ยอดขายอันดับ 1 ของญี่ปุ่น หลอดนี้ ราคาเจ็บปวดอีกแล้วววว 4,500 บาท ฮือออ

เค้าให้ใช้ครั้งละ 2 cm ค่ะ ไม่ต้องเอาไม้บรรทัดมาวัดให้ลำบาก เค้าคิดมาแล้วเด้อ ตรงปากหลอด ความยาว 2cm พอดีจ้าาา โอ๊ยยยย ดีงามมมมญี่ปุ่นนี่เค้าละเอียดจริงๆนะ ยอมใจนาง

ขั้นตอนที่ 7 Milky Veil Lotion

ครีมน้ำนมที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ เราบำรุงทุกสิ่งอย่างมาดีแล้ว ขวดนี้จะเป็นเหมือนฝาครอบ หรือเกราะกำบังที่คอยปกป้องผิวเราไว้ให้ชุ่มชื้นตลอดเวลาค่ะ ขวดนี้แพรก็ชอบ ทาแล้วหน้าเงาๆฉ่ำๆดีค่ะ

อย่าเพิ่งเหนื่อยกันค่ะ สู้ไหมคะ มาค่ะ ขั้นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ  ถ้าใช้กลางคืนก็จบที่ขั้นตอนที่ 7 นะคะ
ตอนกลางวันก็แค่เพิ่มขั้นตอนนี้เข้ามาค่ะ คือการทาครีมกันแดดนั่นเอง

ขั้นตอนที่ 8 UV Dress Cream

เป็นครีมกันแดดสีเนื้ออ่อนๆค่ะ เนื้อดีมากกกกกก ทาแล้วหน้าเนียนมากกกกกเว่อร์ ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอขึ้น แต่ไม่ได้ปกปิดร่องรอยต่างๆค่ะ ตอนนี้แพรมีรอยสิวอยู่ตรงคาง ก็ไม่สามารถปิดได้ ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยค่ะ

เป็นอันจบครบ 8 ขั้นตอนค่ะทุกคนนนนน ทำเอาเหนื่อยเลย 5555
แต่หลังจากที่ได้ทดลองใช้ ค่อนข้างชอบนะคะ รู้สึกเค้าพิถีพิถันในการบำรุงผิวดีค่ะ

หลังจากเสร็จแล้วก็แต่งหน้าต่อได้เลยค่ะ และทางแบรนด์ก็มีผลิตภัณฑ์ทั้ง 8 ชิ้นให้กลับมาทดลองใช้ด้วยค่ะ

หลังจากกลับมา แพรก็ได้ทดลองใช้มาแล้ว 3 ครั้งค่ะ รู้สึกดีมากๆเลย แพรผิวแพ้ง่ายมาก ก็ยังไม่รู้สึกว่าแพ้ค่ะ ผิวดูละเอียดขึ้นมากๆรูขุมขนดูเล็กลงค่ะ ในส่วนของรอยสิวนั้นต้องลองใช้ไปซักระยะนึงก่อนค่ะ และไม่ต้องกังวลว่าจะจำไม่ได้ว่าอะไรใช้ยังไง
เค้ามีคู่มือการทำ "โอเทะอาเทะ" มาให้ด้วยค่ะ สามารถเอาไปใช้ดูที่อ่างล้างหน้าได้ค่ะ เพราะทำจากวัสดุกันน้ำจ้า ดีงามไปอีก
เอาเป็นว่าถ้าใครอยากจะทดลองใช้ดูก่อน ก็ลองสั่งมาลองได้ค่ะ คนละ 1 ครั้งเท่านั้น มีค่าใช้จ่ายในการนำเข้า 200 บาทค่ะ จะได้เซตทดลองใช้แบบนี้มาใช้ได้ 3 วันค่ะ
หรือใครมีงบมากกว่านั้น ก็มีแบบ Half  Size ด้วยค่ะ สั่งได้ครั้งเดียวเท่านั้นค่ะ
และทุกๆการซื้อจะมีการสะสมคะแนนเพื่อแลกผลิตภัณฑ์อื่นๆด้วยค่ะ ซึ่งไม่มีขายนะจ๊ะ ใช้คะแนนแลกเท่านั้น

และนอกจากนี้ ช่วงนี้เค้ามีแคมเปญ X'mas & New Year Special Campaign มีของพรีเมี่ยมให้ด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เซตทดลอง, ผ้าเช็ดหน้าแบรนด์ดัง Imabari Towel SET, กระเป๋า Domo Mini Bag และ แฮนด์ครีมเซต 
อยากให้ลองดูค่ะ แพรว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมากๆแบรนด์นึงเลยล่ะ ส่วนตัวประทับใจมากจริงๆ
ต้องขอบพระคุณ Jeban และ Domohorn Wrinkle มากๆค่ะ และขอบคุณช่างภาพด้วยค่ะ ที่ถ่ายรูปสวยๆให้พวกเรา

แพรขอตัวไปทดลองใช้ซัก 2 อาทิตย์นะคะ แล้วจะมารีวิวแบบเต็มๆไม่หมกเม็ดเลยค่ะ อิอิ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ รักนะ


Pearreland

Pearreland

www.facebook.com/pearreland

https://www.youtube.com/pearreland

http://www.pearreland.com/

www.instagram.com/pearreland

FULL PROFILE